ชาวนาแดนสวรรค์ ตอนที่ 4 ขายของ

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

แปล/แก้ไข : 3WS
หมายเหตุ : นำผลงานแปลไปลงเว็บอื่นกรุณาให้เครดิตบล็อคด้วยนะครับ

ตอนที่ 4 ขายของ
บ้านของเสี่ยวเฉินตั้งอยู่บนเขา ซึ่งมีถนนแคบๆที่ทำจากหินเชื่อมต่อไปยังถนนคอนกรีตด้านนอกเมือง
บ้านหลังนี้เป็นบ้านอิฐสมัยเก่า ทั้งสองด้านมีห้องหลักและห้องเล็กๆ ตรงกลางเป็นห้องโถงได้สัดส่วน มีประวัติอันยาวนานในตัวมันเอง
การอาศัยอยู่ในบ้านอิฐ ในฤดูร้อนจะเย็นสบายและของอย่างเครื่องปรับอากาศนั้นไม่จำเป็นต้องใช้

แม้ว่าจะติดตั้งไว้ก็ไม่ค่อยได้ใช้ เนื่ิองจากอากาศทั้งบ้านระบายท่ายเทเป็นอย่างดี หน้าบ้านมีลานดินขนาดเล็ก มีไร่ข้าวโพดไม่กี่ไร่ ถัดจากนั้นมีบ่อน้ำขนาดเล็กสองบ่อ
ครอบครัวของเสี่ยวเฉินปลูกอย่างหนึ่งและครอบครัวของ หลินเสา ก็ปลูกอย่างอื่น
ทุ่งนาขนาดใหญ่ ข้าวที่ปลูกอยู่มีน้ำขังเล็กน้อย ตอนนี้ต้นกล้าเริ่มงอกเงยมีสีเขียวชะอุ่มเหมือนป่า

อีกฟากหนึ่งของทุ่งนาสามารถมองเห็นแม่น้ำขนาดเล็กไหลไปจนถึงมณฑลเจียงซู เมื่อตอนเสี่ยวเฉินยังเป็นเด็ก เมื่อตอนห้าโมงเย็นของทุกๆวันแม่น้ำเจียงซูเกือบแห้ง
เขาและชาวแก๊งเคยไปอาบน้ำที่แม่น้ำ ครั้งหนึ่งในช่วงมอต้นเขาไปอาบน้ำตามปกติ แต่เขาก็พัวพันกับพืชใต้น้ำทำให้เกือบจมน้ำ

เขากลัวเหตุการณ์นั้นมากหลังจากนั้นเขาไม่กล้าไปอาบน้ำที่แม่น้ำอีกเลย เสี่ยวเฉินจะต้องใช้เวลาสักหน่อยในการใช้ชีวิตในชนบท แต่ฉากที่สวยงามและเงียบสงบ
ทำให้ชีวิตของเขาสะดวกสบาย ภายใต้ชายคาบ้าน แม่ของเขา ฮี ชิงเลียน กำลังซักผ้า

สำหรับพ่อของเขา เย่ เฮเชง อยู่ในห้องโถงสานตะกร้าจากไม้ไผ่บางๆ พ่อของเขาไม่ได้เรียนงานฝีมือ เขาพัฒนาทักษะงานฝีมือด้วยตนเอง
ไม้ไผ่ทุกชิ้นที่อยู่ในบ้าน เขาเป็นคนทำทั้งหมด
"เสี่ยวเฉิน ฝนหยุดตกแล้ว วันนี้ลูกไม่ได้ไปส่งผักเหรอ?" แม่ของเขาเงยหน้าขึ้นมาและถาม
"วันนี้ผมจะทำบางอย่าง ดังนั้นเลยไม่ไปส่ง"
เสี่ยวเฉินไม่ได้บอกว่าซูเปอร์มารเก็ตของพี่ชายไม่รับผักของเขาแล้ว เขาไม่อยากให้แม่ของเขาเป็นกังวล
เขาเตรียมพร้อมเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อหาดูว่ามีตลาดรับซื้อหรือไม่ ผักสดตามฤดูจะเกิดการเน่าเสียถ้าปล่อยไว้เป็นเวลานาน

แม่ของเขาไม่ได้สนใจและยังคงซักผ้าต่อไป
เสี่ยวเฉิน ใส่ชุดอย่างเป็นทางการ ทั้งหมดทั้งมวลเขาไม่สามารถหาตลาดได้ถ้าใส่กางเกงขาสั้นกับรองเท้าแตะ
ต่อมา เสี่ยวเฉิน นำรถมอเตอร์ไซค์ผู้หญิงมือสองออกมาและทำการสตาร์ทรถ

เสี่ยวเฉิน ขับตรงไปยังปั้มน้ำมันเพราะน้ำมันรถของเขาเหลือน้อย หลังจากเติมน้ำมัน เขาก็รีบขับไปต่างจังหวัดทันที
มณฑลจิงเซียนอยู่ห่างจากหมู่บ้านอูเฟิงมากกว่า 20 กิโลเมตร เป็นมณฑลที่ได้รับพัฒนาเป็นอย่างดีและเขาสามารถมองเห็นการก่อสร้างทุกหนแห่ง

