RC:บทที่ 315 สัตว์วิญญาณที่น่าสะพรึงกลัว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

ในขณะที่พวกเขากำลังพูดถึงสัตว์ตัวนั้นอยู่นั่นเอง ชะมดเงาผู้แสนว่องไวก็ได้หายตัวไปอีกครั้งในพงหญ้า

เดิมที หลิน เฟิงกับตู๋ กังก็พร้อมที่จะสู้อยู่แล้ว แต่ทว่าในตอนนั้น มันดันหนีหายไปเสียก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่เข้าไปใกล้ ก่อนจะรอจนกว่ามันจะปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง

คนทั้งแปดคนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานั้นรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นผู้มีพลังระดับ A เฉือนร่างของชะมดเงาตัวนั้นได้

อีกทั้งยังเอ่ยชมพลังของชายคนนั้นและทักษะของเขาที่แสนยอดเยี่ยม พวกเขาไม่ได้รู้เลยว่าเขาคนนั้นได้ตัดเชือกระหว่างความเป็นและความตายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้านี่ยังมีโอกาสอีก เขาเองก็ไม่สามารถรับประกันได้เลยว่าจะหยุดมันไว้ได้อีกไหม

จนถึงตอนนี้ ตัวชะมดเงาผู้แสนว่องไวก็ยังไม่โผล่ร่างออกมาเลย นี่ก็ผ่านไปนานแล้วด้วย เหมือนกับว่ามันหนีไปแล้ว

“เกิดอะไรขึ้น มันหนีไปแล้วอย่างนั้นหรือ” เมื่อหนึ่งในนั้นไม่เห็นร่างเงาดำๆป็นเวลานานจึงกล่าวขึ้นมาอย่างสงสัย

“ก็น่าจะเป็นแบบนั้นล่ะนะ ตอนนี้ แมวที่เหมือนกับสัตว์วิญญาณนั่นก็โดนพี่จูแทงไปแล้ว น่าจะเจ็บเอาการอยู่ล่ะเลยหนีไป” คนกลุ่มนั้นรออีกสองหรือสามนาที แต่ชะมัดตัวนั้นก็ยังไม่โผล่มา พวกเขาจึงเริ่มสบายใจขึ้นมาในทันที

“ตั้งนานแล้วยังไม่โผล่มา น่าจะหนีไปแล้วล่ะ” ชายคนที่พูดคือคนที่เพิ่งใช้มีดฟันร่างของเจ้าชะมดตัวนั้นนั่นเอง

ก่อนหน้านี้ มันก็ได้หายตัวไปเป็นเวลาหลายนาที ยังไม่โผล่ออกมาเลย

อีกทั้งทุกคนก็ถืออาวุธเตรียมพร้อม

แต่พอมาตอนนี้ หลิน เฟิงกับตู๋ กังที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขานักกลับรู้สึกว่าไม่ใช่

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลิน เฟิงที่สามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันตรายที่มีอยู่ตลอดเวลา เหมือนดวงตาคู่หนึ่งที่มองไม่เห็นกำลังจับจ้องมาที่พวกเขาอยู่ตลอด

แต่ทว่ากลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าหลิน เฟิงกลับไม่รู้สึกถึงมันเลย

“มันหนีไปแล้วจริงๆหรือ” ตู๋กังสงสัย

“ยัง ชะมดเงานั่นไม่ใช่แค่ว่าอยู่ที่นี่หรอกนะ แต่ยังอยู่ใกล้กับคนพวกนั้นเอามากๆเลยด้วย แถมแรงส่งยังน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย ราวกับว่ากำลังสุมพลังสังหารให้ลุกโชนมากขึ้นไปอีก”

หลิน เฟิงเกิดความรู้สึกอึดอัดที่ทับถมแน่นอยู่ตลอดเวลา

หลังจากที่หลิน เฟิงพูดออกไปแบบนั้น เรื่องสยองต่อมาก็ได้เริ่มขึ้น

ในขณะที่ทุกคนเอนกายพักผ่อน พลางวางอาวุธไว้ข้างๆ ตัว ชะมดเงาผู้แสนว่องไวก็ปรากฏตัวขึ้นในทันทีพร้อมกับกรงเล็บมืด จ้วงเข้าที่คนสองคน

ทันทีที่กรงเล็บแฉลบผ่านร่างไป เลือดก็ไหลทะลัก ทั้งสองสิ้นใจคาที่ และไม่ใช่แค่นั้น เจ้าชะมดตัวดังกล่าวไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่เริ่มเข้าโจมตีคนอีกสองคนต่อเลย

