RC:บทที่ 318 มังกรม่วง
“ก็ได้” พวกเขาต่างมองไปที่หลิน เฟิงและไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรอื่นอีกแล้ว พลางล้มเลิกเรื่องการต่อสู้นั้นไปเสีย
มองเพียงแวบเดียว หลิน เฟิงก็เห็นว่าพวกนั้นไม่ใช่คนที่เป็นที่รู้จักนัก ก็แค่คนกลุ่มเล็กๆ ระดับสูงที่สุดก็ยังเป็นแค่ระดับ A ขั้นกลางและระดับ A ปลายเท่านั้น
ถ้าเขาผลุนผลันเข้าไปตอนนี้ พวกเขาก็จะสามารถสังหารคนในชุดดำพวกนั้นได้ แต่เขาไม่ต้องการที่จะไปยุ่งด้วยก็เท่านั้นเอง
“เดี๋ยวพวกนายรอข้างนอก ส่วนฉันจะไปดูข้างในเอง” หลิน เฟิงกล่าวขึ้นกับสามคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“ก็ดี” ตู๋กังตอบไป
ส่วนอีกสองคนที่ไม่รู้จะพูดอะไรก็ได้แต่พยักหน้า
ความเร็วของหลิน เฟิงนั้นจัดว่าว่องไวเอามากๆ ในขณะที่คนพวกนั้นกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น พวกนั้นกลับมองไม่เห็นคนที่พุ่งตัวเข้าไป
ไม่นาน หลิน เฟิงจึงมาถึงที่ถ้ำซึ่งมืดสนิทราวกับกลางคืน
แต่อย่างไรก็ตาม หลิน เฟิงกลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติจากในถ้ำ เพราะพลังวิญญาณข้างในนั้นมีอยู่เต็มเปี่ยมจนแทบจะล้นซึ่งมากเป็นหนึ่งหรือสองเท่าของพลังที่อยู่ด้านนอกเลยทีเดียว
และยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ พลังออร่าก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้นซึ่งนั่นทำให้หลิน เฟิงอยากรู้ ก่อนจะรีบเร่งเข้าไปข้างในอย่างไว
ในสถานที่เช่นนี้ กลับมีสมบัติมากมายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้หรือพืชแปลกๆบางชนิดหรือไม่ก็ทหารที่คอยคุ้มกันอยู่ เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น ที่นี่คงไม่มีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้หรอก
หลิน เฟิงเดินไปเรื่อยๆ แล้วทันใดนั้นเอง เสียงๆหนึ่งก็ดูเหมือนจะดังมาจากข้างในนั้น และดูจะมีมากกว่าหนึ่งคนอีกด้วย
เมื่อเห็นแบบนี้ หลิน เฟิงจึงรีบเข้าไปในทันที แต่พอยิ่งเข้าไปในถ้ำมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนภายในจะแคบลงมากขึ้นเท่านั้น จนไปถึงด้านหลังของถ้ำที่พอจะให้คนเข้าไปได้แค่หนึ่งคนเท่านั้น
และในตอนนั้นเอง หลิน เฟิงก็ได้เจอเข้ากับคริสตัลรูปร่างแปลกๆที่ปรากฏขึ้นบนพื้น หลิน เฟิงหยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่งก่อนจะจ้องตัวคริสตัลนั้นและเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง
พลางพูดขึ้นด้วยเสียงที่สั่นอย่างควบคุมไม่ได้ “นี่มันหินวิญญาณไม่ใช่หรือ”
เมื่อเห็นของที่อยู่ตรงหน้า หลิน เฟิงก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันทีก่อนจะรีบวิ่งให้เร็วขึ้นเพื่อเข้าไปยังข้างใน
เมื่อมาถึงทางเข้า เขาก็ได้เห็นหินวิญญาณมากขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นหินวิญญาณระดับต่ำ อันหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก ส่วนอีกอันอยู่ทางทิศตะวันตก แม้แต่หินวิญญาณระดับกลางก็ด้วย
