TB : ตอนที่ 21 กลับบ้าน
"แล้วเครื่องดื่มล่ะ?" ผู้หญิงที่นั่งข้างเฉินหลงพูด
"แน่นอน แต่มันจะดีกว่าถ้าคุณจะบอกชื่อผม" เฉินหลงพูดพร้อมรอยยิ้ม
พูดดังนั้น
เฉินหลงก็หยิบเอาแบงค์ห้าสิบหยวนที่เขาเพิ่งได้ทอนมาและบอกให้บาร์เทนเดอร์ผสมไวน์ให้แก้วนึง
เพราะเมื่อกี้บาร์เทนเดอร์สาวสวยได้ผสมไวน์ให้แขกคนอื่นๆ ดังนั้น
ตอนนี้คนที่ผสมไวน์ให้เฉินหลงจึงเป็นบาร์เทนเนอเดอร์หนุ่มหล่อแทน
"ฉันชื่อเสี่ยวหยุน พ่อรูปหล่อ นายชื่ออะไรล่ะ?"
เสี่ยวหยุนถามกลับและขยิบตาให้เฉินหลง
"ผมชื่อเฉินหลง!" เฉินหลงพูดชื่อของเขาออกไปทันที
"แจ็คกี้ ชาน?" เมื่อเฉินหลงได้ยินชื่อนี่
เขาก็รู้ว่าเสี่ยวหยุนเข้าใจผิดอย่างแรง เพราะยังไง ชื่อของพี่ใหญ่นั้นโด่งดังมาก
"มันยากที่จะเชื่อนะ แต่มีอย่างนึงที่ผมคล้ายกับพี่ชายคนนี้
นั้นก็คือกังฟู!"เฉินหลงเล่นคำ
"ใช่หรอ? ฉันไม่เชื่อหรอก"เสี่ยวหยุนยิ้มและมองดูถูก
เสี่ยวหยุนที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างช่ำชอง ก็สามารถเข้าใจความหมายของเฉินหลงได้
"ไม่เชื่อหรอ? ถ้าอยากจะลอง ผมก็ไม่ปฏิเสธนะ" เฉินหลงพูดต่อ
เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นและสภาพแวดล้อมที่เหมือนบาร์
ทำให้เฉินหลงไม่เป็นตัวเองนัก บางทีนี้อาจจะเป็นธาตุแท้ของเฉินหลง
"ถ้าเป็นแค่แก้วไวน์ ฉันก็ไม่อยากจะลอง"
เสี่ยวหยุนมองเฉินหลงอยู่นานจากนั้นก็หยิบเอาแก้วที่มีไวน์ผสมไว้แล้วขึ้นมา
"ฮ่าฮ่า วันนี้คุณคงไม่มีทางได้ลอง ถ้าคุณโชคดี ก็ลองครั้งหน้าละกัน"
เฉินหลงจิบไวน์พร้อมกับยิ้มให้
"คุณมาแค่ดื่มไวน์แค่นั้นจริงๆหรอ?" เมื่อเห็นเฉินหลงหยอกล้อมานาน
เสี่ยวหยุนก็โมโห
ทุกคนที่มาที่บาร์ก็เพื่อมาสนุก เฉินหลงนี่ไม่รู้ประสาเอาซะเลย
"งั้นอย่าเสียใจไปเลย" พูดจบ เฉินหลงก็หยิบกุญแจรถออกมา
"ดูเหมือนว่า ฉันจะดื่มได้แต่ไวน์ของคุณ!" เมื่อเห็นเฉินหลงหยิบกุญแจรถออกมา
เสี่ยวหยุนก็เปลี่ยนทัศนคติทันที
ผู้หญิงอย่างเสี่ยวหยุนไม่ได้มีความรู้เรื่องรถยนต์มากนัก
โดยเฉพาะพวกรถหรูที่ใช้เงินซื้อเป็นล้านๆ แต่กุญแจรถนี้ช่างดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
เช่นนั้น เมื่อเห็นเฉินหลงหยิบกุญแจออกมา ความคิดเธอก็เปลี่ยนไปทันที
"วันนี้คุณได้ดื่ม ครั้งหน้าผมจะให้โอกาสคุณลองกังฟู" เฉินหลงพูดจบ
เขาก็จิบไวน์ไปอึกนึง หยิบกุญแจแล้วเดินออกจากบาร์ไป
"ทิ้งข้อมูลการติดต่อไว้สิ!" เสี่ยวหยุนพูดไล่หลัง
"ไม่ ผมจะไปหาคุณเองเมื่อผมต้องการ" พูดดังนั้น
เฉินหลงก็ออกจากบาร์แล้วขับรถกลับวิลล่า
หลังจากที่ดื่มไวน์ไปแก้วนึงและได้คุยกับสองสาวสวย
ความรู้สึกที่น่าอึดอัดก็ได้หายไปเป็นปลิดทิ้ง
วันถัดมา เฉินหลงได้ไปเดินเล่นกับจี้โม่ซีอีกครั้ง
วันจันทน์เฉินหลงก็ขับรถกลับบ้าน
บ้านเดิมของเฉินหลงอยู่ไกลจากเมืองซิงเฉิง ประมาณ 400 กิโลเมตร
