CF:บทที่ 209 มากขึ้นทุกทีๆ

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

 CF:บทที่ 209 มากขึ้นทุกทีๆ


อู๋ ฮ่าวเหรินนั่งอยู่ในห้องโถง ดูของโบราณอยู่หลายชิ้นและทุกชิ้นคือของโบราณต้องสงสัย


นอกจากนี้ ของโบราณแต่ละชิ้นยังมีโน๊ตแนบมาด้วย ถ้านี่คือของโบราณจริง ก็ต้องให้เขาประเมินคุณค่าจากนั้นก็ใช้ซื้อเครื่องไฟฟ้าบำบัดจากฟิวเจอร์กรุ๊ปหรือหาเงินเข้าบัญชีธนาคารที่สร้างขึ้น แต่ถ้าไม่ ก็นำมาให้เขาโดยตรง


สิ่งนี้ทำให้อู๋ ฮ่าวเหรินเศร้าเล็กน้อย คนพวกนี้เชื่อใจเขาจริงๆและไม่เกรงกลัวต่อความโลภของเขาด้วย


อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณคิดถึงเรื่องนี้ ก็จะเข้าใจได้ว่าสถานะและคุณค่าของเขาไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นๆกังวล และเขาก็จะทำแบบนั้นด้วย


“หาใครสักคนมาแยกของโบราณพวกนี้ที อย่าเอาไปปนกับพวกโน๊ตล่ะ เอาพวกโน๊ตทั้งหมดวางลงบนสิ่งที่อยู่ในของโบราณ และวางไว้ในโกดังถัดจากห้องแล็บของฉัน”


“ได้ครับ ท่าน เดี๋ยวผมจะให้คนมาจัดการ”


ด้านหลังที่ทำงาน อู๋ ฮ่าวเหริน กลับมาดูกระดานสนทนา มีโพสต์ล่าสุดบางโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับของโบราณเหล่านั้น


นอกจากนี้เขายังเห็นว่าทุกอันคือของโบราณที่ทุกคนบันทึกไว้รวมถึงข้อมูลและของโบราณที่เพิ่งส่งไป


เมื่อเห็นจำนวนการตอบกลับแต่ละโพสต์ อู๋ ฮ่าวเหรินถึงกับพูดอะไรไม่ออก วันนี้ รถสองคันนี้มีอยู่น้อยนิด ตามสถิติข้างต้น จะมีของโบราณมาส่งมากขึ้นอีกในวันพรุ่งนี้


 “ผมไม่รู้ว่าถ้านักประดิษฐ์เก่งๆ มองของโบราณของผม จะรู้ว่าเป็นชิ้นที่ผมทำขึ้นเองหรือเปล่า”


“คุณทำขึ้นมาเอง แล้วทำไมถึงส่งมันไปล่ะ นั่นไม่ใช่ของโบราณนะ”


“ผมก็แค่อยากส่งของขวัญไปให้ไอดอลของผมนี่นา”


อู๋ ฮ่าวเหริน เห็นว่าของโบราณนั้นมีปริมาณค่อนข้างมาก มีหลายชิ้นเป็นของขวัญที่ประชาชนทำขึ้น โดยอาศัยโอกาสนี้ส่งมาให้


แน่นอนว่ายังมีผู้คนบนกระดานสนทนาตั้งคำถามกับพฤติกรรมเช่นนี้ ถ้านี่คือของโบราณจริงๆ แล้วเขาควรจะทำอย่างไรถ้าไม่ยอมรับมัน


อย่างไรก็ตาม ความเห็นส่วนใหญ่ใต้ล่างจะเป็น “ฮ่าๆ”


“ฉันคิดว่านายน่าจะนำของโบราณไปกับนายด้วยนะ ฉันอาจจะเข้าพบผู้บริหารอู๋เลย แล้ววันนี้ฉันจะถามหาของโบราณจากปู่ และพรุ่งนี้ ฉันจะขับรถไปหาฟิวเจอร์กรุ๊ป”


“ฮ่าๆ ฉันเนี่ยอยู่ในรถแล้ว เดี๋ยวถ้าไปถึงมืดๆ คงได้เห็นสำนักงานใหญ่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปด้วยตาของตัวเองในวันพรุ่งนี้ เห็นเขาว่าที่โน่นมีเครื่องอำนวยความสะดวกหรูหรามาก ตึกก็เย็น บางทีเราอาจจะได้เห็นหุ่นยนต์กังฟูด้วย”


“นี่นาย ไปตรวจสอบสถานการณ์ก่อน แล้วก็ส่งรูปมา อีกไม่กี่วันนี้ถ้ามีเวลาเดี๋ยวฉันจะไปที่นั่น”


