RC:บทที่ 395 กรรมการก็ยังไม่เว้น

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 395 กรรมการก็ยังไม่เว้น


ในตอนนี้เอง หลิน เฟิงกับผีสาวต่างก็มองหน้ากันไปมาบนอากาศ ด้วยแววตาที่ตะลึงกันไปทั้งคู่


ยิ่งประจันหน้ากันนานมากขึ้นเท่าไหร่ พวกเขาต่างก็รู้สึกได้ถึงพลังลึกๆที่ไม่สามารถวัดได้ของพวกเขาทั้งคู่ เพราะพลังของทั้งคู่นั้นเกือบจะล้ำไปกว่าระดับ A แล้ว


หลิน เฟิงรู้สึกตะหงิดๆในใจว่าผีสาวตรงหน้าเขาไม่ได้อยู่แค่ระดับ A เท่านั้น แต่เธอน่าจะปกปิดพลังของลมหายใจให้อยู่แค่ในระดับ A เอาไว้


ในขณะเดียวกัน ผีสาวเองก็ตกใจกับพละกำลังของหลิน เฟิงเช่นกันเพราะการโจมตีของเธอไม่ใช่สิ่งที่คนระดับ A จะต้านกันได้ง่ายๆเลย


ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงต่างมองกันอยู่ไกลๆ ราวกับว่าต่างเห็นความกลัวของกันและกันได้


ทั้งร่างของหลิน เฟิงนั้นเต็มไปด้วยสายฟ้าสีทองเป็นประกายระยับหลังจากได้ตะโกนร้องออกมาแล้ว จากนั้นหลุมวนสีทองก็ปรากฏขึ้นข้างหลังเขา เป็นลำแสงสีทองที่หมุนวนไปมาพลางส่องประกายราวกับบ่อปลาที่มีพวกปลาว่ายกันอยู่เนืองแน่น และในบางครั้งถึงจะมีสายฟ้าสักหนึ่งหรือสองสายปลิวกระเด็นออกมา


“นี่คือพลังของสายฟ้าอย่างงั้นหรือ” เมื่อเห็นแบบนั้น พวกเขาต่างก็อึ้งไป


หลังจากฝึกฝนและทำความเข้าใจมานาน ในที่สุด หลิน เฟิงก็เข้าใจถึงพลังตัวนี้ และในตอนนี้ ร่างทั้งร่างของเขานั้นปกคลุมไปด้วยสายฟ้าราวกับบุตรของเทพสายฟ้า จากนั้นร่างของเขาก็ค่อยๆลอยขึ้น ลอยละล่องอยู่ท่ามกลางหลุมวนสายฟ้าขนาดใหญ่นั่น


 “สายฟ้าพิฆาต”


เมื่อมองผีสาวจากด้านบน หลิน เฟิงก็ใช้พลังไปในทันที แล้วจากนั้นสายฟ้าทองคำทั้งเก้าสายก็ฟาดลงที่ร่างเธอในทันที


เมื่อเห็นแบบนั้น ผีสาวก็แสดงออกถึงความกลัวถึงขีดสุด แล้วเธอก็ได้ทำอะไรแปลกๆกับนิ้วมือของเธอ เมื่อเขาเห็นแบบนั้น หลิน เฟิงก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้


“หรือเธอจะเป็นนินจาญี่ปุ่น” หลิน เฟิงคิดในใจ


ก่อนหน้านี้ หลิน เฟิงก็สัมผัสได้ว่าเขาคุ้นเคยกับผีสาวคนนี้เป็นอย่างมาก แต่ว่าในตอนนั้น เธออยู่แค่ระดับ A เท่านั้นเองแถมยังสู้ด้วยวิธีธรรมดาๆอีก ด้วยเหตุนี้เธอก็ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้


ต่อหน้าหลิน เฟิง เธอก็แค่ผู้ใช้พลังธรรมดาๆเอง


ต่อมา จากที่เห็นว่าธรรมดา ผีสาวคนนั้นก็เปลี่ยนไปในทันที จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเป็นร่างที่มีถึงห้าร่าง ทั้งหกร่างต่างวิ่งหนีออกไปในจุดเดียวกัน


“นินจาญี่ปุ่นนี่” หลิน เฟิงคิดขึ้นในใจ


“หมาป่ากระหายเลือดแข็งแกร่งจริงๆเลยครับ น่าทึ่งจริงๆที่ทำให้ผีสาวมาถึงจุดนี้ได้”


“ใช่ๆ ฉันจำได้ว่าในบรรดาทั้งหมดที่ได้เจอกับผีสาวนั่น เธอจะใช้ออกมาแค่สามครั้งเท่านั้น และทุกครั้งเนี่ย เธอก็จะมุ่งเป้าไปที่หัวของคู่แข่งเลย นี่ก็ไม่รู้นะว่าหมาป่ากระหายเลือดจะหยุดเธอได้ไหม”


“...”