เมื่อเห็นร่างของมัน ชายทั้งสองคนจึงคว้าอาวุธมาไว้ในมืออย่างรวดเร็ว

แต่อย่างไรก็ตาม แมวตัวดังกล่าวไม่ได้ดูมีท่าทีจะหลบเลยสักนิด ซ้ำยังจ้องพวกเขาสองคนด้วยดวงตาที่โตเด่นและสุกใส ราวกับว่ากำลังถ่วงเวลาอยู่ ก่อนจะค่อยๆหลบอาวุธทั้งสองที่โจมตีมาอย่างใจเย็น ก่อนจะใช้กรงเล็บจ้วงแทงชายคนหนึ่ง

ถึงจะเป็นแค่การแทงเบาๆ แต่ก็ทำให้คอของเขาเลือดไหลออกมาเลย ดวงตาทั้งสองข้างมองไปที่ตัวชะมดด้วยความทรมาน

แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาต่างคิดว่าชะมดตัวดังกล่าวได้หนีไปแล้ว และพวกเขาก็ตกใจเป็นอย่างมากเมื่อคนที่โดนกรงเล็บมันแทงจนตายคือคนที่น่าจะลงมือได้ พอจัดการชายคนดังกล่าวเสร็จมันก็กระโดดจากร่างของชายคนนั้น ขึ้นไปหาอีกคน

ในขณะที่ผู้คนตรงนั้นมัวตะลึงกับชายคนที่อยู่ข้างๆเขานั้นที่ถูกฆ่า พลันรอยเลือดเป็นทางมากกว่าสามจุดก็ปรากฏขึ้นที่คอของเขาโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว

เหมียว!

หลังจากฆ่าคนนี้ไป ชะมดเงาผู้ว่องไวก็กู่ร้องขึ้นราวกับจะเย้ยหยันคนพวกนี้ ก่อนจะกระโดดเข้าไปในพงหญ้าอย่างรวดเร็ว

แค่สิบวินาทีที่มันปรากฏตัวขึ้น มันก็ได้ฆ่าคนไปแล้วถึงสี่คน

“ด...ได้ไง ไอ้สัตว์ร้าย ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” ในตอนนี้ในกลุ่มเหลือคนแค่สี่คนเท่านั้นและสิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้คนที่เหลือแทบจะพังไม่เป็นท่าก่อนจะตะโกนร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ในขณะเดียวกันนั้นเอง เมื่อพวกเขาได้เห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นก็ถึงกับตกใจมาก ชะมัดเงาตัวนี้ช่างแข็งแกร่ง มันฆ่าคนไม่ต่างกับสับเต้าหู้เลย

แต่หลิน เฟิงกลับมีความมั่นใจอย่างมากว่าความเร็วสูงสุดของชะมดเงาผู้แสนว่องไวตัวนี้นั้นจะอยู่ได้แค่สิบวินาทีเท่านั้น พอออกมาแค่สิบวินาที มันก็หลบไปซ่อนตัวอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แค่ภายในสิบวินาที คนก็ถูกฆ่าไปแล้วถึงสี่คนแล้ว แถมสองคนในนั้นก็ไม่ได้มีฝีมือกระจอกๆเลยด้วยเพราะเป็นถึงระดับ A เริ่มต้น

ในตอนนี้ ตรงหน้าหลิน เฟิงจึงเหลือคนเพียงสี่คนเท่านั้น คนหนึ่งคือผู้มีพลังระดับ B ส่วนอีกสามคนคือผู้มีพลังระดับ A ส่วนอีกคนก็คือระดับ A ขั้นสูงสุด

แต่พอมาตอนนี้ พวกเขากลับไม่มีแรงที่จะต่อต้านด้วยเลยสักนิด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้นเลวร้ายเกินไป อีกทั้งยังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนยากที่จะมองได้ด้วยตาเปล่าและนี่ก็ทำให้พวกเขาแทบเสียสติ

ในตอนนั้นเอง ทั้งสี่คนจึงหันหลังชนกันพร้อมกับถืออาวุธมาไว้ในมือ ตัวสั่นเทา บางคนก็ถืออาวุธฟาดไปฟาดมาตรงหน้าแบบมั่วๆ

เมื่อเห็นแบบนั้น หลิน เฟิงก็ถึงกับส่ายหน้า พละกำลังของพวกเขาไม่ได้กระจอกกันเลย แต่คุณภาพทางจิตใจและประสบการณ์การฝึกฝนต่างหากที่มีน้อยเอามากๆ ราวกับไม่ได้มีการบังคับให้ฝึกฝนกันเลยในระดับนี้

