RC:บทที่ 376 ศึกรอบแรก

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 376 ศึกรอบแรก


ในตอนนี้ เมื่อได้เห็นชายทั้งสองคนที่อยู่บนแท่นประลอง พวกเขาต่างก็รู้สึกตื่นเต้นและรอคอยที่จะได้ดูการต่อสู้ของพวกเขา


“คนๆนี้เป็นใคร ฉันว่าฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะ” ผู้ชมหลายคนในนั้นต่างมองไปที่หลิน เฟิงพลันนึกสงสัยขึ้นมา


“ฉันก็ไม่รู้จัก บางที อาจจะเป็นคนที่เพิ่งมาลงทะเบียนก็ได้ แต่ช่างเถอะ พนันข้างเจ้าหมีนั่นล่ะ ดีแล้ว ถ้าฉันจำไม่ผิดชายคนนี้น่าจะชนะมาสามเกมรวดแล้วล่ะ” อีกคนว่าขึ้น


“ใช่แล้ว แล้วนี่ก็เป็นเกมที่สี่ของเขาแล้ว เขานี่ม้ามืดตัวจริงเลยล่ะ แล้วทุกครั้งที่ฉันพนันฝ่ายตรงข้าม ก็แพ้เขาคนนี้ทุกทีเลย และนี่ฉันเลยต้องมาเอาเพิ่มนี่ล่ะ” ชายคนดังกล่าวโอดครวญ


แต่สิ่งที่หลิน เฟิงไม่รู้ก็คือว่าคู่แข่งของเขานั้นก็เป็นแค่มือสมัครเล่นเหมือนกัน และสู้มาแค่สามครั้งเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถประเมินพลังของเขาต่ำได้เช่นกัน ในการต่อสู้ทุกครั้งเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงและหนึ่งในคู่แข่งของเขาเอง ต่างก็รู้ว่าเขานี่ล่ะคือม้ามืดคนล่าสุด


“ไม่จำเป็นต้องดูแล้วล่ะ ฉันจะพนันฝั่งหมี และถ้าฉันไม่รีบ ก็คงไม่มีโอกาสเอาชนะคู่แข่งในภายหลังได้อีก” อีกคนในนั้นว่าขึ้นอีก


“เฮ้อ บ้าจริง ครั้งก่อนที่ฉันต้องการดูเจ้าหมีนั่น ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งของเขาได้ด้วยอุ้งเท้าข้างเดียว และก็ทำให้ฉันเสียหินวิญญาณไปตั้ง 10000 ชิ้นในการเข้ามาที่นี่” ชายคนดังกล่าวเองก็พูดว่าเขาเองก็เสียพนันเพราะเจ้าหมีนี่


มีเพียงแค่หวัง ฉีและ ปาเต๋าเท่านั้นที่พนันอยู่ข้างหลิน เฟิง


“นี่ พี่ชาย ถ้าพี่เข้าใจไม่ผิด เจ้าหมีนี่คงจะเป็นม้ามืดตัวใหม่สินะ แถมยังแกร่งเอาการเสียด้วย แล้วนี่ไปพนันอีกฝ่ายได้ยังไง” จนกว่าปาเต๋ากับหลิน เฟิงจะชนะการต่อสู้ หนึ่งในนี้จะต้องนึกถึงพวกเขาขึ้นมาแน่ๆ


ทว่าปาเต๋ากลับเพียงยิ้มๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เสาะหาความมั่งคั่งในยามอันตราย บางทีผู้มาใหม่อาจจะชนะก็ได้นะครับ แล้วพวกเราก็จะได้เงินเยอะแยะเลยเชียวล่ะ”


“ชิ จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง พละกำลังของเจ้าหมีดุนั่นถือว่าเป็นอันดับต้นๆในบรรดาผู้ใช้พลังระดับ A เลยเชียวนะ จะเอาชนะกันไม่ได้ง่ายๆหรอก” 


“นั่นไง อย่าฝันกลางวันกันไปหน่อยเลยน่า ผมขอแนะนำคุณเลยนะว่าให้พนันตามเราเถอะ จะได้ไม่ต้องเสียมากทีหลัง” 


“ต้องได้สิ ฉันได้หินวิญญาณระดับต่ำมาหมื่นชิ้นตามพวกนาย...”


