RC:บทที่ 25 สิ่งที่จ่าฝูงต้องมี

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

 RC:บทที่ 25 สิ่งที่จ่าฝูงต้องมี


“หือ ใครนะ”


หลังจากที่หลิน เฟิงพูดจบ ฮวง หยูกับกลัวหัวหดเพราะเขาก็คาดไม่ถึงว่าจะมีใครมากล้าท้าสู้


แต่พอเขาได้มาคิดถึงเรื่องนี้โดยละเอียด  เขาก็รู้สึกโล่งอกเพราะเขารู้จักสุนัขทั้งหมดในสามหมู่บ้าน ไม่มีใครพูดว่าตนเอาชนะสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมนของเขาได้อย่างเต็มปากแม้แต่หมาป่าสีแดงของหวัง หานเองและสุนัขลั่วป๋าของลั่ว หยวนก็เหมือนกันซึ่งทำได้เต็มที่กันคือห้าต่อห้า


ส่วนสุนัขของคนอื่นๆที่สามารถผ่านมาได้สามสมรภูมินั้นก็นับว่าสุดยอดแล้ว


“ฉันเอง”


แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อหลิน เฟิงออกมา เขาก็อึ้งไป เพราะดูเหมือนว่าตนจะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับหลิน เฟิงหรือสุนัขของเขาเลย


หลิน เฟิงอยู่ท้ายหมู่บ้านลั่วหยาง ดังนั้นผู้คนในที่นี้จึงไม่ได้คิดสนใจหลิน เฟิงมากนัก


แต่ทว่าเมื่อหลิน เฟิงออกมา เขาก็ออกมาพร้อมกับเจ้าหมาตัวใหญ่สีดำ ทุกคนถึงกับช็อคไป


“หมาตัวใหญ่เป็นบ้า”


“บ๊ะ เจ้าหมานี้ตัวใหญ่จังเลย โครงสร้างก็มีขนาดเดียวกับสุนัขบูลด็อกทั่วไปเลยนะ”


“ดูยังไงของนาย ฉันจะบอกให้นะว่าถ้านายไม่ดูสุนัขตัวอื่นๆ นายก็จะเห็นแค่โครงสร้างทั้งหมดรวมถึงมวลกระดูกหนาๆซึ่งจะไม่น้อยไปกว่าสุนัขบูลด็อกชั้นเยี่ยมเลย”


“นี่เป็นหนึ่งในสุนัขต่อสู้มืออาชีพเลยใช่ไหม ต่อหน้าสุนัขมืออาชีพและพันธุ์ดีหลายๆตัวตรงหน้านี้ พวกมันดูสงบและใจเย็นอย่างมาก หรือนั่นเป็นความรู้สึกภาคภูมิใจในทุกๆอย่างที่สุนัขต่อสู้ธรรมดาๆจะมีกัน”


“เป็นไปได้ว่าโครงสร้างนั้นดีมากเกินไป ลองดูสิ ศีรษะที่ดูเชิดนั้นไม่มีอะไรผิดปกติเลย ดวงตาดูสงบ ใบหน้าดูสวยและไม่กลัวกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนเดิมด้วย”


“...”


ทันทีที่เสี่ยว เฮ่ยของหลิน เฟิงปรากฏตัวขึ้น เขาก็ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในทันที ผู้คนต่างพูดเรื่องนี้ไม่หยุดพลางชื่นชม


ฮวง หยูรู้สึกตกใจมาก เพราะสุนัขของหลิน เฟิงนั้นดูไร้ที่ติเป็นอย่างมาก สีมืดแต่สว่างในคราวเดียว รวมถึงดวงตานั้นก็เยือกเย็นและดุดัน


เมื่อเขาได้เห็นสุนัขของหลิน เฟิงแล้วนั้น เขาก็หันกลับมามองสุนัขโดเบอร์แมนของเขา เมื่อทั้งสองเข้ามา เขาก็รู้สึกเลยว่าสุนัขโดเบอร์แมนของเขาไม่อาจเอาชนะได้ และในตอนนั้นเอง เขาก็ไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะชนะ


“อะไร นี่มันอะไรกันเนี่ย” ก่อนที่จะสู้กัน เขาคงได้แพ้ก่อนแน่ ฮวง หยูส่ายหน้าไปมา


“อืม มันก็เป็นสุนัขตัวใหญ่ แข็งแรงและก็ดูดีเลยไม่ใช่หรือ” ในขณะที่ทุกคนเอ่ยชมเสี่ยว เฮ่ยของหลิน เฟิงนั้น ก็มีเพียงฮวง หยูที่พูดเช่นนี้ออกมา


แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาพูดจบ เสี่ยว เฮ่ยก็จ้องเขาและนั่นทำให้หลังเขาถึงกับตั้งขึ้นมาพร้อมเหงื่อ ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับความตาย จนฮวง หยูเองยังรู้สึกกลัวเวลาจะพูดเลย


