TB:บทที่ 43 ปลอมเกินไปแล้ว!
"ฉันก็คิดว่ามันเป็นของแท้เหมือนกัน แต่เกรงว่าการที่จะเข้าไปประมูลสู้กับชายอ้วนคนนั้นจะเป็นเรื่องที่ยากน่ะสิ ปัดโธ่ นั่นถือเป็นสมบัติหายากชิ้นนึงเลยนะ” ในดวงตาของฮ่าวฉางชิงเต็มไปด้วยความเศร้า
มิหนำซ้ำฮ่าวฉางชิงยังรู้จักเฉียนซานเจียเป็นอย่างดีอีกด้วย ตราบใดที่เขายังมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ คนอื่นก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะใช้เงินมากมายมาแข่งกับเขา
และที่มากไปกว่านั้นคือ มันไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเลยที่จะแข่งกับเฉียนซานเจียในเรื่องเงินๆทองๆ
เนื่องจากว่าการประมูลครั้งก่อน มีเหตุการณ์ที่ราคาประมูลสูงกว่ามูลค่าของสิ่งของจริงๆอยู่มาก ในตอนที่ประมูลอยู่นั้น จู่ๆเฉียนซานเจียก็ไม่ได้ต้องการประมูลมันต่อ นั่นทำให้คนที่แข่งประมูลกับเขาอยู่ต้องหลั่งน้ำตาออกมา
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุกคนต่างได้รู้ซึ้งและไม่กล้าแข่งประมูลกับเฉียนซานเจียอีก
"บางทีเฉียนซานเจียอาจจะไม่ร่วมประมูลก็ได้นะครับ” เฉินหลงทำได้เพียงปลอบใจฮ่าวฉางชิงด้วยวิธีนี้เท่านั้น ขนาดเฉินหลงยังไม่เชื่อเลยว่าเฉียนซานเจียจะไม่ประมูล
ฮ่าวฉางชิงแค่พยักหน้าตอบเฉินหลงเท่านั้น
"ในเมื่อทุกท่านได้ชมมันแล้ว ผมขอประกาศเริ่มการประมูล ณ บัดนี้" หลังจากที่ทุกคนได้ตรวจดูเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลิวเฉิงหมิงจึงเปิดปากกล่าว
"สามล้านหนึ่งแสน"
ทันทีที่หลิวเฉิงหมิงพูดจบ ก็มีคนเสนอราคาขึ้นมาในทันที ดูเหมือนว่าทุกคนมีความมั่นใจในเตาซวนเต๋อนี้อย่างมาก
"สามล้านสองแสน"
"สามล้านห้าแสน"
......
หลังจากเสียงตะโกนที่ดังขึ้นหลายรอบ ราคาในการประมูลครั้งนี้ได้พุ่งไปถึงห้าล้านเป็นที่เรียบร้อย
ถึงฮ่าวฉางชิงจะเสนอราคาสองเท่า แต่ไม่นานนักก็จมหายไป
"นี่มันน่าเบื่อเกินกว่าจะเพิ่มเป็นหนึ่งแสนหยวน ฉันให้คุณหกล้านหยวนก็แล้วกัน" ซ่งหยู่ดูหมดความอดทน
"อืม ของดี เสนอราคาครั้งละหนึ่งแสนหยวน ดูเหมือนจะน้อยเกินไปหน่อย ฉันให้เจ็ดล้านหยวน" ทางฝั่งเฉียนซานเจียเองเริ่มมีการเคลื่อนไหว
"แปดล้าน" ซ่งหยู่เสนอราคาออกมาเหมือนกับว่าเงินจำนวนนี้เป็นเพียงแค่เศษกระดาษเท่านั้น
"สิบล้าน" เฉียนซานเจียรู้สึกขี้เกียจแล้ว
"สิบสามล้าน" จิ้นจินเหวินเสนอราคา
"สิบห้าล้าน" ซ่งหยู่เสนอราคาเหมือนกับว่าจะไม่มีใครเสนอได้มากกว่าเขาอีก
"ยี่สิบล้าน" เฉียนซานเจียเพิ่มเงินของตัวเองไปอีก 5 ล้านหยวน ดูเหมือนว่าเขามีความมุ่งมั่นที่จะครอบครองมันให้ได้
ราคายี่สิบล้านหยวน ทำให้คนที่ต้องการประมูลรู้สึกตกใจและเกรงกลัวอีกฝ่ายขึ้นมา
สำหรับเฉียนซานเจียและซ่งหยู่แล้ว ในสายตาของพวกเขา ไม่ว่าจะสิบหรือยี่สิบล้านหยวนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย พวกเขาต่างให้ความสนใจกับสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ ตราบใดที่พวกยังคงคลั่งไคล้มัน เงินจำนวนเท่านี้ถือว่าเล็กน้อยมาก
"ยี่สิบล้านครั้งที่สอง จำนวนเงินยี่สิบล้านแลกกับเตาซวนเต๋อถือว่าเหมาะสมแล้ว ในตอนนั้นเตานี้ถูกสร้างขึ้นเพียงสามพันชิ้นเท่านั้น เตานี้นับว่าควรค่าแก่การสะสมอย่างมากครับ" หลิวเฉียนหมิงพยายามพูดโน้มน้าวใจให้ทุกๆคนเกิดข้อเปรียบเทียบ
แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ไม่ได้โง่พอที่จะใช้เงินจำนวนยี่สิบล้านประมูลของแท้ในการประมูลธรรมดานี้ พวกเขาไม่ต้องการใช้เงินยี่สิบล้านหยวนแลกกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ถึง 90% ของเตาหลอมเป็นของแท้ แต่ถ้าหากว่าพวกเขาคิดผิดล่ะ?
