TB:บทที่ 42 เปิดฉากการประมูล

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

 TB:บทที่ 42 เปิดฉากการประมูล


หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเฉินหลงแล้ว ความประทับใจของลั่วฮุ่ยที่มีต่อเฉินหลงก็เพิ่มมากขึ้นในทันที


"ฉันไม่ได้พูดถึงคนอื่น ฉันหมายถึงนายไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะได้เข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้" ด้วยความตกใจจากคำพูดของเฉินหลง ทันใดนั้นซ่งหยู่ไม่สามารถระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป


"ฉันก็แค่จะบอกนายว่าถึงฉันจะเป็นแค่ซาลาเปาบ้านๆ แต่ฉันก็เป็นแขกรับเชิญของพี่สี่ ส่วนที่ว่าฉันมีคุณสมบัติมากพอที่จะสามารถเข้าร่วมในการประมูลครั้งนี้ได้หรือไม่ เห็นทีคงมีแต่พี่สี่เท่านั้นที่เป็นมีสิทธิ์ในการตัดสิน ถ้าพี่สี่คิดว่าฉันไม่คู่ควร ฉันจะเป็นฝ่ายไปจากที่นี่เอง แต่ถ้าหากว่าพี่สี่ไม่ได้ว่าอะไร นายก็ควรหุบปากเน่าๆนั่นไว้แล้วเลิกทำตัวอวดดีสักที!" คำพูดของเฉินหลงนั้นทรงพลังมาก


"เอาเถอะ อย่ามีเรื่องกันเลยดีกว่านะครับ ทั้งสองคนต่างก็เป็นแขกของผม แน่นอนว่าพวกคุณมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมในการประมูล แต่ถ้าพวกนายยังไม่หยุดพูดเรื่องที่ไม่มีสาระอีก กรุณาออกไปจากที่นี่ด้วยครับ" ลั่วฮุ่ยจัดการประมูลเพื่อประมูลสิ่งของ ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อให้เฉินหลงมีเรื่องกับอีกฝ่าย


"ผมไม่ได้สร้างปัญหาอะไรเลยนะครับ เขาเป็นคนเริ่มก่อน ทุกๆคนที่อยู่ที่นี่ก็เห็น” เฉินหลงยักไหล่แล้วนั่งลง


ซ่งหยู่จ้องหน้าเฉินหลงด้วยสายตาอาฆาตแล้วยอมนั่งลงแต่โดยดี


"ครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปมากกว่านี้ ผมขอประกาศการเริ่มต้นการประมูลอย่างเป็นทางการ ในตอนนี้ เชิญคุณหลิวเฉิงหมิง ผู้จัดการประมูลของเราขึ้นมาบนเวทีครับ" จากนั้นลั่วฮุ่ยก็ถอยออกจากพื้นที่การประมูลไป


ในเวลาเดียวกัน ชายในวัยสี่สิบสวมชุดสูท เดินออกมาช้าๆ เขาก้าวเดินขึ้นมาบนเวทีด้วยท่าทางที่คล่องแคล่วมาก


"สำหรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ก่อนอื่น ผมคงต้องขอแนะนำตัว ผมมีนามว่า หลิวเฉิงหมิง ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการประมูลหลักในวันนี้ ในนามของการประมูลในครั้งนี้ ผมขอต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านอย่างอบอุ่น!" หลิวเฉิงหมิงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม


เสียงปรบมือที่สุภาพดังขึ้น


"ผมเข้าใจว่าทุกท่านต่างกระวนกระวายที่จะได้เห็นการประมูลครั้งที่หนึ่งของวันนี้ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ผมจะไม่พูดพร่ำทำเพลงให้มากความอีก ดังนั้นเรามาเริ่มการประมูลครั้งที่หนึ่งของวันนี้กันเลยครับ! ‘เตาซวนเต๋อ’* ในสมัยราชวงศ์หมิง ราคาเริ่มต้นที่สามล้านหยวน เสนอราคาประมูลต่อครั้งต้องไม่ต่ำกว่า 100,000 หยวน!" หลิวเฉิงหมิงกล่าว


ทันทีที่เสียงเงียบไป สาวสวยในชุดกี่เพ้าเดินออกมาพร้อมกับเตาที่เปิดปากสี่เหลี่ยมออก คอสั้นและเรียว ส่วนท้องแบน มีขากรวยสามขายื่นออกมา มีหูจับคล้ายรูปสะพานอยู่ตรงส่วนปาก จากการตรวจสอบน่าจะมีความสูงมากกว่าสิบเซนติเมตรและสีม่วงเข้ม


"เตาซวนเต๋อจัดอยู่ในกลุ่มของเครื่องถ้วยทองแดงขนาดเล็กทำจากโลหะที่ไม่มีเหล็กเป็นส่วนประกอบ โดยกระทรวงแรงงานในรัชศกซวนเต๋อแห่งราชวงศ์หมิงถูกสร้างขึ้นตามความต้องการของศาลและอุทิศให้กับวัด เพราะส่วนใหญ่เป็นเตาเผา พวกมันจึงถูกเรียกว่า ‘เตาซวนเต๋อ’ หรือเรียกสั้นๆว่า ‘ซวนลู่’ "


"นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์จีนที่ยิ่งใหญ่ในการใช้ทองเหลืองในการหล่อเครื่องสำริด ในการสร้างเตาทองแดงที่ยอดเยี่ยมได้นั้น ทำสำเร็จภายใต้การดูแลส่วนพระองค์ของจักรพรรดิซวนเต๋อ กระบวนการผลิตทั้งหมดรวมถึงการหลอมทองแดงและการสร้างแบบจำลองจะต้องเลือกจากคลาสสิกเช่นเตาซวนเหอ แผนที่โบราณและเตาเผาเลื่องชื่อหลายร้อยชนิดในราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์หยวนถูกเก็บไว้ใกล้ชิดรัฐบาลส่วนพระองค์ รูปร่างที่ตรงกับวัตถุที่ใช้และสวยงามในแง่ของระบบการเงิน ควรร่างภาพและลงบันทึกไว้ แล้วจึงนำเสนอต่อองค์จักรพรรดิเพื่อการตรวจสอบส่วนพระองค์ แหล่งที่มาของเงินและประวัติความเป็นมาควรอธิบายให้ละเอียด หลังจากได้รับการคัดเลือกและพิจารณาแล้ว แบบอย่างที่ต้องการหล่อต้องผ่านการพิจารณาจากซวนจง และไม่มีการอนุญาติการหล่ออีกหลังจากพวกอิตาลีได้เข้ามา"


"รูปร่างโดยทั่วไปของเตาซวนเต๋อในสมัยราชวงศ์หมิงคือปากที่เปิดออก ขอบปากทรงสี่เหลี่ยมหรือทรงกลม คอสั้นและเรียว ส่วนท้องแบน มีขากรวยสามขาแยกออกมาจากส่วนกลาง มีหูจับคล้ายรูปสะพานหรือหูสัตว์อยู่ตรงส่วนบนของปากเตา รุ่นปีที่สร้างถูกจารึกไว้บนส่วนท้ายของเตา เช่นเดียวกับเครื่องกระเบื้องซวนเต๋อ"


"นอกจากทองเหลืองแล้ว ยังใช้วัสดุที่มีค่าเช่นทองและเงินในการสร้างเตาซวนเต๋ออีกด้วย ดังนั้นคุณภาพของเตาจึงดีเป็นพิเศษ สังเกตได้จากสีม่วงเข้มหรือสีน้ำตาลเข้ม โดยทั่วไปแล้วเตาจะต้องผ่านการขัดเกลาถึงสี่ครั้ง ในขณะที่เตาซวนเต๋อได้ผ่านการขัดเกลาถึงสิบสองครั้ง ดังนั้นคุณภาพของเตาจึงดีและบริสุทธิ์กว่าดุจดั่งผิวของทารก เตาซวนเต๋อที่ทำจากทองหรือฝังทองจะดูอร่ามตากว่า ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างมันกับภาชนะธรรมดาทั่วไป"


"สิ่งที่ดีที่สุดของเตาซวนเต๋อนั่นก็คือสีของมันจากการหลอมและเปล่งแสงประหลาดออกมาจากความมืด มีสีมากกว่า 40 ชนิดที่ถูกบันทึกไว้ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นที่นิยมในโลกนี้ อีกทั้งยังมีชื่อเรียกอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น แถบสีม่วงที่ประกายเขียวและดำเหมือนผิวมะเขือจะเรียกว่าสีมะเขือม่วง แถบสีดำและเหลืองที่ค่อนไปทางสีแดงและสีเหลืองอ่อนเรียกว่าสีน้ำตาล แถบสีเขียวที่เหมือนกับสีหยกเก่าๆเรียกว่าสีดินโบราณ แถบสีแดงที่ค่อนไปทางสีขาวและสีเหลืองเรียกว่าสีถังลี่ และแถบสีเหลืองกับสีแดงที่มีห้าจุดสีเรียกว่าจุดสีเลียนแบบเพลงไฟ แถบสีแดงที่เหมือนกับหาดทรายประกายมุกเรียกว่าสีแดงชาด สีอ่อนเหมือนกับสีของตับหมูคือสีพุทรา สีอำพัน สีชา สีเปลือกหอย และอื่นๆอีกมากมาย เซียงหยวนเปี่ยน (จื่อจิง) ผู้เชี่ยวชาญทางศิลปวัตถุ นักสะสมและจิตรกรในรัชศกว่านลี่แห่งราชวงศ์หมิงได้กล่าวเอาไว้ว่า "ความงามของซวนลู่ขึ้นอยู่กับสีไข่มุกแม้จะมีหน้าตาธรรมดา"