หลังจากได้เห็นหินวิญญาณระดับกลางบางส่วน หลิน เฟิงจึงรีบเข้าไปข้างในอีก และในตอนนี้ หลิน เฟิงก็รู้สึกได้ว่ามีคลื่นพลังวิญญาณมาจากข้างใน และดูเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังสู้กันอยู่ด้วย แถมพลังที่ว่านั่นก็ไม่ใช่ธรรมดาเสีย เป็นระดับที่เก่งหาตัวจับยากเลยทีเดียว
หลิน เฟิงจึงลดความเร็วลงก่อนจะเดินเข้าไปเรื่อยๆ และในตอนนั้นเอง เขาก็ได้เห็นภาพที่สุดจะเหลือเชื่อเข้า
เพียงไม่กี่ก้าว ตรงหน้าของเขาจู่ๆก็มีรูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น และมันก็ใหญ่พอที่จะจุคนได้หลายคนเลยทีเดียว
และสิ่งที่ทำให้หลิน เฟิงตกใจเป็นอย่างมากนั้นไม่ใช่ขนาดของถ้ำ แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในถ้ำ
เขาเห็นแสงสีม่วงระยิบระยับภายในถ้ำที่สามารถจุคนได้หลายคน และเมื่อเขาเห็นที่มาของแสงที่อยู่ในถ้ำ เขาก็แทบจะคุมตัวเองไว้ไม่ได้เลย
สิ่งที่เห็นก็คือคริสตัลสีม่วงขนาดใหญ่ และมันก็ไม่ใช่แค่ปล่อยแสงออกมาเท่านั้น แต่มันยังปล่อยพลังวิญญาณที่เข้มข้นออกมาด้วย
“นี่คือถ้ำหินวิญญาณระดับสูงที่มีขึ้นในธรรมชาติงั้นหรือนี่” เมื่อหลิน เฟิงเห็นแบบนั้น เขาก็รู้สึกตื่นเต้นเอามากๆ
หินวิญญาณระดับสูงเพียงหนึ่งชิ้นนั้นมีค่าเทียบเท่าเท่ากับหินวิญญาณระดับต่ำ 10000 ชิ้นเลยทีเดียว แล้วที่นี่จะมีอยู่เท่าไหร่กันนะ
มีเป็นพันๆชิ้นหรืออาจจะมากกว่านั้น
ยิ่งเขาเห็นมันมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น แต่ทว่าในตอนนี้ เสียงของการต่อสู้ในถ้ำก็ยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ หลิน เฟิงก้าวเข้าไปใกล้อีกแค่เล็กน้อย เขาก็ได้เห็นที่มาของเสียงในการต่อสู้ได้อย่างชัดเจน
ส่วนในตอนนี้ หลิน เฟิงก็ได้เห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองคนกำลังต่อสู้กับสัตว์ร้ายร่างสีม่วงอยู่ สัตว์วิญญาณที่มีลำตัวสูงมากกว่าหนึ่งเมตรและยาวมากกว่าสามเมตร ทั้งร่างปกคลุมไปด้วยสีม่วง รวมถึงกรงเล็บแหลมคมและเขี้ยวตามแขนขา
เมื่อเห็นสัตว์วิญญาณตัวนี้ หลิน เฟิงจึงเห็นว่ามันช่างเหมือนกับมังกรแสงก่อนที่จะวิวัฒนาการ เพียงแต่สีไม่ใช่
เมื่อหลิน เฟิงจ้องไปที่มัน ข้อมูลของสัตว์วิญญาณก็ได้ปรากฏขึ้น ‘มังกรสีม่วง เป็นสัตว์วิญญาณหุ้มเกราะภาคพื้นดิน มีเชื้อสายมังกร แข็งแกร่งมาก และมีชีวิตอยู่ในยุคนี้ ในยุคโบราณนี่ ทั้งลักษณะ ความรวดเร็วในการโจมตี และพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง’
ในตอนนั้นเองที่หลิน เฟิงถึงกับช็อค
สิ่งที่ทำให้เขาช็อคไม่ใช่ข้อมูลของมังกรสีม่วง และในตอนนั้นเองที่มันเหวี่ยงร่างของชายสองคนออกไปด้วยกรงเล็บเพียงข้างเดียว
ในตอนนี้ ความสนใจของหลิน เฟิงนั้นเน้นไปที่ชายสองคนนั่น คนหนึ่งใส่ชุดสีดำ ส่วนอีกคนสวมใส่ชุดธรรมดา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นผู้นำของสองกลุ่มที่อยู่ด้านนอกถ้ำแห่งนี้
นอกจากนี้ทั้งสองคนก็นับว่าแข็งแกร่งทั้งคู่ นอกจากนี้ยังอยู่ในระดับ S อีกด้วย พละกำลังไม่ใช่ย่อยๆเลย
