RC:บทที่ 344 น่ารังเกียจ

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 344 น่ารังเกียจ


เหตุการณ์นี้ได้ดึงดูดผู้คนมากมาย หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตาม ผู้คนหลายร้อยที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ก็จะหันมาเพ่งเล็งในทันที 


เวลานี้ก็มีคนของตระกูลมู่หรงคนหนึ่งซึ่งเป็นชายที่สูงและหน้าตาหล่อเหลารีบเดินเข้ามาหยุดอยู่ระหว่างทั้งสองแล้วเอ่ย "มู่หรงหลาน พวกเธอสองคนกำลังทำอะไรอยู่ มู่หรงเทียน?"


เมื่อเห็นชายคนนี้ มู่หรงหลานจึงเก็บดาบยาวมาไว้ในมือของเธอ ไม่สนใจมู่หรงเทียนแล้วก็ไม่ได้ตอบคำถามของชายหนุ่ม


เมื่อเห็นเป็นแบบนี้ ชายหนุ่มดูเหมือนจะคุ้นชินอยู่แล้ว แต่มู่หรงเทียนที่ได้เห็นก็โกรธขึ้นมามากกว่าเดิมอย่างทันทีเตรียมจะพุ่งเข้าไปหาอีกครั้งแต่ก็ถูกชายที่สูงและหล่อเหลาสะกัดกั้นไว้ก่อน


ชายหนุ่มกล่าว "มู่หรงเทียน นายจะทำอะไรน่ะ? นายก็รู้จักอารมณ์ของหลานหลานดี อย่าไปยั่วอารมณ์เธอสิ! "


"มู่หรงซวน นายไม่ต้องมายุ่ง กลับไปซะ!" มู่หรงเทียนพูดอย่างอารมณ์เสีย


เมื่อหลินเฟิงได้เห็นเหตุการณ์นี้ เขาสงสัยขึ้นมาทันทีว่ามู่หรงเทียนคงจะสนใจในตัวมู่หรงหลานแต่มู่หรงหลานกลับรังเกียจมู่หรงเทียนมาก


สำหรับมู่หรงซวนแล้ว เขาน่าจะเป็นผู้นำของตระกูลมู่หรงเพราะดูทรงพลังและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก


มู่หรงหลานไม่สนใจพวกเขาแล้วเดินเข้ามาหาหลินเฟิงพร้อมกระซิบ: " อย่าไปสนใจพวกนั้นเลย เรามาคุยเรื่องของเรากันเถอะ!"


"ได้สิ!" หลินเฟิงตอบ


แต่เมื่อหลินเฟิงพูดจบ มู่หรงซวนที่ทั้งสูงและหล่อเหลาก็เดินเข้ามาและกล่าว "หลาน หลาน เธอไปมีเพื่อนเมื่อไหร่น่ะ? แนะนำให้ฉันรู้จักด้วยสิ!"


หลินเฟิงได้ยินคนเรียกมู่หรงว่าหลาน หลาน อีกครั้งแล้ว แต่กลับแปลกที่มู่หรงหลานทำเพียงแค่มองดูมู่หรงซวนและพูดอย่างไร้อารมณ์ : "นี่เพื่อนฉันเอง ชื่อของเขาก็คือหลินเฟิง!"


จากนั้นมู่หรงหลานก็หันมาทางหลินเฟิงพร้อมกับกล่าวอย่างนุ่มนวล "หลินเฟิง นี่คือผู้นำของตระกูลมู่หรงในตอนนี้ ชื่อของเขาก็คือมู่หรงซวน!"


ความแตกต่างของมู่หรงหลานที่แสดงต่อคนทั้งสองนั้นผู้คนมากมายที่มองดูต่างก็เห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะทางน้ำเสียงหรืออารมณ์


เมื่อได้ยินการแนะนำของมู่หรงหลาน มู่หรงซวนก็ประหลาดใจขึ้นชั่วครู่ เพราะตามปกติแล้วมู่หรงหลานมักจะเย็นชาใส่พวกเขา แต่กลับใจดีต่อเจ้าป่าคนนี้ เขาเลยประหลาดใจขึ้นมา


ยิ่งไปกว่านั้น มู่หรงซวนไม่เคยได้ยินเลยว่าเทพธิดาหิมะและน้ำแข็งแห่งตระกูลมู่หรงจะมีเพื่อน โดยเฉพาะเพื่อนผู้ชายที่ทำให้ยิ่งกว่าประหลาดใจซะอีก


มู่หรงซวนเอื้อมมือออกไปแล้วเอ่ย "สวัสดี ฉันคือมู่หรงซวน!"


