RC:บทที่ 287 ความแข็งแกร่งที่ปะทุออกมา

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

ความแข็งแกร่งของมังกรดำนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง และเมื่อมันก้าวข้ามความแข็งแกร่งระดับ A คลื่นพลังที่แข็งแกร่งก็ไหลออกมาจากร่างของหลินเฟิง ซึ่งเขาเองก็ไม่สามารถที่จะปิดบังได้แล้ว

คลื่นพลังงานนี้ไหลออกมาเป็นระลอกๆ เป็นเสมือนแสงที่กระจายออกมาเป็นคลื่นใหญ่ๆไปรอบๆตัว

หวังฮ่าวหมิงและเติ้งเทียนฟูที่ซึ่งอยู่ใกล้เขาที่สุดถูกผลักออกไปในทันที เมื่อคลื่นลำแสงนั้นพุ่งเข้าหามู่หรงหลาน หญิงชราก็ปรากฏตัวขึ้นในทันทีพร้อมกับผ่าคลื่นแสงนั้นออกด้วยการตบลงไปเบาๆ

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” ภายในห้องส่วนตัวนั้น หวังฮ่าวหมิงและเติ้งเทียนฟูถูกล้อมรอบไปด้วยคลื่นวงกลม

“อยู่ห่างจากเขาไว้ เป็นไปได้มาอยู่หลังฉันซะ!” หญิงชราพูด

คลื่นความแปรผันของพลังงานในรอบนี้นั้นยังไม่ได้หนักหนาอะไรมาก แต่สำหรับหวังฮ่าวหมิงและเติ้งเทียนฟูนั้นมันก็ทรงพลังไม่น้อยเลย

หญิงชราเดาว่ามันอาจจะมีคลื่นพลังงานที่รุนแรงกว่านี้หลุดออกมาได้เรื่อยๆ ดังนั้นเธอจึงบอกให้ทุกๆคนไปยืนหลบอยู่หลังเธอไว้

ไม่นานนัก คลื่นพลังงานของการที่เกล็ดของมังกรดำกำลังงอกนั้นก็ออกมาอีกเรื่อยๆ และมันเริ่มทรงพลังขึ้นทุกๆครั้ง เพียงแค่พริบตาเดียว ความแข็งแกร่งของมังกรดำก็เข้าสู่ระดับ S แล้ว

คลื่นพลังงานที่น่ากลัวนั้นยังคงไหลซึมออกมาจนแม้แต่หญิงชรายังรู้สึกได้ถึงการข่มขู่ของคลื่นพลังเหล่านั้น เจ้าของคลื่นพลังนี่...กำลังเข้าสู่ระดับ S

ในตอนนี้ ดวงตาของหลินเฟิงยังคงปิดอยู่ ใบหน้าของเขาดูเจ็บปวดและร่างกายของเขานั้นดูเจ็บปวดมากกว่า

*ตู้ม!*

ในท้ายสุด คลื่นพลังที่แข็งแกร่งก็แพร่กระจายออกมา คลื่นแสงที่น่ากลัวอยู่แล้วนั้น ในครั้งนี้ที่ดูเหมือนจะเป็นระลอกสุดท้ายพุ่งไปไกลถึง 180,000 ไมล์เลย!

พวกเขามองเห็นว่าคลื่นแสงนั้น ยามได้ปะทะกับเก้าอี้ภายในห้อง พวกมันก็กระจายกลายเป็นเถ้าถ่านกระจัดกระจายเต็มห้องไปหมด

ไม่เพียงเท่านั้น คลื่นแสงพวกนี้ยังคงทำร้ายคนอื่นอีกด้วย เมื่อหญิงชราเห็นดังนั้นเธอก็ถอนหายใจและพูด “ให้ตายเถอะ เจ้าหนุ่มนี่ทำอะไรอยู่น่ะ? ทำไมถึงสามารถปลดปล่อยพลังงานที่แข็งแกร่งขนาดนี้ออกมาได้!?”