เมื่อปาเต๋าได้ยินเขาพูดแบบนั้น ก็ได้แต่ยิ้มๆ จากนั้นก็ส่ายหัวก่อนจะไม่ได้สนใจอะไรพวกเขาอีก พลางถอนหายใจ เฮ้อ ช่างไม่รู้อะไรเลย คนพวกนี้


ในขณะที่ผู้คนพูดคุยกันอยู่นั้นเอง หลิน เฟิงก็ได้ยินคนพูดถึงชายร่างสูงตรงหน้าคนนี้กันมาก แม้แต่ผู้ชมที่กำลังดูอยู่ด้วยก็เหมือนกัน


แต่หลิน เฟิงไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยสักนิด หลังจากที่หลิน เฟิงก้าวเข้ามา เขาก็ขยับกล้ามเนื้อและกระดูกไปมา อย่างไม่สนใจชายร่างใหญ่ตรงหน้าเลยด้วยซ้ำหรือจะแม้แต่ผู้คนจากเวทีก็ตาม


ชายที่สวมหน้ากากหมียักษ์ดูมีท่าทีสงสัยใคร่รู้เมื่อได้เห็นหลิน เฟิง รวมถึงผู้คนเองเมื่อได้เห็นหลิน เฟิง พวกเขาก็รู้สึกกลัวที่ตัวเองกลัวแบบนั้น แต่หลิน เฟิงกลับไม่ได้แสดงท่าทีอะไร อีกทั้งยังมีท่าทีสบายๆอีกด้วย ราวกับว่ารอเวลานี้อยู่แล้ว


ซึ่งตรงข้ามกับคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ชายผู้แข็งแกร่งคนนั้นสนใจในตัวหลิน เฟิงมากขึ้นไปอีก


ในตอนนี้เอง จำนวนผู้ชมที่อยู่ฝั่งหลิน เฟิงนั้นมีไม่มากนัก แค่ไม่กี่พันคนเท่านั้นเอง


นั่นก็เป็นเพราะหมีผู้ดุร้ายตัวนี้ชนะติดๆกันสามครั้งแล้วนั่นเอง และส่วนใหญ่จะเอาชนะได้จากการจัดการศัตรูด้วยแรงส่งเพียงรวดเดียว


ไม่อย่างงั้นแล้ว ผู้ต่อสู้หน้าใหม่ธรรมดาอย่างระดับ A คงไม่มีคนมาดูมากมายถึงขนาดนี้แน่ อย่างดีก็ร้อยนิดๆนั่นล่ะ ไม่มากถึงขนาดนี้


แต่ทว่าในตอนนี้ ดูเหมือนความนิยมที่ชายหน้ากากหมีคนนี้มีนั้นจะทำให้หลิน เฟิงดูอับอายไปเลย


“เมื่อทั้งสองฝั่งพร้อมกันแล้ว การต่อสู้ก็จะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้ และในขณะที่ดูก็ให้พนันกันได้เลย ไม่อย่างงั้น จะไปพนันช่วงสุดท้ายของการต่อสู้อาจจะทำไม่ได้แล้วนะครับ” ในตอนนั้นเอง เสียงวิทยุก็ดังขึ้นในสนามแข่ง 


เมื่อเสียงนั้นดังขึ้น คนก็ลังเลว่าจะพนันชายที่สวมหน้ากากหมีดีไหม ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ใส่หน้ากากหมีก็แข็งแกร่งมากในสามเกมแรกซึ่งคู่แข่งเป็นแค่คนธรรมดาๆ


ไม่นาน ทุกคนก็พนันกันเกือบเสร็จ พลางรอคอยที่การแข่งจะเริ่มขึ้น


“เดาซิ ว่าจะจัดการกับไอ้หน้าใหม่นั้นยังไง” ผู้ชมที่เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังดื่มไวน์พลางหรี่ตาไปที่คนมากมาย


“ไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าจะผ่านมาได้แล้วสามเกม คู่แข่งของเจ้านี่ถูกจัดการภายในสามเกมเลยนะครับ” ชายในวัยเดียวกันกับเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้ๆกันว่าขึ้น


“ก็เกือบจะ ท่านหยุนเชา นี่คือคนที่นายท่านอยากจะได้ใช่ไหมครับ” ชายคนที่ข้างๆอีกคนว่าขึ้น


