RC:บทที่ 393 หน้ากากหมาป่าเปลี่ยนไป
“หรือว่ามีใครจงใจจัดแบบนี้” หลิน เฟิงคิดในใจ
แต่อย่างไรก็ตาม หลิน เฟิงก็ไม่มีเวลามาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก แถมสนามทั้งสนามต่างก็เริ่มส่งเสียงเชียร์กันแล้ว
คนหลายคนต่างตะโกนชื่อของหลิน เฟิงและหญิงสาวคนนั้น แต่ทว่าความนิยมในตัวผีสาวนั้นกลับมีมากกว่าหลิน เฟิงอย่างเห็นได้ชัด แถมเสียงเหล่านั้นก็ดังกลบเสียงข้างหลิน เฟิงไปจนหมด
ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้เห็นว่าผู้คนข้างล่างเวทีนั้นต่างทยอยกันเข้ามาแล้ว และไม่นานก็พุ่งไปถึง 200000 หลิน เฟิงอดจะถอนใจไม่ได้ เพราะมีคนมากมายเลยจนเขาทำอะไรไม่ถูก
ในตอนนี้เอง ร่างๆหนึ่งที่ถือไมโครโฟนอยู่ในมือก็เดินมาแต่ไกล เป้าหมายก็คือหลิน เฟิงและผีสาวนั่นเอง
โดยแรงส่งของชายคนดังกล่าวนั้นมันช่างลางเลือนและดูเหมือนจะถูกอะไรกั้นไว้ แวบแรกที่มองนั้น เขานี่ไม่ใช่คนธรรมดาๆเลย เขาคนนั้นเมื่อเดินมาถึงตัวหลิน เฟิงกับผีสาวแล้วนั้นก็ก้มหัวลง
“สวัสดีครับ ผมเป็นพิธีกรและกรรมการตัดสินการแข่งนี้ ชื่อว่าฟาง ยี่ครับ” หลิน เฟิงกับผีสาวมองไปที่ฟาง ยี่พร้อมๆกัน ก่อนจะเห็นเขายิ้ม ในมือถือไมโครโฟนที่ลอยอยู่ในอากาศ
หลิน เฟิงพยักหน้าให้ก่อนจะเผยยิ้มอย่างสุภาพ ในขณะที่ผีสาวนั้นกลับนิ่งไม่ไหวติง เธอเงยหน้าขึ้นราวกับว่าไม่เห็นฟาง ยี่ที่เป็นพิธีกรอยู่เสียอย่างนั้น
ฟาง ยี่เองก็ยิ้มๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร แล้วจากนั้นก็หันหน้าไปทางผู้ชมที่อยู่ด้านหลังก่อนจะกล่าวขึ้น “สวัสดีครับ ทุกคน เป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆที่ได้พบท่านทั้งหลาย ณ ที่แห่งนี้ และวันนี้ เราจะได้ดูการต่อสู้ระหว่างคนสองคนที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการแข่งใต้ดินนี้ คุณหมาป่ากระหายเลือดและคุณผีสาวนั่นเองครับ”
“คุณหมาป่ากระหายเลือด ราชาคนใหม่ เพียงแค่สองสัปดาห์เท่านั้น แต่กลับได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย แถมการต่อสู้ทุกครั้งก็เล่นเอาแปลกใจ ใจเต้นเลยทีเดียว ส่วนผีสาวนั้น อย่างที่เรารู้กันมาตลอด เธอนั้นเอาชนะรวดได้ทุกสนาม และไม่เคยแพ้เลยนับตั้งแต่เธอเข้ามา”
“แต่เมื่อทุกๆครั้งที่พวกเขาปรากฏตัวกันออกมา พวกเขาก็จะเข้าบดขยี้คู่แข่งของตัวเอง มีหลายคนตายด้วยน้ำมือของเธอเหตุเพราะไม่ยอมแพ้ในเวลาที่กำหนด เธอเป็นผู้หญิงเพียงไม่กี่คนในการต่อสู้และได้รับความนิยมอย่างสูงที่สุดอีกด้วย”
“อีกไม่กี่อึดใจพวกเราก็จะได้รับชมการต่อสู้ชวนใจระทึก ตอนนี้ ขอให้พวกเราเปล่งชื่อของหมาป่ากระหายเลือดและผีสาวให้ดังกึกก้องกันดีกว่า ไหนขอดูซิว่าฝ่ายใครเชียร์ฝ่ายใครบ้าง...” พิธีกรที่ชื่อฟาง ยี่ว่าขึ้นผ่านไมโครโฟนที่ถืออยู่ในมือ
“ผีสาว ผีสาว ผีสาว...”