ผู้คนที่อยู่ข้างนอกต่างพูดคุยกันเสียงดัง


เมื่อเห็นแบบนี้ หลิน เฟิงก็ได้ทำสัญญาณมือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแยกสายฟ้านั้นออกเป็นหกส่วน ให้พุ่งไปทางเดียวกัน


ร่างทั้งหกนั้นถูกสายฟ้าทั้งหกสายนั้นตามไล่ ร่างทั้งหกนั้นวิ่งขึ้นๆลงๆ และดูเหมือนว่าพวกเธอเองก็ต้องการกำจัดสายฟ้าทั้งหกนี้ด้วย แต่ด้วยการควบคุมของหลิน เฟิง สายฟ้าพวกนั้นก็ดูราวกับจะมีดวงตาไล่ตามติดๆไป


เปรี้ยงๆๆๆๆ


เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาติดๆห้าครั้ง แม้จะไม่ดังมาก แต่ก็ทำเอาคนช็อคเลยทีเดียว


ในบรรดาสายฟ้าทั้งหกของหลิน เฟิงนั้น มีห้าสายที่ผ่าเข้าที่ร่างของผีสาวทั้งห้าคน


มีเพียงร่างจริงของผีสาวเพียงร่างเดียวที่ยังคงหลบหนีอยู่ สายฟ้าที่ตามเธอนั้นแบ่งออกเป็นสามทาง และทรงพลังเอามากๆ แต่ถึงแม้จะทรงพลังแต่เขาก็ไม่กล้าลงมือหนักมากนัก


และเขาก็ได้เห็นว่าร่างแยกทั้งหกที่อยู่ข้างหลังนั้นได้หายไปแล้ว เขาก็เลยไม่ขยับไปไหนอีก


แล้วทันใดนั้นเองมีดสั้นสีดำก็ผ่านหน้าเขาไปอย่างรวดเร็ว แล้วแสงสีดำนั้นปรากฏขึ้นและเข้าปะทะกับสายฟ้า


ตูม!!!


ระหว่างหลิน เฟิงกับผีสาวนั้นจู่ๆก็เกิดเสียงดังสนั่น ฝ่ายหนึ่งเป็นประกายทองระยิบระยับ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งเป็นแสงสีดำ


หลังจากหยุดชะงักไป ผีสาวคนนั้นก็กำมือแน่น ก่อนจะจ้องมาที่หลิน เฟิงอย่างชั่วร้าย ราวกับอยากจะฉีกกระชากเลยทีเดียว


แต่ทว่าในตอนนี้ หลิน เฟิงไม่ได้นึกสนใจอะไรทั้งนั้น แล้วมือของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง จากนั้นสายฟ้าก็แลบแปลบปลาบขึ้นมาอีกครั้งและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ


เมื่อผีสาวเห็นแบบนั้น ดวงตาของเธอก็วาววับไปด้วยความโกรธ


ในตอนนี้เอง สายฟ้าแลบที่อยู่ข้างหลังหลิน เฟิงนั้นสั่นสะเทือนไปเรื่อยๆ เกิดเสียงเปรี๊ยะๆ สายฟ้าแลบนั้นผ่าลงมาเรื่อยๆ


ความเร็วของผีสาวนั้นหาตัวจับยาก เธอหลบไปเรื่อยๆ สักพัก สายฟ้ามากมายของหลิน เฟิงจึงทำอะไรเธอไม่ได้อีก


ยิ่งสายฟ้าฟาดขึ้นมามากเท่าไหร่ เร็วขึ้นเท่าไหร่ สิ่งนั้นก็ยิ่งทำให้ผีสาวรับมือยากมากขึ้นเท่านั้น เพียงครู่เดียว นี่คงไม่ใช่เวลาที่ดีที่จะหลบเลย แล้วทันใดนั้นเองเธอก็ถูกสายฟ้าฟาดลงอย่างจัง


