CF:บทที่ 746 หลบหนี

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 746 หลบหนี

 

เหล่าผู้นำของชาวโครน่ารู้ดีว่าพวกเขานั้นจะต้องมีเวลาเพียงพอที่จะหลบหนี

 

ดังนั้นพวกเขาเพื่อเตรียมแผนการหลบหนีของพวกเขา, พวกเขาได้ส่งกองยานของชาวโครน่าออกไปเพื่อต่อต้านการโจมตีของยานรบเหล่านี้

 

เพื่อที่ชาวโครน่าจะได้มีชีวิตต่อไป, ต่อให้มีชาวโครน่าต้องเสียสละก็ถือว่าคุ้ม

 

ทรัพยากรจำนวนมากและข้าวของมีค่าต่างถูกขนขึ้นยานขนส่ง, ซึ่งเดิมทีจะต้องส่งทรัพยากรพวกนี้ไปที่แนวหน้า, แต่จริงแล้วมันกลับถูกขนส่งเป็นการลับ

 

ชาวโครน่าบางคนไม่ได้รู้เลยว่าตั้งแต่แรกของศึกครั้งนี้นั้น, เหล่าผู้นำได้เลือกที่จะหนีแล้ว

 

แน่นอนว่า, มีบางคนที่พอจะคาดการณ์ออกว่าอำนาจการโจมตีของกองยานรบเหล่านั้นทั้งทรงพลังและน่าสะพรึงกลัว

 

นอกจากนี้, พวกเขายังรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงแปลกๆบางอย่าง, โดยปราศจากซึ่งลางสังหรณ์, ก็พบว่าพวกเขากำลังเริ่มขนส่งเป็นการลับ

 

คนพวกนี้ฉลาดมาก, พวกเขารู้ดีว่าถ้าคนพวกนั้นต้องการที่จะเคลื่อนไหว, ก็ยังจะต้องใช้เวลา, ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เปิดเผยเรื่องการที่พวกเขาพบออกไป

 

มีภาพแปลกๆเช่นนี้ต่อบรรดาชาวโครน่าแล้ว, เหล่าผู้นำกำลังที่จะต่อต้านผู้รุกรานและส่งกองยานรบจำนวนมากออกไปที่แนวหน้าเพื่อสนับสนุนพวกเขา

 

ในขณะที่กำลังขนส่งข้าวของมีค่าของพวกเขาอยู่นั้น

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขา ยังได้ส่งนายพลคนหนึ่งออกไปเคลื่อนไหวเพื่อโฆษณาชวนเชื่อบอกให้คนทั่วไปได้ทราบว่าศัตรูที่มารุกรานพวกเขานั้นไม่ได้ทรงพลังมากมายและอีกไม่นานพวกเขาก็จะได้รับชัยชนะ

 

นอกจากนี้, ยังได้มีข้อมูลบางอย่างที่ได้ถูกสกัดกั้นเอาไว้ก่อน, นั่นคือผลของสถานการณ์ของสงครามในแนวหน้า, ซึ่งไม่สามารถถูกส่งมายังแนวหลังให้ทุกคนได้เห็นไม่ได้

 

กองยานร่วมของทั้ง 6 อารยธรรม, ที่ราวกับหมาป่าทั้ง 6 ฝูง, ได้ฝ่าเข้ามายังเขตแดนของฝูงแกะ

 

หลังจากที่วงล้อมนั้นได้ถูกทำลายไปแล้ว, พวกเขาได้ทำการเก็บกวาดสนามรบอย่างง่ายๆ, และหันหัวยานแยกออกจากกันแล้วมุ่งหน้าออกไปทั้ง 6 ทิศทาง และเริ่มโจมตีเขตดาวที่ชาวโครน่าปกครองอยู่

 

ซึ่งการโจมตีในครั้งนี้ไม่ใช่การลอบโจมตีอีกแล้ว, แต่การบุกอย่างสุดกำลัง

 

เมื่อใดที่พบดาวที่มีทาสอยู่, ก็ได้เกิดการนองเลือดในทันที

 

สงครามนั้นคือสถานที่ๆดีที่สุดในการทดสอบสมรรถนะของอาวุธ, โดยเฉพาะสงครามอวกาศขนาดใหญ่

 

ซึ่งในบรรดาอารยธรรมทั้ง 6 นั้น, มีอยู่ 2 อารยธรรมที่ได้สั่งชุดเกราะรบมาจากอู๋ฮ่าวเหริน, แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้สั่งมามากนัก, พวกเขาสั่งมาเพียงพอแค่ก่อตั้งหน่วยรบชุดเกราะจำนวน 1 พันนายหน่วยเดียวเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม, ความเร็วในการโจมตีของทั้ง 2 อารยธรรมนี้ก็เร็วกว่าอีก 4 อารยธรรมที่เหลือถึง 20%

 

เมื่อทำการสู้รบในภาคพื้นดวงดาว, ชุดเกราะรบก็ได้แสดงสมรรถนะที่ทรงพลังของชุดเกราะรบให้ได้เห็นและทำให้ทหารภาคพื้นดินของชาวโครน่าถึงกับสิ้นหวัง

