RC:บทที่ 242 ความน่ากลัวของตงฟางเหลียน
กระบี่ทั้งเจ็ดพุ่งผ่านราชานกดาบกินวิญญาณ ในอึดใจต่อมาราชานกดาบก็มีเส้นปรากฏบนตัว เส้นเหล่านั้นเป็นสีแดงสด
จากนั้นราชานกก็กลายเป็นเศษชิ้นใหญ่ ๆ หลายชิ้นและตกลงมาจากอากาศ จากนั้นลำแสงก็ส่องผ่านหัวของราชา วินาทีต่อมามันกลายเป็นรูปร่างมนุษย์ ซึ่งก็คือหยิน เหลียนเย่
ขณะนี้มือของเธอเต็มไปด้วยเลือดและเธอยังคงกำแก่นจิตวิญญาณเอาไว้
"ไล่ตามไป!" หยิน เหลียนเย่สั่งสาวใช้ทั้งสองคนแล้วไล่ตามหลิน เฟิง
เมื่อหยิน เหลียนเย่กำลังผ่านจะเย่เฉียว เย่เฉียวก็ลุกขึ้นทันทีและมองหยิน เหลียนเย่ด้วยความตกใจและดีใจ
เขาตกใจเพราะเขาไม่รู้ว่าหยิน เหลียนเย่นั้นทั้งทรงพลัง งดงาม เร่าร้อนและละเอียดอ่อน
และเหตุผลที่ทำให้เขามีความสุขคือหยิน เหลียนเย่สัญญาว่าจะเป็นแฟนสาวของเขาตราบใดที่เขาได้ผลไม้ที่สูงกว่าระดับ A ได้พอเห็นว่าเขาจะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่สวยงามเช่นนี้ได้ เขาจะไม่มีความสุขได้อย่างไร
แต่ในวินาทีต่อมาความจริงตบเขาอย่างหนักและปลุกเขาขึ้นมาจากความฝันของเขา
"หยินเหลียนเย่!" เย่เฉียวขาน
"ออกไปให้พ้นทางซะ! มันเปล่าประโยชน์!" หยิน เหลียนเย่พูดด้วยความรังเกียจและเตะเขาออกจากทางแล้วรีบมุ่งไปข้างหน้า
"เหลียนเย่เธอ..."
“นายต้องการอะไร? นายมันเป็นแค่ขยะ นายคิดจะไล่ตามคุณหนูของเรามันก็เหมือนกับคางคกอยากกินเนื้อหงส์นั่นแหละ!” หลังจากสาวใช้พูดก็ตามมาด้วยเท้าที่เตะเข้าไปที่ดั้งจมูกของเย่เฉียวเต็ม ๆ จนสลบไป แล้ววิ่งหายไปข้างหน้า
"นายน้อย!" ในที่สุดผู้ติดตามเพียงคนเดียวของ เย่เฉียวก็มาอยู่ข้างเขา
ในอีกด้านหนึ่งหลิน เฟิงและมังกรแสงกำลังเดินทางด้วยความเร็วเต็มที่อยู่ใต้ดิน แต่ความเร็วของพวกเขานั้นช้าเกินไปเมื่อเทียบกับตั๊กแตนใบมีดโลหิตคู่ ตั๊กแตนโลหิตเคลื่อนไหวในพริบตาหลายครั้ง เหลือไว้เพียงเงาจาง ๆ ในต่ำแหน่งที่มันเคยอยู่ และไม่ช้าก็จะตามพวกเขาทัน
ใบมีดขนาดใหญ่แหลมคมทั้งสอง เปล่งแสงสีแดง สับไปตามตำแหน่งที่พวกเขาซ่อนอยู่ซึ่งทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนทิศทาง
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งทั้งหลิน เฟิงและมังกรแสงก็ถูกโจมตีโดยตั๊กแตนใบมีดโลหิตคู่ พวกเขาบาดเจ็บสาหัส หลิน เฟิงต้องหยุดซ่อนตัวและออกไปต่อสู้
หลิน เฟิงปล่อยมังกรดำ หมานรกสองหัวและมังกรแสงที่บาดเจ็บออกมาเพื่อต่อสู้กับตงฟางเหลียนและสัตว์คู่หูของเขา