“ก็จะสามารถได้รับการพิจารณาว่าเป็นคนเก่งคนหนึ่งเลย  และถ้าชนะถึงสิบเกมรวด เขาก็จะได้รับการพิจารณารายได้ด้วย แต่ถ้าไม่ ฉันก็จะไม่เลี้ยงให้เสียเงินเปล่าหรอก” ชายหนุ่มคนดังกล่าวว่าขึ้นพลางจิบไวน์ไปด้วย


“เริ่มสู้ได้”


แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ผู้คนพูดกันถึงเรื่องนี้ กรรมการก็ได้ประกาศให้เริ่มแข่งได้ พลางมองไปที่ผู้คนทั้งหมดตรงนั้น


เมื่อกรรมการพูดจบ ชายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าหลิน เฟิงที่มีฉายาว่าหมีดุ ก็ระเบิดอารมณ์เกรี้ยวกราดออกมาทันที ร่างเดิมที่เป็นร่างกายใหญ่โตก็ได้ขยายขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ และนั่นก็ทำเอาผู้คนถึงกับอึ้งไป


ความสามารถของชายคนนี้มีความคล้ายคลึงกับการเปลี่ยนร่างเป็นสัตว์อย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังต่างกับการแปลงร่างเป็นสัตว์จริงๆอยู่ดี และดูเหมือนจะเป็นแค่การขยายร่างเท่านั้น


ในขณะเดียวกันนั้นเอง แรงส่งของชายคนนั้นก็น่ากลัวอยู่ไม่น้อย หลิน เฟิงสัมผัสได้ถึงพละกำลังที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเลยด้วย


ระดับของเขาน่าจะไปเกือบถึงระดับ S แล้วแน่ๆ แต่ทว่าในตอนนี้ เขาเองก็ไม่รู้ว่าหมอนี่ใช้วิชาลับอะไร แล้วทันใดนั้นเอง ลมหายใจอันชวนขนลุกภายใต้ร่างกายที่ใหญ่โตก็ได้แผ่ออกมา เหมือนกับจะขึ้นไปถึงระดับ S ได้เลย


แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น สีหน้าของหลิน เฟิงก็ยังคงเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเย็นเยียบ


“สัตว์อสูรสิงโตทอง”


ต่อมา ร่างกายของหลิน เฟิงก็เริ่มเปลี่ยนไป ก่อนที่ร่างของเขาจะขยายขึ้น แล้วแสงสีทองก็ล้อมรอบตัวเขา กรงเล็บที่ทั้งแกร่งและคมก็งอกออกมาเหมือนกรงเล็บสิงโตจริงๆ


แม้แต่ผมของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีทอง แสงสว่างบนนั้นไหลเวียนวนไปมาพลางทำให้เกิดเสียงแปลกๆด้วย ทุกคนต่างประหลาดใจเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้านี้ เพราะลมหายใจของหลิน เฟิงนั้นไม่ได้อ่อนไปกว่าของชายผู้สวมหน้ากากหมีดุเลย 


พลันคนที่สวมหน้ากากหมีก็พุ่งเข้ามาที่หลิน เฟิงราวกับว่าจะจบปัญหานี้ให้เร็วที่สุด แล้วพุ่งเข้าโจมตีเขาในทันใด


เมื่อหลิน เฟิงเห็นแบบนั้นเข้า เขาก็ยกหมัดขึ้นมา หมัดทั้งสองของพวกเขาต่างเข้าปะทะกันต่อหน้าผู้คน และต่อมา ก็เกิดเสียงดังสนั่นราวกับสนามแข่งกำลังจะถล่ม


ตูม 


แล้วร่างก็ปลิวกระเด็น ประกายแสงดังเสียดสีกันไหลเวียนไปทั่ว พร้อมกับควันสีดำที่พุ่งออกมา


เมื่อผู้คนได้เห็นร่างนั้นชัดๆ พวกเขาก็ถึงกับชะงักไปด้วยความอึ้ง เพราะชายคนนั้นก็คือชายผู้สวมหน้ากากหมีนั่นเอง


และในตอนนั้น ทุกๆคนก็ได้เห็นว่าร่างของเขากระเด็นถอยไป ก่อนจะร่วงลงสู่ลานประลองในสภาพที่น่าอับอายและตกลงมาอย่างหนักบนพื้น แสงสว่างวาบขึ้นไปทั่วร่างของเขา แล้วทันใดนั้นเอง ร่างของเขาก็เกิดสั่นอย่างแรง


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น