“พวกเราตั้งทีมที่นี่แล้ว  ถ้านายมีเพื่อนอยู่ที่นี่ก็มาที่นี่ แต่ถ้าไปแบบกลุ่ม เขาจะมองว่านายมาเที่ยวนะ เห็นเขาพูดกันว่าวิวดีมาก”


เมื่อเห็นโพสต์ล่าสุด อู๋ ฮ่าวเหรินก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการต้อนรับคนในอำเภอหยุนหลง รวมถึงว่าเขาจะสามารถรับคนจำนวนมากเข้ามาในอำเภอนี้ได้หรือไม่


แม้แต่ชาวต่างชาติบางคนก็กำลังจะมาส่งของสะสมโบราณของพวกเขา


แน่นอนว่า คนส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ค้าของโบราณตัวจริง วัตถุประสงค์ของพวกเขาก็เพื่อขายของพวกนี้นี่ล่ะ


ในตอนบ่าย อู๋ ฮ่าวเหรินอยู่ในโกดัง เขามองของโบราณทีละชิ้น และแน่นอนว่าเขาเห็นอะไรเป็นอะไรเพียงพริบตาเดียว ของพวกนี้เขาจะไม่ใส่ลงในระบบซองแดงให้เสียพลังงานหรอก


แม้จะมีคนบอกว่าจริงๆแล้วของพวกนี้ในระบบซองแดงเป็นของเก่าแก่ แต่ก็ไม่มีใครถามถึงมันเลยว่าถูกส่งมาหรือไม่เพราะนี่เป็นของโบราณที่ไม่ได้มีค่าแต่อย่างใด


ยังมีของมีค่าที่ อู๋ ฮ่าวเหรินใส่เข้าไปในระบบซองแดงและตรวจสอบพวกมัน เขาประเมินราคาตามปริมาณเหรียญพลังงานและข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบข้างต้น


อีเมลล์มากมายที่ส่งมาก็ค่อยๆน้อยลง แต่ก็ไม่มีอะไรให้เก็บไปแล้ว หยกโบราณที่พบอยู่แปดชิ้น เชือกพันด้ายแปดเส้น รวมถึงประติมากรรมบางส่วน สิ่งประดิษฐ์โบราณ ของมีค่าทุกชิ้นรวมกันแล้วมีมากถึง 158 ชิ้น


หลังจากเลือกของต่างๆแล้วนั้น อู๋ ฮ่าวเหริน จึงถ่ายรูปลงอีเมลล์


จากนั้น ฉันจึงเลือกมูลค่าของแต่ละชิ้นและส่งรูปของทั้งหมดไปที่กระดานสนทนา


สองนาทีต่อมา ในกระดานสนทนาล้วนตื่นตาตื่นใจกับโพสต์นี้ พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าปัญหาที่อภิปรายกันในตอนเช้าจะได้รับการแก้ไขในตอนบ่าย โดยเฉพาะคนที่ส่งภาพพวกนี้ออกไป หลังจากเห็นโพสต์นี้ ถ้าไม่คิดถึงคุณค่าของพวกของแล้ว พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้น


 “ฉันก็ไม่ได้หวังว่าผู้ชายคนนั้นนั่นจะตรวจของแต่ละชิ้นไปจนจบ ทั้งยังถ่ายรูป ออกความเห็น แต่ไม่ใช่เพราะเขาหาใครทำพวกนี้ให้หรอกใช่ไหม”


“ตานายท่าจะมีปัญหาแล้วนะ เมื่อเรามองไม่เห็นอะไรเลย ทุกที่ก็เหมือนๆกันหมดแหละ เห็นได้ชัดเลยว่าภาพนี้ถ่ายโดยคนๆเดียวจากที่เดียวกัน”


“ฮ่าๆ นี่ล่ะสิ่งที่นักประดิษฐ์ล้ำๆเขาทำกัน เดี๋ยวฉันจะไปถามลูกพี่ลูกน้องฉันตอนนี้เลย เพราะเธอบอกว่าของทุกอย่างจะมีพนักงานคอยแยกอยู่ พอแยกเสร็จก็เอาไปใส่โกดังที่ถัดจากห้องแล็บผู้บริหาร ผู้บริหารเองก็อยู่ในโกดังคนเดียวตอนบ่าย และนี่ก็ออกมาจากโกดังแล้ว”


“และฉันก็จะบอกนายว่า ตอนนี้คนในแผนกการเงินกำลังเดินทางไปธนาคารพร้อมกับรายการของมีค่าของผู้บริหารล่ะ”