ในเวลานี้ทั้งสองฝ่ายกำลังมองหน้ากัน หลิน เฟิงและสัตว์คู่หูของเขาถูกล้อมอยู่ตรงกลาง ตงฟางเหลียนและตั๊กแตนใบมีดโลหิตคู่ล้อมรอบพวกเขาทีละด้าน
พวกเขาเลือกที่จะหลบหนีหลายครั้ง แต่พวกเขาก็ถูกตั๊กแตนใบมีดโลหิตคู่หยุดไว้ได้ทั้งหมด
"ฮ่าฮ่า หนุ่มน้อยถ้าหนีไม่พ้นก็โปรดมอบผลวิญญาณมาซะ บางทีฉันอาจจะปล่อยนายไปเป็น ๆ หรือจะให้ฉันต้องโหดร้ายล่ะ!" ตงฟางเหลียนพูดอย่างเย็นชา
แต่หลิน เฟิงไม่สนใจ เขากลับส่งข้อความถึงมังกรดำและหมานรกสองหัว มังกรแสง ว่า "มังกรแสงและหมานรกสู้กับตั๊กแตนโลหิตไป มังกรดำและฉันจะหยุดตงฟางเหลียนไว้ ฉันเพิ่งแจ้งต้นไม้ปีศาจไป มันเร็วมาก มันน่าจะมาสนับสนุนพวกเราได้ในไม่ช้า!"
ตอนนี้หลิน เฟิงหวังเพิ่งได้เพียงแต่ต้นไม้ปีศาจ ไม่มีทางอื่นแล้ว!
"รับทราบนายท่าน!" จากนั้นหลิน เฟิงและมังกรดำก็บินโฉบไปทางตงฟางเหลียน และมังกรที่แสงกับหมานรกสองหัวก็ไปรับมือกับตั๊กแตนใบมีดโลหิตคู่
แม้ว่าหลิน เฟิงจะรู้ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเขากับมังกรดำ และมังกรแสงกับหมานรกสองหัวที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ของตน เพราะต่างชั้นกันเกินไป พวกเขาทำได้เพียงชะลอเวลาเท่านั้น
มังกรดำร่ายบทสวดมังกร ซึ่งสะท้อนไปทั่วป่า พลังมังกรถูกปล่อยออกมา มันสามารถส่งผลกระทบต่อตงฟางเหลียนและตั๊กแตนโลหิตไม่มากหรือน้อย และยืดเวลาการอยู่รอดของพวกเขาไปอีกเล็กน้อย
จากนั้นมังกรดำก็ปะทุใส่ตงฟางเหลียนและหลิน เฟิงก็ไม่อยู่เฉย เขาแปลงพลังจิตวิญญาณของเขา ปล่อยหมัดไฟนรกจากมือซ้ายและกำปั้นผ่าภูเขาจากมือขวาของเขา และระดมโจมตีใส่ตงฟางเหลียน
“ฮ่าฮ่าต่อหน้าตงฟางเหลียนอย่างฉัน นายยังคิดที่จะต่อต้านอีกหรือ? ยังกล้าแสดงฝีมือของนายอีกหรือ?” ทั้งที่เผชิญหน้ากับการโจมตีของหลิน เฟิงและมังกรดำ ตงฟางเหลียนก็ไม่กลัวเลย ในมุมมองของเขามันเป็นเพียงการละเล่นของเด็กเท่านั้น
ลมหายใจทมิฬของมังกรดำพ่นใส่ตงฟางเหลียน เขาโบกมือและโล่ลมก็ออกมาปัดป้องลมหายใจทมิฬราวกับโล่แสง ซึ่งไม่สามารถแตะต้องเขาได้เลย
จากนั้นหมัดทั้งสองของหลิน เฟิงก็ระเบิดออกมา ไฟกำลังไหม้อยู่ทางด้านซ้ายและผืนดินก็คำรามอยู่ทางด้านขวา มันทรงพลังอย่างล้นหลาม
"โอ้ ไม่เลวเลย แต่ก็ยังอ่อนแอเกินไป!" ทั้งที่เห็นตงฟางเหลียนเผชิญกับการโจมตีของหลิน เฟิง แต่เขาก็ยังคงมีใบหน้าสงบ จากนั้นเขายื่นมือออกมาจับสองหมัดของหลิน เฟิงตรง ๆ