เมื่อมองไปที่มู่หรงซวน หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่จะปฏิเสธ เขาจึงยื่นมือของเขาออกไปยังมู่หรงซวนและเอ่ย  "สวัสดี ชื่อของฉันคือหลินเฟิง!"


แต่ในขณะที่หลินเฟิงจับมือกับมู่หรงซวน ทันใดนั้นหลินเฟิงก็รู้สึกได้ถึงพลังอันมหาศาลบนมือของเขา


เมื่อหลินเฟิงเห็นอย่างนี้ เขาจึงรีบปล่อยพลังวิญญาณเพื่อต้านมันไว้ ถึงอย่างนั้น พลังของมู่หรงซวนก็แข็งแกร่งมากเกินไป เขาไม่ทันได้ตอบสนองเพราะไม่ได้ระวังตัว


แต่ขณะที่หลินเฟิงกำลังจะต้านไว้ไม่ไหว มังกรดำที่อยู่ในหว่างคิ้วของเขาก็ร้องเสียงยาวและทั่วทั้งร่างกายของหลินเฟิงก็อบอุ่นขึ้นมาอย่างทันทีทันใด เขารู้สึกได้ว่ามีพลังไร้ที่สิ้นสุดหลั่งไหลไปยังมือขวาของเขา ช่วยต้านพลังของมู่หรงซวน


ขณะที่หลินเฟิงต้องการจะสู้กลับ มู่หรงซวนก็รีบถอนพลังออกไปแล้ว จากนั้นก็กล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม : "ขอโทษที แค่ทดสอบน่ะ ไม่ได้มีเจตนาร้ายหรอก!"


เมื่อมองไปยังใบหน้าอันหล่อเหลานี้ หลินเฟิงก็อยากจะตั๊นหน้าของเขาสักหมัดจริงๆ แต่ก็ยั้งเอาไว้ หลังจากที่มู่หรงซวนเดินออกไป เขาก็เดินกลับไปอย่างช้า ๆ และพามู่หรงเทียนไปด้วย เขาเอ่ยเสียงเบา : "ไปเถอะ นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรอก อย่าทำให้ตัวเองดูน่าตลกเลย!"


"อะไรนะ!" เมื่อมู่หรงเทียนได้ฟังก็ประหลาดใจขึ้นมาทันที เขาคาดไม่ถึงราวกับคนทำผิดพลาดทั่วไป


"ฉันเพิ่งทดสอบเขามา พลังของเขาไม่ได้อ่อนกว่านาย และเมื่อกี้ที่ฉันเพิ่งทดสอบเขาไป ฉันก็ได้กลิ่นที่น่ากลัวจากตัวเขา หลินเฟิงไม่ธรรมดา!" หลังจากได้ยินคำพูดของมู่หรงซวน มู่หรงเทียนก็รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาชั่วครู่และจากนั้นก็ทิ้งความโกรธเกลียดออกไป


หลังจากที่พวกเขาจากไป ความสงบก็กลับมาที่นี่อีกครั้ง หลินเฟิงยังคงคุยต่อกับมู่หรงหลานสักพัก จากนั้นเธอก็กลับไป


หลังจากที่ผู้คนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลินเฟิงรู้สึกได้ว่าพยัคฆ์ขาวตัวสั่นเทาราวกับกำลังถูกเรียก


หลินเฟิงมองไปยังสถานที่อัญเชิญซึ่งมีคนชุดดำอยู่กลุ่มหนึ่ง หลินเฟิงรู้ดีว่าคนเหล่านี้ทั้งหมดมาจากสามองค์กรมืดสำคัญ


หนึ่งในนั้นกำลังถือวัตถุสีดำมองมาทางหลินเฟิง เมื่อเขาเห็นหลินเฟิงก็ยิ้มแล้วหายเข้าไปในกลุ่มคนชุดดำ


