Taobao system : ตอนที่ 40 เฉียนพ่าง

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

 TB : ตอนที่ 40 เฉียนพ่าง


จากนั้นก็ได้มีอีกสองคนเดินเข้าทักทายฮ่าวฉางชิง


"เถ้าแก่ฮ่าว ตอนที่การประมูลจะเริ่ม เถ้าแก่ต้องเช็คให้ดีนะครับ" ชายวัยราว 50 ปีพูด


"บอสจางนี้สุภาพจังเลยนะครับ หวูจางเหยียนที่คุณพามาด้วยเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญ แล้วถ้าได้เขามาช่วยอีก คุณก็จะไม่มีปัญหาอะไรเลย" ฮ่าวฉางชิงพูดด้วยรอยยิ้มในระหว่างที่มองชายวัย 40 ปีที่สวมแว่นสายตาไปด้วย


"ยินดีครับคุณฮ่าว ความสามารถของผมอาจจะดูไม่มีอะไรเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณ แม้ว่าคุณจะอยู่ในโลกยุคโบราณนั้นก็คือไท่ซานและเป่ยโต่วแต่ผมก็มีความรู้เรื่องพวกนี้ดี" หวูจางเหยียนที่ใส่แว่นพูดด้วยความสุภาพ


"เถ้าแก่ฮ่าวครับ พวกเขาต่างมีผู้ช่วยกันทุกคน ผมมีผู้หญิงเพียงแค่คนเดียว เพราะงั้นอย่าลืมเตือนตัวเองว่าอย่าทำร้ายจิตใจผมจนมากไปก็แล้วกันครับ" ชายร่างอ้วนที่กำลังโอบสาวสุดฮอตน่าเย้ายวนที่อายุราว 24-25 ปีจ้องหน้าฮ่าวฉางชิง


ชายร่างอ้วนคนนี้ดูเหมือนว่าจะอ้วนกว่าจิ้นจินเหวิน หากเขาและจิ้นจินเหวินยืนคู่กัน จิ้นจินเห


วินก็จะรู้สึกว่าเขาลดความอ้วนได้สำเร็จ


ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อชายคนนั้นพูดจบเขาก็หอบเล็กน้อยราวกับว่าเขาใช้เรี่ยวแรงของเขาไปเกือบหมดแล้ว


"เฉียนผ่าง สายตาของคุณร้ายกาจกว่าผมซะอีก มีการประมูลครั้งไหนบ้างที่นายซื้อของปลอม?" ฮ่าวฉางชิงพูดด้วยรอยยิ้ม


"ฮ่าฮ่า นั้นถือว่ายอมรับ" เฉียนพ่างหัวเราะ จากนั้นพวกเขาก็นั่งคุยกันต่อที่โซฟา


เฉินหลงโฟกัสไปที่กลุ่มชายและหญิงกลุ่มหนึ่งจนไม่ได้ลุกไปไหน


กลุ่มชายหญิงเหล่านั้นราวกับว่าไม่เห็นการมาของฮ่าวฉางชิง พวกเขาต่างยังคงนั่งที่โซฟาพร้อมกับจิบไวน์แดงและสูบบุหรี่กันต่อ


มีชายคนนึงที่อายุน่าจะมากกว่าเฉินหลงสองถึงสามปี รูปร่างหน้าตาดีและเขามักจะแสดงสีหน้าหยิ่งยโสราวกับว่ามีบางคนใช้สายตาคนจับจ้องเขาอยู่เสมอ แต่อย่างไรเสื้อผ้าทั้งตัวที่เขาสวมนั้นมาจากช่างฝีมือที่มีชื่อเสียงซึ่งพวกมันน่าจะมีราคาถึงหลักแสนและดูเหมือนว่าเขาจะเป็นลูกหลานของครอบครัวตระกูลใหญ่


และหญิงสาวที่ดูมีอายุราว 16-17 ปี เธอยังดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาแต่หน้าอกหน้าใจของเธอกลับโตเกินกว่าวัยและนั้นทำให้หนุ่มรุ่นใหญ่หลายคนต่างชอบเธอกัน


และเมื่อชายเหล่านั้นเห็นสายตาของเฉินหลงที่จับจ้องไปที่เด็กสาวคนนั้น สายตาของพวกเขาก็แสดงออกอย่างไม่สบอารมณ์ราวกับว่าของของพวกเขากำลังจะถูกทำให้แปดเปื้อนโดยคนอื่น


เฉินหลงยิ้มอย่างขอโทษให้กับชายเหล่านั้นและหันหัวกลับทันทีเพราะสุดท้ายมันก็ดูไม่สุภาพเขาจึงต้องขอโทษพวกเขาไป


อย่างไรก็ตามกลุ่มชายหนุ่มเหล่านั้นได้เข้าใจผิดว่าที่เฉินหลงยิ้มให้ก็เพื่อที่จะยั่วพวกเขา และจากนั้นสีหน้าของพวกเขาก็แสดงถึงความโกรธแทน