เปลวไฟสีดำที่มือซ้ายของเขากำลังโหมไหม้และแรงฉีกกระชากที่มือขวาของเขาก็ยังระเบิดออก ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับตงฟางเหลียนที่ทรงพลัง หลิน เฟิงไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย และมือของเขาก็ถูกจับได้อย่างง่ายดาย
"เป็นไปได้ยังไง?" หลิน เฟิงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกระตุ้นพลังวิญญาณ แต่หมัดของเขาก็ยังไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เขาถูกตงฟางเหลียนจับไว้แน่นราวกับว่าสองมือตรงหน้าเขาไม่ใช่คน แต่เป็นมนุษย์เหล็ก
"หนุ่มน้อย แม้ว่าการโจมตีของนายจะแข็งแกร่งมากในระดับเดียวกัน แต่มันก็ไม่มีความหมายต่อฉันหรอก!" ตงฟางเหลียนพูด และจากนั้นด้วยมืออันแข็งแกร่ง หลิน เฟิงรู้สึกถึงเสียงของกระดูกมือ
"อ๊าก! ไปให้พ้น!" เมื่อเห็นว่าหลิน เฟิงกำลังเดือดร้อนมังกรดำก็รีบอัญเชิญพลังวิญญาณของเขาและร่ายบทสวดมังกร จากนั้นก็ พ่นมันตรงไปยังตงฟางเหลียน
"ฮ่าฮ่าเมื่อเผชิญกับพลังที่สมบูรณ์แบบ ทุกอย่างมันก็เปล่าประโยชน์!" พูดแล้วก็คลายมือที่จับมือของหลิน เฟิงแล้วตบมือมือข้างหนึ่งปะทะเข้ากับหางขนาดใหญ่ของมังกรดำ
มังกรดำกรีดร้องและบินออกไป ในขณะเดียวกันตงฟางเหลียนก็เตะหน้าอกของหลิน เฟิงโดยตรง หลินเฟิงปลิวไปข้างหลัง
แต่ตอนที่ตงฟางเหลียนเตะ เขารู้สึกผิดปกติ เขาคิดว่านั่นเพียงพอที่จะทำให้หลิน เฟิงบาดเจ็บสาหัส อย่างน้อยซี่โครงสองสามซี่ก็ต้องหัก แต่ทว่าหลิน เฟิงกลับได้รับบาดเจ็บภายในเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
และเขาเห็นเกราะปรากฏบนหน้าอกของหลิน เฟิง ที่ตอนนี้ยังคงมีรอยเท้าขนาดใหญ่หลงเหลืออยู่บนชุดเกราะซึ่งเต็มไปด้วยรอยแตกและจากนั้นแยกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และหล่นลงทีละชิ้น
"เช่นนั้นเองรึ เกราะนี่ไม่ใช่เล่น ๆ เลย อย่างน้อยมันก็ป้องกันพลังของฉันไปได้ 50-60% เลยทีเดียว!" ตงฟางเหลียนตกใจ
สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือหลิน เฟิง เขาได้รับชุดเกราะรบนี้จากน้ำวนดำของโทรศัพท์มือถือของเขา ไม่คิดเลยว่าเขาจะถูกเตะเป็นชิ้น ๆ โดยตงฟางเหลียน มันเต็มไปด้วยรอยร้าว ไม่ว่าพลังจิตของหลิน เฟิงจะถูกใช้ไปเท่าใดมันก็ไร้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด
"ทว่า 80% ของชุดเกราะของนายก็พังไปแล้ว ขอฉันดูหน่อยว่านายจะทำยังไงต่อไป..."
0 ความคิดเห็น