CF:บทที่ 799 หาเหาใส่หัว
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ได้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงแรมเลย
อย่างไรก็ตาม, เรื่องบางอย่างเหมือนกับว่าจะไม่ยอมจบง่ายๆ
เมื่อเฉียนเผิงกลับไปที่บ้าน, เขาก็อารมณ์เสียใส่ครอบครัวของเขา, จากนั้นเขาก็ได้เพิ่มเติมบางอย่างลงไปในเรื่องของวันนี้ด้วย
เฉียนจื่อหนานนั้นรู้ดีว่าลูกชายของเขาเป็นคนอย่างไร, เขาจึงไม่ได้สนใจเฉียนเผิงในตอนแรก
จนกระทั่งเฉียนเผิงได้เอ่ยชื่อของซุยเอ็นเจียนและแจ็คเขาจึงได้จริงจังกับเรื่องนี้ขึ้นมา
"เจ้าหมายความว่าทั้ง 4 คนที่อยู่กับเจ้านั้นเลือกที่จะอยู่ต่อรึ"
"ใช่ครับ, ฉางจี๋นั้นไม่ไว้หน้าผมเลย, พ่อครับ คุณจะต้องหยุดให้พวกเขาเช่ายานอวกาศนะครับ"
"นั่งลงก่อน, นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ, ขอข้าตรวจสอบเรื่องนี้ก่อน"
เฉียนจื่อหนานนั้นรู้ถึงสถานการณ์ของตระกูลฉางดี, เขานั้นกังวลว่าตาเฒ่าฉางต้าเฉิงนั้นจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจยานอวกาศด้วย
มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้, เพราะกิจการให้เช่ายานอวกาศของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นก็ไม่ใช่ความลับอะไรด้วย
และที่เขาได้รับส่วนแบ่งนั้นมาในระดับหนึ่ง, เหตุผลหลักๆเป็นเพราะพี่สาวของเขาทำงานอยู่ในฟิวเจอร์กรุ๊ป
แน่นอนว่า, เขาเข้าใจถึงพลังของฟิวเจอร์กรุ๊ปดี, จะต้องไม่ทำอะไรที่ผิดกฏหมายขณะที่ให้การร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ป
ไม่อย่างนั้น, หากเขาทำผิดกฏหมายเมื่อไร ไม่เพียงแต่เขาที่จะชิบหาย แต่ยังรวมถึงพี่สาวของเขาที่จะชิบหายตามไปด้วย
อย่างไรก็ตามนั้น, การปล่อยให้เช่ายานอวกาศของฟิวเจอร์กรุ๊ปเองถึงจะทำกำไรได้ดี, แต่หากรวมถึงปัญหาเรื่องของราคาเช่าและคุณสมบัติผู้เช่าที่สูงนั้น, ทำให้หลายคนไม่สามารถเช่นยานอวกาศจากฟิวเจอร์กรุ๊ปเองได้
จึงได้มีนายหน้าอย่างเฉียนจื่อหนานโผล่ออกมา, พวกเขาได้ปล่อยให้เช่ายานอวกาศในราคาที่ถูกกว่าของฟิวเจอร์กรุ๊บเพื่อสร้างความแตกต่าง
ซึ่งวิธีการนี้ถือว่าไม่ขัดต่อข้อกฏหมาย, แต่เป็นเรื่องของการกล้าได้กล้าเสีย
ส่วนเรื่องของตระกูลฉางนั้น, ตระกูลนั้นจำเป็นต้องการเช่ายานอวกาศเป็นจำนวนมาก
แต่ตระกูลของเขานั้นไม่มีความสามารถพอที่จะเช่ายานอวกาศจำนวนมากจากฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อค้นหาวัตถุดิบทำอาหารได้
ในปัจจุบัน, ถึงแม้ว่าธุรกิจโรงแรมนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
แต่ทว่า, การแข่งขันในธุรกิจนี้ก็กลับดุเดือดมากขึ้นกว่าแต่ก่อน, โดยเฉพาะหลังจากที่ปล่อยสารานุกรมวัตถุดิบทำอาหารของมนุษย์อวกาศมา, ทำให้เหล่าเศรษฐีต่างสนใจใคร่รู้และยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อวัตถุดิบทำอาหารอวกาศเหล่านี้
ยิ่งไปกว่านั้น, ในสารานุกรมวัตถุดิบอาหารที่อู๋ฮ่าวเหรินได้เผยแพร่ออกมานั้น, มีอาหารจำนวนมากมายที่ทำจากวัตถุดิบนั้นแล้วจะทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น
