RC:บทที่ 416 ฟื้นฟูเลือดบริสุทธิ์

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 416 ฟื้นฟูเลือดบริสุทธิ์ 


ภาพตรงหน้านี้มันสร้างความหวาดกลัวให้แก่ทุกคนที่ได้เห็น สิ่งหนึ่งที่คุณควรจะรู้และห้ามลืมเด็ดขาดนั่นคือ คนพวกนี้มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับ SS กันทั้งหมด ไม่มีใครที่เป็นมือใหม่ ไม่คิดเลยว่าคนระดับนี้จะโดนเขมือบง่ายๆแบบนั้น 


นอกจากหัวงูนี่แล้ว ถ้ำอื่นๆเองก็มีสิ่งแปลกๆโผล่มาเช่นกัน อย่างมนษย์หมาป่าที่ดุร้าย แวมไพร์​ แล้วก็มนุษย์ดัดแปลงที่แปลงจนแปลก ทุกสิ่งทุกอย่างต่างถาโถมกันออกมา


ถ้ำมีทั้งหมด 7 ถ้ำและถ้ารวมทางเข้าด้วยก็เป็นถ้ำที่ 8 และตอนนี้พวกเขาอยู่ตรงกลาง ทุกอย่างกำลังห้อมล้อมเขาไว้ ซึ่งตอนนี้มันทำให้พวกเขาเริ่มจะตื่นตระหนกกันมากๆ 


*ตู้ม! ตู้ม!*


ในตอนนั้น มันมีเสียงดังหลายครั้งเกิดขึ้นจากทางถ้ำที่ชิงฉานเข้าไป จากนั้นร่างๆหนึ่งก็กระเด็นลอยออกมากองตรงหน้าพวกเขา และนั่นคือชิงฉานนั่นเอง 


ชิงฉานนั้นมีเลือดไหลออกมาจากปาก และมองไปยังถ้ำที่เขากระเด็นออกมาด้วยความช็อก 


“เกิดอะไรขึ้นน่ะ!” หยางชิวถามในทันที 


ชิงฉานปาดเลือดที่มุมปากและพูดอย่างตกใจ “ข้างในนั่น...มีกระดูกที่เต็มไปด้วยเลือดเต็มไปหมด แต่ละตัวน่าจะแกร่งราวๆ SS ได้ ยิ่งไปกว่านั้น มันมีกระดูกสีทองที่อยู่ในนั้น มันแข็งแกร่งแล้วก็น่ากลัวมากๆ!”


เพียงแค่ชิงฉานพูด พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงพื้นที่กำลังสั่นไหวเบา ไม่นานนักเขาก็เห็นหัวหน้าขององค์กรกระโหลกโลหิตนั่งอยู่บนตัวของกระดูกสีทองนั้นในขณะที่มันกำลังเดินออกมาจากถ้ำ 


ด้านหลังของมันมีโครงกระดูกที่อาบเลือดอยู่กว่า 20 ตัว และทุกตัวล้วนแข็งแกร่งระดับ SS 


เวลาผ่านไป เหล่าคนแข็งแกร่งก็เริ่มปรากฏตัวมากขึ้น ในถ้ำแรกนั้นมีทหารกระดูกโลหิตที่ซึ่งนำทัพโดยกระดูกสีทองที่เป็นระดับ SSS ส่วนทหารที่เหลือกว่าอีก 20 ตนเป็นระดับ SS 


ถ้ำที่ 2 เป็นฝั่งของญี่ปุ่น ที่ซึ่งมีระดับ SSS 3 คนพร้อมกับงูยักษ์ที่ไม่น่าจะมีระดับต่ำกว่า SS 


ถ้ำที่ 3 เป็นมนุษย์หมาป่า มีมนุษย์หมาป่าสีแดงที่เป็นระดับ SSS ส่วนหมาป่าสีดำตัวอื่นๆเป็นระดับ SS 


ถ้ำที่ 4 เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ ในทัพนี้มีหญิงสาวที่มีผิวกายสีเขียวเข้มและมีเกล็ดเหมือนงู เธอดูคล้ายจะเป็นงู ส่วนความแข็งแกร่งนั้นอยู่ช่วงต้นของระดับ SSS 


ถ้ำที่ 5 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นแวมไพร์​ ถ้ำนี้มีแวมไพร์​ออกเพียงตนเดียวเท่านั้น และมันกำลังห้อยหัวกับเพดานถ้ำอยู่ ด้านหลังของมันมีเสียงของค้างคาวเฝ้ารออยู่มากมาย 


