RC:บทที่ 327 สัตว์ผู้พิทักษ์ทั้งสี่
ฮวงฝู เทียนหนานยืนขึ้นก่อนจะเอ่ยกับสมาชิกผู้อ่อนเยาว์กว่าแห่งตระกูลฮวงฝูที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา
เมื่อได้ยินคำสั่งของฮวงฝู เทียนหนานกับตงฟาง เชาหยาง ทุกๆคนก็ลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมพร้อมไปที่ชั้นเก้า
เมื่อหลิน เฟิงเห็นแบบนั้น เขาจึงรีบลุกขึ้นก่อนจะตามไปอย่างเงียบๆ
ความสามารถของหลิน เฟิงอยู่ที่ระดับ A ขั้นสูงสุด ถ้าเทียบกับคนในนี้ ก็จัดว่าเขานั้นเป็นแค่ระดับธรรมดา เป็นระดับพลังที่อยู่ต่ำสุด ด้วยเหตุนั้น ผู้คนจึงไม่ให้ความสนใจในตัวเขานัก
ตงฟาง เชาหยางกับฮวงฝู เทียนหนานมองหน้ากัน พลางรู้สึกภาคภูมิใจ และหลังจากถอนหายใจยืดยาว พวกเขาจึงเดินไปที่ทางเข้าตรงชั้นเก้า
ส่วนสมาชิกคนอื่นๆเดินตามไป โดยมีหลิน เฟิงเดินรั้งท้าย
ใช้เวลาไม่นาน พวกเขาก็ถึงชั้นเก้า และสิ่งที่ได้เห็นก็แตกต่างจากแปดชั้นก่อนโดยสิ้นเชิง มันคือโลกแห่งการทำลายล้าง สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือภาพลวงตาประหลาดที่ปรากฏขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นภาพของมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังต่อสู้กันกับสิ่งมีชีวิตสุดพิลึก น่าขยะแขยงและทรงพลัง
สัตว์ประหลาดพวกนั้นล้วนทรงพลัง โหดเหี้ยมและไร้ซึ่งความกลัวใดๆ พวกมันลงมือสังหารมนุษย์อย่างบ้าคลั่ง เสียงกรีดร้องระงมไปทั่วทุกหนแห่ง เลือดและศพกองรวมไปในทุกๆที่
และในตอนนั้นเอง เสียงคำรามก็ได้ดังขึ้น ตามมาด้วยร่างของเสือที่ใหญ่โตเกินประมาณซึ่งดูแล้วน่าจะสูงมากกว่าสิบเมตร ยาวมากกว่าสามสิบเมตร มันชูคอส่งเสียงคำราม แล้วจู่ๆลูกบอลแสงก็ปรากฏขึ้นในปากของมัน ก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีสัตว์ประหลาดสุดน่าขยะแขยงที่อยู่รอบๆ
เมื่อหลิน เฟิงเห็นเสือยักษ์ เขาก็ถึงกับตกใจสุดขีด มีลายพาดสีดำและขาวไปทั่วทั้งตัวเสือ รวมถึงหัวและลำตัวที่ใหญ่ อีกทั้งยังมีกรงเล็บที่แหลมคม
และที่ทุกคนรู้สึกประหลาดใจก็คือปีกขนาดใหญ่คู่หนึ่งที่อยู่กลางหลังเสือตัวดังกล่าว ที่สยายขึ้นก่อนจะกระพือปีกไปมาตามใจ
กรงเล็บทั้งสองข้างของเสือตัวนั้นตวัดไปมาไม่หยุด ก่อนจะใช้กรงเล็บฉีกร่างสัตว์ประหลาดที่แสนจะน่ากลัวนั่น ใช้เวลาไม่นาน ก็ไม่มีสัตว์ประหลาดรอบตัวมันเหลืออยู่เลย
“นี่ล่ะพยัคฆ์ขาว หนึ่งในสี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตามตำนานจีน เป็นวิญญาณผู้พิทักษ์ที่อยู่ทางทิศตะวันตก”
หลิน เฟิงอึ้งไป สิ่งมีชีวิตในตำนานได้ปรากฏขึ้นแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่หลิน เฟิงจะแสดงท่าทางอะไรออกไป ภาพก็ได้เปลี่ยนไปในทันที แต่ยังคงเป็นภาพสนามรบนองเลือดอยู่ และในตอนนี้ สิ่งที่สังหารสัตว์ประหลาดพวกนั้นที่อยู่ตรงกลางกลับกลายเป็นร่างสีเขียวที่มีขนาดใหญ่ ยาวกว่า 100 เมตร ทั้งเขี้ยวและกรงเล็บ พลางกู่ร้องลั่น
