CF:บทที่ 228 ประสิทธิภาพการต่อสู้ของหุ่นยนต์

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

 CF:บทที่ 228 ประสิทธิภาพการต่อสู้ของหุ่นยนต์


เมื่อมองดูบรรยากาศโดยรอบ การซ่อนตัวที่นี่ช่างดีนัก อย่างน้อยสายลับก็ไม่สามารถเข้าถึงได้


อู๋ฮ่าวเหรินเดินตามพวกเขาไปสักครู่ เข้าไปในค่ายทหารและสังเกตดูเหล่าทหารและอาวุธรอบๆ ตัวเขา


ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องจาก หม่าต้วน “รายงาน​ การเดินทางใช้เวลามาก​ พวกเราพึ่งมาถึงครับ”


เขาคิดว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่สูงสุดของที่นี่ เมื่อเขาหมุนตัวกลับมา เขานิ่งไปและมองไปที่ผู้คนตรงหน้าของเขาอย่างไม่เชื่อสายตา


ใบหน้านี้ช่างคุ้นตานัก มันนานมากแล้วจริงๆ เขามาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?


ก่อนที่อู๋ฮ่าวเหรินจะตอบสนองอะไรออกไป เขาได้ยินเสียงพูดอย่างมีอัธยาศัยของท่านหลง “เด็กดี ยินดีที่ได้เจอนะ แต่ไม่ค่อยมีโอกาสเหมาะๆ เลย”


“โตขึ้นมากเลยนะ”


“ไม่ต้องประหม่าไปหรอก เดี๋ยวเราเดินไปด้วยคุยไปด้วย บรรดานักทดลองรอพวกเราอยู่แล้ว”


อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้อยากจะประหม่า แต่มันเป็นสันชาตญาณของร่างกายและไม่สามารถควบคุมได้ ถ้าจิตใจเขาพร้อมมันก็ไม่มีปัญหาแต่ใครจะรู้ว่าเขาจะได้พบแบบกระทันหันเช่นนี้


ขณะที่เดินไปที่พื้นที่การทดลอง ฉันเห็นโจ้ว เซว่หองของสถาบันวิจัยหุ่นยนต์กำลังตรวจสอบหุ่นยนต์หลายตัวอยู่


เมื่อมองไปที่เหล่าหุ่นยนต์ โดยเฉพาะระบบอาวุธด้านบนนั้น อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกอิจฉา


“สวัสดีครับ คุณอู๋มาแล้ว เชิญทางนี้ครับ เชิญมาชมหุ่นยนต์


เห็นได้ชัดว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยหุ่นยนต์อย่างโจวซิ่งหงดีใจอย่างมากกับการมาถึงของอู๋ฮ่าวเหริน เหมือนกับเขากำลังจะได้อวดลูกๆ ของเขา เขาดึงแขนอู๋ฮ่าวเหรินให้ไปชมหุ่นยนต์


“อาจารย์หลง”


ถัดจากเจิ้ง หมิงเจิน เขาเห็นอาจารย์กำลังขว้างอะไรยาวๆ ไปทางด้านข้าง เขาไปดึงอู๋ฮ่าวเหรินและดึงเขาขึ้น


“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ฉันก็อยากจะฟังความเห็นของเสี่ยวอู๋เกี่ยวกับหุ่นยนต์”


เมื่อได้ยินคำของหลง โจ้ว เซว่หองตอบและอู๋ฮ่าวเหรินก็รู้สึกกระอักกระอ่วน อย่างไรก็ตามเขาตามโจ้ว เซว่หองไปที่หุ่นยนต์


โจ้ว เซว่หองเปิดคอมพิวเตอร์และพูดว่า


“ดูสิ นี่คือการพัฒนาของพวกเราบนระบบของคุณ พวกเราได้เพิ่มระบบอาวุธเข้าไป ในกรณีที่หากว่าสัญญาณถูกรบกวนโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ในหุ่นยนต์จะถูกวิเคราะห์และปฏิบัติการตามแผนที่เราได้จัดไว้ล่วงหน้า”


อู๋ฮ่าวเหรินพยักหน้า


จริงๆ แล้ว นี่เป็นข้อบกพร่องของปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกวิจัยโดยมนุษย์ พวกมันจะปฏิบัติงานได้ตามข้อมูลที่ได้โปรแกรมไว้แต่ไม่สามารถคิดได้ด้วยตัวเอง


ปัญญาประดิษฐ์ สมองแสงเช่นนั้น จะไม่เป็นปัญหา ถึงแม้จะไม่มีคำสั่งของเขา สมองแสงนี้จะคิดและแก้ไขปัญหาได้ แน่นอนว่าสมองแสงและปัญญาประดิษฐ์มีสัญญาณการแยกตัวออกมาในอนาคต ยิ่งไปกว่านี้ภายใต้การแยกตัว ปัญญาประดิษฐ์ก็จะตายไปโดยปริยาย เมื่อมันถูกรีสตาร์ทก็ต้องจำใจทำอีกครั้ง


“หุ่นยนต์ตัวนี้อยู่ได้นานแค่ไหนครับ?”