“ไม่นะ ของพวกนั้นทำเงินได้มากขนาดนั้นเชียวหรือ”


“ทำได้สิ ผู้บริหารนี่สุดยอดจริงๆ ฉันคิดว่าเขาคงใช้เทคโนโลยีชั้นสูงบางตัวเพื่อทดสอบของพวกนั้น”


“ไม่ๆ ฉันจะกลับไปบ้านหลังเก่าของฉัน จะลองไปตรวจสอบดู บางทีอาจจะเจอของโบราณอยู่บ้างก็ได้”


ของนั้นมีจำนวนมากและของจำนวนมากก็ได้ถูกจัดการไปแล้ว ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้มาคิดถึงเรื่องนี้ แต่หลังจากอู๋ ฮ่าวเหริน ได้เจอของโบราณ เขาก็เริ่มละโมบ


เมื่อมองสถานการณ์ที่ผ่านมา ถ้าของนั้นมีค่า ผู้บริหารก็จะประเมินของสิ่งนั้น


ถ้าเงินน้อยเกินไป ก็จะถูกส่งเข้าบัญชีทางการของของฟิวเจอร์กรุ๊ปสำหรับสั่งผลิตภัณฑ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปเอง


เห็นได้ชัดว่า อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ควรเผยแพร่ข้อมูลนี้บนกระดานสนทนา เนื่องมีผลโดยตรง มีคนหลายคนเริ่มที่จะหาของที่พวกตนคิดว่าเก่าแก่และส่งของโบราณไปหาฟิวเจอร์กรุ๊ป


วันนี้ ของโบราณที่บุรุษไปรษณีย์ต้องเอาไปส่งมีน้ำหนักมากขึ้นและส่วนใหญ่ผู้รับก็คือ อู๋ ฮ่าวเหริน จากฟิวเจอร์กรุ๊ป  


วันต่อมา เมื่อ อู๋ ฮ่าวเหรินมองไปเห็นรถขนส่งของที่ประตูบริษัท เขาก็ถึงกับตะลึง


เมื่อเขาได้เรียนรู้สถานการณ์จากหวังหลาน เขาก็รู้สึกว่าตัวเองดูโง่ลงไปถนัด ในตอนนี้ บริษัทได้รับอีเมลล์มากกว่า 10000 ฉบับแล้ว


ปริมาณของของโบราณที่กำลังเดินทางอยู่อาจจะเป็นสิบเท่าซึ่งมีจำนวนมากพอๆกับของโบราณที่ได้รับ


หรือถ้าจะให้พูด เขามีสิ่งต่างๆส่งเข้าซองแดงอยู่ตลอด แต่ทว่าเขาก็จำเป็นจะต้องแก้ปัญหาใหญ่นี้และจัดการกับอีเมลล์ทั้งหลาย


ผู้บริหารครับ จากสถานการณ์ในตอนนี้ เราควรจะประกาศให้ผู้คนหยุดทำอะไรแบบนี้กันดีไหมครับ”


“ไม่ แต่นายจะต้องหาคนมาเปิดของโบราณพวกนี้ จำไว้นะ ว่าอย่าเอามาปนกันแต่ให้เอาไปเก็บไว้ในโกดังตรงโน้น”


จากความรู้สึกกังวล แต่ทันใดนั้นอู๋ ฮ่าวเหริน ก็รู้สึกมีความสุขพลางคิดว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่แย่สักหน่อย


ตอนเริ่มต้น มีของโบราณส่งเข้ามามากมาย แต่ในอนาคตก็จะส่งกันมาน้อยลงเรื่อยๆ ในกรณีนั้น เขาอาจได้เจอของสำหรับส่งไปให้ซองแดงได้ในทุกๆวัน


จะให้พูดก็คือ ถ้าเขาทำแบบนั้นจริงๆ เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องหาของโบราณมาด้วยตัวเอง คนอื่นต่างหากที่จะหาและส่งมาให้เขาถึงหน้าประตู


จะมีอีเมลล์ส่งมาสักกี่ฉบับก็ไม่สำคัญแล้ว หรือแม้จะเสียพลังงานไปสักเท่าไหร่ก็ตาม เพราะของทั้งหมดได้รับการวิเคราะห์โดยระบบซองแดงแล้ว


ตอนนี้อู๋ ฮ่าวเหริน ไม่มีธุระอะไรแล้ว เขาไม่สนใจธุรกิจของบริษัท วันทั้งวัน นอกจากรับเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องของโบราณแล้วนั้น เขาก็อยู่ในโกดังและวิเคราะห์ของที่มาของวัตถุโบราณ


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น