และมังกรม่วงตัวนี้ก็ไม่ใช่กระจอกๆเช่นกัน มันเป็นสัตว์วิญญาณระดับ S แต่ทว่าพละกำลังของสัตว์วิญญาณในยุคโบราณนั้นคงยังไม่แกร่งพอ หนึ่งในสองคนนั้นจึงไม่ได้ล้มลงเลย แถมมันยังบังคับให้สองคนนี้ต้องสู้ด้วยอีก แม้ตัวเองจะไม่มีเรี่ยวแรงจะสู้กลับไปก็ตามที
“ช่างเถอะ ขอไม่เอี่ยวด้วยละกัน อ่า นี่ หินวิญญาณพวกนี้...” ทันทีที่เขาละสายตาออกมา เขาก็เริ่มทำหน้าที่หยิบของในทันที
ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มทั้งสองคนที่กำลังสู้กับมังกรม่วงอย่างเมามันอยู่นั้น หลิน เฟิงกลับไม่ได้นึกสนใจเลยสักนิด ก่อนจะหยิบคริสตัลสีม่วงนั้นไปเรื่อยๆ ซึ่งถือว่าเป็นหินวิญญาณระดับสูงใส่เข้าไปในแหวนวิญญาณนั้น
หลิน เฟิงคอยรักษาระยะห่างอยู่ตลอด พอพวกนั้นมาตรงนี้ หลิน เฟิงก็ไปตรงโน้น
และเมื่อพวกนั้นขยับไปตรงโน้น หลิน เฟิงก็ย้ายมาตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นยังไง เขาก็จะคอยหลบเลี่ยงพวกนั้นก่อนจะเก็บหินวิญญาณไปเรื่อยๆ
หลังจากผ่านไปประมาณสามนาที หลิน เฟิงก็เก็บหินวิญญาณระดับสูงไปได้ถึงเจ็ดหรือแปดร้อยอันแล้ว ในขณะที่คนทั้งสองยังไม่หยุดต่อสู้กับมังกรม่วงตัวดังกล่าว
ในขณะที่หลิน ฟิงถือหินวิญญาณระดับสูงนั้น จู่ๆชายหนุ่มทั้งสองคนก็ถูกอุ้งมือของมังกรม่วงเข้าตะปบจนกระเด็นมาอยู่ตรงหน้าหลิน เฟิง
เมื่อมังกรม่วงและชายทั้งสองคนนั้นเห็นหลิน เฟิงเข้า พวกนั้นก็ถึงกับนิ่งอึ้งไป
หลิน เฟิงเองก็เช่นกัน เขาเองก็อึ้งไปเพราะกำลังถือคริสตัลสีม่วงขนาดเท่าศีรษะมนุษย์อยู่ในมือ ในขณะที่สัตว์วิญญาณหนึ่งตัวและชายทั้งสองกำลังจับจ้อง เขาก็เอาลูกบอลคริสตัลหย่อนลงไปในแหวนอวกาศอย่างช้าๆ
“แก นี่แกเป็นใครกัน” ทั้งสองคนเมื่อเห็นหลิน เฟิงก็นึกโกรธขึ้นมาทันที ในขณะที่พวกตนสู้อยู่ตรงนี้แทบตาย แต่หลิน เฟิงกลับหยิบโน่นนี่เข้ากระเป๋าตัวเอง
“โฮก” ทันทีที่พวกนั้นพูดจบ ร่างของมังกรม่วงก็พุ่งเข้ามา
ภาพที่มังกรม่วงเห็นก็คือคนสองคนรวมหลิน เฟิงนั้นเป็นกลุ่มๆเดียวกัน พวกมันต่างเข้ามาขโมยหินวิญญาณระดับสูง ดังนั้นพลังที่มันใช้โจมตีจึงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเห็นแบบนั้น หลิน เฟิงจึงรีบถอยกลับอย่างไวก่อนจะพูดขึ้น “เดี๋ยวก่อน ทั้งสองคน ฉันขอเก็บเพิ่มอีกหน่อยเถอะนะ”
จากนั้นหลิน เฟิงจึงเริ่มเก็บต่อไป แต่ทว่ามังกรม่วงในตอนนี้โกรธจัดเสียแล้ว แสงสีม่วงเรืองรองไปทั่วร่างของมัน แล้วทันใดนั้นเอง พลังวิญญาณแข็งแกร่งที่อยู่ในถ้ำทั้งหมดต่างก็พุ่งเข้าไปในร่างของมัน มันจัดการดูดกลืนพลังวิญญาณเพื่อเติมเต็มพลังของมันที่มีอยู่เดิม แรงส่งจากร่างของมันก็ค่อยๆพุ่งสูงขึ้น
ในระยะเวลาสั้นๆ ร่างของมันก็ได้เปลี่ยนไป ร่างของมันใหญ่ขึ้นจนสูงราวๆสองเมตร ลำตัวยาวประมาณห้าเมตรได้
มันอ้าปากที่กว้างของมัน ก่อนที่ลำแสงสีม่วงจะพุ่งตรงไปยังชายหนุ่มทั้งสองคนนั้น
แล้วทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มทั้งสองคนก็ถึงกับปลิวถอยก่อนจะล้มลงอยู่ข้างหลังหลิน เฟิง ตามร่างกายมีบาดแผลฉกรรจ์ แถมยังแทบจะลุกไม่ไหว ได้แต่นอนอยู่บนพื้นเพราะเลือดที่ไหลไม่หยุด
0 ความคิดเห็น