ในขณะเดียวกัน หญิงชราเองก็ประหลาดใจ มือของเธอยังคงขยับอยู่ และในท้ายสุดเวทย์ผนึกก็ปรากฏขึ้นบนมือของเธอ แสงอาทิตย์สีทองสาดส่องขึ้นมาจากฝ่ามือของหญิงชราและมันก็ไปห่อหุ้มร่างของหลินเฟิงไว้

คลื่นพลังงานที่น่ากลัวนั้นปะทะเข้ากับวงเวทย์บนฝ่ามือของหญิงชราอย่างรุนแรงซึ่งทำให้เกิดคลื่นสั่นสะเทือนอย่างหนัก

แต่คิดว่าเธอเป็นใครกัน? หลินเฟิงเคยเดาไว้ว่า เธอคนนี้อย่างน้อยๆก็น่าจะระดับ SS แล้ว เพราะงั้นแค่จะสะกัดคลื่นพลังที่หลินเฟิงปล่อยออกมานั้นไม่ได้เป็นอะไรที่ตรึงมือเธอเลย

หลังจากที่ใจเย็นลงแล้ว หญิงชราก็ถอนหายใจและขมวดคิ้ว เธอไม่รู้ว่าหลินเฟิงกำลังทำอะไรอยู่ รู้แค่ว่าหากยังคงเป็นแบบนี้อยู่ เธออาจจะควบคุมไว้ไม่อยู่ก็ได้

ในตอนนั้น ร่างของมังกรดำภายในมิติแห่งการต่อสู้ของหลินเฟิงนั้นถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีดำ แสงนั้นยังคงเปล่งแสงสว่างแบบมืดๆออกมาอยู่เรื่อยๆ จากนั้นร่างกายของมังกรดำก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป

แต่เดิมแล้ว มังกรดำนั้นมีแค่ 2 เขาเท่านั้น แต่ในตอนนี้มันมีเพิ่มมาอีก 2 เขา กลายเป็นมังกร 4 เขาในที่สุด เขาพวกนั้นทำให้มังกรตนนี้ดูมีความเหนือชั้นและมีบารมีมากกว่า เหนือสิ่งอื่นใด ลมหายใจมังกรของมังกรดำนั้นก็แข็งแกร่งขึ้นมาๆ มันเริ่มคล้ายคลึงกับความรุนแรงเมื่อในอดีตกาลมากขึ้นเรื่อยๆ เต็มไปด้วยจิตสังหารและกลิ่นคาวเลือดเต็มไปหมด

ยิ่งไปกว่านั้น เกล็ดของมังกรดำเองก็เปลี่ยนไปอย่างมาก มันทั้งหนาขึ้นและมีส่วนโค้งมนกับแหลมคมของเกล็ดเพิ่มขึ้นเหมือนสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนที่มีความเป็นครึ่งวงกลมสอดแทรกอยู่ด้วย แถมยังดูเงางามขึ้นอีก

การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่นี้รวมไปถึงขนาดของตัวและหัวที่ใหญ่ขึ้นด้วย กรงเล็บทั้ง 4 ก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะดวงตานั้นก็เปล่งแสงอันสง่าผ่าเผยออกมาด้วย

“คุณหนู จัดการเรื่องการประมูลต่อเถอะ เดี๋ยวย่าจะดูแลเขาให้เอง” หญิงชราหันไปพูดกับมู่หรงหลานที่ซึ่งกำลังมองหลินเฟิงอยู่ ณ ตอนนั้น เมื่อเธอได้ยินคำพูดของหญิงชรา เธอก็พยักหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ ฝากด้วยนะคะ คุณย่า” พูดจบเธอก็หันหน้ากลับไปยังการประมูลต่อเลย

ในตอนนี้ ราคาของเมล็ดพันธุ์แห่งจิตวิญญาณก็สูงจนแตะ 2 ล้านไปเรียบร้อยแล้ว

“2.05 ล้าน!” มู่หรงหลานเอ่ยออกไป

“2.08 ล้าน!” สมาชิกแห่งตระกูลฮวงฟูที่อยู่บนชั้น 3 บิดต่อ

“3 ล้าน!” ลั่วหยูเทียนที่อยู่ท่ามกลางความกดดันอย่างไร้ความกลัวเองก็ตะโกนบอกอย่างใจเย็น