เสี่ยวเฉินตั้งเป้าว่าจะหาร้านอาหารหรือร้านขายผักที่ต้องการผักสดทุกวัน แต่โชคไม่ดีนักเขาไปมากกว่า 10 แห่งติดต่อกันแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ถึงฝนพึ่งจะตกไปก่อนหน้านี้แต่อากาศก็ยังร้อนเป็นอย่างมาก เขารู้สึกร้อนและเหงื่อไหลเป็นสายน้ำ
เขาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าซุปเปอร์มาร์เก็ตและซื้อน้ำแร่เย็นๆแล้วดื่มเข้าไปเล็กน้อยเพื่อให้รู้สึกดีขึ้น
เสี่ยวเฉินมองไปที่ดวงอาทิตย์พร่างพราย เขาหัวเราะอย่างขมขื่นตามด้วยความรู้สึกหดหู่

อาชีพของเขาช่างเปราะบางเพียงปัญหาเล็กน้อยแต่มันเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับเขา
เหมือนเขาจะเข้าใจในที่สุดว่าเขามันไร้เดียงสามากที่ยึดติดความหวังลมๆแล้งๆกับการหวังพึ่งญาติพี่น้อง
หากย้อนเวลากลับไปได้ เสี่ยวเฉินจะไม่ทำอะไรหุนหันพลันแล่นอย่างนี้เป็นแน่

แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีทางย้อนกลับไปได้ประหนึ่งลูกธนูที่พุ่งออกไปหรือกระสุนปืนที่ถูกยิง เขาทำได้เพียงก้าวไปข้างหน้าต่อไป
อีกอย่างถ้าไม่เดินหน้าต่อไปเงินนับหมื่นหยวนที่เขาลงทุนจะเสียเปล่า เขาต้องทำงานต่อไป เพื่อไม่ให้ พ่อ แม่ และพี่สาวของเขาต้องผิดหวัง

เขามีนิ้วทองคำ มั่นใจได้เลยว่าโอกาสในอนาคตของเขามีแววที่จะรุ่ง (หมายเหตุ : นิ้วทองคำที่ว่าหมายถึงระบบสุดโกงที่เขามี)
เสี่ยวเฉินปิดฝาขวดน้ำแร่จนแน่นแล้ววางขวดน้ำแร่ที่เหลืออยู่ครึ่งขวดลง แล้วสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ของเขา พลันมีรถฮอนดาสีดำมาหยุดอยู่ข้างๆเขา

กระจกของรถค่อยๆเลื่อนลงช้าๆ ชายคนหนึ่งโผล่หน้าออกมาจากข้างในรถ
"เสี่ยวเฉิน ทำไมมาอยู่นี่ได้?" ชายคนนั้นมองไปที่เสี่ยวเฉินและรู้สึกประหลาดใจ
"พี่ ผมมาที่นี่เพื่อมาจัดการอะไรบางอย่าง" หลังจากที่ได้เห็นชายคนนั้น ชายคนนั้นคือเฉินฮ่าว เสี่ยวเฉินตกใจเล็กน้อยจากนั้นจึงยิ้มแล้วตอบกลับ

เสี่ยวเฉินมองลงไปเห็นผู้หญิงนั่งอยู่ตรงที่นั่งโดยสาร แม้ว่าเธอจะดูสวยทำให้ผู้อื่นกระสับกระส่าย ดวงตาคู่เหมือนดอกพีชมีท่าทางหยิ่งยโส
เสี่ยวเฉินเห็นเธอจากมุมดวงตาของเขา เธอไม่พูดอะไร ผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของเฉินฮ่าว เธอคือหลี่หยาน

แม้ว่าหลี่หยานจะดูถูกเขา แต่อย่างน้อยเขาก็คิดว่าควรจะทักทายสักหน่อย พ่อของเขาสอนให้เขามีสัมมาคารวะ
"สวัสดีครับพี่สะใภ้" เสี่ยวเฉินกล่าวกับหลี่หยาน
หลี่หยานไม่ได้สนใจเขา เธอเพียงแค่เปล่งเสียงฮึออกทางจมูก
เฉินฮ่าวรู้สึกอึดอัดใจที่ภรรยาของเขาดูถูกญาติพี่น้อง ช่วยไม่ได้เพราะความสำเร็จในปัจจุบันของเขาก็มาจากครอบครัวของภรรยา
"เสี่ยวเฉินเรื่องผักฉันขอให้นายได้ข่าวดีในเร็วๆนี้"
เขารู้แล้วว่าทำไม เย่เสี่ยวเฉิน ถึงมาที่มณฑลและมั่นใจเลยว่าจะต้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการขายผัก
เขาเสียใจ
"ไม่เป็นไร"
เย่เสี่ยวเฉินไม่ได้โทษเฉินฮ่าว การใช้ชีวิตของเขาค่อนข้างยากลำบาก เขาคงต้องตามใจหลี่หยานทุกอย่าง เขานิสัยดีและยังสามารถอดทนกับคำถากถางของเธอได้

