RC:บทที่ 392 ผีสาว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 392 ผีสาว 


“ถ้าจะให้บอกว่าสนใจเรื่องการแข่งที่นี่ก่อนหน้านี้ก็คงจะพูดได้ยาก ฉันก็เลยไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของหมาป่ากระหายเลือดเลย แต่ที่รู้สึกตอนนี้คือลมหายใจของเขานั้นอยู่ที่ระดับ A ขั้นสูงสุดด้วย ให้ความรู้สึกน่ากลัวสุดๆไปเลย เราจะประเมินพลังของเขาต่ำไม่ได้เลยนะ”


“นอกจากนี้ ฉันเองก็ได้บอกข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับผีสาวให้เขาไปหมดแล้วด้วย ส่วนจะชนะหรือไม่ ฉันเองก็ไม่รู้” ชายหนุ่มว่าขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก้มหน้าหงุด พร้อมกับชาถ้วยหนึ่งในมือ


หลังจากนั้นครู่เดียว ชายหนุ่มคนดังกล่าวก็ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะว่าขึ้น “แต่ฉันคิดว่าฟาง หยุนกับจิ้น ชานดูจะสนใจชายคนนี้เป็นพิเศษเลยนะ ดูท่าเราจะเข้าถึงชายคนนั้นไม่ได้ง่ายๆเสียแล้วสิ เอาล่ะ มานั่งดูเขาแข่งสนุกๆกันเถอะ”


“แต่ว่านายน้อยครับ แล้วเราจะทำยังไงดีถ้าพวกฟาง หยุนกับจิ้น ชานไปเชิญเขามาได้ล่ะ เราก็ควรจะเข้าไปขวางดีไหมครับ” คนรับใช้ว่าต่อ


“ไม่ต้องห่วง ผีสาวน่ะเป็นของตายสำหรับฟาง หยุนอยู่แล้ว และฟาง หยุนก็เป็นคนจัดการแข่งนี้ขึ้นมาด้วย ฉันคิดว่าฟาง หยุนเองก็คงอยากได้ตัวหมาป่ากระหายเลือดมาตั้งนานแล้วด้วย แถมเขายังไม่รับปากว่าจะส่งผีสาวมาที่นี่ด้วย ฟาง หยุนน่ะมันใจแคบเกินกว่าจะทำข้อตกลงครั้งใหญ่ด้วยได้”


“ส่วนจิ้น ชานเอง ฉันไม่ได้นึกใส่ใจนักหรอก จิตใจพวกเขาสูงส่งเกินไปแถมจะก้าวหน้าทีก็ได้เชื่องช้าเหลือเกิน คนที่พวกเขาหามาได้แต่ละคนก็ไม่ค่อยเข้าท่านักด้วย” ชายผู้สง่ากล่าวขึ้น ก่อนจะดื่มในรวดเดียว โยนถ้วยชาไปมาเบาๆ แล้วจากนั้นก็ออกไปจากลานประลองยกสูงนี้


ในตอนนี้เอง หนึ่งในพวกเขาได้ประกาศข่าวว่าหลิน เฟิงนั้นจะต้องสู้กับผีสาว ในทีแรกนั้น หลิน เฟิงเองก็ไม่ชินนัก แต่เดี๋ยวไม่นานเขาก็จะชินไปเอง


สถานการณ์ทำนองนี้หายากมาก โดยทั่วไปแล้ว มีเพียงแค่ผู้ต่อสู้ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเท่านั้นที่จะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ โดยหลังจากโฆษณากันไปหลายรอบ สถานที่ที่เป็นลานประลองเถื่อนทั้งพื้นที่ก็คลาคล่ำไปด้วยผู้คน รวมถึงบทสนทนาเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างหลิน เฟิงกับผีสาวด้วย


หลิน เฟิงพูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่ เดิมที เขาเองก็อยากจะหาคนมาฝึกเพิ่มอยู่ 


แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ เขาถูกพวกเก่งๆจับตาดูมาก่อนหน้านี้นานแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หลิน เฟิงไม่ได้กลัวเรื่องนี้หรอก แต่กระตือรือร้นอยากที่จะลองมากกว่า


ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่เขามาที่นี่เพื่อสู้กับคนเก่งๆนั่นเอง แค่ได้สู้กับคนเก่งแบบนั้น ทักษะของเขาก็ได้รับการพัฒนาไปไกลแล้ว


เพราะคู่ต่อสู้ของหลิน เฟิงในวันนี้ก็คือผีสาวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุด แถมตัวหลิน เฟิงก็เป็นที่รู้จักในนามราชาคนใหม่อีกด้วยเพราะได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น ด้วยเหตุนี้ ทั้งลานประลองจึงได้สร้างเรื่องราวใหญ่โต  โฆษณากันอย่างบ้าคลั่ง