“ในสถานะที่ไม่มีการต่อสู้ มันสามารถวิ่งได้สองชั่วโมง ในสถานะที่ต้องต่อสู้อยู่ระหว่าง 30 นาทีต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การต่อสู้ครับ”


เวลาเท่านั้นที่จะสามารถตอบได้ว่ามันดีจริงไหม มันถูกใช้สำหรับโจมตีในสนามรบ ภายในครึ่งชั่วโมงหุ่นยนต์สามารถโจมตีตำแหน่งของคู่ต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ


อู๋ฮ่าวเหรินชี้ไปที่คอมพิวเตอร์สองสามครั้งและตรวจสอบระบบการควบคุมของเขา ในตอนนี้เขาควบคุมระบบและเพิ่มเติมความรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับการใช้อาวุธ


“ลองทดสองอันนี้ดูก่อน หลังจากการทดสอบเราก็จะรู้ได้ว่าควรจะทำอย่างไร”


จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ใช่คนมองโลกในแง่ดีนัก หลักๆ มันเกี่ยวกับการออกแบบหุ่นยนต์ เขารู้สึกบวมๆ อาวุธทั้งหลายไม่ได้ออกแบบมาสำหรับหุ่นยนต์โดยเฉพาะ


เมื่อได้ยินคำของอู๋ฮ่าวเหริน โจ้ว เซว่หองมองไปที่ชายตัวสูงข้างๆ เขา ครั้งนี้เขาไม่ลืม


หลงพยักหน้าและกล่าวว่า “เริ่มเลยสิ ขอฉันดูผลการวิจัยของคุณหน่อย”


ไม่กี่ปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาพยายามปล่อยข่าวเกี่ยวกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีไมโครไฟท์เตอร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความไม่พอใจเป็นระยะยาว เขารู้เป็นอย่างดีว่าประเทศกำลังจะทำบางอย่างเกี่ยวกับข้อมูลนี้


โจ้ว เซว่หองกดปุ่มสตาร์ท เจ้าหุ่นยนต์ตัวยักษ์ก็เสียงดังกระหึ่ม และเริ่มเคลื่อนไหวร่างกาย


ทุกคนมารวมตัวกันอยู่รอบๆ หน้าจอมอนิเตอร์และดูเจ้าหุ่นยนต์ พากันสงสัยว่าความสามารถด้านการต่อสู้ของเจ้าหุ่นยนต์จะเป็นอย่างไรต่อไป


“สร้างการจู่โจมที่น่าประหลาดใจต่อเป้าหมายในพื้นที่ตรงหน้าสิ”


หุ่นยนต์สามตัว เริ่มเปิดระบบอาวุธในมืออย่างรวดเร็ว และวิ่งไปข้างหน้า


รู้สึกว่ามันจะไม่เร็วมากนักในวิดีโอแต่ในข้อมูลที่ปรากฏแสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์นั้นวิ่งได้เร็วมาก โดยเฉลี่ยประมาณ 20 เมตรต่อวินาทีในการวิ่งไปข้างหน้า


ด้วยร่างกายอันมหึมา ทุกก้าวที่ก้าวลงไป จะปรากฏเป็นหลุมน้อยๆ บนพื้นดิน


เมื่อมันใกล้จะถึงเป้าหมาย เปลวไฟก็ถูกยิงออกมาจากปากกระบอกปืน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการดัดแปลงมาจากปืนกล


หุ่นยนต์ตัวหนึ่งมีโพรงอยู่บนแขนและเกราะก็ถูกยิงออกมาจากโพรงนั้น


เจ้าหน้าที่เทคนิคที่อยู่ใกล้เคียง และผู้บังคับบัญชาต่างพากันตื่นตาตื่นใจ แม้แต่พวกทหารที่ไม่เคยเห็นพวกมันมาก่อน มันยากเหลือเกินที่จะเชื่อว่าหุ่นยนต์ทรงพลังเช่นนี้!