 

เมื่ออาวุธที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขาไม่สามารถทำการล็อคเป้าหมายที่หน่วยรบชุดเกราะเหล่านี้ได้, เหล่าทหารก็ไม่สามารถต้านทานการบุกโจมตีนี้ได้เลย

 

ข่าวนี้ได้แพร่ไปทั่วทั้ง 2 อารยธรรมนี้อย่างรวดเร็ว, และจากนั้นข่าวจึงได้เผยแพร่ออกไปยังอารยธรรมทั้ง 4 ที่เหลือ

 

แน่นอนว่า, หลังจากสงครามนี้จบลง, ชุดเกราะรบของอู๋ฮ่าวเหรินจะได้กลายมามีชื่อเสียงอีกครั้ง

 

น่าเสียดายที่, ชุดเกราะรบในปัจจุบันนั้นยังไม่ได้พัฒนาถึงขึ้นที่จะใช้สู้รบในอวกาศได้อย่างดี, ดังนั้นชุดเกราะรบจึงมีชื่อเสียงแค่การรบภาคพื้นดินเท่านั้น

 

อีกทางด้านหนึ่ง, ชาวโครน่าที่กำลังถูกโจมตีนั้น, ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าพินาศไปหมดทั้งแนวหน้านั้น, พวกเขาได้พยายามที่จะต่อต้านการโจมตีของยานรบ, แต่ก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเขานัก, ไม่ว่าจะในด้านอาวุธหรือยานรบ

 

บางทีสิ่งเดียวที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจของพวกเขาในเวลานี้คือการสู้อยู่ในฐานและให้ป้อมปืนป้องกันคอยช่วย

 

ถึงอย่างนั้น, กองยานที่ทรงพลังของทั้ง 6 อารยธรรมก็ยังสามารถเคลื่อนที่ฝ่าเข้ามาโดยไม่ได้กังวลถึงอะไรเลย

 

เหล่าผู้นำของชาวโครน่าที่ต้องการที่จะหลบหนีนั้น, ต่างก็มองดูสถานการณ์การสู้รบล่าสุดแล้ว, และรู้สึกว่าที่พวกเขาทำอยู่นั้นคิดถูกแล้ว

 

ดังนั้นคนพวกนี้จึงได้เร่งรีบกว่าเดิม, ทรัพยากรมากมายถูกส่งออกไปโดยพวกเขาในนามของขนส่งทรัพยากรไปที่แนวหน้า

 

ยิ่งไปกว่านั้น, คนเหล่านี้จะได้ใช้การประชาสัมพันธ์ทำให้ผู้คนทั่วไปกระตือรือร้นที่จะออกมาสู้ต่อต้านให้มากขึ้นไปอีก

 

ชาวโครน่าที่อยู่แนวหลังจึงได้เริ่มทำการบริจาคและของมีค่าเพื่อสงคราม, มีแม้กระทั่งบางคนที่พยายามหาทางที่จะเข้าร่วมเพื่อสู้รบในแนวหน้าด้วย

 

เหล่าผู้นำนั้นรู้ดีว่ากระดาษนั้นไม่สามารถห่อหุ้มไฟได้, และพวกเขาจึงได้เคลื่อนไหวเร็วขึ้นกว่าเดิมเพื่อหลบหนี, และยังจำเป็นต้องเลือกสถานที่ที่จะไปอีกด้วย

 

เพราะกองยานที่มาโจมตีนั้นทรงพลังมากเกินไป, และดูเหมือนว่าจะไม่ได้มาแค่อารยธรรมเดียว

 

ในเมื่อเป็นเช่นนี้, พวกเขาก็จะไม่สามารถใช้เส้นทางเดิมในการหลบหนีได้, พวกเขาจำเป็นที่จะต้องเลือกสถานที่ใหม่

 

จากนั้น, คนเหล่านี้จึงได้เริ่มค้นหาเขตดาวที่ปลอดภัยกว่านี้ในข้อมูลของพวกเขาและหลบหนี

 

"กองเรือที่มาโจมตีพวกเรานั้นมาจากทิศทางนี้, ถ้าพวกเราต้องการที่จะหนีจากพวกเขา พวกเราจะต้องหาเส้นทางที่พวกเขาจะไม่สามารถคิดออกได้"

 

"เส้นทางนี้ไม่ดี, พวกเขาจะต้องคิดได้แน่นอนว่าถ้าพวกเขาบุกตีมาในทางนี้, พวกเราก็จะหลบหนีมาทางนี้ แล้วก็ตายแน่นอน, บ้าจริง, เส้นทางหลบหนีเดียวที่จะหลบหนีและไม่มีอารยธรรมที่แข็งแกร่งก็ถูกขวางโดยพวกเขาแล้วอีก"

           

