RC:บทที่ 407 ผู้ก่อตั้งตระกูลฟาง

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 407 ผู้ก่อตั้งตระกูลฟาง


คนที่มาใหม่ถึงกับหวาดกลัวไปในทันทีมื่อเห็นภาพตรงหน้า เมื่อเห็นว่าไค ซือตบหน้าของเขาจนกระเด็น


ในตอนนี้เอง คนในตระกูลฟางจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆก็ได้เห็นว่าไค ซือนั้นตบคนดังกล่าวนั่นกระเด็นออกไปไม่ว่าจะระดับไหน แล้วทันใดนั้นเอง คนเหล่านี้ต่างก็จ้องไปที่ไค ซืออย่างมึนงง


ในตอนนั้นเอง ผู้มีพลังระดับ SS สองหรือสามคนจากตระกูลฟางก็รีบวิ่งออกมา และในขณะที่คนแถวหน้ากำลังจะพุ่งเข้าจัดการไค ซืออยู่นั่นเอง เสียงแก่ๆเสียงหนึ่งก็ได้หยุดเขาไว้


“หยุด” เมื่อเสียงแก่ๆนั้นดังขึ้น คนพวกนั้นก็หยุดทันที แล้วจากนั้น พวกเขาทุกคนต่างก็หันไปโค้งคำนับชายชราคนดังกล่าวก่อนจะพูดเสียงลั่น “คำนับพ่อใหญ่ครับ”


 “อืม” มีแค่เสียงเท่านั้นที่ดังมาจากในบ้านตระกูลฟาง แล้วไม่นานชายชราหนังหุ้มกระดูกก็ถือไม้เท้าเดินออกมา


หลิน เฟิงรู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งของชายชราคนนี้ พลังสั่งสมของเขาน่าจะอยู่ในขั้นท้ายๆหรือสูงสุดของระดับ SS แล้วในตอนนั้นเอง ชายชราคนนั้นก็ได้เดินเข้ามาหาไค ซือก่อนจะว่าขึ้น “นี่คือผู้ปกครองพื้นที่นี้นี่ คุณไค ซือใช่ไหม”


“ฟาง กุ้ยชานหรือนี่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะยังมีชีวิตอยู่” ไค ซือสับสนไปชัวครู่ แล้วจากนั้นก็ได้พูดขึ้น


“แค่กๆ ใช่ ฉันน่ะแก่มากแล้ว จะอยู่หรือตายก็คงไม่มีอะไรต่างมากนักหรอก ฉันเองก็คิดว่าจะได้อยู่อีกไม่กี่ปีนี่ล่ะ” ชายที่ชื่อฟางกุ้ยชานว่าขึ้น


“ฮ่าๆ คุ้มค่าดีนะเนี่ยที่วันนี้ได้มาที่นี่ อย่างน้อยก็ได้เจอคนจากยุคเดียวกัน ที่ยังไม่ไปถึงขั้นนั้น ดูเหมือนจะมีเพียงแค่นายกับคนอื่นๆที่ยังมีชีวิตอยู่สินะ” ไค ซือกล่าว


เมื่อได้ฟังในสิ่งที่ไค ซือพูด หลิน  เฟิงก็เข้าใจได้ในทันทีในสิ่งที่เขาสื่อ


“ใช่ แต่ฉันคิดว่าคงอีกไม่นานหรอก ไม่เหมือนคุณไค ซือหรอกที่ข้ามไปถึงระดับนั้นได้จนมีชีวิตยืนยาว” ฟาง กุ้ยชานเอ่ยบ้าง


“เอาน่า อย่าไปพูดถึงเรื่องนั้นเลย นายยังไม่ตายเสียหน่อย” แล้วไค ซือก็ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ พลันสิ่งผิดปกติบางอย่างก็แล่นไปทั่วร่าง


“ขอบคุณที่ห่วง แล้วทำไมวันนี้ถึงได้มาที่นี่กันล่ะ แล้วนายทำแบบนี้กับตระกูลเราทำไม” ร่างงองุ้มของฟาง กุ้ยชานเงยหัวขึ้นมาก่อนจะจ้องไปที่ไค ซือ