แต่เฉินหลงก็ไม่ได้สนใจว่าพวกเขาจะโกรธหรือไม่ เพราะนอกจากนี้เขาก็ไม่ได้ทำผิดอะไร หากคนพวกนั้นอยากจะโกรธก็โกรธไปเพราะเขาไม่ต้องสนใจอยู่แล้ว


"เฉินหลง นายคิดยังไงกับคนที่เข้ามาทักทายฉัน?" ตอนนี้ฮ่าวฉางชิงได้มายืนอยู่ข้างๆและถามเขาทันที


"มองครั้งแรกก็ดูรู้แล้วว่าพวกเขารวย ผมในฐานะคนจนๆคนนึงจะคิดอะไรได้?" เฉินหลงไม่รู้เหตุผลว่าทำไมลุงฮ่าวถึงถาม


"ฉันก็แค่อยากถามว่านายคิดว่าใครในหมู่พวกเขาฉลาดที่สุด?" ลุงฮ่าวถาม


"ผมไม่รู้หรอกว่าใครฉลาดที่สุด พวกเขาทั้งหมดดูฉลาดกันทุกคนแต่ผู้ชายอ้วนคนนั้นดูฉลาดน้อยสุด" เฉินหลงพูด


"เสี่ยวเฉิน นายคงคิดผิดแล้วละ นายพูดถูกนะเรื่องที่เฉียนผ่างมีทักษะเยี่ยมในการแสร้งทำว่าไม่ฉลาดแต่จริงๆแล้วเขากลับฉลาดมากเหมือนสำนวนจีนที่ว่า ทำท่าหมูกินเสือ(扮  猪  吃  老  虎) แต่นายกลับบอกว่าคนที่ปราดเปรื่องที่สุดดูฉลาดน้อยที่สุดแทน ไม่อย่างนั้นเขาจะสามารถทำรายได้ได้ถึง 10 ล้านหยวนได้อย่างไร และที่ยิ่งไปกว่านั้น การประมูลแบบนี้เขาก็ไม่เคยซื้อของปลอมกลับไปเลย "ฮ่าวฉางชิงพูดพร้อมรอยยิ้ม


"ไม่เลยสักครั้ง?" เฉินหลงถาม


"ไม่เคยเลยสักครั้ง" ฮ่าวฉางชิงพยักหน้า


"เขามีความรู้เรื่องโบราณวัตถุอย่างดีหรอ?"


เฉินหลงมองกลับไปอย่าแปลกใจจนเกือบจะหงายหลังบนโซฟา เขามัวเพลิดเพลินไปกับสาวสวยจนไม่ได้สังเกตว่าชายคนนี้เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญ


"เขาไม่ได้รู้เรื่องของเก่ามากนักหรอก เขาแค่มองคนออกและมีเงินต่างหาก ตอนที่เขาประมูล เขาไม่ได้ดูที่การประมูล แต่เขาเพียงสนใจไปที่ทุกคนที่มาร่วมประมูลและเมื่อเขาเจอเป้าหมายแล้วเขาก็จะซื้อมัน ถึงแม้ว่าราคาที่เสนอมาจะสูงมากแต่เขาก็ยอมเพราะมันเป็นของแท้ เมื่อมองภายนอกเฉียนผ่างเขาดูเป็นคนอวดดี แต่เขาก็ยังดีกว่าพวกที่จ่ายเงินซื้อของปลอมไป เขายังดีกว่ามาก" ในคำพูดของฮ่าวฉางชิงเหมือนกับว่าเขาจะค่อนข้างชื่นชมเฉียนพ่าง


"งั้นเขาก็ถือว่าเป็นคนที่น่าสนใจ ชื่อของเขาไม่ใช่เฉียนพ่างใช่ไหม" เฉินหลงพูดพร้อมกับยิ้ม


"ชื่อของเขาคือ เฉียนซานเจีย" ฮ่าวฉางชิงพูด


"แล้วเขาคนนั้นนะ?" เฉินหลงชี้ไปที่ชายหนุ่มที่นั่งบนโซฟาและกำลังพูดคุยกับสาวสวยที่นั่งอยู่ข้างๆเขา


เฉินหลงอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสถานะของเขาคนนั้นมาก สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยว่าตอนนี้เฉินหลงรู้สึกไม่ชอบใจในตัวเอง มันจะดีกว่าหากเฉินหลงรู้สถานะของชายคนนั้น หากเขาต้องการที่จะจัดการปัญหาด้วยตนเอง เขาเองก็ต้องเตรียมตัวไว้ด้วย แต่โชคไม่ดีที่ลุงฮ่าวไม่ได้รู้จักชายคนนั้น


อย่างไรก็ตาม ฮ่าวฉางชิงก็รู้จักกับเจ้าของที่นี่ เขาบอกกับเฉินหลงว่าเจ้าของที่นี่ชื่อลั่วฮุ่ย 


