TB : ตอนที่ 20 ต้มกบ
หลังจากนั้นเฉินหลงได้ล็อคเป้าหมายไปที่ตำแหน่งของจ้าวหงไป๋อีกครั้ง
หลังจากล็อคจ้าวหงไป๋ในครั้งแรก เครื่องดักจับจะจดจำลักษณะและท่าทางของเขา
และในครั้งต่อไปแค่เขาพูดชื่อของอีกฝ่ายออกมา
เขาก็สามารถล็อคเป้าไปที่อีกฝ่ายได้โดยตรง
หลังจากล็อคจ้าวหงไป๋เรียบร้อยแล้ว
เฉินหลงไม่ได้มีท่าทางรีบร้อนที่จะเริ่มปฏิบัติการของเขาในทันที
นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่นอนอยู่ข้างๆกายจ้าวหงไป๋
เฉินหลงไม่ต้องการให้ผู้หญิงที่เขาไม่ได้รังเกียจหรือเคียดแค้นอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัวต้องถูกทำให้สมองตายเหมือนกันกับจ้าวหงไป๋
ถึงเฉินหลงจะเป็นคนที่ไม่พอใจอีกฝ่ายและเขาต้องการตอบแทนอีกฝ่ายให้สาสมก็จริง
แต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนโหดเหี้ยมและป่าเถื่อนเสียหน่อย
"คุณจ้าวคะ คุณอยากให้ฉันอยู่กับคุณที่นี่ในคืนนี้ไหมคะ?"
หญิงสาวที่นอนอยู่ข้างกายจ้าวหงไป๋ทักขึ้น
"ไม่ล่ะ วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี เธอออกไปก่อน"
จ้าวหงไป๋ตอบด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง
หลังจากพูดจบประโยค
เขาก็หยิบใบแดงสองสามใบออกมาจากกระเป๋าเงินแล้วส่งมันให้กับสาวคนนั้น
"โอเคค่ะ คุณจ้าวคะ ถ้าหากว่าคุณอาการดีขึ้นแล้วและอยากให้ฉันมาหาคุณที่นี่
คุณสามารถเรียกฉันได้ตลอดเวลาเลยนะคะ" หญิงสาวยิ้มแล้วรับเงินไป
เธอหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาแล้วจัดการสวมมันให้เรียบร้อย
จ้าวหงไป๋ไม่ได้ตอบอะไรอีกฝ่ายอีก เขาหยิบบุหรี่หนึ่งมวนออกมาจากซองแล้วสูบมัน
พูดตามตรง จ้าวหงไป๋อายุ 32 ปีแล้ว แต่สุขภาพของเขายังแข็งแรงดี
ศักยภาพที่ตรงนั้นของเขาก็ยังดีเยี่ยม เขาสามารถเสร็จกิจได้ภายใน 20
นาทีหรือครึ่งชั่วโมงต่อครั้ง น่าเสียดายที่วันนี้เขารู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นัก
นั่นเป็นเพราะว่าเขาได้รับข้อความข้อความหนึ่ง
นั่นคือ "เรื่องใหญ่" ที่เขาขอให้ไปสั่งสอนเฉินหลงกับจี้โม่ซี
แต่อีกฝ่ายกลับถูกเฉินหลงใช้ขวดทุบขาหักจนต้องหามไปส่งที่โรงพยาบาลเสียได้
ช่วยไม่ได้ เขาทำเพียงแค่ให้ค่าปิดปากเงินอีกฝ่ายเพิ่มเป็นจำนวนเงิน 50,000
หยวนเท่านั้น
จ้าวหงไป๋รู้สึกอารมณ์เสีย
เขาต้องการเอาชนะคนที่ไม่มีอิทธิพลอย่างเฉินหลงและจี้โม่ซี นอกจากนี้
มันยังส่งผลต่อ 'ประสิทธิภาพบนเตียง' ของเขาอีกด้วย
เมื่อเขาคิดถึงมันแล้ว หน้าตาของจ้าวหงไป๋ก็ดูน่าเกลียดขึ้นมาในทันที
"คุณจ้าวคะ ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวก่อนนะคะ"
ในตอนนี้หญิงคนนั้นก็ได้แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่เธอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เธอก็ดูเหมือนกับเด็กนักเรียนธรรมดาๆคนนึงที่ควรจะเข้าใจว่าเธอกำลังทำธุรกิจอะไรแบบนี้อยู่
จ้าวหงไป๋ไม่ได้ตอบอะไรออกมา
เมื่อเธอเห็นว่าจ้าวหงไป๋ไม่ได้ตอบอะไร เธอจึงไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา
ในที่สุดเธอก็เดินออกไปจากบ้านของจ้าวหงไป๋
"อา เซ็งชะมัด ครั้งนี้คงต้องปล่อยเธอไปก่อน ครั้งต่อไปเธอตั้งตารอฉันได้เลย"
หลังจากที่สาวคนนั้นจากไปแล้ว
จ้าวหงไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแล้วทิ้งบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่
......
