RC:บทที่ 288 การพัฒนาของมังกรดำ
“3.6 ล้าน!”
“3.7 ล้าน!”
*ตู้ม*
กรรรรรร!!
ทันใดทั้น ทุกๆคนก็ได้ยินเสียงคำรามดังกึกก้องซึ่งดูเหมือนจะมาจากที่ชั้นสอง ภายในห้องส่วนตัวเหล่านั้น
จากนั้นพวกเขาก็เริ่มมองหาว่าเสียงนั้นมาจากห้องไหน ผู้ที่แข็งแกร่งหลายคนนั้นตรวจหาหลินเฟิงในทันที
แต่โชคยังดี ที่หญิงชรานั้นได้สร้างโล่แห่งแสงที่คอยปกปิดพวกเขาเอาไว้แล้วทำให้คนข้างนอกไม่สามารถมองเข้ามาภายในได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
คลื่นพลังงานที่ถูกปลดปล่อยอกมาจากการที่มังกรดำก้าวข้ามระดับขึ้นมาได้นั้นทำเอาห้องส่วนตัวมันสั่นไหวไปทั้งห้องรวมไปถึงนอกห้องด้วย ผู้คนทั้งหลายที่แต่เดิมกำลังรู้สึกตื่นเต้นกับการประมูล ในตอนนี้พวกเขาเริ่มจะลดความตื่นเต้นลงมากันแล้ว
ในตอนนั้นเอง คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับหอประมูลแห่งนี้ก็ปรากฏตัวขึ้น เขาคือชายที่แข็งแกร่งที่เคยโผล่มาก่อนหน้านี้ ชายคนนั้นขมวดคิ้วและลอยมาดูตามห้องส่วนตัวเพื่อหาต้นตอ
อย่างไรก็ตาม ตัวเขานั้นโดนมือเวทย์มนต์ขนาดใหญ่หยุดเอาไว้ ที่ซึ่งเวทย์มนต์นั้นสร้างขึ้นมาจากพลังวิญญาณอีกที จากนั้นก็ตามด้วยเสียงกล่าวขึ้น “ขอโทษที พอดีฉันเพิ่งจะพัฒนาระดับขั้นของพลังได้น่ะ ก็เลยทำให้ที่นี่เกิดสั่นสะเทือนและรบกวนพวกนาย!”
เสียงนั้นเป็นของหญิงชราที่บอกกับชายผู้แข็งแกร่งแห่งหอประมูลที่ซึ่งในตอนนี้เขาขยับไปไหนไม่ได้เลย ในท้ายสุดเขาก็ยอมถอยกลับไปพร้อมๆกับความรู้สึกที่ว่า หญิงชราคนดังกล่าวนั้น น่าจะบรรลุระดับขั้นเดียวกับเขาหรือไม่ก็มากกว่าเขาไปแล้ว ดังนั้นเขาเองก็ไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับเธอนักหรอก
“โอเคๆ ฉันเข้าใจแล้ว ถ้าเธอไม่เป็นอะไรก็แล้วไป ยังไงก็ ยินดีด้วยนะ! เพราะงั้นการประมูล เริ่มต่อได้!” ชายที่แข็งแกร่งเอ่ยบอกก่อนจะหายไป
“ฟู่…” หญิงชราถอนหายใจเฮือกใหญ่จากนั้นก็กวาดมือไปในอากาศต่ออีก 5-6 ครั้งเพื่อที่จะขจัดคลื่นพลังงานอันน่ากลัวซึ่งออกมาจากหลินเฟิงในเวลานี้ ยิ่งทำ พลังของเธอก็ยิ่งลดลงไปเรื่อยๆ จนตอนนี้เธอเหลือพลังไม่ถึงครึ่งแล้ว
“3.8 ล้าน!!” มู่หรงหลานตะโกน
เมื่อเสียงของเธอเงียบลง ทุกๆอย่างก็เงียบลงไปด้วย ราคาในตอนนี้คือ 3.8 ล้านหินวิญญาณแล้ว เกือบจะ 4 ล้านเข้าไปทุกที ราคานี้ ต่อให้เป็น 1 ใน 10 ตระกูลใหญ่ก็ยังต้องใช้เวลากว่าครึ่งปีในการรวบรวมเงินขนาดนี้ เพราะงั้นก็ไม่ต้องพูดถึงตระกูลทั่วๆไปได้เลย