ช่วงนี้นั้นมีหลายคนที่ไม่ยอมแพ้ให้กับราคา และพวกเขาต่างก็คือคนจากตระกูลฮวงฟูที่อยู่บนชั้น 3 , ลั่วหยูเทียน, มู่หรงหลาน,ตู๋กูหวู่ชาง และตัวแทนจากตระกูลชางกวน นอกจากนั้นก็ยังมี 2 จากคนหมื่นคนที่ยังคงบิดราคาอยู่ด้วย

มู่หรงหลานไม่ได้คาดคิดเลยว่า การประมูลจะยังคงร้อนแรงไม่หยุดอยู่แบบนี้ ซึ่งเรื่องนี้เองก็ทำให้คนอื่นๆประหลาดใจด้วยเหมือนกัน

ภายใน 5 ตระกูลใหญ่นี้ มีเพียงหลงเฉาเทียนจากตระกูลมังกรที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของตัวเองเท่านั้นที่แสดงสีหน้าเศร้าออกมา อารมณ์และความรู้สึกของเขาในตอนนี้มันตกต่ำมากกว่าสภาพอากาศวันที่มีเมฆมากเสียอีก

ตระกูลมังกรนั้นขอให้เขานำเกล็ดมังกรดำกลับไปยังตระกูลให้ได้ และถ้ามีเงินเหลือก็ให้นำเมล็ดพันธุ์แห่งจิตวิญญาณกลับมาด้วย แต่มันกลับกลายเป็นว่า เขาดันได้โทเคนมิติโบราณมาแทน ส่วนทั้งสองอย่างที่ต้องได้มานั้น เขากลับไม่ได้อะไรมาเลย เพราะงั้นไม่มีทางที่เมื่อกลับไปแล้วเขาจะไม่โดนตระกูลลงโทษ

ถึงแม้ว่าตอนนี้ราคาจะเข้าสู่ 3 ล้านไปแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าราคามันจะยังเพิ่มขึ้นได้อีกเรื่อยๆ

“3.05 ล้าน!” ตระกูลฮวงฟูบิด

“3.3 ล้าน!” มู่หรงหลานเองก็ไม่ได้ผงะกับราคาของมัน เธอรีบบิดตามไป และหลังจาก 3.3 ล้านถูกบิด หลายๆคนก็เริ่มที่จะลังเลและหยุดบิดแล้ว

คน 2 คนที่นั่งอยู่ในหมู่คนนับหมื่นนั้น ไม่ใช่สมาชิกจาก 1 ใน 10 ตระกูลใหญ่ แถมพวกเขานั้นยังดูเหมือนว่าจะมีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันไปอีกด้วย

“3.33 ล้าน!” ถึงแม้ว่าลั่วหยูเทียนจะลังเล แต่เขาก็ก้าวต่อไป

“3.35 ล้าน!” ตู๋กูหวู่ชางลังเลอยู่พักใหญ่ๆแต่ท้ายสุดเขาก็เสนอราคาไปเกทับ

ชัดเจนเลยว่า 3.3 ล้านนั้นทำเอาคนมากมายลังเลที่จะบิดต่อจริงๆ

ถึงแม้ว่ามันจะมีค่ามหาศาล แต่ยังไงซะมันก็ไม่ใช่ของที่ใช้งานได้เหมือนเมล็ดพันธุ์ที่สดใหม่ แถมมันยังถูกขายมาตั้ง 2 ครั้งแล้วด้วย ข้อมูลมากมายและความพึงพอใจที่จะครอบครองมันก็หายไปตามกาลเวลา

ในตอนนี้ ทางห้องส่วนตัว หลินเฟิงที่นั่งอยู่บนพื้นนั้นยังคงเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แถมความเร็วในการเพิ่มนั้นยังทำเอาหญิงชราช็อกไปอีกด้วย

เข้าใกล้ S แล้ว!