“สู้สิ รูปร่างดีกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะสู้เก่งหรอกนะ เอาล่ะ อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าตัวไหนที่ได้มาอยู่เบื้องหน้าของเจ้าบินนั้นก็ล้วนแต่เป็นขยะทั้งนั้น มาเริ่มกันเลยเถอะ”


เมื่อถูกเสี่ยว เฮ่ยจ้องกลับมา ฮวง หยูก็พูดตะกุกตะกัก


“พี่ลั่ว หยวน พี่คิดว่าใครจะชนะระหว่างเจ้าสุนัขสีดำตัวใหญ่นี้กับโดเบอร์แมนของฮวง หยู”


แล้วจากนั้น ไม่ไกลออกไป ชายคนหนึ่งจากหมู่บ้านจิ้งชุยก็เอ่ยถามลั่ว หยวน


“ตอนนี้ สุนัขพันธุ์โดเบอร์แมนของฮวง หยูอาจจะต้องแพ้ เพราะทุกอย่างที่อยู่ในตัวสุนัขสีดำใหญ่ตัวนี้นั้นดูดีไปหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้าหรือโครงกระดูก หรือแม้แต่ดวงตาของมันก็นับว่าเป็นสุนัขต่อสู้ในฝันของใครหลายๆคนเลยล่ะ”


ลั่ว หยวนมองเสี่ยว เฮ่ย ด้วยดวงตาเป็นประกายพร้อมด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทา ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความรักและความปรารถนาในสุนัขตัวนี้


“ร้ายกาจขนาดนั้นเลยงั้นหรือ” ชายคนดังกล่าวไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่เห็นเลยว่าเสี่ยว เฮ่ยจะมีดีอะไรจริงๆ


“ก็เพราะนายไม่ได้รักหรือเข้าใจหมาจริงๆยังไงล่ะ นายก็เลยไม่เข้าใจว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหมาตัวนี้นั้นเป็นยังไง”


 “ในความเห็นของนาย นี่อาจจะเป็นสุนัขที่ตัวใหญ่กว่า แข็งแรงกว่า ไม่ต่างจากสุนัขตัวอื่นๆเลย”


“แต่ลองดูท่าทางและดวงตาของสุนัขตัวนี้สิ ขนาดที่นี่มีสุนัขล่าเนื้อพันธุ์ดีถึง 30 ตัว  แต่มันก็ยังดูมั่นใจในตัวเองอยู่เลย ดูเข้าถึงยากและก็ดื้อเสียด้วย แถมไม่กลัวหรือตื่นตกใจเลยอีกต่างหาก


และยิ่งไปกว่านั้น สุนัขตัวนี้ยังไม่สวมแม้แต่ปลอกคอหรือสายจูง แต่มันก็ยังสงบโดยอยู่ไม่ห่างจากเจ้าของและไม่สนใจสภาพแวดล้อมภายนอกเลย ทั้งๆที่พวกนี้คือสุนัขใช้งานมืออาชีพ และมันก็ยังไม่รู้วิธีต่อสู้ด้วย”


 “ถ้าฝึกพวกมันมาดี สุนัขตัวนี้ก็จะเก่งจนเป็นจ่าฝูงได้เลย” นี่เป็นความเห็นของลั่ว หยวนเกี่ยวกับตัวเสี่ยว เฮ่ย


ลั่ว หยวนเป็นชายวัยกลางคนที่อายุเกือบจะ 40 ปีแล้ว เขารักสุนัขล่าเนื้อและสุนัขต่อสู้เอามากๆ เขามีสายพันธุ์ดีๆมากมายที่บ้าน และเขาก็รู้เรื่องราวเกี่ยวกับสุนัขมากกว่าคนทั่วไปอีกด้วย


“งั้น พี่ลั่วหยวน ถ้าลั่วป๋าของพี่สู้กับสุนัขสีดำใหญ่นี่ พี่คิดว่าลั่วป๋ามันจะชนะไหม”


ชายคนดังกล่าวถามขึ้นอีกครั้ง


“...ไม่อ่ะ น่าจะแพ้ ฉันก็เลยไม่กล้าให้สู้ไง”


หลังจากที่คิดไปครู่หนึ่ง ลั่ว หยวนก็ตอบแบบนี้ออกมาซึ่งทำให้คนทั้งจากหมู่บ้านจิ้งชุยถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก


ลั่วป๋า สุนัขพันธุ์รัสก้าของลั่วหยวนนั้นมีชื่อด้านความกล้าหาญ ในสามหมู่บ้านรวมกันร้อยกว่าครอบครัวนั้น พูดได้เลยว่านี่คือสุนัขตัวแรกที่กล้าท้าสุนัขตัวอื่นๆ