"เหอะ ถ้าอยากได้มันนัก ก็เอาไป" ซ่งหยู่ไม่สนใจคำพูดพวกนั้นเลยสักนิด
ถึงอย่างไร ในตระกูลของเขาก็มีเตาซวนเต๋ออยู่แล้ว และเขาเองก็ไม่ได้มาที่นี่เพื่อจุดประสงค์นี้
"หึ ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ" เฉียนซานเจียหัวเราะเยาะ
"ยี่สิบล้านครั้งสุดท้าย ขอแสดงความยินดีกับคุณเฉียน เชิญคุณรับเตาซวนเต๋ออันล้ำค่าในสมัยราชวงศ์หมิงครับ" หลิวเฉียนหมิงกล่าวเสียงดัง
"ขอบคุณสำหรับคำเชิญ" เฉียนซานเจียลุกขึ้นยืนอย่างมีความสุขในฐานะผู้ชนะทั่วไป
"อันดับต่อไปคือ ชามลายไก่ของชิงหย่งเจิ้ง ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งล้านหยวน และราคาการประมูลแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนหยวนครับ" หลิวเฉียนหมิงกล่าว
หลังจากนั้น สาวงามรูปร่างสูงโปร่งในชุดกี่เพ้าก้าวเดินออกมาช้าๆพร้อมกับชามเครื่องเคลือบใบเล็กๆ
เมื่อสาวสวยในชุดกี่เพ้าเดินออกมา ทุกคนต่างพุ่งความสนใจไปที่ชามในมือของเธอ โดยมีเพียงเฉินหลงคนเดียวเท่านั้นที่จ้องมองไปที่ใบหน้าของสาวสวย
"ลั่วฮุ่ยนี่ขยันใช้เงินจริงๆ หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับหญิงสาวที่ถือของประมูลออกมาก่อนหน้านี้" เฉินหลงพบว่าคนสวยในชุดกี่เพ้าคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับคนก่อนหน้านี้
"คุณควรจะทราบแล้วว่าว่าในงานประมูลฝูปี่ฤดูใบไม้ผลิปี 2014 ในเซียงเจียง ชามลายไก่นี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิงและจัดจำหน่ายในราคาที่สูงถึงสองร้อยแปดสิบเอ็ดล้านหยวน และชามหย่งเจิ้งนี้ถูกลอกเลียนแบบในรัชศกหย่งเจิ้ง แต่ถึงอย่างไรมันได้สะท้อนให้เห็นถึงความเปี่ยมศรัทธาของราชวงศ์ชิงที่มีต่อชามของจักรพรรดิเฉิงฮว่าในราชวงศ์หมิง ในตอนนั้นจักรพรรดิเฉิงฮว่ารู้สึกตื้นตันที่ได้เห็นภาพของโอรสและไก่ตัวหนึ่งในราชวงศ์ซ่ง จึงสร้างชามลายไก่ที่ได้เป็นที่รู้กันทั่วโลกขึ้น อย่างไรก็ตามจักรพรรดิหย่งเจิ้งได้เปรียบเทียบความรักของแม่ไก่กับองค์จักรพรรดิที่ทรงรักใคร่ประชาชนในฐานะลูกคนนึ่งของพระองค์ แม้ว่าชามลายไก่ใบนี้จะเป็นแค่ของเลียนแบบในรัชศกหย่งเจิ้งแห่งราชวงศ์ชิง แต่มันก็ควรค่าแก่การสะสมเช่นกัน ผมหวังว่าแขกทุกท่านจะไม่พลาดโอกาศนี้ไปนะครับ" หลิวเฉียนหมิงอธิบายประวัติความเป็นมาของชามลายไก่
หลังจากนั้น เขาได้ลุกขึ้นยืนและเดินชมชามลายไก่ด้วยความระมัดระวัง
ครั้งนี้ เฉินหลงไม่ได้สนใจรูปนั่น เขามองแค่ท่าทางของฮ่าวฉางชิง
ไม่นาน เฉินหลงรู้สึกว่าสีหน้าของฮ่าวฉางชิงเผยให้เห็นถึงความลังเลเล็กน้อย แต่คนอื่นกลับพยักหน้าเป็นครั้งคราว
“เป็นไปไม่ได้ ชามนี้เป็นของปลอม แต่ทำไมแว่นตาวิเคราะห์ถึงไม่ตอบสนองอะไรเลยล่ะ ไม่ใช่ว่าของปลอมก็ไม่เกิดปฏิกิริยาด้วยเหมือนกันนะ มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนี่” ทันใดนั้นเฉินหลงได้คิดถึงความเป็นไปได้