เรื่องนี้ได้ลามไปถึงเรื่องการต่อสู้ของหลิน เฟิงอยู่หลายชั่วโมง โดยที่หลิน เฟิงยังไม่ได้พูดอะไรเลย


จากนั้นพวกเขาก็เจอที่นั่งรอฆ่าเวลาเงียบๆ


ในขณะเดียวกันนั้นเอง หลิน เฟิงก็นึกถึงคำพูดที่ชายผู้งามสง่าพูดกับตนขึ้นมาได้ เขาจำคำพูดทุกคำที่ชายคนนั้นพูดมาได้ทั้งหมด


แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกย้อนไปถึงในสิ่งที่ชายคนดังกล่าวพูด หลิน เฟิงก็รู้สึกคุ้นเอามากๆ ดูเหมือนว่าหลิน เฟิง ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวหรืออะไรบางอย่างของผีสาวนั้น เขาเคยพบเคยเห็นมาก่อน


แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น เพราะหลิน เฟิงไม่เคยสู้กับผีสาวมาก่อน ก็เลยไม่สามารถคาดเดาได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อชายรูปร่างสง่านั้นจากไป เขาก็ชักรู้สึกสับสนในสิ่งที่ชายคนนั้นพูดออกมา


ชายคนนั้นบอกว่าผีสาวนั้นไม่ใช่คนจีน หรือนี่เป็นเรื่องยากที่คนจากที่อื่นจะเข้ามายังที่นี่ได้


หลิน เฟิงนั่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน และไม่รู้ว่านี่ผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แล้ววิทยุก็ประกาศขึ้นอีกครั้ง


“ประกาศ คุณผีสาว คุณหมาป่ากระหายเลือด การต่อสู้ระหว่างทั้งสองท่านจะเริ่มขึ้นอีกภายในครึ่งชั่วโมง โปรดมาที่สนามต่อสู้พิเศษหมายเลข 0 ให้ตรงเวลาด้วยครับ” 


“ว่าไงนะ สนามแข่งของผีสาวกับหมาป่ากระหายเลือดนั่นจะจัดขึ้นที่สนามพิเศษงั้นหรอกหรือ”


“พระเจ้าช่วย สนามพิเศษนั่นไม่มีใครใช้มาเป็นเวลาสิบปีแล้วนะ”


“ดูเหมือนว่าคนจัดเองจะเห็นถึงความสำคัญในการแข่งระหว่างสองคนนี้เอามากๆเลยนะ สุดท้าย คงไม่จำเป็นต้องไปแย่งที่นั่งกันในตอนนี้หรอก”


“ทำไมถึงไม่ต้องไปแย่งที่นั่งล่ะ” หนึ่งในนั้นถามขึ้น


“นายนี่ก็โง่จริง สนามแข่งสนามใหญ่พิเศษนั่นไม่ใช่แค่ลานต่อสู้นะ แต่เป็นที่นั่งที่สามารถจุคนได้มากกว่า 200000 คนเลยล่ะ” 


“ใช่ๆ รูปภาพตอนแข่งจะแสดงบนจอแก้วสามมิติเรื่องเอฟเฟ็กนี่ไม่ต้องพูดเยอะเลย”


“ใช่ ฉันจำได้ว่าคราวก่อนที่ฉันเปิดน่ะก็เมื่อสิบปีที่แล้วนี่เอง” อีกคนว่าขึ้น


“...”


แต่ละคนล้วนตื่นเต้น แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือว่าในบรรดาพวกเขาทั้งสามคนที่นั่งใกล้ๆกันนั้น หนึ่งในนั้นก็คือหลิน เฟิง พระเอกของศึกในครั้งนี้


เมื่อได้ฟังเสียงที่ดังไปรอบๆนั้น หลิน เฟิงก็หลุดจากสมาธิ ก่อนจะเดินไปยังลานแข่งขนาดใหญ่นั่น


พื้นที่ใต้ดินตรงนี้เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ และได้รับการออกแบบให้จุคนได้มากกว่า 200000 คน พื้นที่นี้จึงเป็นสนามแข่งที่ใหญ่ที่สุดนั่นเอง


โดยทั่วไปแล้ว สนามแข่งนั้นจะเปิดให้ใช้แค่คนที่ได้รับความนิยมสูงสุดสู้กันเท่านั้น


ไม่นาน หลิน เฟิงและที่เหลือก็ได้เดินเข้ามาในสนามแข่งแห่งใหญ่นี้ มองเพียงแวบเดียว หลิน เฟิงก็รู้สึกได้ถึงร่างของตัวเองจริงๆที่ช่างเล็ก รวมถึงพื้นที่ที่เว้าเข้ามา ขนาดเกือบจะเท่ากับสนามฟุตบอลหลายๆที่รวมกันเลยทีเดียว


