RC:ตอนที่ 373 มวยเถื่อนที่ใต้ดิน

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:ตอนที่ 373 มวยเถื่อนที่ใต้ดิน


หลังจากได้ฟังในสิ่งที่หวัง ฉีถามแล้วนั้น หลิน เฟิงก็นิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น “ไม่มีอะไรหรอก คือวันนี้ผมออกไปข้างนอกแล้วเจอพวกคนญี่ปุ่นแล้วก็คนจากสมาคมป้องกันประเทศน่ะ แล้วก็ได้คุยอะไรกัน แล้วทีนี้ทางสมาคมต้องการตัวผมให้เข้าร่วมกับเขาด้วย แล้วผมก็ตอบตกลงไป”


เมื่อหวัง ฉีได้ยินว่าหลิน เฟิงได้เข้าร่วมกับทางสมาคมป้องกันประเทศแล้วนั้น เขาไม่ได้นึกฉงนหรือพูดอะไรออกไป เพราะยังไงตัวตนของหลิน เฟิงก็เป็นแบบนี้ สิ่งที่เขาทำ คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาอย่างพวกเขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งอยู่แล้ว ปล่อยให้เขาเป็นผู้ตัดสินใจแบบนี้ล่ะ


หวัง ฉีไม่ได้พูดอะไรออกไปโดยทันที เพราะเขาเชื่อฟังในคำพูดของหลิน เฟิง และที่แน่ๆก็รู้ด้วยว่าหลิน เฟิงจะต้องมาหาถ้าเขาเจอกับปัญหา และโชคดีที่ในตอนนี้หลิน เฟิงยังโอเคอยู่ ไม่อย่างงั้นล่ะก็ เขาเองก็ไม่รู้จริงๆว่าจะไปเผชิญหน้ากับหัวหน้าหวัง ฮ่าวหมิงได้อย่างไร


“ท่านผู้บริหาร เดี๋ยวผมจะหาบอดี้การ์ดเก่งๆสักคนให้นะครับ” หวัง ฉีกล่าว


หลิน เฟิงส่ายหน้า พลางยิ้มก่อนจะเอ่ยขึ้น “ฮ่าๆ ไม่เป็นไรน่า มีไม่กี่คนเองที่จะทำร้ายฉันได้ แล้วก็ นายรู้ไหมว่าแถวๆนี้มีสถานที่ที่ให้ผู้มีพลังสู้กันหรือเปล่า ที่คล้ายกับวิธีที่คนธรรมดาใช้สู้กันด้วยหมัดเถื่อนที่ใต้ดินน่ะ”


เมื่อหวัง ฉี่ได้ยินแบบนั้น เขาก็ได้กล่าวขึ้น “ ท่านครับ ท่านต้องการอะไรถึงทำแบบนี้ ท่านไม่ได้อยากไปหรอก ใช่ไหมครับ”


หลิน เฟิงพยักหน้าก่อนจะว่าขึ้น “อยากสิ เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนจะถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ก็เลยอยากหาคนเก่งๆมาสู้กัน เพื่อพัฒนาทักษะการต่อสู้และหาคนที่จะเอาชนะฉันได้”


เมื่อหวัง ฉีได้ยินแบบนั้น เขาก็รู้สึกอายขึ้นมาเล็กน้อย เพราะเขารู้จักที่แบบนั้นเสียด้วย แต่มันคงไม่เหมาะกับหลิน เฟิงที่จะให้เข้าร่วมกิจกรรมแบบนั้น เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมา ไม่พ้นที่เขาต้องโดนหวัง ฮ่าวหมิงตำหนิแน่ๆ


“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ” เมื่อหลิน เฟิงเห็นใบหน้าที่ดูหมองลงของคนตรงหน้า ที่ไม่พูดอะไรออกมานานเลย เขาจึงอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้


หวัง ฉีจึงได้กล่าวขึ้นว่า “ท่านครับ จริงๆผมก็รู้นะครับที่แบบนั้น มันอยู่ในเมืองเรานี่เอง ถ้าว่าท่านต้องการแค่พัฒนาพละกำลังและทักษะการต่อสู้แล้วล่ะก็ ผมก็สามารถหาใครสักคนมาฝึกให้ท่านได้นะครับ แต่ถ้าท่านต้องการจะไปใต้ดินล่ะก็ คนที่อยู่ในนั้นก็มีแค่พวกอาชญากร แล้วผมจะทำยังไงถ้าเกิดท่านได้รับบาดเจ็บขึ้นมาแบบไม่คาดคิดล่ะครับ”


หลังจากได้ยินในสิ่งที่เขาพูด หลิน เฟิงก็ถึงกับส่ายหน้าทันทีก่อนจะเอ่ยขึ้น “มันไม่เหมือนกัน ฉันอยากจะสู้แบบไม่ต้องมาคิดอะไรมาก ถ้านายหาคนมาฝึกให้ฉัน ฉันก็ไม่ได้ใช้พลังออกมาเต็มที่น่ะสิ”