เมื่อมองไกลๆ ร่างสีเขียวนั้นดูเหมือนงูหลาม แต่เมื่อพอเข้าไปมองใกล้ๆ มันกลับมีลักษณะเหมือนวัว มีเขาเหมือนกวาง มีกรงเล็บเหมือนเหยี่ยว ร่างเป็นงู และมีเกล็ดตามตัวเหมือนปลา
ร่างที่เห็นคือมังกรเขียว เขี้ยวที่เผยอขึ้น กรงเล็บตวัดไปมา ก่อนจะกู่ร้องขึ้นบนท้องฟ้าแล้วพุ่งทะยานไปยังเหล่าสัตว์ประหลาดที่อยู่กันหนาแน่น หางขนาดใหญ่ของมังกรเขียวกวาดไปทั่วบริเวณนั้น พลันร่างของสัตว์ประหลาดมากมายก็กระเด็นไป ในชั่วพริบตานั้นเอง เลือดเป็นสายกระจายไปทั่วพื้นดิน เสียงร้องระงมดังไปทั่วบริเวณ
ทันใดนั้นเอง ภาพก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง กลายเป็นภาพของนกเพลิงตัวใหญ่ ร่างสูงใหญ่ขนาดสิบเมตรกว่าๆกำลังบินไปบนฟ้า ทั้งร่างมีเปลวเพลิงร้อนแรงลุกโชนไปทั่วทั้งร่าง
มันโผบินไปมาบนท้องฟ้าพร้อมกับเปลวเพลิงน่ากลัวที่พ่นออกมาจากปาก แผดเผาพื้นดิน สัตว์ประหลาดที่อยู่ข้างล่างถูกฆ่าและได้รับบาดเจ็บโดยทั่วกัน
“นี่ก็คือวิญญาณแห่งสัตว์ผู้พิทักษ์ทางใต้ หงส์เพลิง”
หลังจากนั้นเพียงครู่ ภาพก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง แต่ก็ยังเป็นสนามนองเลือดที่สัตว์ประหลาดกำลังต่อสู้กับมนุษย์อยู่
ณ สถานที่ที่ผู้คนและสัตว์ประหลาดสู้กันนั้น ร่างขนาดใหญ่ร่างหนึ่งยืนตระหง่านอยู่ เป็นสิ่งมีชีวิตที่รูปร่างเหมือนเต่า แต่ขนาดตัวนั้นน่ากลัวมากทีเดียว แถมที่คอของมันยังมีงูหลามขดตัวอยู่ด้วย
เต่าตัวดังกล่าวอ้าปากขึ้นก่อนจะพ่นน้ำออกมาจำนวนมหาศาลแทงทะลุร่างของสัตว์ประหลาดที่น่าขยะแขยงพวกนั้นไป ส่วนงูหลามที่อยู่บนหลังของมันก็คอยตวัดหางไปที่สัตว์ประหลาดพวกนั้นจนร่างกระเด็นไป
“นี่คือจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์ทางเหนือ เต่าดำ”
ภาพต่อเนื่องที่สลับสับเปลี่ยนไปมาแสดงให้เห็นถึงสุดยอดผู้พิทักษ์ที่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศจีน แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนแต่น่าตื่นตาตื่นใจทั้งนั้น
เมื่อหลิน เฟิงคิดว่าภาพตรงหน้ากำลังจะจบลง ทันใดนั้นเอง ภาพก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
เขาเห็นเป็นสัตว์ประหลาดที่มีร่างกายขนาดใหญ่กระโดดขึ้นสูงก่อนจะลอยขึ้นไปบนฟ้า แล้วคำรามออกมา
จากนั้นสัตว์ประหลาดที่ตามมาก็ล้วนถูกอันเชิญมา ก่อนจะเร่งไปที่สัตว์ประหลาดร่างใหญ่นั่นทีละตัว
นาทีต่อมา ภาพที่น่ากลัวก็ได้ปรากฏขึ้น
สัตว์ประหลาดพวกนี้ต่างมารวมตัวกันก่อนจะขยายร่างให้ใหญ่ขึ้น จนร่างเหมือนปลาหมึกยักษ์ ตัวสีดำสนิท พร้อมกับหนวดนับไม่ถ้วน พร้อมกับปีกที่โผล่ออกมาจากด้านหลัง ดูอัปลักษณ์และน่าขยะแขยงเป็นอย่างมาก
สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่นั้นสูงมากกว่า 100 เมตร หนวดแต่ละเส้นของมันยาวไปเป็นหลายร้อยเมตร และหนวดบางเส้นก็ยืดยาวออกไปก่อนจะตวัดผ่านผู้คนที่อยู่แถวนั้นจนล้มตายและได้รับบาดเจ็บกันไปเป็นแถบๆ ก่อนจะกลายเป็นโศกนาฏกรรม
และสิ่งที่สร้างความตกใจยิ่งกว่าก็คือว่าหนวดของสัตว์ประหลาดนั่นม้วนเอาร่างของผู้คนหลายคนก่อนจะตวัดเข้าปากแล้วกลืนพวกเขาลงไป เสียงเคี้ยวและเสียงกรีดร้องดังระงมไม่หยุด
ไม่นาน ภาพตรงหน้าก็กลายเป็นภาพนองเลือดสุดขยะแขยง หลิน เฟิงและคนอื่นๆที่ได้เห็นต่างก็อ้วกออกมาในทันที
ไม่มีผู้หญิงคนไหนรอดชีวิตเลยด้วย แม้ว่าหลิน เฟิงจะเป็นผู้ชาย ก็ยังอดที่จะอ้วกออกมาไม่ได้เลย
หลังจากนั้นสักพัก ภาพตรงหน้าก็ขยายใหญ่ขึ้นในทันที ก่อนจะเห็นเป็นแค่จิตวิญญาณผู้พิทักษ์ทั้งสี่อย่างมังกรเขียว พยัคฆ์ขาว หงส์แดงและเต่าดำ พวกมันต่างเข้าจัดการสัตว์ประหลาดหน้าตาน่ากลัวนั่นในทันที
ทั้งสี่ตัวรวมพลังเพื่อกดมันไว้ สัตว์ประหลาดตัวดังกล่าวจึงไม่กล้าเหิมเกริมเหมือนก่อนหน้านี้อีก
แต่ในขณะที่หลิน เฟิงนั้นคิดว่าสัตว์ประหลาดตัวดังกล่าวกำลังจะถูกผู้พิทักษ์ทั้งสี่สังหารอยู่นั้นเอง เจ้าสัตว์ประหลาดตัวดังกล่าวก็ขยายร่างให้มีสี่ร่างเพื่อสู้กับผู้พิทักษ์ทั้งสี่ในทันที ผู้พิทักษ์ทั้งสี่จึงไม่สามารถแตะต้องมันได้ก่อนที่จะถูกจับในที่สุด
พลันสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ตัวดังกล่าวก็ได้แสดงสีหน้าของมนุษย์ขึ้นมา เป็นใบหน้าที่น่าสะพรึงกลัวและปากที่น่าสยดสยองก็เผยออ้าขึ้นพร้อมกับฉีกยิ้มอันสุดแสนสยดสยอง
ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ต่างกระเสือกกระสน แต่ก็ไร้ประโยชน์ก่อนจะถูกกลืนลงไป
และในตอนนั้นเอง แสงสีทองลำใหญ่ก็ได้ปรากฏขึ้น เฉือนหนวดยักษ์ทั้งสี่นั่นขาดกระเด็นในทันใด จนผู้พิทักษ์ทั้งสี่จึงรอดออกมาได้ในที่สุด
เมื่อแสงสีทองดังกล่าวนั่นหยุดลง ชายร่างกำยำก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ในมือของเขาถือดาบเล่มยักษ์สีทองซึ่งคล้ายกับดาบยักษ์ขอฮวงฝู เทียนหนาน แต่พลังของดาบนั่นไม่รู้จะมีมากเท่าไหร่
แม้จะเป็นแค่เงา หลิน เฟิงและคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็รู้สึกได้ถึงพลังของดาบที่มีอยู่อย่างมหาศาลนั่น และดูเหมือนว่าจะผ่าทะลุท้องฟ้าได้เลยทีเดียว
“ฉัวะ”
พลันก็เกิดเสียงร้องลั่น ร่างของชายคนดังกล่าวที่ถือดาบทองในมือเข้าโจมตีร่างของสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวนั่น แล้วจากนั้นผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็กู่ร้อง คำรามลั่น
ภาพที่เห็นก็คือชายร่างกำยำคนดังกล่าวนั้นลอยอยู่บนฟ้าเหนือร่างของสัตว์ประหลาดตัวสีดำนั่น ส่วนผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็ยืนประจำอยู่ทั้งสี่ทิศ ก่อนจะร่วมกันโจมตี เป็นการประสานพลังที่ยิ่งใหญ่และสร้างความเกรงกลัวให้กับโลกใบนี้ยิ่งนัก
0 ความคิดเห็น