และด้วยเครื่องครัวใหม่ๆและวัตถุดิบใหม่ๆ, ทำให้ร้านอาหารทั้งหมดที่ปราศจากทั้งสองอย่างนี้ถูกกำจัดไป
เฉียนจื่อหนานจึงได้โทรศัพท์ไป, เขาต้องการที่จะตรวจสอบสถานการณ์เพื่อดูว่าตระกูลฉางนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่
----------------------------------------------------------
หลังจากที่ทานมื้อค่ำแล้ว, ยกเว้นดาฟเน่ที่แยกตัวไปกับอู๋ฮ่าวเหรินและหลิวหมิงเยี่ย, ทั้ง 4 คนที่เหลือยังไม่ได้แยกตัวไป, แต่หาที่นั่งพักผ่อนคลายและคุยกัน
วันนี้ถือวันโชคดีสำหรับพวกเขามาก, พวกเขาไม่คิดว่าจะได้เจอกับอู๋ฮ่าวเหรินที่นี่
โดยเฉพาะแจ็คและชาวเกาหลีทั้งสองคน, ธุรกิจของตระกูลพวกเขานั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับฟิวเจอร์กรุ๊ป
ถ้าพวกเขาสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อทำการติดต่อกับฟิวเจอร์กรุ๊ปได้, มันก็ถือได้ว่าเป็นโชคดีมากสำหรับพวกเขา
หลังจากที่ทั้ง 4 คนได้คุยแลกเปลี่ยนกันอย่างลึกซึ้ง, พวกเขาก็แยกทางกัน
หลังจากที่ฉางเจี๋ยได้แยกตัวออกมา, เขาก็รีบตรงกลับไปที่บ้านและได้โทรหาพ่อของเขาระหว่างทาง
หลังจากที่ทำการยืนยันเรื่องนี้จากฉางเจี๋ยว่าเป็นความจริง, ฉางต้าเฉิงก็รีบกลับบ้านด้วยความตื่นเต้น
เขาไม่คิดว่าลูกชายของเขานั้นจะโชคดีที่ได้พบกับบุคคลในตำนานเช่นนั้น
เป็นที่รู้กันดีว่า, โรงแรมในเครือตระกูลฉางของพวกเขานั้นมีสาขามากกว่า 10 สาขาในเมืองใหม่ต่างๆ, และกลายมาเป็นเศรษฐีคนหนึ่งของสหภาพ
อย่างไรก็ตาม, มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะได้พบกับพนักงานระดับสูงของฟิวเจอร์กรุ๊ป
บางทีต่อให้เขาเดินไปเจอกับพวกเขา, พวกเขาก็คงจะไม่สนใจเขาแน่นอน
ใครๆต่างก็รู้ดีว่าสวัสดิการของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นดีมาก, และก็รู้ดีด้วยว่าพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นมีเงินมาก, และใครที่ได้ทำงานกับฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นก็จะมีอนาคตที่สดใส
ในเวลานี้, ไม่รู้ว่ามีผู้คนที่มากมายขนาดไหนที่ต้องการที่จะเข้าบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปในทุกๆปี, แต่ก็ต้องผิดหวังที่เพราะคนที่จะสามารถเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปได้จริงๆนั้น มีเพียงแค่หยิบมือในแต่ละปี
ฟิวเจอร์กรุ๊ปในปัจจุบันนั้นไม่ได้เหมือนกับแต่ก่อนแล้ว, ที่จะเข้าง่ายมาก
ดังนั้น, ใครก็ตามที่เคยมีโอกาสได้เข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว กลับปฏิเสธไปก็คงจะต้องเสียดายจนอยากเอาหัวชนกำแพงตาย
ถ้าเกิดว่าพวกเขาสามารถสร้างความสัมพันธ์กับฟิวเจอร์กรุ๊ปได้จริงๆ, การพัฒนาของโรงแรมของเขาก็จะเป็นไปได้ด้วยความเร็วเท่ากับยานอวกาศ
"เสี่ยวเจี๋ย, เป็นเขาจริงๆงั้นเหรอ?"
"ได้รับการยืนยันแล้วครับ, ว่าแต่ท่านพ่อยังไม่รู้ตัวตนของหลิวหมิงเยี่ยงั้นเหรอครับ?"