"ครั้งต่อไป? ฉันไม่คิดว่าพรุ่งนี้นายจะเห็นพระอาทิตย์หรอกนะ"
แน่นอนว่าเฉินหลงรู้ว่าจ้าวหงไป๋กำลังพูดถึงใครอยู่
นั่นเป็นเพราะสีหน้าเย็นชาของเขา
เขายังไม่ได้พบเจอกับปัญญหาของเขา แต่เขากลับคิดเพียงแค่เรื่องของตัวเองเท่านั้น
ดังนั้นอย่าโทษว่าเขาไม่มีเมตตาเลยนะ
หลังจากนั้นเฉินหลงก็ออกจากวิลล่าไปแล้วไปแถวๆบ้านของจ้าวหงไป๋ในทันที
จากเครื่องดักจับและรถยนต์ของเฉินหลง เฉินหลงให้เหตุผลว่าเขาต้องการมาหาเพื่อน
เพื่อเป็นข้ออ้างในการแอบเข้าไปในหมู่บ้านชิงอวิ๋นที่จ้าวหงไป๋อาศัยอยู่
ถึงเขาจะไม่ได้ลงทะเบียนเอาไว้ก็ตาม
เนื่องจากว่าในหมู่บ้านนี้มีผู้พักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
เฉินหลงจึงบอกแค่ชื่อคนที่เขาต้องการจะมาหาได้เท่านั้น
หลังจากเข้ามาในหมู่บ้านแล้ว เฉินหลงก็ขับรถไปจอดตรงถนนชิงอวิ๋น
เพราะตรงนั้นเป็นพื้นที่สำหรับการโจมตีของเฉินหลง
หลังจากล็อควิลล่าของจ้าวหงไป๋แล้ว
เฉินหลงก็เริ่มเผาออกซิเจนในห้องของจ้าวหงไป๋ช้าๆ
มันเหมือนกับ "ต้มกบในน้ำเดือด" เมื่อจ้าวหงไป๋ได้เข้าสู่สภาวะขาดออกซิเจนแล้ว
เขาจะพยายามหนีออกจากห้องให้ได้ แต่ถ้าหากว่าจ้าวหงไป๋เริ่มเป็นลมหมดสติไป
เขาก็จะจบเรื่องนี้ในทันที
ในความเป็นจริงตามที่เฉินหลงได้คิดเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไปนานถึงสิบนาทีแล้ว
จ้าวหงไป๋จะอยู่ในอาการโคม่า
หลังจากเขาเห็นว่าจ้าวหงไป๋ไม่รู้สึกตัวและหมดสติไปแล้ว
เฉินหลงจึงปล่อยออกซิเจนทั้งหมดออกไปในห้อง
ในขณะที่เฉินหลงปล่อยออกซิเจนออกจากห้อง สีผิว ริมฝีปาก
และเล็บของจ้าวหงไป๋ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีฟ้า รูม่านตาของเขาเบิกกว้าง
เขารู้สึกเหมือนกับว่าหายใจไม่ค่อยออก
ในตอนนี้
เครื่องดักจับของเฉินหลงได้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับร่างกายของจ้าวหงไป๋ออกมาให้เขาได้รับรู้
นอกจากนี้ข้อมูลพวกนี้ได้ลดลงไปอย่างช้าๆ
เมื่อข้อมูลถูกลดลงจนเหลือเป็นค่าเดียว มันได้แสดงอาการบางอย่างของร่างกายออกมา
เครื่องดักจับมีฟังก์ชั่นอื่นที่ทำให้เฉินหลงรู้สึกตกใจไปกับมัน
หลังจากที่เครื่องดักจับระบุว่าจ้าวหงไป๋ได้เสียชีวิตแล้ว จากความเสียหายทางสมอง
เฉินหลงจึงเพิ่มออกซิเจนในห้องให้อีกฝ่าย
หลังจากนั้นเฉินหลงก็ขับรถออกไปจากที่นั่นช้าๆ
จ้าวหงไป๋ไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าชีวิตนี้สมองของเขาจะตายได้
หากเขารู้ว่าถ้าเขาไปยุแหย่เฉินหลง แล้วเขาจะต้องพบเจอกับชะตากรรมและจุดจบแบบนี้
เขาขอสัญญาว่าเขาจะไม่ไปทำให้เฉินหลงอารมณ์เสียอีกเป็นอันขาด
หลังจากขับรถออกจากบ้านไป เฉินหลงไม่ได้ตรงกลับไปที่วิลล่า
เขาแวะไปที่บาร์แห่งหนึ่ง
ถึงเฉินหลงจะไม่ฆ่าจ้าวหงไป๋ให้ตาย แต่เฉินหลงยังคงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เมื่อเขาทำให้สมองของคนๆนึงถูกทำให้ตายแล้ว