“ฉันก็อยากจะพูดเหมือนกันว่า นี่ถ้าฉันไม่เจอนายล่ะก็ ฉันคงทำลายบ้านนายให้ยับไปแล้ว นี่ก็ได้เจอแล้วก็เลยหยุดไปน่ะ” ไค ซือเอ่ยขึ้นเนิบๆ


“เกิดอะไรขึ้น บอกฉันทีเถอะ” ฟาง กุ้ยซานรบเร้า


“ในที่นี้มีใครชื่อฟาง หยุนไหม เรียกเขาออกมา ทุกอย่างก็จะจบ” ไค ซือกล่าว


“ฟาง หยุนหรือ” ฟาง กุ้ยชานขมวดคิ้วเมื่อได้ยินชื่อนั้น ด้วยความที่ไม่ได้ออกมาข้างนอกนานแล้ว


เขานั้นมีอายุห่างากฟาง หยุนเป็นร้อยหรือสองร้อยปี ห่างจากรุ่นเขาอยู่เยอะ


ก็เลยไม่รู้ว่าฟาง หยุนนั้นเป็นคนธรรมดาๆหรือเปล่า


“คังชาน” ฟาง กุ้ยชานเอ่ยเสียงนุ่ม จากนั้นร่างของชายชราคนหนึ่งอายุประมาณหกสิบหรือเจ็ดสิบปีก็เดินออกมา ก่อนจะว่าขึ้น “คุณทวดเรียกผมหรือครับ”


“นายเป็นคนดูแลคนรุ่นนี้ ฟาง หยุนเป็นใครกัน” ฟาง กุ้ยชานถามขึ้น


 “ขอตอบคุณทวด ฟาง หยุนเป็นหลานชายผมเอง ไม่รู้ว่า...” โดยที่ชายคนดังกล่าวยังพูดไม่ทันจบประโยค ฟาง กุ้ยชานก็ขัดขึ้น พลางทำเสียงฮึ่มเย็นๆ


“ฮึ่ม เร็วเข้า ไปเรียกเขามา” ฟาง กุ้ยชานว่าเสียงดังด้วยความโกรธ


“ครับๆ คุณทวด” หลังจากพูดจบ คังชานก็ออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว


“คุณไค ซือ เดี๋ยวเราไปหาห้องนั่งกันเถอะ เดี๋ยวถ้ามีอะไร เราก็จะค่อยๆคุยกัน”


ฟาง กุ้ยชานว่าขึ้น


ไค ซือเหลือบมองไปที่คนพวกนั้น ก่อนจะกล่าวขึ้น “ไม่จำเป็น ที่ฉันมาที่นี่ก็เพื่อมาทำธุระ และฉันก็ยุ่งมากด้วย ไปเรียกฟาง หยุนนั่นมาเถอะ”


เมื่อได้ยินเสียงของไค ซือที่เข้มขึ้น ฟางกุ้ย ชานจึงเห็นว่าจะเชิญเข้าไปก็คงไม่ดีแล้ว เขาจึงพูดกับคนพลังระดับ SS ที่อยู่ข้างหลังเขาว่า “ในเมื่อไค ซือไม่ยอมเข้าบ้าน แล้วพวกแกทำอะไรกันอยู่ ทำไมไม่รีบเอาเก้าอี้ออกมากัน ฮึ”


เมื่อสิ้นเสียงของฟาง กุ้ยชาน คนพวกนั้นก็ถึงกับตะลึงไปชั่วครู่ แล้วจากนั้นจึงกลับมาก่อนจะว่าขึ้น “ขอรับ คุณทวด รอสักครู่ครับ เดี๋ยวเราจะไปยกเก้าอี้ออกมาเดี๋ยวนี้เลย”


แล้วคนพวกนั้นก็หายตัวไปในทันที และไม่ถึงสามวินาที เขาก็นำเก้าอี้สองตัวมาให้ไค ซือกับฟาง กุ้ยชานนั่ง