เมื่อหวัง ฉีได้ยินหลิน เฟิงกล่าวออกมาเช่นนั้น เขาก็เงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดขึ้น “ท่านครับ เดี๋ยวผมขอไปปรึกษาเจ้านายก่อน ไม่งั้นล่ะก็ท่านเอาผมถึงตายแน่ๆ”


“ไปสิ” เมื่อเห็นท่าทางของหวังฉีที่กลัวซะขนาดนั้น หลิน เฟิงจึงให้เขาไปเลยเดี๋ยวนั้น


หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง หวัง ฮ่าวหมิงจึงโทรหาหลิน เฟิงก่อนจะออกปากไม่ให้เขาไปเข้าร่วม


แต่ด้วยนิสัยของหลิน เฟิง เมื่ออยากทำอะไรต่อให้ช้างทั้งโขลงก็ฉุดไม่อยู่ และสุดท้ายจึงทำได้แค่พูดจาประนีประนอมเท่านั้น อีกทั้งยังเล่าให้หลิน เฟิงฟังด้วยว่าการแข่งใต้ดินนั้นวุ่นวายมากขนาดไหน แล้วให้เขาระวังตัวด้วย


ส่วนในตอนนี้ หวัง ฮ่าวหมิงจึงเอ่ยให้ปาเต๋าฟังว่าหลิน เฟิงอยู่ที่นี่ และได้เข้าร่วมกับสมาคมป้องกันประเทศและยังจะเข้าร่วมการต่อสู้เถื่อนและอื่นๆ และเขากำลังโต้เถียงเรื่องหาตัวหลิน เฟิงอยู่


หลิน เฟิงรู้ว่าชายคนนี้ไม่เอาด้วยแน่ เขาเลยกลับไปกับตู๋ กัง


ในที่สุด หลิน เฟิงก็ให้สัญญาว่าจะให้เขามาที่นี่กับตน เพราะปาเต๋าเป็นผู้ใช้พลังที่หาตัวจับยากยิ่ง หวัง ฮ่าวหมิงกับคนอื่นๆจึงมั่นใจได้แน่นอนว่าเขาจะสามารถปกป้องหลิน เฟิงได้


สามวันต่อมา ปาเต๋าก็ได้มาที่จังหวัด S และก็ได้มาเจอกันกับหลินเฟิงที่ร้านโหยวหยี่ในไม่ช้า


ปาเต๋านั้นปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับแหวนอวกาศจำนวนมากในมือ ซึ่งล้วนแต่พ่วงทรัพยากรขยะและสิ่งปฏิกูลทั้งหลายที่เก็บได้ในช่วงนี้ไว้ทั้งนั้น


ช่วงนี้ หลิน เฟิงก็เกือบจะลืมเรื่องนี้ไปเลย ทรัพยากรเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ได้รับการแก้ไขภายในวันเดียวด้วยหลุมวนจากในมือถือของเขา และแน่นอนว่าเก็บเกี่ยวมาได้มากเลยทีเดียว


ไม่กี่วันต่อมาที่หลิน เฟิงได้ขอหวัง ฉีให้พาพวกเขาไปยังใต้ดินของเมืองซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดการต่อสู้แบบป่าเถื่อน


การจัดการต่อสู้ใต้ดินอันแสนป่าเถื่อนนั้นเป็นที่รวมตัวของบรรดาผู้มีพลังทั้งหลาย การแข่งขันและการต่อสู้ของผู้มีพลังทั้งหลายจัดขึ้นทุกวัน คนจากที่ต่างๆต่างก็มาสู้กันด้วยจุดประสงค์ที่ต่างกันซึ่งนั่นทำให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นไปอีก


ในตอนนั้นเอง มีเพียงแค่สามคนเท่านั้น คือหลิน เฟิง หวัง ฉีและปาเต๋า พวกเขามากันที่ศูนย์การค้าของใต้ดินที่อยู่ใจกลางเมือง หลังจากเดินมานาน พวกเขาก็เห็นเส้นทางใต้ดินของศูนย์การค้า ตรงนั้นมีชายสวมแว่นกันแดดสองคน ในตอนแรกที่เห็น พวกเขาก็ดูเป็นผู้ใช้พลังเหมือนกัน น่าจะระดับ B ประมาณนั้น


ทั้งสองคนที่ยืนอยู่หยุดพวกเขาที่เดินมา หวัง ฉีจ่ายหินวิญญาณระดับต่ำให้พวกเขาไป 1500 ชิ้นโดยไม่กล่าวอะไรสักคำ จากนั้นทั้งสองคนจึงดันให้หลิน เฟิงเข้าไป


“ใครเป็นคนจัดการการต่อสู้ใต้ดินนี้กันนะ รู้สึกหน้าเลือดไม่เบาเลย แค่ค่าเข้าก็ต้องจ่ายด้วยหินวิญญาณระดับต่ำ 500 ชิ้นแล้วต่อคนแล้ว” หลิน เฟิงถามขึ้นในขณะที่เดินไป


หวัง ฉีจึงตอบไป “เห็นเขาว่ากันว่าผู้มีพลังระดับ SSS เป็นคนดึงเอาคนเก่งๆเข้ามาเพื่อจะเอาหินวิญญาณ...”