เฉินหลงตัดสินใจไปที่บาร์เพื่อใช้เสียงเพลงและแอลกอฮอล์กำจัดความรู้สึกอึดอัดพวกนี้ออกไปให้สิ้นซาก
ร่างกายของเฉินหลงสามารถกำจัดแอลกอฮอล์และสามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้
เขาจึงใช้แอลกอฮอล์เพื่อให้ร่างกายได้รับถึงความรู้สึกอื่นๆอีก
"มาร์ตินี่แก้วนึงครับ" เฉินหลงเขามาในบาร์ สั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์
แล้วหยิบเงิน 100 หยวนขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ
บาร์เทนเดอร์สาวสวยจ้องมองไปที่เฉินหลง
เธอหยิบเงินที่วางอยู่บนโต๊ะไปแล้วส่งเงินทอน 50 หยวนมาให้เฉินหลงแทน
จากนั้นเธอก็เริ่มทำมาร์ตินี่มาให้เขาหนึ่งแก้ว
บาร์เทนเดอร์สาวสวยคนนี้มีทักษะและความชำนาญในการใช้มือชงเครื่องดื่มอย่างมาก
เธอสามารถพลิกขวดกลับไปกลับมาอย่างสวยงาม
ทำให้ความรู้สึกอึดอัดใจของเฉินหลงค่อยๆจางหายไป
นอกจากแอลกอฮอล์จะช่วยให้ร่างกายของเรามีความรู้สึกอื่นๆเพิ่มขึ้นมาแล้ว
มันยังสามารถลดความรู้สึกอึดอัดเมื่อเราหมกมุ่นอยู่กับสิ่งๆหนึ่งเพียงอย่างเดียวได้อีกด้วย
เมื่อไวน์พร้อมเสิร์ฟแล้ว
บาร์เทนเดอร์จึงนำแก้วค็อกเทลออกมาตั้งแล้วรินเครื่องดื่มที่ชงไว้เรียบร้อยลงไปในแก้ว
และปิดฉากด้วยการตกแต่งลูกมะกอกสีเขียวลงในแก้ว
“ เยี่ยมมากครับ” เฉินหลงส่งยิ้มให้บาร์เทนเดอร์สาว
พร้อมกับชูนิ้วโป้งเพื่อชื่นชมอีกฝ่าย
"ลองดื่มดูสิค่ะ" บาร์เทนเดอร์สาวสวยพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มตอบ
เฉินหลงหยิบแก้วขึ้นมาแล้วลองจิบไปหนึ่งอึก
หลังจากส่งเครื่องดื่มเข้าปากแล้ว ในตอนแรก เขารู้สึกถึงรสขมเล็กน้อย
ตามมาด้วยกลิ่นหอมและรสชาติที่กลมกล่อม
“ใช้ได้ รสชาติดีทีเดียว” เฉินหลงผงกหัวหนึ่งทีให้บาร์เทนเดอร์
"ขอบใจนะค่ั" บาร์เทนเดอร์สาวตอบ
“ นี่ คุณจะขอบคุณผมทำไมล่ะครับ?” เฉินหลงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ
"เพราะว่าแขกทุกคนที่ได้กล่าวคำชื่นชมให้กับไวน์ของฉัน สำหรับคำพูดพวกนั้นแล้ว
มันคู่ควรกับคำว่าขอบคุณยังไงละค่ะ" บาร์เทนเดอร์สาวตอบ
“ สำหรับไวน์ของคุณ!” เฉินหลงยกแก้วขึ้นมาแล้วกระดกเข้าปาก
ในตอนนี้ แขกคนอื่นๆได้สั่งไวน์เพิ่ม
บาร์เทนเดอร์สาวสวยจึงส่งยิ้มให้กับเฉินหลงอีกครั้ง
หลังจากนั้นเธอก็ไปทำไวน์สำหรับแขกคนอื่นๆต่อ
"เฮ้ หนุ่มหล่อ นี่เธอมาดื่มคนเดียวเหรอจ้ะ?" หญิงสาววัยยี่สิบปี สูงประมาณ 170
เซนติเมตร หน้าตาดีและฮอตมาก
เธอเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆเฉินหลงเพื่อพูดคุยกับอีกฝ่าย
"อืม ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีคนอื่นอยู่ข้างๆกายผมเหมือนกันนะครับ" เฉินหลงยิ้มตอบ
สุดท้ายแล้ว
ในโลกนี้ก็ไม่มีผู้ชายหน้าไหนกล้าทำสีหน้าเย็นชาต่อสาวสวยที่เป็นฝ่ายเดินเข้ามาชวนคุยได้ลงคอหรอกน่า
0 ความคิดเห็น