หญิงสาวแผดเสียงร้องลั่น ผมของเธอปลิวกระจาย แล้วจากนั้น ผู้คนจึงได้เห็นสายตาที่กระหายเลือดจ้องมาที่หลิน เฟิงและเต็มไปด้วยความเกลียดชัง


ในตอนนั้นเอง สายฟ้าของหลิน เฟิงก็ไม่มีผลอะไรอีกแล้ว แต่พอต่อมา ทุกๆคนก็ถึงกับชะงักเพราะพลังวิญญาณของผีสาวนั้นทรงพลังมากเสียจนลมหายใจที่น่าขนลุกนั้นดูไปเหนือกว่าระดับ A เสียอีก


“อย่างงี้นี่เอง” หลิน เฟิงแอบถอนใจ


และในตอนนี้เอง หลิน เฟิงก็สัมผัสได้ว่าผีสาวนั้นเป็นผู้ใช้พลังระดับ S ต่างหาก เธอแค่ซ่อนความสามารถและแกล้งทำเป็นว่าอยู่ระดับ A นั่นเอง


ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมถึงไม่มีผู้ใช้พลังระดับ A คนไหนเลยที่จะชนะเธอได้ นั่นก็เพราะคนพวกนั้นไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเธอนั่นเอง


ในตอนนี้ สายตาของผีสาวนั้นแดงก่ำ แรงส่งของเธอขยายตัวใหญ่ขึ้นแทบจะทันที ผู้ชมนับหมื่นต่างรู้สึกได้ถึงลมหายใจระดับ S ของผีสาว


ในส่วนของผู้ชมนั้น ปาเต๋ากับหวังฉีที่กำลังดูการแข่งของหลิน เฟิงอยู่นั้นก็ได้ตัดบทด้วยการตะโกนออกไปว่า “กรรมการครับ เธอคนนี้อยู่ระดับ S ต่างหาก เธอซ่อนพลังและบอกว่าตัวเองอยู่ในระดับ A นี่มันแหกกฎกันชัดๆ”


เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของปาเต๋า กรรมการจึงรีบออกตัวไปในทันที พลางยื่นมือออกไปหยุดการแข่งในครั้งนี้


“คุณผีสาว เนื่องจากคุณไม่ปฏิบัติตามกฎในการต่อสู้ โปรดหยุดก่อนเพื่อให้เราตรวจสอบตอนนี้ด้วยครับ” กรรมการคนดังกล่าวว่าขึ้นก่อนจะเดินไปอย่างรวดเร็ว


“ไปให้พ้น”


แต่อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาเดินไป ผีสาวก็ปล่อยคลื่นพลังโจมตีในมือออกไป แต่อย่างไรก็ตาม กรรมการคนนั้นก็ใช่ว่าจะเล่นกันได้ง่ายๆ เขาหลบออกไปอย่างรวดเร็ว


กรรมการคนนี้เห็นได้ชัดว่าอยู่ในระดับ S แต่ทว่า ในขณะที่เขาคิดว่าจะหลบการโจมตีจากผีสาว ทันใดนั้นเอง ร่างของเธอก็หายไปโดยไม่รู้ว่าหายไปไหน


กว่าที่เขาจะรู้ตัว เขาก็รู้สึกถึงมีดสั้นที่จ่อมาตรงบริเวณลำคอเสียแล้ว คมมีดที่เย็นเฉียบนั้นทาบเข้าที่บริเวณคอของคณะกรรมการคนดังกล่าว


“คุณ นี่คุณจะทำอะไรน่ะ” กรรมการเอ่ยถามขึ้น ตัวสั่น เหงื่อที่เย็นเฉียบผุดขึ้นที่หน้าผากของเขา


แต่อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา มีเพียงเสียงเลือดสาดกระเซ็นเท่านั้นที่ดังขึ้นมา ก่อนที่ร่างของกรรมการคนดังกล่าวจะร่วงลงบนพื้น


ทันใดนั้นเอง สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือความโกลาหล คนมากมายต่างไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ที่ผีสาวลงมือฆ่ากรรมการคนนั้น


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น