RC:บทที่ 427 ความเปลี่ยนแปลงที่ภูเขาด้านหลัง

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 427 ความเปลี่ยนแปลงที่ภูเขาด้านหลัง 


หลังจากที่รับเอาหินวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 5 ก้อนมาแล้ว หลินเฟิงก็เก็บมันลงไปในมิติส่วนตัวทันที ในตอนนี้ มังกรทมิฬที่อยู่ในมิติสัตว์เลี้ยงนั้นได้ตื่นขึ้นมาแล้ว และมันบอกเขาว่ามันต้องการพลังวิญญาณจำนวนมาก 


สิ่งนี้มันทำให้หลินเฟิงสงสัยมากๆ ทั้งๆที่หินวิญญาณสีรุ้งที่อยู่ในมิติสัตว์เลี้ยงที่ซึ่งหลินเฟิงวางไว้ มันก็ยังคงปล่อยพลังวิญญาณอยู่เรื่อยๆ แค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้วที่มังกรทมิฬจะกลืนกินลงไป 


แต่พอมังกรทมิฬอธิบายให้เขาฟัง เขาก็เข้าใจได้ในทันที 


สรุปว่าหลังจากที่มังกรทมิฬกลืนกินเลือดบริสุทธิ์ของตนไปอีก 2 ส่วน มันไม่ได้ทำให้มังกรทมิฬพัฒนาเข้าสู่ระดับ SSS แต่มันเป็นวิธีลับที่ช่วยทำให้สายพันธุ์ของมังกรดำเองสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งให้ใกล้เคียงกับระดับ SSS ตอนต้นได้ เพราะงั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากกลับมาจากถ้ำในครั้งนั้นแล้ว มันถึงหลับเป็นตายขนาดนี้ 


เมื่อหลินเฟิงเดินเข้ามายังสวนหลังบ้านในครั้งนี้ พลังวิญญาณ ณ ที่แห่งนี้มันเข้มข้นและแข็งแกร่งขึ้นมากๆ เพราะงั้นมันเลยทำให้มังกรทมิฬมีสติขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็มากพอที่จะพูดถึงสาเหตุและผลลัพธ์ของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้หลินเฟิงฟังได้ หลังจากที่หลินเฟิงรับเอาหินวิญญาณทั้ง 5 ก้อนมาจากหวังหานและส่งมันเข้าไปในมิติสัตว์เลี้ยงแล้ว มันก็ช่วยให้มังกรทมิฬสามารถฟื้นฟูและเพิ่มระดับต่อได้


จากนั้นหลินเฟิงก็เดินตรงไปยังป่าของภูเขาโฮวชานที่ซึ่งไม่นานมานี้ถูกเรียกว่าภูเขาหลิงไป่ ก่อนหน้านี้มันเป็นเพียงแค่ป่าธรรมดาเท่านั้น แต่เพราะว่าตลอดปีที่ผ่านมามันเปลี่ยนแปลงไปมาก


ในปีนี้และในเวลานี้ สภาพแวดล้อมภายในนี้มันดีขึ้นมากๆ และพลังวิญญาณที่ปกคลุมพื้นที่ป่าเขาแห่งนี้มันก็เข้มข้นและแข็งแกร่งขึ้นอีกอันเป็นผลมาจากพืชวิญญาณที่เติบโตอย่ารวดเร็ว เพราะงั้นตอนนี้พลังวิญญาณบนเขาแห่งนี้ มันมีมากกว่าภายนอกมากกว่า 10 เท่าเสียอีก


ด้วยพลังวิญญาณที่หนาแน่นกว่าด้านนอกถึง 10 เท่านั้น มันทำให้ภูเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นไม้สูง โดยเฉพาะพวกต้นไม้ที่อายุเยอะๆนั้นจะสูงกว่าต้นไม้ทั่วไปอีกหลายเท่าเลย 


มองไปยังป่าบนเขา หลินเฟิงรู้สึกได้ว่าสัตว์วิญญาณหลายตนอาศัยอยู่ในนี้ และเขาพอใจมากๆ 


ในยุคนี้ พลังวิญญาณนั้นเฝ้าแต่จะเบาบางลงเรื่อยๆ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพากันพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ธรรมชาติมันถูกทำลายลงไปในขณะเดียวกัน ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้พลังวิญญาณบนดาวเคราะห์ดวงนี้ลดลงไปอย่างมาก


แต่เมื่อป่าเขาด้านหลังบ้านของหลินเฟิงเปลี่ยนไป เหล่าสัตว์วิญญาณก็มารวมตัวกันยังที่แห่งนี้มากขึ้น ดูเหมือนว่าธรรมชาติที่นี่เองก็จะเริ่มฟื้นฟูมาบ้างแล้ว


ขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่ภายในป่านั้นเอง ทันใดนั้นหมาป่าสีขาวก็พุ่งเข้ามาหาและหยุดอยู่ตรงหน้าเขา และเมื่อมันเห็นว่าพวกเขาไม่หนี มันก็ค่อยๆเดินเข้าไปหา 


“หมาป่าน้อยตัวนั้นงั้นเหรอ?” หลินเฟิงมองหมาป่าตัวนั้นด้วยความประหลาดใจ 


หมาป่าสีขาวตรงหน้าเขานั้นคือหมาป่าที่หลินเฟิงเคยเจอเมื่อตอนมาล่าสัตว์ในภูเขาแห่งนี้ มันเติบโตขึ้นมากหากคิดตามช่วงเวลาที่ผ่านมา ตอนนี้มันกลายเป็นหมาป่าที่โตเต็มวัยไปแล้ว 


นอกจากนั้น ความแข็งแกร่งของมันเองก็ดูเหมือนจะเป็นระดับ B ขั้นสูงแล้วด้วย มันเดินเข้ามาเพื่อให้หลินเฟิงลูบหัวอย่างใกล้ชิด


ด้านหลังของหมาป่าสีขาวตนนั้น มันมีสัตว์วิญญาณอีกหลายตัวยืนอยู่ หนึ่งในนั้นคือเต่าที่มีหน้าขนาดใหญ่ที่มาเป็นตัวแรกซึ่งทำให้หลินเฟิงแปลกใจไม่น้อย 


จากนั้นก็ตามด้วยงู 2 หัวตัวน้อย เจ้างูตัวน้อยนั้นตอนนี้เติบโตขึ้น และยาวกว่า 2 เมตรแล้ว หัวทั้งสองนั้นมีสีที่แตกต่างกัน มันเลื้อยมาจากทิศตะวันตก เพียงแค่มันเลื้อย 1 ครั้ง มันก็นำเต่ายักษ์มาได้แล้ว


ถัดจากงู 2 หัวก็เป็นนกสีฟ้าเทาที่มาด้านหลัง มันบินตรงมาด้วยความความตื่นเต้นพร้อมกับลงจอดที่ตรงหน้าเขา รูปร่างของมันนั้นเหมือนกับไก่ที่ไม่มีขนเลย 


ท้ายสุดเป็นด้วง 2 ตัวที่เป็นสัตว์วิญญาณเหมือนกัน ตัวของมันนั้นใหญ่กว่าด้วงทั่วๆไปเป็นร้อยเท่า มันดูเหมือนเต่าตัวใหญ่ที่มีเขี้ยวกางที่ใหญ่กว่าตัวมากๆ สัตว์วิญญาณเหล่านี้มารวมตัวกันด้านหลังเจ้าหมาป่าตัวนี้ ราวกับว่ามันคือราชาหมาป่าขาวไปเลย น้พเขียวเท้าปุยหมีภูเขาและตัวอื่นๆก็มา 


สัตว์วิญญาณเหล่านี้ถือเป็นกลุมแรกๆที่ถูกพลังวิญญาณของเขาลูกนี้ดึงดูดเข้ามาขณะที่หลินเฟิงเพิ่งจะปลูกพืชวิญญาณใหม่ๆเลย


ในตอนนี้พวกมันเองก็เติบโตกันมาอย่างมาก ไม่ว่าจะด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงระดับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นแบบสุดๆ โดยเฉพาะงู 2 หัวนั้น ในตอนนี้มันอยู่ในระดับ A แล้ว 


หลินเฟิงจำได้ว่าเมื่อครั้งที่เขาเจอมันครั้งแรก มันยังเป็นเพียงกึ่งสัตว์วิญญาณเท่านั้น ไม่คาดคิดเลยว่ามันจะสามารถพัฒนาระดับได้จนเทียบเท่าเขาเมื่อในอดีตได้เร็วขนาดนี้ แบบนี้แสดงว่าเขานั้นพัฒนาตนเองช้าไปสินะ 


นอกจากนั้นสัตว์วิญญาณตนเองเองก็ไม่ได้แย่ไปกว่ากันเลย พวกนี้อยู่ในระดับ B กันเป็นขั้นต่ำ และราชาหมาป่าขาวนี้ก็แกร่งเกินระดับ S ไปแล้ว 


เมื่อได้เห็นหลินเฟิงกลับมา พวกสัตว์วิญญาณเหล่านี้ต่างก็วิ่งเข้ามาหาเขาราวกับเป็นบ้ากันไปหมดโดยที่ไม่มีการเกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น 


อย่างไรก็ตามเมือหลินเฟิงเห็นสัตว์วิญญาณเหล่านี้ เขาก็ได้ความคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาในหัวก่อนจะโยนสติของเขาลงไปในระบบเกลียวน้ำวนสีดำลึกลับในโทรศัพท์ของเขาเอง 