เบื้องหลังพวกเขาเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลในนครหลวงนี้ ผู้ที่มีอิทธิพลรุ่นใหม่จำนวนมากยังต้องให้ความรพโดยการที่เรียกเขาว่าพี่สี่เวลาที่ได้เจอกับลั่วฮุ่ย


"เดี๋ยวก่อนนะ ผมอยากจะเห็นพี่สี่ของตระกูลลั่วคนนี้จริงๆ" เฉินหลงใคร่อยากจะรู้เกี่ยวกับลั่วฮุ่ยเต็มทน


หลังจากผ่านไปสามชั่วโมง แขกสิบคนที่ถูกเชิญมางานประมูลก็ได้มาถึงกันครบแล้ว ในตอนแรกเมื่อมีคนมาถึงเป็นคนสุดท้าย เฉินหลงคิดว่าเขาอาจจะได้พบกับลั่วฮุ่ยแต่เขากลับต้องผิดหวัง เพราะเขาคนนั้นไม่ใช่ลั่วฮุ่ยแต่เป็นพ่อบ้านของลั่วฮุ่ยที่มาพบพวกเขาแทน ซึ่งพ่อบ้านของลั่วฮุ่ยเป็นชายร่างบางวัย 40 ปี


"มันค่อนข้างลำบากนิดหน่อยสำหรับการมาเยือนของแขกผู้มีเกียรติที่เดินทางมาไกลจนมาถึงที่นี่ได้ ผมเป็นพ่อบ้านของที่นี่ครับ ผมชื่อ หลิวเจียอันหรือทุกท่านสามารถเรียกผมว่าพ่อบ้านหลิวก็ได้ครับ ผมได้เตรียมดินเนอร์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกท่านไว้แล้ว พวกท่านสามารถเพลิดเพลินกับมื้อค่ำได้ก่อนเลยครับ และหลังจากที่ทานมื้อค่ำเสร็จ ผมจะพาพวกท่านไปพักที่ห้อง พรุ่งนี้เช้าเวลา 9 โมงตรง งานประมูลจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ" หลิวเจียอันเขามาในห้องนั่งเล่นและพูด


หลังจากนั้น พวกเขาก็ตามหลิวเจียอันไปที่ห้องอาหารที่มีขนาดประมาณ 80 ตารางเมตร ภายในห้องอาหารมีโต๊ะยาวสไตล์ตะวันตกซึ่งบนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารนานชนิดรวมไปถึงอาหารจีนและอาหารตะวันตก


ทั้งสองฝั่งของโต๊ะมีบริกรสาวสวยยืนขนาบซึ่งพวกเธอสวมเครื่องแต่งกายสไตล์ตะวันตกและชุดกี่เพ้าของจีนมหาอำนาจ


"ยินดีต้อนรับครับ เชิญรับประทานอาหารได้เลยครับ หากท่านต้องการอะไรขอเพียงให้บอกได้เลยครับ และเชฟของพวกเราก็กำลังเตรียมอาหารจานโปรดให้กับทุกท่านปละจะมาเสิร์ฟในไม่ช้า" หลิวเจียอันพูด 


"งั้น ผมไม่รบกวนทุกท่านแล้วนะครับ ขอให้ทานให้อร่อยนะครับ" พูดจบ หลิวเจียอันก็ออกจากห้องอาหารไป หลังจากที่หลิวเจียอันออกไป เฉียนซานเจียก็เริ่มกินเป็นคนแรก เขาชอบอาหารจีนอยู่แล้วซึ่งงานเลี้ยงนี้ไม่ได้จัดเพื่อเอาใจใคร


"เสี่ยวเฉิน เชิญนายกินเลย งานประมูลที่นี่ก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งแหละ"  จากนั้นฮ่าวฉางชิงก็เริ่มกิน


เฉินหลงพยักหน้าอย่างไปไม่ค่อยเป็นนัก เพราะเขาไม่ได้มีความรู้เรื่องอาหารตะวันตกเท่าไหร่ เดิมทีเขามักกินแต่อาหารจีน อาหารที่นี่ดีกว่าอาหารที่เฉินหลงเคยกินที่ร้านอาหารทั่วไปเสียอีก


"นี่ จานนี้อร่อยดี" ขณะที่เฉินหลงกำลังกิน เขาก็พูดกับฮ่าวฉางชิงไปด้วย


"ก็แน่นะสิ ก็เชฟที่ทำอาหารพวกนี้เป็นเชฟของลั่วฮุ่ย เป็นเชฟชื่อดังที่เชิญมาพิเศษจากในเมือง มันอร่อยใช่ไหมละ?" ฮ่าวฉางชิงอธิบาย


"โอ ก็ไม่เห็นหน้าแปลกใจตรงไหน" เด็กหนุ่มที่ดูอวดดีนั่งอยู่ไม่ไกลจากเฉินหลงนัก เมื่อเขาได้ฟังคำพูดของเฉินหลงแล้ว เขาก็แสดงสีหน้าดูถูกออกมา


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น