ฉางเจี๋ยนั้นสงสัยขึ้นมา, เขาไม่รู้ถึงตัวตนของหลิวหมิงเยี่ยมาก่อน, แต่จากที่เขาได้ทำการค้นหาข้อมูลตัวตนของหลิวหมิงเยี่ยจึงได้รู้ว่า เธอคือพนักงานอาวุโสในระดับสูงของฟิวเจอร์กรุ๊ป
ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นพนักงานชุดแรกของฟิวเจอร์กรุ๊ป หรือเป็นพนักงานที่สนิทสนมกับอู๋ฮ่าวเหรินมาก
"ไม่เลย, พ่อเคยพบกับพ่อของหลิวหมิงเยี่ยในงานปาร์ตี้น่ะ, เขาบอกว่าเขามีลูกสาวที่ทำงานอยู่ในฟิวเจอร์กรุ๊ปและยังไม่ได้แต่งงาน, พ่อเลยคิดว่าน่าจะให้เจ้าลองไปดูตัวกับเธอดู"
ฉางเจี๋ยพูดอะไรไม่ออก, เขาจำได้ว่าในตอนนั้นพ่อของเขาดูไม่สนใจหลิวหมิงเยี่ยมากนัก
ซึ่งหลังจากที่เขาได้พบกับหลิวหมิงเยี่ยแล้ว, พ่อของเขาก็ยังดูไม่สนใจอะไรในตอนที่เขาพูดถึงที่บ้าน
"ดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้าง, โชคดีที่ไม่มีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้น"
ฉางต้าเฉิงหัวเราะ "ฮ่าๆ, ลูกชายข้าช่างโชคดีจริงๆ, น่าเสียดายถ้าเจ้าได้แต่งงาน, ก็คงได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้แล้ว"
ฉางจี๋ทำได้แค่ยิ้มแบบหมดแรง, เพราะโดนอีกฝ่ายปฏิเสธไปแล้ว แล้วตอนนี้เขารู้ตัวตนของหลิวหมิงเยี่ยแล้วด้วยทำให้เขาไม่กล้าที่จะรุกแบบแต่ก่อนได้อีก
ถ้าเขารีบร้อนเกินไป, และมีใครเอาไปพูดเข้า ธุรกิจของเขาคงได้จบเห่แน่
"จะว่าไป, เรื่องของเฉียนเผิงของตระกูลเฉียนในวันนี้นั้น มีปัญหาอะไรตามมารึเปล่าครับ?"
"ฮ่าๆๆ, ต่อให้มีปัญหาก็ไม่เป็นไรหรอก, แต่ต้องขอบคุณเขานะ, ถ้าเขาไม่โผล่มาเจ้าก็คงพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว"
ฉางจี๋ผงกหัว, ถ้าไม่ใช่เพราะเฉียนเผิงโผล่มา, เขาก็คงไม่รู้ตัวตนของอู๋ฮ่าวเหริน
ใครจะไปคิดว่าคนอย่างเขานั้นโผล่มาที่นี่และบอกว่าเป็นแฟนหนุ่มของหลิวหมิงเยี่ย
ส่วนเรื่องที่อู๋ฮ่าวเหรินมีภรรยาอยู่แล้วนั้น, ฉางจี๋ไม่ได้ติดใจอะไรเรื่องนั้น
เพราะสังคมของมนุษย์ในปัจจุบันนั้น, หลังจากที่มีการก่อตั้งสหภาพมนุษย์และมีการประกาศใช้นโยบายที่สนับสนุนให้มีบุตรกันมากขั้น
หากมีการยินยอมแล้ว, การสมรสซ้อนนั้นกลายเป็นเรื่องที่ยอมรับได้
"ดูเหมือนตระกูลเฉียนจะโทรมา" ฉางต้าเฉิงมองดูที่โทรศัพท์มือถือของเขาแล้วพูดขึ้นมา
หลังจากที่ฟังโทรศัพท์อยู่สักพัก, ฉางต้าเฉิงก็ยิ้มและไม่พูดอะไร
เขาไม่คิดว่าตระกูลเฉียนนั้นจะกล้ามากที่เอาเรื่องนี้มาขู่เขา
ฟังจากน้ำเสียงแล้ว, ถ้าเขาไม่ให้ลูกชายของเขาออกมาขอโทษ, ตระกูลเฉียนจะยกเลิกการร่วมมือกับตระกูลเขา
หลังจากที่รับโทรศัพท์ได้สักพัก, ฉางต้าเฉิงก็พูดขึ้นมาแค่ไม่กี่คำ แล้วหลังจากนั้นก็พูดแต่ว่า อ้าๆ
หลังจากที่วางสายไป, เขาก็หัวเราะตาหยี
"ท่านพ่อครับ, ตระกูลเฉียนมาเอาเรื่องกับพวกเรางั้นเหรอครับ?"
"ใช่แล้ว, เขาบอกด้วยว่า, ถ้าเจ้าไม่ออกมาขอโทษลูกชายของเขา, พวกเขาจะตัดการร่วมมือกับพวกเรา, แต่ทว่านะดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เพ่งเล็งเรื่องนี้เท่าไร, เขาน่าจะสงสัยว่าพวกเรากำลังมองหาผู้ร่วมธุรกิจคนใหม่แน่ๆ"
"ฮ่าๆ, ตระกูลเฉียนของพวกเขานั้นไม่มีอะไรหรอก, พวกเขาทำเงินได้อย่างมากมายจากการร่วมมือกับพวกเรา, และทุกครั้งที่พวกเขาไปข้อความร่วมมือนั้นพวกเราก็มักถูกกดดัน หรือไม่ก็ให้พวกเราขอโทษกับพวกเขา"
"แต่ไม่ใช่ในครั้งนี้, คุณสามารถติดต่อกับแจ็คและซุนเอ็นเจี๋ยนได้แล้ว, ถ้าจะให้ดีคุณเชิญเขามาที่นี่พรุ่งนี้และพาเขาไปเที่ยวรอบๆ"
ฉางจี๋ผงกหัวและพูดขึ้น "ได้ครับ, ผมจะไปติดต่อไปหาพวกเขาพรุ่งนี้ครับ"
0 ความคิดเห็น