“หมาป่าเลือด หมาป่าเลือด หมาป่าเลือด...”
เสียงร้องเชียร์ที่อยู่บริเวณเวทีใต้ล่างนั้นดังอื้ออึงไปทั่วทั้งสนาม
แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่สนับสนุนหลิน เฟิงนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถเปรียบได้กับผีสาวเลย ยิ่งไปกว่านั้น แม้การต่อสู้ของเขาจะน่าตื่นตาตื่นใจเพียงใด และทุกๆการต่อสู้นั้นก็มันถึงใจ แต่เมื่อเทียบกับผีสาวแล้ว ฝ่ายหลิน เฟิงก็ยังด้อยกว่ามาก
ไม่นาน เสียงที่เชียร์ข้างหลิน เฟิงก็แผ่วลง ก่อนที่เสียงเชียร์ข้างผีสาวจะดังขึ้นมาแทน
เมื่อผู้คนข้างใต้เวทีต่างตะโกน พลางร้องเสียงลั่น หลิน เฟิงก็ได้พบว่าลมหายใจของผีสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นกำลังตรึงเขาไว้ราวกับกำลังจ้องมองทักษะในตัวของเขา
หลิน เฟิงจึงไม่ลังเลที่จะมองเธอกลับไปเช่นกัน ในตอนนี้ ผีสาวก็ได้มายืนอยู่ตรงหน้า ห่างจากหลิน เฟิงหลายร้อยเมตรนั้นอยู่ในชุดสูทสีดำเป็นแบบหนังและกางเกงก็หนัง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงส่วนเว้าส่วนโค้ง หรือจะพูดง่ายๆก็คือเธอค่อนข้างเจ้าเนื้ออยู่สักหน่อย
ในตอนนี้เอง ผีสาวได้สวมหน้ากากที่เป็นหนังด้วยเหมือนกัน ผมเธอยาวสยาย ไหล่ก็กว้าง ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงความกระตือรือร้นเป็นพิเศษ
ผมสีดำของเธองามเป็นมันขลับ ลานประลองที่ยืนอยู่นั้นส่องสว่างขึ้นมา ช่างดูลึกลับและทรงพลัง จนทำให้ผู้คนถึงกับตาลุกวาว
ในตอนนี้ หลิน เฟิงจึงได้เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้รับความนิยมสูงขนาดนี้ พละกำลังแข็งแกร่ง ลักษณะชั่วร้าย และความงามที่น่าค้นหาที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถล่วงล้ำได้
เมื่อใส่ชุดแบบนี้ ท่ามกลางคนมากมาย จึงไม่ได้เป็นที่ดึงดูดพวกคนเก่งๆให้สนใจนัก
แต่สิ่งที่ทำให้หลิน เฟิงงงก็คือ ผีสาวนั้นกลับให้ความรู้สึกอันแสนคุ้นเคยกับเขา เหมือนว่าเคยเห็นมาก่อน
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อหลิน เฟิงนึกถึงเรื่องนี้ พิธีกรที่ชื่อฟาง ยี่ก็ได้พูดขึ้น
“เงียบก่อนครับเงียบก่อน ผมเชื่อแล้วว่าพวกคุณตั้งใจส่งเสียงเชียร์กันอย่างจริงจังจริงๆ แต่ขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบก่อน แล้วเราจะให้ท่านรับชมการต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ โดยจะเริ่มในอีกหนึ่งนาที” พิธีกรว่าขึ้น ก่อนจะถอยกลับไปอีกด้านหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ในตอนนั้นเอง ท่าทีของผีสาวนั้นดูพร้อมเต็มทีแล้ว รอแค่ถึงเวลา เธอก็จะเข้าโจมตีหลิน เฟิงในทันที
หลิน เฟิงส่งพลังวิญญาณออกมาจนท่วมท้นไปทั่วทังตัว จนต่อมา ก็ปรากฏแสงบนร่างของเขาขึ้นมาแวบหนึ่ง ในระยะเวลาสั้นๆ บางสิ่งที่ดูคล้ายกับเกราะสายฟ้าก็ได้มารวมตัวกันตรงหน้าเขาก่อนจะล้อมรอบไปทั่วทั้งร่าง