แม้แต่จ่าฝูงหมาป่าสีแดงของหวัง หานและเจ้าบินน้อยของฮวง หยูก็ยังต่อสู้กับมันเลย แต่ในตอนนี้เขากลับพูดว่าเขาไม่กล้าที่จะต่อสู้กับหมาป่าดำของหลิน เฟิง เห็นได้ว่าเขานั้นประเมินเจ้าดำน้อยของหลิน เฟิงไว้สูงแค่ไหน


“พี่ลั่ว หยวน เป็นไปไม่ได้หรอก” คนอื่นๆไม่เชื่อตาม


 “เอ่อ ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าพวกนายจะรอดูกันอยู่ ยังไงสุนัขโดเบอร์แมนของฮวง หยูก็ต้องพ่ายแพ้ แต่เขาแค่ไม่กล้าพูด” ลั่ว หยวนส่ายหน้าพลางพูดขึ้น


ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็กระจายตัวกันออกไปก่อนจะล้อมกันเป็นวงกลมล้อมตัวหลิน เฟิงและ ฮวงหยูเอาไว้


“งั้นตอนนี้ ขอเชิญลั่ว หยวนมาเป็นคนตัดสินด้วย”


ลั่ว หยวนเป็นเจ้าของสุนัขตัวใหญ่ตัวหนึ่ง เขามีหมาพันธุ์ดีในตระกูลอยู่เยอะแยะ และเขายังเป็นคนสำคัญในสามหมู่บ้านอีกด้วย ด้วยเหตุนั้นเขาจึงถูกรบเร้าให้เป็นกรรมการตัดสินเสียเลย


ลั่วหยวนยอมเป็นกรรมการตัดสินก่อนจะเริ่มนำสุนัขล่าเนื้อเข้าสู่สังเวียน


“เอาล่ะ พร้อมนะทั้งสองคน” ลั่ว หยวนถามขึ้น


“ครับผม” ทั้งสองพูดเป็นเสียงเดียวกัน


“งั้น เริ่มการแข่งได้ นำหมาออกมา”


เสี่ยว เฮ่ยยืนมาอยู่ตรงหน้าหลิน เฟิง ส่วนโดเบอร์แมนของฮวง หยูก็ถูกจูงออกมา ทันทีที่สิ้นเสียงของเขา เสี่ยวเฮ่ยของหลิน เฟิงก็ก้าวออกมาข้างหน้าทีละก้าว ด้วยก้าวที่มั่นคงและห้าวหาญ มันมองไปที่โดเบอร์แมนของฮวง หยูราวกับพระราชาที่ออกว่าราชการ


แต่อย่างไรก็ตาม ก็น่าแปลกตรงที่ว่าสุนัขโดเบอร์แมนของฮวง หยูนั้นกลับไม่รู้สึกถึงการต่อสู้ มันกำลังหวาดกลัว ยิ่งฮวง หยูจูงมันเข้าไปหาเสี่ยว เฮ่ยที่ยืนอยู่ใกล้ๆกับหลิน เฟิงมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งมีอาการกลัวมากขึ้นเท่านั้น


“เอ มันเกิดอะไรขึ้นกันนี่ นี่ไม่ใช่สุนัขโดเบอร์แมนของฮวง หยูที่แสนจะก้าวร้าวและเป็นนักสู้หรอกงั้นหรือ ทำไมตอนนี้ถึงได้กลัวแบบนั้นล่ะ” เมื่อผู้คนเห็นแบบนั้นเข้า พวกเขาก็เริ่มพูดกัน


“นั่นนายจะทำอะไรน่ะ ฮวง หยู ปล่อยสุนัขของนายออกไปสู้สิ พูดเองไม่ใช่หรือว่า ถ้าไม่ใช่จ่าฝูงหมาป่าสีแดงแล้วล่ะก็ ก็ไม่มีสุนัขตัวไหนในหมู่บ้านเราสู้สุนัขโดเบอร์แมนของนายได้” หวัง ซื่อมองภาพตรงหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างประชดประชัน


“ฉ...ฉัน เดี๋ยวนะ เจ้าบินน้อยของฉันคงยังไม่พร้อม ขอเวลาเตรียมพร้อมแป๊บนึง” ฮวง หยูว่าขึ้นอย่างตะกุกตะกัก


ฮวง หยูไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับโดเบอร์แมนของตนในตอนนี้ จู่ๆมันก็ไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาและหวาดกลัวตัวสั่นเหมือนกับหนูตัวเล็กๆ


เมื่อก่อนนั้น สุนัขของเขาจะเข้าไปลุยทันทีเมื่อได้เจอกับสุนัขด้วยกัน และมันจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาทุกครั้ง ปากของมันดูดุร้ายและมันไม่เคยนึกกลัวเกรงอะไร


หลังจากที่เวลาเตรียมตัวแสนยาวนานผ่านไป ในที่สุดมันก็ค่อยยังชั่ว


“เสี่ยวบิน กัดมัน...”


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น