“นั่งลงสิ ไค ซือ”ฟาง กุ้ยชานเอ่ยเสียงเนิบๆพร้อมกับไม้เท้าด้ามหนึ่งในมือ


“ก็ได้” ไค ซือกล่าวขึ้นก่อนจะนั่งลงอย่างช้าๆ


เมื่อฟาง กุ้ยชานเห็นเขานั่งลงแล้ว ก็ได้เอ่ยขึ้น “มีเรื่องอะไรที่ทำให้คุณโกรธมากขนาดนี้ คุณไค ซือ ถึงกับทำร้ายคนของผมขนาดนี้” 


“นี่ นายไม่รู้เรื่องที่พวกญี่ปุ่นก่อเลยหรือไง” ไค ซือเอ่ยขึ้น


“เรื่องที่พวกญี่ปุ่นก่องั้นหรือ” ฟาง กุ้ยชานมีสีหน้าสงสัย


ในตอนนั้นเอง ผู้ใช้พลังระดับ SS จึงได้เล่าให้ฟาง กุ้ยชานฟังถึงเรื่องราวทั้งหมด


“ว่าไงนะ เป็นไปได้ยังไง” เมื่อฟาง กุ้ยชานได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด เขาก็ถึงกับโกรธจัด ไม้เท้าในมือของเขาทิ่มลงไปในดินราวสิบเซนติเมตร


เมื่อเห็นแบบนี้ พวกเขาก็ถึงกับแปลกใจ ชายชราตรงหน้าดูจะมีปัญหากับการเดิน แต่พลังที่มีกลับแก่กล้าอย่างคาดไม่ถึง เป็นคนที่ดูไม่เหมือนคน


“ญี่ปุ่นพวกนี้มันกล้ามาก จองหองพองขน แถมยังฆ่าชาวจีนไปอีกหลายคน พวกมันต้องตาย” ฟาง กุ้ยชานกล่าวอย่างโกรธๆ


จากนั้น ฟาง กุ้ยชานก็เงยหน้ามองในทันที พลางมองไปที่ไค ซือเต๋า


“ฟาง หยุนที่มาจากตระกูลฟางเป็นคนจัดการแข่งใต้ดินนี้ขึ้นมา มีคนดูมากกว่า 200000 คน และคนที่เขาส่งมาแข่งก็คือนินจาญี่ปุ่น ที่เป็นตัวก่อเรื่องพวกนี้ แล้วคุณยังมาถามอีกหรอว่าต้องจัดการยังไง” ไค ซือเอ่ยถามเสียงเบา


“ว่าไงนะ ไอ้สารเลวนี่...” ฟาง กุ้ยชานโกรธจัด


“ฟาง หยุนมาแล้วครับ คุณทวด” ในตอนนั้นเอง  ชายระดับ S ก็เดินมาหาฟาง กุ้ยชานก่อนจะเอ่ยขึ้น


เมื่อเขาพูดจบ คังชานก็เดินมาพร้อมกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง


“ฟาง หยุนมาแล้วครับ” คังชานเหวี่ยงร่างฟาง หยุนลงกับพื้นจนหน้าฟาดกับพื้นเต็มๆ เลอะขี้ดินเต็มไปหมด


“นี่คุณปู่ทำอะไรครับเนี่ย”ฟาง หยุนไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น เขาก็นอนหลับอยู่ดีๆ จู่ๆก็โดนพาตัวมาแบบนี้


เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาก็ได้เห็นชายชราสองคนนั่งอยู่ตรงหน้าเขา ชายคนที่อยู่ทางซ้ายมองมาที่เขาอย่างโกรธๆ ก่อนจะพูดขึ้น “ฮึ่ม คุกเข่าลง”


เสียงฟาง กุ้ยชานนั้นดังกังวาน จนฟาง หยุนถึงกับทรุดลง ราวกับวิญญาณข้างในกำลังสั่นคลอน


“ไอ้แก่นี่ใครกัน”


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น