“3.83 ล้าน!” ลั่วหยูเทียนนั้นยังคงไม่ยอมแพ้ เขายังคงบิดราคาต่อไปอีก
“3.85 ล้าน!” และคราวนี้ก็เป็นคราวของคนจากตระกูลฮวงฟูบ้าง
ในตอนนี้ มีเพียง 3 ตระกูลใหญ่เท่านั้นที่ยังคงสู้กันอยู่ คนอื่นๆนั้นยอมแพ้ไปหมดแล้ว ด้วยราคาที่สูงจนน่ากลัวขนาดนี้ ในท้ายสุด ไม่ว่าใครจะที่ได้ไปเป็นคนสุดท้าย ยังไงซะมันก็ไม่คุ้มอยู่ดี
แต่กระนั้นเพราะทั้ง 3 ยังคาดหวังในความเป็นไปได้ที่จะทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งจิตวิญญาณนี้กลับมาใช้ได้อีกครั้งอยู่ ดังนั้นแล้วพวกเขาไม่สามารถปล่อยมันไปได้แม้ราคาจะสูงขึ้นเรื่อยๆก็ตาม
“ระวังตัวด้วยนะคุณหนู! พวกนาย รีบออกมาก่อนเร็ว!” ขณะที่มู่หรงหลานกำลังจะบิดต่อ ทันใดนั้นเสียงหญิงชราที่ฟังดูตื่นตระหนกก็ดังขึ้น
ทุกๆคนรีบหันไปมองยังหลินเฟิง ซึ่งในตอนนี้เขานั้นเหงื่อท่วมจนเหมือนไปวิ่งผ่านน้ำมาเสียแล้ว ทั้งผมและเสื้อผ้าต่างก็เปียกชุ่มไปหมด รวมถึงใบหน้าที่แดงก่ำกับเส้นเอ็นที่ปูดขึ้นมาก็ยิ่งทำให้เขาดูน่าเป็นหว่งมากขึ้นด้วย
ทุกๆอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาคำรามออกมาราวกับเขาไม่สามารถทนมันไว้ได้แล้ว เสียงคำรามที่เหมือนมังกร เหมือนเสือ หลุดออกมาพร้อมกับคลื่นพลังงานที่จู่ๆก็แพร่กระจายออกมา
“ฮึบ!” หญิงชราสูดหายใจก่อนจะกระเด็นออกไป วงเวทย์ที่เธอสร้างไว้นั้นเกิดรอยร้าว และในที่สุดมันก็ระเบิดออก
ร่างของหญิงชราที่ลอยกลับไปด้านหลังนั้น เธอไม่พลาดที่จะใช้พลังของเธอ ห่อหุ้มทุกๆคนในห้องไว้ด้วยกันก่อนจะค่อยๆลอยห่างออกจากหลินเฟิง
มันน่ากลัวมากๆ จังหวะเมื่อกี้มันสามารถฆ่าทุกๆคนได้เลย
*ตู้ม!!*
แสงสว่างนั้นแพร่กระจายออกมาและระเบิดห้องส่วนตัวที่เขาเก็บตัวอยู่นั้นจนเกิดเป็นรูมากมายให้เห็น
ทุกๆคนที่อยู่ด้านนอกหันไปมองหลินเฟิงและในตอนนั้นเอง พวกเขาก็ได้เห็น ว่าหลินเฟิงนั้นกำลังอยู่ในขั้นที่น่ากลัวสุดๆ พวกเขารู้สึกแปลกทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
ตอนนี้เอง ชายผู้เป็นคนดูแลหอประมูลก็ขมวดคิ้ว การประมูลถูกขัดเป็นครั้งที่ 2 แล้ว และนี่ทำให้เขาไม่พอใจมากๆ เขารีบไปยังที่ที่หลินเฟิงอยู่ในทันที
“อย่าเข้าไปนะ!” หญิงชราตะโกนเรียกขณะที่เธอกำลังลอยออกมาพร้อมกับคนที่เคยอยู่ในห้อง
แต่ชายผู้คุมหอประมูลก็ไม่ได้สนใจเธอและพุ่งเข้าไปหาหลินเฟิงในทันที