เวลานั้น ผู้นำแห่งตระกูลหลง หลงจี้เทียนกำลังถือวัตถุสีเขียวก็ได้มองไปที่อีกด้านของกลุ่มพลังมืดทั้งสาม จากนั้นก็มองมาที่หลินเฟิง ดวงตาของเขาแสดงความดูหมิ่นอย่างล้ำลึกออกมา


จากนั้นสักพัก สมาชิกตระกูลเกือบทั้งหมดก็มาถึง หลินเฟิงรับรู้ได้ถึงการเรียกหาสามอย่างในฝูงชน มันเป็นการเรียกหาจากวัตถุอีกสามชิ้น ถึงอย่างนั้น หลินเฟิงกับสิ่งแปลกประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนเจ้าของวัตถุก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกทั้งพลังก็ไม่ได้ปรากฏขึ้นมาตลอดเวลา


"ไง พี่หลิน เจอกันอีกแล้วนะ!" เวลานี้ อู่หยางหมิงลั่วเดินเข้ามาหาหลินเฟิงและกล่าวทักทาย


"ใช่ เจอกันอีกแล้ว!" หลินเฟิงตอบ พร้อมมองกลับไปที่ตระกูลอู่หยาง


ในตอนนี้ คนของตระกูลอู่หยางนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ยกเว้นสองคนที่ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บสาหัส


ขณะที่หลินเฟิงมองดูคนพวกนั้น คนเหล่านั้นก็มองกลับมาและเห็นหลินเฟิงเช่นกัน แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าหลินเฟิงกับตู๋กังยังเหมือนเดิม พวกเขาก็ประหลาดใจขึ้นมาอย่างทันที 


คนเราต่างก็รู้ดีว่าในสถานที่ลึกลับแห่งนี้มีสัตว์วิญญาณโบราณทุกชนิดเกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อีกทั้งความสามารถของพวกมันยังแปลกประหลาด พวกเขาได้รับบาดเจ็บสองคนเพราะไม่ระวังตัว


"หลินเฟิง ส่งผนึกพยัคฆ์ขาวมา!"


อย่างไรก็ตาม ในการรอคอยที่เงียบงัน ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่หลินเฟิง


เมื่อเผชิญกับการโจมตีอย่างทันทีทันใด หลินเฟิงก็ประหลาดใจ เขาไม่ได้คิดเลยว่าในเวลาเช่นนี้ จะมีคนกล้าพุ่งเข้ามาโจมตีใส่เชา


เมื่อหลินเฟิงมองดู ก็พบว่าเป็นตงฟางเชาหยาง เขากำลังจะฟาดฝ่ามือใส่หลินเฟิง เมื่อเห็นเป็นอย่างนั้น หลินเฟิงจึงหันกลับไปประสานฝ่ามือใส่


เป็นเพราะหลินเฟิงรีบตอบสนองกลับไปแต่ไม่เพียงพอ จึงส่งผลทำให้มือสั่นไหว


"หลินเฟิง ตายซะเถอะ!" ขณะนั้นก็มีชายคนหนึ่งเข้ามาทางด้านหลังของหลินเฟิง เขาถือดาบใหญ่อยู่ในมือและฟันใส่หลินเฟิง


หลินเฟิงไม่คิดว่าคนพวกนี้จะกล้าซุ่มโจมตีเขา ในเวลาเดียวกันนั้น หลินเฟิงก็รู้สึกได้ถึงพลังอันน่ากลัวหลายอย่างได้ล็อคตัวของเขาไว้


ครู่ถัดมา ก็มีหลายร่างพุ่งออกมาทีละคน ตรงเข้ามาหาหลินเฟิง


ในตอนนั้น ก็มีร่างหนึ่งปรากฏที่ด้านหลังของหลินเฟิง นั่นก็คือฮวงฝูเทียนหนาน! เขาฟันใส่หลินเฟิงด้วยดาบเล่มหนึ่งพร้อมเอ่ยเบาๆ : "ถ้าพวกเราไม่ได้ผนึกพยัคฆ์ขาว แกก็อย่าหวังว่าจะได้ ฉันกระจายข่าวที่นี่ว่าแกมีผนึกพยัคฆ์ขาวออกไปแล้ว! แกตายแน่! "


"บ้าชิบ ไอ้ขี้ขลาด!"


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น