ทั้งสองคนได้พูดกันไม่กี่คำ ดูเหมือนหลี่หยานจะหมดความอดทน
"อย่ามัวแต่ชักช้า พ่อแม่ของฉันรออยู่"
เฉินฮ่าวหัวเราะและพูด 
"เสี่ยวเฉิน เช้านี้ฉันมีเรื่องสำคัญที่จะไปทำกับพี่สะใภ้ ไม่เช่นนั้นนายคงจะได้มากินข้าวเที่ยงที่บ้านของฉัน"
หลังจากที่เฉินฮ่าวขับรถออกไป เย่เสี่ยวเฉินหันมองตาม เขาหัวเราะอย่างขมขื่น  แม้ว่าบางสถานที่เขาไม่สามารถไปได้ แต่น่าจะคาดเดาผลลัพธ์ที่ได้แล้วจากสิ่งที่พี่ชายของเขาพูด เขาคงจะหวังพึ่งอะไรไม่ได้
เขาจะต้องพึ่งพาตัวเองทุกอย่าง

เย่เสี่ยวเฉินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกินข้าวกลางวันหลังจากไปสถานที่ต่างๆนาๆ เมื่อผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าผิดหวัง
ไม่มีใครสนใจข้อเสนอของเขา
แม้ว่าเขาจะหิวจนไส้กิ่ว แต่เย่เสี่ยวเฉินไม่ได้อยากอาหารแม้แต่น้อย เขามองหาร้านอาหารเพื่อที่จะกินก๋วยเตี๋ยว ปกติเขาจะกินหมดชามดั่งเช่นทุกครั้งแต่ตอนนี้เขากินได้แค่ครึ่งชาม

เย่เสี่ยวเฉินหนักใจเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยมีประสบการณ์เหล่านี้ เขาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรในตอนนี้
ขณะขับรถมอเตอร์ไซค์ เย่เสี่ยวเฉินย้อนกลับมาที่เมืองไทปิง
เขาตะเวนไปตามโรงแรมและซุปเปอร์มาร์เก็ต แม้ว่าความหวังจะน้อยมาก แต่เขาก็ยังคงอยากจะลองทำ

สุดท้ายแล้ว เย่เสี่ยวเฉินมาหยุดอยู่ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ชื่อว่าชิงเทียนซูเปอร์มาร์เก็ต
นี่เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่และขายดีที่สุดในเมืองไทปิง
เมืองไทปิงไม่ได้มีขนาดใหญ่ มีซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ห้าแห่ง คนส่วนใหญ่ในเมืองร่ำรวยเป็นอย่างมากและมีส่วนช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น

ทุกๆเดือนในวันที่มีการจัดงานจะมีคนพลุกพล่านแม้กระทั่งผู้คนจากเมืองอื่นๆก็มาด้วย
ตอนนี้เป็นเวลา 16.00 น.
แม้ว่าวันนี้จะไม่มีความเป็นธรรมกับเขา แต่พรุ่งนี้ก็ยังคงมีการค้าขายเป็นกอบเป็นกำในชิงเทียนซูเปอร์มาร์เก็ต
สามารถดูได้จากจำนวนรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ด้านนอก

ในชนบทรถมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะหลักในการเดินทาง แต่ละครัวเรือนจำเป็นต้องมี
"มันเรื่องอะไรกัน? ก่อนเช้ามืดคุณบอกว่าพวกเราว่ามีผักในสต๊อก ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น ผมจะหาสินค้ามาได้ยังไงในช่วงระยะเวลาสั้นๆแบบนี้ คุณรู้อะไรไหมถ้าในวันพรุ้งนี้ไม่มีผักมันจะส่งผลกระทบยังไงและสูญเสียไปเท่าไหร่?"
ที่ด้านหน้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตชายวัยกลางคนถือโทรศัพท์มือถือพูดเสียงดัง

ชิงเทียนมีสินค้าหลักคือผักและผลไม้ที่ขายดีเป็นอย่างมาก
หากไม่มีผัก ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่การหมุนเวียนสินค้าของร้านเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันจะส่งผลเสียต่อลูกค้าของเขา หากซุปเปอร์มาร์เก็ตของเขาไม่มีผักและผลไม้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตอื่นๆดึงลูกค้าไปหาพวกเขา

เย่เสี่ยวเฉินรู้ว่าบุคคลนี้เป็นเจ้าของชิงเทียนซูเปอร์มาร์เก็ต เขาคือ หลิว ฟูเฉิง
เมื่อได้ยินสิ่งที่ หลิว ฟูเฉิงพูด เขารู้ทันทีว่าชิงเทียนซูเปอร์มาร์เก็ตเผชิญกับปัญหาเรื่องซัพพลายเออร์
บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสของเขา

ตอนที่ 3

ตอนที่ 5

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น