คนเหล่านี้นั้นต่างก็สิ้นหวัง, เพราะรอบๆอารยธรรมโครน่านั้น, พวกเขาได้สำรวจมาหมดแล้ว, ซึ่งในหลายๆเขตดาวนั้นล้วนถูกยึดครองโดยอารยธรรมที่ทรงพลัง

 

แน่นอนว่า, ข้อมูลเหล่านี้พวกเขาต้องแลกมาด้วยชีวิตและเลือดเนื้อของพวกเขา

 

"พวกเราจะต้องอ้อมไป, มันอันตรายก็จริง, แต่ถ้าพวกเราหนีไปที่นี่ได้, พวกเขาจะต้องคิดไปไม่ถึงแน่นอน"

 

"แล้วก็, คุณจะเห็นได้ว่า, ดูเหมือนว่าที่นี่จะถูกยึดครองโดยอารยธรรมเล็กๆ, พวกเราจะต้องโจมตีอารยธรรมเล็กๆที่นี่และยึดเอามาเป็นเขตแดนของพวกเราเสีย, ซึ่งก็จะดีมาก"

 

"ข้าเห็นด้วย, มันเป็นความคิดที่ดี

 

ถ้าอู๋ฮ่าวเหรินอยู่ที่นี่, เขาก็จะรู้ได้ทันทีว่าเส้นทางที่คนพวกนี้ได้เลือกเอาไว้นั้น มันคือเส้นทางมุ่งไปยังทางช้างเผือก

 

ยิ่งไปกว่านั้น, พวกเขาคิดที่จะไปยังเขตดาวในทางช้างเผือกที่มนุษย์ยึดครองอยู่

 

ซึ่งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ, อู๋ฮ่าวเหรินต้องการที่จะใช้อารยธรรมของสหพันธรัฐเพื่อแก้ปัญหาเรื่องของชาวโครน่า

 

ซึ่งวิธีการของเขานั้นประสบความสำเร็จ, อารยธรรมจากสหพันธรัฐพบว่าสถานการณ์ของชาวโครน่านั้น จะสามารถทำการจัดการทำลายล้างพวกเขาได้จริงๆ

 

อย่างไรก็ตาม, เขาก็ไม่ได้คิดว่าผู้นำของชาวโครน่านั้นจะขี้ขลาดและเลือกที่จะหลบหนี

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ทิศทางที่หลบหนีไปนั้นยังเป็นที่ทางช้างเผือก, และยังมีเป้าหมายเป็นมนุษยชาติอีก

 

เหล่าผู้นำของชาวโครน่านั้นเด็ดขาดมาก, เมื่อพวกเขาตัดสินใจได้แล้ว, พวกเขาก็เริ่มลงมือกันทันที

 

พวกเขาไม่ได้เร่งรีบที่จะออกไปเพราะว่าพวกเขารู้ดีว่าพวกเขาจะต้องเคลื่อนย้ายทรัพยากรออกไปก่อน, แล้วจากนั้นพวกเขาก็จะใช้ข้ออ้างที่จะไปยังแนวหน้านี้เพื่อหลบหนี

 

อย่างไรก็ตาม, เหมือนจะมีบางอย่างที่อยู่นอกเหนือจากแผนการของพวกเขา

 

กองยานที่ทรงพลังทั้ง 6 อารยธรรมนั้น, ความเร็วในการรุกรานนั้นสูงมากเกินไป

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ข่าวจากแนวหน้านั้นไม่นานก็ถูกเปิดเผยออกมา, ไม่นานนักความแตกตื่นก็ได้ระบาดออกไปทั่วทั้งอารยธรรมโครน่า

 

ชาวโครน่านั้นเป็นอารยธรรมที่ชอบทำสงคราม, พวกเขาชอบฆ่าและทำลายอารยธรรมอื่นๆมากมาย

 

ในเวลานี้ความหวาดกลัวที่แท้จริงจะต้องเผชิญหน้ากับการสูญพันธุ์โดยคนอื่นบ้างแล้ว

 

นอกจากนี้, อารยธรรมต่างๆที่เคยตกเป็นทาสของชาวโครน่านั้นต่างก็เริ่มก่อกบฐ, เมื่อข่าวจากแนวหน้าออกมาก็ได้ทำให้พวกเขารู้ว่าโอกาสที่พวกเขาจะต่อสู้เพื่อต่อต้านชาวโครน่ามาถึงแล้ว

 

เหล่าผู้นำที่ต้องการที่จะแสร้งทำเป็นกองกำลังเสริมนั้นก็พบว่าเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหลบหนีอย่างที่คิดได้แล้ว

 

เมื่อเผชิญเข้ากับสถานการณ์นี้, พวกเขาจึงต้องยอมทิ้งกองทหารส่วนตัวของพวกเขาและส่งพวกเขาไปยังแนวหน้า, เพื่อถ่วงเวลาให้พวกเขา

 

แล้วจากนั้น, เหล่าผู้นำจึงได้เริ่มแผนการหลบหนีของพวกเขาอยู่บนพื้นดินโดยแสร้งทำเป็นว่าจะไปยังแนวหน้าเพื่อจัดการสงครามนี้ด้วยตัวเอง