อยู่กลางๆในระดับ S!

และเข้าสู่ขั้นสุดท้ายของ S!

เมื่อหลินเฟิงเข้าสู่ขั้นสุดท้ายของระดับ S ใบหน้าของหญิงชราก็เต็มไปด้วยเหงื่อ ทั่วทั้งตัวของเธอเองก็เริ่มเอาไม่อยู่ขึ้นมาแล้ว มันชัดเจนเลยว่า ทุกๆครั้งที่หลินเฟิงก้าวข้ามในแต่ละระดับ เธอเองก็ต้องใช้พลังวิญญาณมากขึ้นเพื่อที่จะคอยกำจัดคลื่นพลังงานแปรผันที่น่ากลัวเหล่านั้นไปด้วย!

“ยังเพิ่มขึ้นได้อีกงั้นหรือ?” นี่เป็นครั้งที่ 5 แล้วที่หญิงชราต้องมาจัดการแสงสว่างที่น่ากลัวซึ่งหลินเฟิงปล่อยออกมา

ในครั้งนี้ หลินเฟิงเองก็ชุ่มฉ่ำไปทั้งตัว ร่างของเขามีเหงื่อไหลราวกับฝนตก แม้แต่บนพื้นเองก็ยังเห็นเหงื่อของเขาไหลลงไปได้จนเกือบจะกลายเป็นแอ่งน้ำแล้ว

นอกจากนี้ ร่างกายของหลินเฟิงเองยังสั่นระรัวอีกด้วย ใบหน้าของเขาดูแดงไปทั้งหน้าในทุกๆครั้งที่มีเหงื่อหยดลงจากบนใบหน้านั้น ทุกๆคนในห้องต่างเห็นเหมือนๆกันว่าหลินเฟิงนั้นเจ็บปวดขนาดไหนในตอนนี้ แต่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถช่วยเขาได้ทั้งนั้น

ก่อนที่ทุกคนจะรู้ว่าต้องทำอะไร มันกรดำที่อยู่ภายในตัวหลินเฟิงก็ยังคงงอกเกล็ดขึ้นมาใหม่อยู่ตลอดเวลา และมันเพิ่มขึ้นมาแล้ว ในตอนนี้ ความแข็งแกร่งของมังกรดำเองก็ได้ถึงระดับ S เสียที และเขาเองก็เตรียมจะก้าวข้ามขั้นอีกครั้งภายในชั่วพริบตา

เห็นดังนั้น หญิงชราก็เริ่มร่ายมนต์ใหม่อีกครั้งเพื่อจะสร้างโดมมาคุมตัวหลินเฟิงไว้

การที่รับรู้ได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นของหลินเฟิงนั้น ทำเอาหญิงชราแสดงสีหน้าที่ดูกังวลออกมา นั่นเพราะว่า ก่อนหน้านี้เธอเองก็ใช้พลังมามากแล้ว และเธอก็ยังไม่รู้ว่าคลื่นพลังงานที่แปรผันอยู่นี้ จะยังคงออกมาอีกกี่ครั้ง

อย่างไรก็ตาม การที่เธอต้องใช้พลังเป็นจำนวนมากแบบนี้เป็นเวลานาน มันทำให้เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ที่เธอจะไม่สามารถต้านทานคลื่นพลังงานเหล่านี้ไหว

*ตู้ม!*

ถึงแม้ว่าจะกังวลอยู่แล้ว ในท้ายสุดคลื่นพลังนี้ก็มาอีกระลอกจนได้ มังกรดำนี้เข้าสู่ระดับ S แล้ว และคลื่นพลังระลอกนี้มันก็แรงพอที่เมื่อกระทบกับวงเวทย์ที่หญิงชราสร้างขึ้นมันก็พลอยทำเอาเธอเกือบจะหงายหลังไปด้วย รอยแตกเริ่มปรากฏขึ้นและแพร่กระจายออกราวกับเป็นไยแมงมุมเลย