รูปร่างที่เกิดขึ้นคือร่างของหลิน เฟิงที่เกิดขึ้นหลังจากรวมร่างสัตว์ป่าอย่างสิงโตทอง แต่ทว่าในตอนนี้รูปร่างของหลิน เฟิงกลับต่างไปจากเดิมจากเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน
แต่ก่อน ประกายสายฟ้ามากมายจะปรากฏขึ้นทั่วตัวของหลิน เฟิง แต่ไม่หนาแน่นเท่านี้ ในตอนนี้ดูราวกับว่าสายฟ้าจะท่วมทั่วทั้งตัวของเขาไปเสียแล้ว
หลังจากเอาคืนพวกญี่ปุ่นได้ หลิน เฟิงกับปาเต๋าจึงได้ข้ามผ่านระดับครั้งใหญ่ รวมถึงสัตว์วิญญาณของหลิน เฟิงก็ได้รับการเลื่อนขั้นด้วย
ในตอนนี้ สัตว์ทั้งสามอย่างสิงโตทอง ยูนิคอร์นน้ำและงูหินโบราณต่างก็ได้ร่วมสู้กับหลิน เฟิงกันทั้งนั้น นอกจากนี้ พวกเขายังได้ร่วมสู้ด้วยเสมอจนข้ามไปถึงระดับ A เลย
ด้วยเหตุนี้เองพละกำลังของหลิน เฟิงจึงก้าวขึ้นไปอีกมากมาย สิงโตทองนั้นได้ข้ามขั้นไปอีกระดับ รวมถึงพละกำลังนั้นก็ไม่ได้น้อยไปกว่าสุนัขนรกเสี่ยวเฮยเลย
หลังจากรวมร่างกับสิงโตทองแล้วนั้น ร่างของหลิน เฟิงก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก อย่างแรก ผมของเขากลายเป็นสีทอง อย่างที่สอง เล็บของเขาก็กลายเป็นหนาและคมขึ้น
ร่างของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แต่คนอื่นๆก็ยังคงรู้สึกถึงบรรยากาศรอบตัวของหลิน เฟิงที่ยังคงเหมือนเดิม
ผีสาวมองร่างของหลิน เฟิงที่เปลี่ยนแปลงไป พลางขมวดคิ้ว ราวกับนึกถึงอะไรบางอย่าง แต่ไม่นานเธอก็ส่ายหน้า ปัดความคิดนั้นทิ้งไป
“สิบวินาทีสุดท้ายก่อนจะเริ่มแข่งครับ” ในตอนนั้น พิธีกรก็ได้ประกาศออกมาเสียงดัง
ทั้งลานถึงกับเงียบสงัดราวกับจะรอคอยการต่อสู้ของทั้งสอง
ท่ามกลางผู้คนเรือนแสนบนที่นั่งดูทั้งหมด หยุนเชาชำเลืองไปที่หลิน เฟิงและผีสาวบนเวทีด้วยดวงตาที่ขุ่นมัวและกระจ่าง ไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“หยุน เชา เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ” ใกล้กันกับหยุน เชา ชายในชุดดำก็ได้เอ่ยถามขึ้น
เสียงนั้นฟังดูเหมือนทั้งชายและหญิงในคนๆเดียว น้ำเสียงนั้นฟังดูหม่นเศร้าและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
แต่อย่างไรก็ตาม หยุน เชาที่นั่งอยู่ใกล้ๆกันนั้นก็รู้สึกชินกับอะไรแบบนี้ไปแล้ว ก็เลยไม่เห็นว่านี่เป็นเรื่องแปลก
“กลิ่นของหมาป่ากระหายเลือดนั่นเปลี่ยนไปมาก แล้วแบบนี้ผีสาวจะไม่เป็นอะไรแน่หรือ”
หยุน เชามองไปที่หลิน เฟิงบนเวทีที่ตอนนี้เปลี่ยนไปมาก ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกังวล
“ไม่ต้องห่วงหรอก หยุนเชา ใครที่อยู่ต่ำกว่าระดับ S ไม่สามารถเอาชนะผีสาวได้แน่” ชายในชุดดำเอ่ยขึ้น
“ใช่ ตั้งแต่มาที่นี่เธอยังไม่เคยแพ้ใครเลย แล้วอีกอย่าง ฉันเองก็ได้ยินมาว่าการแข่งขันที่ใต้ดินจะเริ่มขึ้นอีกครั้งแล้วด้วย
0 ความคิดเห็น