ในขณะที่หวัง ฉีอธิบายไป หลิน เฟิงจึงเข้าใจในที่สุดว่าการจัดการต่อสู้ใต้ดินนั้นได้กำไรจากค่าเข้า การแข่งขัน การพนันและกิจกรรมอื่นๆอีกนี่เอง โดยไม่คำนึงถึงความเป็นความตาย ขอแค่รางวัลที่จะตามมามากมาย ก็ดึงดูดให้คนเก่งๆจำนวนมากมาเข้าร่วมได้แล้ว


อุโมงค์ดังกล่าวนี้หนามาก ต้องใช้เวลากว่าสิบนาทีกว่าจะมาถึงโลกใต้ดินแห่งนี้ที่มีแต่ผู้คนเต็มไปหมด เสียงร้องเสียงเชียร์ดังลั่นไปหมด


ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมีพื้นที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ คนก็มากมาย ในพื้นที่ใต้ดินแค่ 100 เมตรแบบนี้เนี่ยนะ


พื้นที่ก็กว้างใหญ่ คนเต็มไปหมด แล้วแต่ละคนก็ล้วนแต่เป็นผู้มีพลัง ตั้งแต่ระดับ C ไปจนถึงระดับ S ที่ดูมีท่าทีตื่นเต้นกันทั้งนั้น


“ท่านครับ ระดับจะแบ่งเป็น C,B,A และ S นะครับ การแข่งในระดับ  C B A นั้นจะจัดขึ้นทุกวัน และถ้าเราจะดูก็ต้องเอาหินวิญญาณจ่าย โดยระดับ C จะต้องจ่ายหินวิญญาณระดับต่ำจำนวน 1000 ชิ้น ส่วนระดับ B ต้องใช้หินวิญญาณระดับต่ำจำนวน 5000 ชิ้น ส่วนระดับ A ต้องใช้หินวิญญาณระดับต่ำจำนวน 50000 ชิ้นเป็นค่าเข้า แล้วทุกกิจกรรมก็จะจัดขึ้นในนั้น โดยการพนันเป็นสิ่งที่นิยมที่สุด โดยการพนันว่าใครจะแพ้หรือชนะ”


“นอกจากนี้ ในนั้นจะมีคนอยู่สองประเภท คือผู้ต่อสู้กับผู้ชม โดยจะไม่จำกัดระดับของผู้เข้าชม แต่ในขณะที่ผู้ต่อสู้นั้นจะแบ่งเป็นระดับ C ระดับ B ระดับ A และระดับ S และไม่ว่าผู้ต่อสู้จะอยู่ในระดับไหน ถ้าชนะ ก็จะได้รางวัลเป็นสิบเท่าจากค่าเข้า อย่างเช่น ผู้ที่อยู่ระดับ C ที่ต้องใช้หินวิญญาณระดับต่ำหนึ่งพันชิ้น ถ้าชนะก็จะได้หินวิญญาณระดับต่ำไปเลยหนึ่งหมื่นชิ้น”


“ในที่แห่งนี้ เราจะสามารถเอาหินวิญญาณที่เราชนะรางวัลมาเพื่อไปซื้ออุปกรณ์วิญญาณ ทักษะและสิ่งอื่นได้ ซึ่งสะดวกเอามากๆ แล้วก็ มีคนบอกอีกว่าวิธีที่จะต่อสู้ยังทำได้อีกหลายวิธีเลย แต่ผมไม่รู้เรื่องนี้มากนัก และที่พูดมาก็เป็นสิ่งที่ผมรู้ทั้งหมด เดี๋ยวไปลงทะเบียนแล้วไปดูกันก่อนก็ได้ครับ” หวัง ฉีเอ่ยถามขึ้น


“เดี๋ยวไปดูการแข่งก่อนก็แล้วกัน เอาเป็นการแข่งขันระดับ A ก็แล้วกัน” หลิน เฟิงคิดคำนึงก่อนจะพูดขึ้น


“ดีเลย” หวัง ฉีกล่าว ก่อนจะพาหลิน เฟิงตรงไปยังสนามแข่งระดับ A


ในขณะเดียวกันนั้นเอง สนามแข่งระดับ A กำลังต่อสู้กันอยู่ หลิน เฟิงกับคนอื่นๆต่างก็สุ่มเลือกสนามที่มีคนมากที่สุด โดยหลังจากจ่ายด้วยหินวิญญาณไปแล้วนั้น ก็เดินเข้าไปทันที


 


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น