ซึ่งต้องใช้เวลามากว่าสามชั่วโมงในการวิ่งบนทางหลวง
เขาเริ่มออกเดินทางเวลา 8 โมงเช้า ตอนเที่ยงของวัน
ในที่สุดเฉินหลงก็กลับมาถึงหมู่บ้านหนานซี เพื่อที่จะเซอร์ไพร์สครอบครัว
เฉินหลงไม่ได้บอกพวกเขาว่าจะกลับวันนี้
เมื่อกลับมาที่หมู่บ้าน เฉินหลงดีใจมากที่ได้ขับรถแลนด์โรเวอร์
ถ้าเขาเปลี่ยนเป็นโหลดรถให้ต่ำ พื้นถนนของหมู่บ้านคงจะโดนรถเขาแน่
เมื่อเฉินหลงได้ขับรถกลับมายังหมู่บ้าน ข่าวก็กระจายไปทั่ว รู้รึหรือไม่ว่า
มันเป็นเรื่องที่ดีที่สามารถขับรถได้ในหมู่บ้านหนานซี
บางคนที่รู้เรื่องรถก็ยังรู้ด้วยว่ารถของเฉินหลงนั้นแพงแค่ไหน
ไม่ช้าผู้คนมนหมู่หนานซีก็รู้ว่าลูกชายตระกูลเฉินนั้นได้ประสบความสำเร็จและพัฒนาแล้ว
"เสี่ยวหลง รถที่อยู่ด้านนอกคือรถของลูกจริงๆหรอ?" เฉิน ต้าม่าน
ผู้เป็นพ่อของเฉินหลงมองไปที่ลูกชายอย่างแปลกใจและปลื้มยินดี
เฉินต้าม่านวัย 45 ปี เขาดูเหมือนเฉินหลงสี่ถึงห้าจุด
เนื่องด้วยการทำงานเกษตรของเขาที่ยาวนาน เขาจงดูมีอายุมากกว่าอายุจริงตอนนี้
เฉินหลงที่ไม่ได้กลับบ้านมาหลายปีก็เสียใจที่กลับมาเห็นพ่อแม่อายุมากขึ้นไปอีก
เพื่อที่จะสามารถส่งลูกชายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยและเก็บออมค่าเล่าเรียน
พวกเขาจึงทำงานอย่างหนักในสวนนี้ แม้แต่ตอนเขาจะเพิ่งกลับมา
พวกเขายังเพิ่งกลับมาจากสวนเช่นกัน เสื้อผ้าที่ยังไม่ถูกเปลี่ยน
ทั้งเสื้อและกางเกงถูกปกคลุมไปด้วยโคลน
พ่อแม่ของเฉินหลงเป็นชาวสวนปลูกผัก
พวกเขามักจะไปที่สวนประมาณสองสามชั่วโมงในตอนเช้า
เที่ยงวันพวกเขาก็จะกลับมาพักและจากนั้นก็รอจนถึง สี่
หรือห้าโมงเย็นก็กลับไปทำงานที่สวนต่อ
"เอาละ ผมซื้อมันเอง ครั้งนี้ ผมกลับมาเพื่อที่จะมารับไปอยู่ที่เมืองซิงเฉิง
ผมซื้อบ้านในซิงเฉิงไว้ด้วยนะ" เฉินหลงพยักหน้า
"จริงหรอ?" "ลูกซื้อบ้านด้วยหรอ?" หลิว ซิงหลานพูดอย่างประหลาดใจ
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการมีบ้าน ปัจจุบัน
สิ่งที่จำเป็นที่จะต้องมีก่อนแต่งงานก็คือมีบ้านหรือไม่ก็รถ ถ้าคุณไม่มีรถ
มันก็พอแก้ขัดไปก่อนได้ แต่ถ้าคุณไม่มีบ้าน คุณจะไม่มีทางได้แต่งงาน
ดังนั้นหลิวซิงหลานจึงดีใจมากเมื่อได้ยินว่าลูกชายของเธอได้ซื้อบ้านในซิงเฉิงจริงๆ
"แน่นอน ของจริงไม่สามารถปลอมได้ ของปลอมก็ไม่สามารถเป็นจริงได้
แม่น่าจะไปดูกับผมในอีกสองวัน" เฉินหลงพูดด้วรอยยิ้ม
วิลล่าที่เขาซื้อที่ซิงเฉิงที่อยู่ที่นั้น เฉินหลงไม่กลัวว่ามันจะหนีไปไหน
"ดูเหมือนว่าลูกชายเราจะประสบความสำเร็จจริงๆ"
ทั้งเฉินต้าม่านและหลิวซิงหลานต่างมีใบหน้าที่มีความสุข
เฉินต้าม่านไม่ได้พูดอะไรเขากลับเอาแต่ยิ้ม ลูกชายของเขามีอนาคต
เขาดีใจมากๆที่ได้เป็นพ่อเฉินหลง
"ไอ้ลูกชาย ในเมื่อมีบ้านมีรถแล้ว เมื่อไหร่จะหาลูกสะใภ้ให้พวกเราสักทีละ?"