“มันแข็งแรงเหลือเกิน ถ้ามีหุ่นยนต์แบบนี้ สักสิบ ไม่สิ สักห้าตัว ฉันก็สามารถที่จะตีฝ่าแนวป้องกันของข้าศึกและโจมตีกองบัญชาการได้โดยตรงเลย” หัวหน้าหม่ากล่าวอย่างตื่นเต้น


ในขณะนี้ อู๋ฮ่าวเหริน ขมวดคิ้วและมองดูที่หุ่นยนต์ในวิดีโอ หุ่นยนต์ต่อสู้แบบนี้ช่างห่างไกลจากจินตนาการของเขานัก มันไม่ใช่ในระดับนี้เลยแม้แต่น้อย หลักๆ แล้วมันเกี่ยวกับอาวุธ พลังและวัสดุ ถ้าพวกเราไม่แก้ปัญหาทั้งสามอย่างนี้ หุ่นยนต์ก็จะไม่ทำงานในสนามรบ


“เป้าหมายถูกทำลายภายในหนึ่งนาทีสิบห้าวินาที” โจวซิ่งหงกล่าวอย่างตื่นเต้น


อู๋ฮ่าวเหรินถามขึ้นว่า “ศาสตราจารย์โจว หุ่นยนต์จะสามารถปฏิบัติการจู่โจมได้กี่ครั้ง”


“เดี๋ยว ขอผมดูก่อนนะ ในขณะนี้ 30% ของอาวุธทั้งหมดเป็นส่วนเกิน เราควรจะทำมันได้อีกครั้ง ในการสู้ครั้งนี้อาวุธบางอย่างมันสูญเปล่า


“พลังการต่อสู้ของหุ่นยนต์ไม่ค่อยดีนัก และการออกแบบก็บกพร่อง ถ้าคุณไม่แก้ปัญหาเรื่องพลังงาน วัสดุและระบบอาวุธหุ่นยนต์ ก็ไม่ควรจะสร้างมันอีกเลย”


 “เสี่ยวอู๋ คุณไม่ชอบพลังการต่อสู้ของหุ่นยนต์พวกนี้ แต่การโจมตีที่เกิดขึ้นก็ประสบความสำเร็จดีนะ”


“เดี๋ยวผมจะแสดงให้คุณดู คอยดูนะ คุณควรจะมีอุปกรณ์ป้องกันอย่างเช่นปืนสไนเปอร์ตรงนี้ คุณช่วยเอามาให้ผมสักกระบอกได้ไหม?”


หัวหน้าหม่ามองไปที่ฉางและฟังเขาพูดว่า “ส่งให้เขาหนึ่งกระบอก”


ไม่นานนัก พลทหารก็นำปืนสไนเปอร์มาให้ อู๋ฮ่าวเหรินรับมันไปและมองดู


ขณะนี้เขายังไม่สามารถใช้การมันได้


“ใครพอจะช่วยสอนวิธีใช้ให้กับผมหน่อยได้ไหม?”


เดิมทีฉันคิดว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะไปสาธิตทักษะการใช้ปืนให้พวกเขาดูเสียอีก ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ทุกคนพากันอึ้งไปชั่วครู่และทุกคนก็พากันหัวเราะขึ้นมา


“เกาเจียนจุ้น เธอมาสอนคุณอู๋ทีซิ”


ผู้บัญชาการหม่าตะโกนเรียกทหารทางด้านหลังของเขา


“ครับท่าน”


ชายร่างผอมผิวคล้ำวิ่งเหยาะๆ ออกมาและหยิบปืนสไนเปอร์จากมือของอู๋ฮ่าวเหรินไป แสดงวิธีการใช้ปืนให้แก่เขาและให้ความสนใจต่อปัญหาต่างๆ


“คุณอู๋ คุณจะเรียนตอนนี้เลยหรือครับ? มันน่าจะดีกว่าถ้าจะเรียนให้ผู้บัญชาการหม่าทราบว่าคุณจะทำอะไรและให้ท่านช่วยหาใครสักคนทำให้”


เมื่อได้ยินคำพูดของโจ้ว เซว่หอง อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัวและพูดว่า “พวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับหุ่นยนต์ มันก็ยากที่จะอธิบาย เอาล่ะฉันจะลองดูก่อน มันไม่น่าจะมีปัญหานะ”


อู่ฮ่าวเหรินที่ยืนอยู่ตรงนั้น กำลังถือปืนสไนเปอร์ และเล็งไปที่พื้นที่ที่ไม่มีคนด้านหน้า ทหารทางด้านหลังพากันนิ่งเงียบ ในขณะที่พวกเขายังไม่ทันได้รู้สึกอะไรเขาก็ยิงปืนออกไปแล้ว


“ฉันไม่เห็นว่ามันจะผิดแปลกตรงไหน เขาก็ยืนอยู่ตรงนั้นและไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย!”


เกาเจียนจุ้น ผู้ที่สอนอู๋ฮ่าวเหริน รู้สึกโง่เขลา นี่คืออาวุธปืนสไนเปอร์ไม่ใช่เป็นเพียงปืนธรรมดา เขาใช้มันได้เมื่อเขายืนอยู่ตรงนั้น เขายังเป็นคนอยู่รึป่าว?”


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น