วินาทีต่อมา หลายสิ่งหลายอย่างก็ปรากฎขึ้นในห้วงจิตของหลินเฟิง : เลือดมังกรเขียว ระดับ SSS , เลือดหงษ์แดงระดับ SSS , เลือดเสือขาวระดับ SSS และเลือดเต่าสวรรค์ระดับ SSS 


สิ่งเหล่านี้คือเลือดที่หลินเฟิงสะกัดออกมาจากสิ่งที่หลงเหลืออยู่ภายในมิติโบราณที่ซึ่งเป็นของ 4 ผู้พิทักษ์แห่งโลกยุคโบราณ พวกนี้ถือเป็นสมบัติของโลก เมื่อได้คิดถึงความแข็งแกร่งของพวกมันทั้ง 4 เลือดในตัวของหลินเฟิงก็พุกพล่านขึ้นมา 


อย่างไรก็ตาม เมื่อหลินเฟิงคิดถึงเลือดของสัตว์ผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ตนนี้ จู่ๆเขาก็รู้สึกถึงสิ่งแปลกประหลาดที่อยู่ด้านหลัง ภาพแปลกๆปรากฎขึ้นภายในส่วนที่ลึกที่สุดของเกลียวน้ำวนสีดำ 


ภาพนั้นมันมืดและสว่างในคราเดียวกัน เมื่อมองให้ดีๆ ก็พบว่าภายในนั้นเต็มไปด้วยหนวดมากมาย เมื่อเขาพยายามเข้าไปใกล้ เขาก็พบว่ามันเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่ซึ่งอยู่ภายในมิติโบราณแห่งนี้!


“นี่มัน อะไรน่ะ...” หลินเฟิงช็อก


เมื่อเขาพยายามคิดให้รอบคอบ เขาก็คิดได้ว่าเมื่อตอนที่พื้นที่ลึกลับนั้นถูกปิดตัว ขณะที่หลินเฟิงกำลังเก็บเอาเลือดบริสุทธิ์ของสัตว์เทพพิทักษ์ทั้ง 4 นี้ออกมา ดูเหมือนว่าแสงสีดำนี้จะลอยเข้ามาในระบบเกลียวน้ำวนสีดำด้วย 


“อย่าบอกนะว่าแสงสีดำนี่คือเลือดบริสุทธิ์ขอเจ้าสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวตัวนั้นน่ะ?” เขาคิดขึ้นมาในใจ


แต่ไม่นานนักหลินเฟิงก็โล่งใจ นั่นก็เพราะว่าเจ้าสิ่งนี้มันได้ตายไปแล้ว เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเลือดบริสุทธิ์ที่ยังหลงเหลืออยู่เท่านั้น ดังนั้นเขาไม่ต้องกังวลก็ได้ 


ต่อมา หลินเฟิงก็ได้ไปขอให้หมีภูเขาที่ซึ่งเป็นระดับ SS เพื่อให้พวกมันช่วยรวบรวมสัตว์วิญญาณทั้งภูเขามา 


ในตอนที่หลินเฟิงไม่ได้อยู่ที่นี่ หมีภูเขาทั้ง 2 นี้เป็นราชาของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์วิญญาณจากที่ไหน หากจะเข้ามาอยู่ที่นี่ จำเป็นต้องขออนุญาตเจ้า 2 ตัวนี้ก่อน เพราะงั้นสัตว์วิญญาณทั้งหมดในภูเขาแห่งนี้จะได้ยินคำสั่งของเจ้าพวกหมีนี่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม 


เพียงแค่สองหมีนี่คำรามออกไปไม่นาน เหล่าสัตว์วิญญาณจำนวนมากมายก็ปรากฎตัวขึ้นมาตามลำดับ พวกมันมีกันนับร้อย และส่วนใหญ่ยังอยู่กันในระดับต่ำว่า A แต่ถึงกระนั้นก็มีหลายตัวที่อยู่ในระดับ A และ S 


หลินเฟิงนำเอาเลือดบริสุทธิ์ของมังกรเขียวออกมา เขาต้องการจะหาว่าสัตว์วิญญาณตนไหนสามารถสืบทอดเลือดบริสุทธิ์นี้ได้บ้าง 


แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะผ่านไปถึงครึ่งวันแล้ว เขาก็ยังเลือกไม่ได้ แถมยังไม่มีสัตว์วิญญาณตนไหนกล้าที่จะสืบทอดเลือดบริสุทธิ์นี้ด้วย นั่นเพราะว่าเลือดบริสุทธิ์ของมังกรฟ้านี้มันเกรี้ยวกราดเกินไป 


เมื่อหลินเฟิงกำลังผิดหวัง ทันใดนั้นมังกรทมิฬที่อยู่ในมิติสัตว์เลี้ยงก็คำรามและบินออกมา


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น