นอกจากนั้นก็เป็นกลุ่มคนค่อยๆออกมาจากปากถ้ำสุดท้าย กลุ่มคนพวกนั้นมีชายลึกลับในชุดสีดำเป็นผู้นำ ความแข็งแกร่งของคนๆนั้นเป็นอะไรที่ทำให้หลินเฟิงเกรงกลัวที่สุด นั่นเพราะว่ามังกรทมิฬเคยบอกเขาไว้ถึงความแข็งแกร่งของคนๆนี้ที่ซึ่งเหยียบระดับ SSS มาตั้งแต่ทศวรรษที่แล้ว และเขาไม่รู้เลยว่า ณ ปัจจุบันนี้ คนนี้แข็งแกร่งถึงระดับไหนแล้ว


ในตอนนี้ หลินเฟิงและคนอื่นๆกำลังถูกห้อมล้อมไปด้วยศัตรูเสียแล้ว หนำซ้ำความแข็งแกร่งของพวกนั้นมันก็ยังสูงกว่าฝั่งของหลินเฟิงด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มที่จะตื่นตระหนักขึ้นมาในทันที 


แม้แต่ระดับ SS ยังกลัว เมื่อหลินเฟิงมองไปยังพวกเขา หัวใจของเขามันก็จมดิ่งลงไปในขณะที่สมองก็คิดหาทางออกอย่างรวดเร็ว 


“ไปสิ รออะไรกันล่ะ?” หัวหน้าองกรณ์กระโหลกโลหิตสั่งเบาๆขณะที่เขานั่งอยู่บนไหล่ของกระดูกทองคำตัวใหญ่ 


ในทันทีที่เขาพูดจบ เหล่าทัพทั้งหมดก็เคลื่อนเข้าไปยังจุดกลางถ้ำในทันที ทุกๆคนเข้าห้ำหั่นกับศัตรูตรงหน้ารวมถึงเหล่า SSS ที่เจอศัตรูที่เหมาะสมกับตนเองแล้ว 


ผลของการต่อสู้นั้นค่อนข้างจะชัดเจน ฝั่งของหลินเฟิงถูกซัดกลับมาราวกับโดนลมพัด ในขณะที่ตัวเขาเองก็ต้องรับมือกับพวกมนุษย์หมาป่าระดับ SS ทั้งสองสู้กันอยู่หลายยกแต่ก็ไม่มีใครแพ้หรือชนะเสียที 


มนุษย์หมาป่าเหล่านั้นไม่รู้ถึงพลังของหลินเฟิง และหลินเฟิงเองก็เพิ่งจะได้ต่อสู้กับมุนษย์หมาป่าเป็นครั้งแรก ทั้งสองฝ่ายต่างเงอะๆงะๆทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม ในท้ายสุดหลินเฟิงก็สามารถเอาชนะมนุษย์หมาป่าพวกนั้นมาได้ด้วยความแข็งแกร่งของมังกรดำ 


เมื่อหลินเฟิงหยุด เขาก็พบว่าชายปริศนาในชุดดำนั้นกำลังยืนอยู่ตรงหน้า แต่เขาไม่ได้เข้ามาทำอะไร เพียงแค่ยืนมองเงียบๆ 


ยามที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพี่ยงพล้ำ อีกฝ่ายก็จะรุกกลับอย่างหนักหน่วงทันที 


ในกรณีของการตัวต่อตัว ทางฝั่งของหลินเฟิงนั้นยังมีเหล่าผู้เก่งกล้าอยู่อีกมากมาย ส่วนคนอื่นๆก็เลือกคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับตนเองและเข้าต่อสู้ 


ระหว่างนั้นชายลึกลับในชุดดำก็ส่งคนของเขามาไล่ล่าหลินเฟิงและคนอื่นๆด้วย 


เมื่อเห็นดังนั้นหลินเฟิงก็รีบเอาชนะมนุษย์หมาป่ารวมถึง 1 ในคนที่อยู่ในการควบคุมของชายชุดดำได้ด้วยลมปราณของมังกรดำที่แข็งแกร่ง


“ทันเวลาพอดี!” หลินเฟิงพูดในใจขณะที่สมองก็ยังคิดว่าจะหาตัวชาย 2 คนที่ซึ่งครอบครองเลือดบริสุทธิ์อีก 2 ส่วนของมังกรทมิฬอยู่ ในตอนนี้ขณะพวกศัตรูกำลังเคลื่อนเข้าหา เขาก็ป้องกันตัวพร้อมๆกับหาคนเหล่านั้นไปด้วย 


เมื่อได้พบกัน หลินเฟิงและคนๆนั้นก็สู้กัน และเขาก็ได้พบว่าเขาเองและอีกฝ่ายมีความแข็งแกร่งที่คล้ายกัน มันจึงไม่มีใครสามารถเอาชนะใครได้ 


อีกฝ่ายที่รู้สึกว่าสู้ไม่ได้ก็ได้คำรามออกมาพร้อมทั้งกู่ร้อง “ผสานกาย เลือดมังกรทมิฬ!”