หลิวซิงหลานถามคำถามที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทั่วโลกต่างก็กังวล
เมื่อเฉินต้าม่านได้ยิน เขาก็เงี่ยหูฟัง
" เอาน่า ที่นั้นก็มีคนที่ชอบอยู่ อย่างไงก็ตาม
พวกเราเพิ่งจะเริ่มต้นกันเท่านั้น"เฉินหลงอายเล็กน้อย
"จริงหรอ? เธอชื่ออะไรละ? ฐานะที่บ้านเป็นยังไง?"
หลิวซิงหลานถามอย่างยินดีเมื่อได้ยินลูกชายพูดบางอย่าง
เมื่อก่อนพวกเขาติดต่อกันทางโทรศัพท์ ได้ยินว่า เฉินหลงนั้นโสดมาโดยตลอด
ตอนนี้เขาได้มีแฟนแล้วซึ่งมันทำให้พ่อแม่ของเขามีความสุข
"เธอชื่อจี้โม่ซี เธอไม่เลวเลย ส่วนฐานะครอบครัวของเธอก็ธรรมดา"
เฉินหลงเล่าเรื่องครอบครัวของจี้โม่ซีสั้นๆ
"จี้โม่ซี? จี้โม่ซี? ฉันเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนนะ?"
หลิวซิงหลานขมวดคิ้ว "คุณเคยได้ยินบ้างหรือเปล่า?"
เฉินต้าม่านมองหลิวซิงหลานแปลกๆ เฉินหลงเพิ่งจะพูดเรื่องนี้
ภรรยาของเขาจะเคยได้ยินชื่อนี้ได้อย่างไร
"แม่ครับ จี้โม่ซีเป็นเพื่อนในชั้นของผมในสมัยมัธยม แน่นอนว่าแม่ต้องประทับใจเน่"
เวลานี้ เฉินหลงได้ไขปริศนาออกแล้ว
ไม่อย่างนั้นเซล์สมองของเม่เขาคงจะต้องตายไปเยอะ
"โอ้ใช่ พวกในห้องของลูกคนนึงชื่อจี้โม่ซี เธอเป็นคนดีมากๆ"
หลิวซิงหลานพยักหน้าซ้ำๆ
ในโรงเรียนมัธยม จี้โม่ซีเป็นเด็กที่มีความประพฤติดีที่สุดในชั้นเรียนของเฉินหลง
ทุกครั้งที่หลิวซิงหลานช่วยเฉินหลงจัดการประชุมผู้ปกครอง
จี้โม่ซีจะถูกเสนอชื่อและถูกชื่นชมโดยครูอาจารย์อยู่เสมอ
ตอนนี้
หลิวซิงหลานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชื่อของเฉินหลงจะถูกเสนอชื่อและชื่นชมโดยอาจารย์ด้วย
อย่างไรก็ตาม
หลิวซิงหลานไม่ได้คาดหวังว่าหญิงสาวที่เธออิจฉามากที่สุดจะมาเป็นแฟนของลูกชายเธอ
ดังนั้น ลูกชายของเรานั้นดีกว่าจี้โม่ซี
ทันใดนั้นก็มีเสียงมาจากข้างนอก
0 ความคิดเห็น