"ซวนเต๋อเตามีคุณสมบัติพิเศษ หากนำไปเผาไฟหรือนำมันวางไว้บนไฟเป็นเวลานาน สีของมันจะสุกใสหรืออาจจะเปลี่ยนสีได้ หรือถ้าโยนมันลงไปในโคลน แล้วนำกลับมาเช็ดโคลนออก สีของมันก็จะกลับเป็นสีเดิมก่อนหน้านี้ ดังนั้นเตาซวนเต๋อจึงถือว่าเป็นสุดยอดภาชนะเผาเครื่องหอม ด้วยเหตุนี้จึงมีการลอกเลียนแบบเป็นจำนวนมาก ด้วยเตาทองแดงเป็นงานหัตศิลป์ที่ประณีตทั้งรูปทรงและลวดลายมากมายที่ปรากฏ นักสะสมมากหน้าหลายตาต่างพากันแย่งชิงเพื่อที่ครอบครองมัน ความปรารถนาของเหล่านักสะสมทุกคนคือการครอบครองเตาซวนเต๋อของแท้แห่งราชวงศ์หมิง วันนี้จะเป็นวันที่ความฝันของทุกท่านจะเป็นจริง!” ลั่วเฉิงหมิงเริ่มอธิบายประวัติความต่างๆของเตาเมื่อเขาได้ถือมันเอาไว้ในมือ


หลังจากการอธิบายประวัติต่างๆแล้ว เขาปล่อยให้ผู้ประมุลสามารถดูเตาไฟในระยะใกล้ได้ ในการประมูลครั้งนี้ไม่ใช่การประมูลอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีการระบุผลิตภัณฑ์ของการประมูลทั้งหมดเอาไว้ แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้ประมูลที่ต้องการเห็นการประมูลอย่างใกล้ชิด


“ เสี่ยวเฉิน นายอยากขึ้นไปดูด้วยไหม?” ฮ่าวฉางชิงหันไปถามเฉินหลง


"ครับ" เงินสามล้านหยวนกับเตาทองแดงเก่าๆ เฉินหลงจะไม่ใช้เงินไปกับของที่ไม่สมเหตุสมผลกันสักเท่าไร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มีเวลาว่างมากพอ จึงเดินไปสำรวจมันพร้อมกับฮ่าวฉางชิง


เมื่อเฉินหลงก้าวขึ้นไป แว่นตาวิเคราะห์กลับไม่ส่งเสียงเตือนเฉินหลงในการระบุสิ่งของ


"เป็นอะไร? เตาซวนเต๋อนี้เป็นของปลอมเหรอ?" เฉินหลงพูดขึ้นในใจ


จากนั้น เฉินหลงได้หันมองฮ่าวฉางชิง เขาพบว่าฮ่าวฉังชิงพยักหน้าเล็กน้อยเป็นครั้งคราว และดวงตาของเขาได้เผยความสุขออกมา


"ไม่ใช่ว่ามันเป็นของปลอมเหรอ แล้วทำไมแว่นตาวิเคราะห์ถึงไม่มีปฏิกิริกาใดๆเกิดขึ้นในทันทีล่ะ?" เฉินหลงนึกสงสัย


"อาจจะไม่ใช่ก็ได้ หรือที่มันไม่มีปฏิกิริกาใดๆเกิดขึ้นในทันทีอาจจะเป็นเพราะของสิ่งนี้ได้เป็นที่รู้กันแล้ว" ทันใดนั้นเฉินหลงก็ได้คำนึงถึงความเป็นไปได้ "เพื่อความแน่ใจ เราคงต้องลองใช้มันอีกครั้ง และในตอนนี้คะแนนแลกเปลี่ยนของเราสามารถซื้อแว่นตาวิเคราะห์ได้หลายอันเลยด้วย"


หลังจากตรวจสอบให้แน่ใจแล้ว เฉินหลงหยิบแว่นตาวิเคราะห์ขึ้นมาใช้งานอีกครั้ง


"เตาที่ผลิตในรัชศกซวนเต๋อแห่งราชวงศ์หมิงนั้นมีมูลค่าสะสมสูงมาก"


"มันเป็นเตาซวนเต๋อของแท้จริงๆ ดูเหมือนว่าฟังก์ชั่นของแว่นตาวิเคราห์จะเป็นเหมือนกับที่เราคิดเอาไว้จริงๆด้วย สิ่งของที่ถูกคนอื่นระบุไปแล้วจะไม่ได้รับการเตือนอีก ดังนั้นเราจึงทำได้แค่หยิบมันขึ้นมาดูแล้วนำกลับไปวางไว้ดังเดิม" เฉินรู้สึกหนาวขึ้นมา


หลังจากใช้เวลาสำรวจมันสักพัก เฉินหลงและฮ่าวฉางชิงได้กลับมานั่งประจำที่


"เสี่ยวเฉิน เธอมีความคิดเห็นยังไงกับเตานี้บ้างล่ะ?" ฮ่าวถาม


"ผมรู้สึกว่ามันเป็นของแท้ไม่น่าจะเป็นของปลอม เราควรประมูลมันเก็บเอาไว้ครับ" แว่นตาประเมินค่าบอกว่ามันมีราคาสูง แน่นอนว่าเฉินหลงสนับสนุนให้ฮ่าวฉางชิงถ่ายภาพมันเก็บไว้


ภาพประกอบเตา*



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น