ตรงกลางของสนามแข่งนั้น ยังมีลานประลองขนาดใหญ่อยู่ซึ่งนั่นก็คือสนามต่อสู้นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีจอแอลซีดีสามมิติแขวนอยู่บนนั้นอีกด้วย


ความรู้สึกแรกที่หลิน เฟิงเห็นที่นี่ สถานที่ดังกล่าวก็ให้ความรู้สึกเหมือนโคลอสเซียมในกรุงโรมเลย


หลังจากได้เข้ามาแล้วนั้น หลิน เฟิงกับหวัง ฉี รวมถึงปาเต๋าต่างก็แยกย้ายกัน หลิน เฟิงตรงไปยังลานการต่อสู้ ส่วนหวัง ฉีกับปาเต๋านั้นก็ตรงไปที่ผู้ชม


แท่นหินตรงหน้าหลิน เฟิงนั้นเป็นแท่นหินยกสูงมาก มีบันไดพาดขึ้นไปโดยทั้งสองข้างทำมาจากโซ่หนาๆ เมื่อเดินไปบนนั้น ก็จะรู้สึกได้ถึงเสียงเสียดสีไปมาของโซ่


เมื่อหลิน เฟิงมาถึงแท่นประลอง ในตอนนั้นเองเขาก็ได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งตรงหน้าเขา โดยทั้งสองคนห่างกันอยู่หนึ่งร้อยเมตร แต่ไม่เห็นหน้ากันเพราะใส่หน้ากาก


ในตอนนี้เอง ผู้คนก็ได้ทยอยมาดูกันมากขึ้นเรื่อยๆ


“เงียบก่อนครับ เงียบก่อน ผมเชื่อเลยนะครับว่าพวกคุณคงจะได้ยินเรื่องของผู้เข้าแข่งขันระดับซุป’ตาร์ทั้งสองท่านที่อยู่ในสนามแข่งแห่งนี้ไปบ้างแล้ว ก็คือคุณหมาป่ากระหายเลือดและคุณผีสาวนั่นเอง” ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ที่นั่งจำนวนนับหมื่นๆถูกจับจองเต็มไปหมด พร้อมทั้งข่าวที่น่าตกใจก็ประกาศออกมาด้วย


ใช่แล้วล่ะ ในตอนนี้เอง การต่อสู้ระหว่างหลิน เฟิงและผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อผีสาว ทั้งคู่ต่างก็ได้มายืนอยู่บนแท่นหินแห่งนี้ หลิน เฟิงจ้องไปยังผู้ชมที่มีเกือบ 200000 คนด้านล่าง แล้วหัวใจเขาก็เต้นรัว


แต่อย่างไรก็ตาม หลิน เฟิงก็ตั้งสติได้ในที่สุด เขาเองไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะมีผู้หญิงมาอยู่ในที่แห่งนี้ด้วย พลางรู้สึกประหลาดใจที่เธอมาปรากฏตัวในฐานะผู้แข่ง


เมื่อหลิน เฟิงมองไปที่ผีสาวที่อยู่อีกฝั่ง ผีสาวคนนั้นก็มองกลับมาที่หลิน เฟิงเช่นกัน


หลิน เฟิงเองก็ได้รู้เรื่องมาจากชายผู้สง่าอย่างจิ้งเฟิงแล้วว่าผีสาวคนนี้เองก็ถือว่าเป็นคนที่ทรงพลังเอาการอีกทั้งยังปรากฏตัวมาแค่สามเดือนก่อนเท่านั้น และก็ไม่เคยแพ้เลยนับตั้งแต่ปรากฏตัวออกมา


ยิ่งไปกว่านั้น เธอนั้นเป็นคนที่โหดเหี้ยมเอามากๆ และฆ่าคนไปแล้วหลายคนด้วย


ดังนั้น ผู้คนจึงได้รู้จักเธอในชื่อของผีสาวนั่นเอง


และจิ้งเฟิงยังพูดกับหลิน เฟิงด้วยอีกว่าบางคนก็ถึงกับยอมแพ้เมื่อรู้ว่าต้องสู้กับเธอ เพราะสิ่งที่ได้ไม่ใช่จะแพ้หรือจะชนะหรอก แต่เป็นเรื่องจะอยู่หรือจะตายต่างหาก


นั่นคือเหตุผลว่าทำไมความนิยมในตัวเธอถึงสูงลิ่ว หรือจะกล่าวได้ว่าเป็นจุดสูงสุดเลยด้วย เพราะความนิยมเธอนั้นมีมากกว่า 100000 เลยซึ่งมีเหนือกว่าลานประลองธรรมดาๆเป็นไหนๆ


หลิน เฟิงเองก็ไม่ได้คิดว่าเขามาอยู่ที่นี่นานแค่ไหน หนึ่งหรือสองสัปดาห์กันแน่ แล้วเขาก็ได้มาพบคู่แข่งแบบนี้ซึ่งนี่ทำเอาเขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น