"ถ้าอย่างนั้นมาดูกันว่ามันเหมือนกับที่เราคิดเอาไว้ไหม" เฉินหลงคิด แล้วหยิบแว่นตาวิเคราะห์ขึ้นมาสวม
แว่นตาวิเคราะห์คุณภาพต่ำสามารถใช้งานได้เพียงแค่สามครั้งเท่านั้น และมันจะหายไปหลังจากการใช้งานครั้งที่สาม ถ้ามีคนเห็นว่าแว่นตาที่เขาสวมอยู่หายวับไปกับตา มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นได้
ดังนั้น เฉินหลงจึงยกมือขึ้นมาปิดบังแว่นตาเอาไว้ ถ้าแว่นหายไปจริงๆหลังจากใช้งานครั้งที่สาม เขาจะได้ใช้โอกาสนี้ทำท่าเหมือนว่าเขากำลังหยิบแว่นเก็บใส่ในกระเป๋า แล้วแลกแว่นอันใหม่จากระบบ ระหว่างนั้นคงไม่มีใครสังเกตเห็นแน่นอน
จากนั้น เฉินหลงก็ใช้โอกาสนี้ใช้งานแว่นวิเคราะห์ครั้งที่สามในทันที
"งานฝีมือทันสมัยที่มีการลอกเลียนแบบระดับสูง ราคาอยู่ที่สามพันหยวน"
หลังจากการใช้งานครั้งที่สาม แว่นตาวิเคราะห์ก็ได้หายวับไป ทันใดนั้นเฉินหลงก็ทำท่าถอดแว่นออกแล้วเก็บมันลงในกระเป๋า
หลังจากนั้น เขาก็รีบทำการแลกเปลี่ยนแว่นตาวิเคราะห์คุณภาพต่ำจากระบบในทันที
จากนั้น เฉินหลงก็เพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ชามลายไก่
“ สิ่งที่พิเศษจริงๆก็คือมันเป็นของปลอม แต่ดูเหมือนคนพวกนั้นจะดูจริงจังกับมันมากจริงๆแฮะ ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีคนโชคร้ายซะแล้วสิ” เฉินหลงมองดูคนพวกนั้นด้วยความเห็นใจ
หลังจากตรวจดูมันเสร็จแล้ว พวกเขาก็กลับมานั่งที่ประจำและเริ่มการเสนอราคาอีกครั้ง
"หนึ่งล้านหนึ่งแสน"
"หนึ่งล้านสองแสน"
......
"เสี่ยวเฉิน นายคิดว่าไง?"
ฮ่าวฉางชิงถามเฉินหลงอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขาจะคิดว่าตัวเองรับบทเป็นตี๋เหรินเจี๋ย ส่วนเฉินหลงรับบทเป็นหยวนฟางเสียแล้ว
"แล้วลุงฮ่าวคิดว่าไงละครับ?" ในครั้งนี้เฉินหลงไม่ได้บอกกับอีกฝ่ายตรงๆว่าชามลายไก่นั้นเป็นของปลอม
ฮ่าวฉางชิงถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริงเสียงจริง เขาไม่จำเป็นต้องทำท่าทางอวดดีต่อหน้าอีกฝ่ายเขา มันคงจะดีกว่าหากเขาฟังความเห็นจากอีกฝ่ายก่อน
"ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างของชามหรือลวดลายและสีของไก่นั้นตรงตามแบบของสมัยหย่งเจิ้งมาก แต่ฉันกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ดู ผิดแปลกไป แต่ฉันก็บอกไม่ถูกว่าส่วนไหนที่มันดูผิดแปลกไป" ฮ่าวฉางชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
"ลุงฮ่าว คุณต้องการจะบอกผมว่ามันดูปลอมเกินไปใช่ไหมครับ?" เฉินหลงถามฮ่าวฉางชิงซ้ำอีกครั้ง
“ ใช่! ฉันก็คิดอย่างนั้นแหละ มันดูเหมือนจริงเกินกว่าจะเป็นของจริงแล้ว!” ฮ่าวฉางชิงพยักหน้า
0 ความคิดเห็น