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ คลื่นแสงที่ซึ่งบรรจุพลังอันน่ากลัวของหลินเฟิงเอาไว้ก็ถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง บรรยากาศที่แสดงออกให้เห็นว่าโลกและผืนฟ้าจะถูกทำลายนั้นปกคลุมไปทั่วจนสร้างความน่ากลัวแบบสุดจนเขาต้องถอยออกมาในทันที แต่กระนั้นก็ไม่มีเวลาแล้ว
คลื่นพลังงานพุ่งเข้าใส่เขาในทันที จนทำให้ชายผู้ที่คุมหอประมูลแห่งนี้ต้องรีบใช้พลังทั้งหมดในการสร้างโล่ขนาดใหญ่มาไว้เบื้องหน้าเขา
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าโล่นี่คือสิ่งที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ในจังหวะต่อมา เขาก็ต้องเสียใจที่เรียกโล่นั้นขึ้นมา
ยามเมื่อลำแสงนั้นปะทะเข้ากับโล่ขนาดใหญ่ มันก็สั่นสะเทือนและสร้างรอยร้าวไปในทุกๆที่ และท้ายสุดโล่นั้นก็ไม่สามารถแบกรับแรงปะทะนี้ไว้ได้
ก่อนที่เขาจะได้โต้ตอบอะไร คลื่นพลังระลอกอื่นก็ปรากฎขึ้นในทันที 3 ครั้งใน 1 รอบ แถมพวกมันยังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย โล่ที่เขาสร้างนั้นไม่สามารถต้านแรงปะทะนี่ได้อีกต่อไป
ตัวเขารีบหลบออกไปไกลๆก่อนที่โล่นั้นจะแตกกระจายออก
คลื่นแสงเหล่านั้นทำเอาโล่พลังวิญญาณแตกกระจายจนหายไป และในเวลาเดียวกัน ห้องส่วนตัวใกล้ๆหลินเฟิงอีก 2 ห้องก็ได้ต้องถูกระเบิดไปด้วยพร้อมๆกับผู้ฝึกตนระดับ S สองคนที่กระเด็นลอยออกมา ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
คลื่นพลังงานที่แปรผันทั้ง 3 ครั้งในระลอกเดียวนั้น มันทำเอา 1 ใน 2 คนที่กระเด็นออกผวาไปเลย รวมถึงทำเอาทุกๆคนสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปด้วย
ในจังหวะที่ประตูห้องๆหนึ่งมันเกิดระเบิดและกระเด็นออก มันก็ทำให้ทุกๆคนได้เห็นชายหนุ่มกำลังนั่งอยู่ภายในนั้น
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด และรอยเลือดนั้นมาจากรูขุมขนของเขา เขาตายโดยที่เสื้อผ้าของเขากลายเป็นสีแดงไปหมดทั้งชุด ดวงตาเองก็เต็มไปด้วยเลือดจนเป็นภาพที่น่าสยดสยองสุดๆ
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกๆคนงุนงงนั่นก็คือ มุมปากของเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังยกยิ้มขึ้น เป็นรอยยิ้มที่ดูจะพึงพอใจ
ภายในมิติแห่งการต่อสู้ของหลินเฟิง มังกรดำก็ค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆเผยให้เห็นดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีทองซึ่งดูสูงส่ง น่าเกรงขาม และความเป็นนิรันดร์ในเวลาเดียวกัน
“ราชาทมิฬฟื้นคืนชีพแล้ว!”