ในจังหวะต่อมาเกล็ดสีดำก็ปรากฏขึ้นมาบนตัวของอีกฝ่ายก่อนมันจะปกคลุมร่างนั้นทั้งร่าง แต่อย่างไรก็ตามเกล็ดเหล่านั้นก็ดูไม่ได้เสถียรและแข็งแกร่งนัก หลินเฟิงรู้สึกได้ดีว่ามันด้อยกว่าของจริง พลังนั่นไม่ได้แข็งแกร่งเทียบเท่าพลัง 1 ใน 10 ของมังกรทมิฬเลยด้วยซ้ำ 


ตอนนั้นเอง มังกรทมิฬในร่างของหลินเฟิงก็ดูจะเยาะเย้ยอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย และในทันใดนั้นมันก็คำรามออกมา ครู่ต่อมา ร่างของชายตรงหน้าหลินเฟิงก็ช็อก และทั่วทั้งร่างก็ไม่อยู่ในการควบคุมของเขาอีกต่อไป 


เกล็ดมังกรทมิฬบนตัวอีกฝ่ายนั้นหดถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว หลินเฟิงใช้โอกาสนี้แทงเข้าไปที่หัวใจของอีกฝ่ายทันทีด้วยกระบี่ทองคำในมือเขา 


ชายคนนั้นช็อกและมองมายังหลินเฟิงโดยที่ตัวเขาเองนั้นยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น 


เมื่อหลินเฟิงดึงดาบกลับ มังกรดำก็คำรามมาอีก สิ่งที่เกิดขึ้นคือเลือดสีแดงกำลังลอยออกมาจากบาดแผลของชายคนนั้นและเข้ามายังหลินเฟิงโดยตรง ด้วยเสียงคำรามของมังกร เลือดนั้นพุ่งเข้ามาบริเวณกลางหว่างคิ้วของหลินเฟิงทันที 


ร่างของหลินเฟิงมันร้อนระอุและแห้งกรังขึ้นมาแบบสุดๆ ดูเหมือนว่าความร้อนมันจะลอยขึ้นสูงจากรอบๆตัวของเขาเช่นเดียวกับความแข็งแกร่งที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 


ระหว่างนั้น ไคซือและคนอื่นๆต่างก็กำลังจัดการศัตรูของพวกเขาเองอยู่ ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นจัดว่าแข็งแกร่งมากๆ แต่ละคนมีพลังในระดับที่สามารถผ่าสวรรค์สยบโลกากันได้เลย ดังนั้นแล้วพวกเขาเองจึงต้องออมมือไว้บางส่วนด้วย


ในขณะที่ชิงฉานไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เมื่อเขาและพวกญี่ปุ่นต้องมาเจอกัน เขาก็จัดการระเบิดร่างแต่ละคนด้วยหมัดของเขา เพียงแค่สัมผัสที่หน้าอก แรงระเบิดก็ทำให้กระดูกของผู้ที่โดนร้าวไปหมด 


เมื่อเหล่านินจาญี่ปุ่นพุ่งเข้าโจมตีเขา พวกนั้นก็เกิดกลัวหมัดเหล่านั้นและต้องรีบหลบในทันที ไม่มีใครกล้าที่จะเข้างัดกับหมัดของชิงฉานตรงๆเสียแล้ว 


ในตอนนี้ชายลึกลับในชุดสีดำก็เข้าปะทะกับเขาด้วย ในขณะที่พวกเขากำลังสู้กัน คงไม่มีใครที่จะไม่พูดว่าพลังของชิงฉานนั้นมันรุนแรงมากๆ แม้แต่ชายลึกลับนั้นเองยังต้องกล่าวชื่นชมเล็กน้อย 


แต่กระนั้นพลังของชายลึกลับเองก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน ทุกๆการโจมตีของชิงฉานที่ซึ่งรุนแรงขนาดถล่มสวรรค์ได้นั้นไม่สามารถทำอะไรชายชุดดำได้แม้แต่นิดเดียว 


หลังจากพักใหญ่ ชิงฉานนั้นก็เริ่มหมดแรงแล้ว ซึ่งทำให้ชายชุดดำมองไปยังเขาพร้อมแสยะยิ้มออกมา


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น