ในตอนนี้ หลิน เฟิงกับตู๋ กังจึงได้เข้าไปใกล้ทั้งสี่คนนั้นมากขึ้น เพื่อที่จะให้มั่นใจว่าชะมดตัวนั้นจะไม่เข้ามาพบพวกเขาเร็วเกินไปนัก มันคงจะช้าไปที่จะย่องหนีออกไปตอนนี้

เมื่อหลิน เฟิงไปใกล้คนพวกนั้นมากขึ้น คนทั้งสี่ก็ยังมัวเหวี่ยงดาบไปมาอยู่ เหงื่อไหลท่วม ร้องลั่น

หลิน เฟิงกะเวลาเอาไว้ว่าน่าจะครึ่งนาทีได้แล้ว ที่เจ้าชะมดตัวนั้นจะเริ่มลงมืออีกครั้ง หลิน เฟิงกับตู๋ กังต่างมองหน้ากัน ต่างคนต่างยืน พลางรอให้ชะมดตัวนั้นโผล่ออกมา

เมื่อมั่นใจแบบนั้นแล้ว อีกทั้งหลิน เฟิงยังคอยจับจ้องอยู่ตลอด ชะมดตัวนั้นจึงโผล่ออกมาในที่สุด

ในตอนนี้ ระยะห่างระหว่างหลิน เฟิงกับตู๋ กังนั้นเข้ามาใกล้กันมาก จนเขารู้สึกได้ถึงความเร็วของชะมดตัวนั้น เกือบจะน่ากลัวเลยทีเดียว แม้แต่หลิน เฟิงเองคงจัดการตัวชะมดเงาผู้แสนว่องไวนี้ด้วยความเร็วมากสุดของเขาไม่ได้แน่

เพราะมันทั้งเร็วและฉลาด มันจึงเข้าจัดการผู้มีพลังระดับ B ที่อ่อนแอที่สุดเป็นอย่างแรก กรงเล็บแหลมคมของมันนั้นจ้วงลงที่คิ้วของชายคนนั้น รอยเลือดทั้งสามแห่งไหลยาวเป็นทางจากหน้าผากจรดคาง

ดวงตาของชายคนนั้นเบิกกว้าง ใบหน้าดูทรมาน กว่าที่สามคนที่เหลือจะตั้งตัวทัน ร่างของเขาก็ค่อยๆล้มลงไปกับพื้นเสียแล้ว

ไม่ต้องรอให้ทั้งสามตะโกนให้เจ็บคอ ชะมัดตัวดังกล่าวเข้าจัดการคนทั้งสามคนที่เหลืออีกครั้ง

ในครั้งนี้ การโจมตีของมันเปลี่ยนไปเป็นการพุ่งเป้าไปยังชายคนที่ใช้มีดสับตัวมัน ชื่อของเขานั้นก็คือจู่ ยี่ ผู้มีพลัง A ระดับต้น

ความเร็วของชะมดเงาผู้แสนว่องไวนั้นจัดว่าว่องไวมากเสียจนทั้งสามคนไม่มีเวลาได้ตั้งตัวเลย แต่เมื่อชีวิตมาแขวนอยู่บนเส้นด้ายแบบนี้ ศักยภาพของแต่ละคนจึงถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างมหาศาล

จู่ ยี่จึงได้รู้ว่านี่คงถึงเวลาที่เขารอคอยแล้ว บวกกับว่าครั้งก่อนตนก็เพิ่งจะจัดการกับมันได้ เขาจึงพอมีประสบการณ์อยู่บ้าง กริชในมือของเขาก็ได้เริ่มสะสมความแข็งแกร่งนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

เมื่อเห็นว่าผู้มีระดับ B ตายลง เขาจึงแกว่งดาบของเขาไปมา

ต่อมา กรงเล็บจากอุ้งมือที่มีสามแง่งนั้นก็พุ่งเข้ามาที่เขา ทั้งดาบและกรงเล็บพุ่งเข้าปะทะกันในที่สุด จนเกิดเป็นแสงประกายออกมา ไม่มีใครชนะใคร ถือว่าโชคเข้าข้างจู่ ยี่อีกครั้ง

ชะมดเงาผู้ว่องไวนั้นถูกมีดของเขาฟัน จนต้องล่าถอยไป จนเมื่อกระโดดลงสู่พื้น มันจึงคว้าร่างชายอีกคนมา