กรรร!!
เสียงคำรามกู่ก้องดังกังวาลทำเอาทุกๆคนภายในหอประมูลรู้สึกได้เลยว่าพวกเขาได้พบเจอกับศัตรูแล้ว และในตอนนี้ก็กำลังเปี่ยมไปด้วยความกลัวจนถึงกระดูก
“อ่ะ--- ขอโทษทุกๆคนด้วยครับ!” ในทันที หลินเฟิงค่อยๆลุกขึ้นยืนช้าๆและโค้งตัวให้กับทุกๆคน ณ ที่แห่งนั้น
จากนั้นเขาก็หันไปบอกกล่าวกับผู้ดูแลหอประมูล “ขอโทษจริงๆที่ทำให้หอประมูลของคุณอยู่ในสภาพนี้ ถ้ายังไงเดี๋ยวจบงานแล้วจะชดใช้คืนให้นะครับ!”
ท่าทีของหลินเฟิงนั้นดูถ่อมตนและเป็นคนดีมากๆ รวมถึงน้ำเสียงก็ยังสุภาพอีก ชายผู้ดูแลหอประมูลเองก็ไม่ได้โกรธอะไร ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็ยังคงกลัวคลื่นพลังที่ปล่อยจากหลินเฟิงมาก่อนหน้านี้อยู่ด้วย
“โอเคๆ เข้าใจแล้ว เอาล่ะ การประมูล เริ่มต่อได้!” ชายคนดังกล่าวพูดก่อนจะปาดเหงื่อที่หน้าผากและรีบๆหายไปในทันที
“ขอบคุณมากๆเลยครับ คุณย่า!” หลินเฟิงไปหามู่หรงหลานก่อนจะพูดขึ้น
“ฟู่ นายทำอะไรไปน่ะ? พลังที่น่ากลัวเมื่อกี้นี้เกือบทำคนแก่ตายได้เลยนะ!” หญิงชรามองไปยังหลินเฟิงและถาม เมื่อเห็นว่าเขาทำอะไรบางอย่างเสร็จแล้ว
“ไม่มีอะไรครับ แล้วว่าแต่ การประมูลเป็นยังไงบ้าง?” หลินเฟิงเปลี่ยนเรื่อง
จากนั้นมู่หรงหลานก็เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เขาฟังพร้อมกับบอกเพิ่ม “ถ้านายไม่ทำอะไรแปลกๆ การประมูลคงจะจบไปแล้ว!”
“โอ๊ะ เข้าใจแล้ว! 4 ล้าน!” ทันทีที่มู่หรงหลานพูดจบ หลินเฟิงก็ตะโกนขึ้น
“4 ล้าน?!” ทุกๆคนต่างชะงักไปกับคำพูดนั้น
ราคานี้กับของมือ 3 นั้นดูยังไงก็รู้สึกว่ามันไม่ฉลาดเลยที่จะยอมเสีย 4 ล้านเพื่อของแบบนี้
สมาชิกที่แข็งแกร่งของตระกูลฮวงฟูที่ซึ่งนั่งอยู่ที่ชั้น 3 ก็มองและถอนหายใจในท้ายสุด
ในขณะที่ลั่วหยูเทียนอันเป็นตัวแทนของตระกูลชางกวนก็มองไปยังหลินเฟิงก่อนจะลังเล ชัดเจนเลยว่าเขาเองก็ยังไม่อยากจะยอมแพ้นักหรอก
ในตอนนี้ ใบหน้าของหลินเฟิงนั้นกำลังแสดงออกถึงรอยยิ้มอยู่ เหมือนจะบอกให้ลั่วหยูเทียนปล่อยผ่านไป
0 ความคิดเห็น