RC:บทที่ 167 องค์กรราตรีเข้าจู่โจม

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 167 องค์กรราตรีเข้าจู่โจม


ในตอนนี้ เสียงไซเรนดังขึ้นไปทั่วสถานี มู่ ซินซินลืมตาขึ้นมาก่อนจะรีบมองอย่างเร่งรีบ


“กลางคืนเงียบๆ แถมผู้คนก็หลับกันแล้ว อาจจะเป็นองค์กรราตรีก็ได้ที่เริ่มลงมือ ออกไปดูกันเถอะ” หลิน เฟิงว่าขึ้น


“เอ่อ ใช่ๆ” ส่วนมู่ ซินซินเองนั้นก็ไม่ค่อยจะเต็มใจผละจากอ้อมแขนจากหลิน เฟิงนั้น ใบหน้าเธอขึ้นสีพร้อมกับรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดาบนใบหน้า 


“ไปกันเถอะ ก่อนที่หลิน เฟิงจะได้เอ่ยอะไร มู่ ซินซินก็นำหน้าออกไปแล้ว ส่วนหลิน เฟิงก็เดินตามไป


หลังจากนั้นเพียงครู่เดียว หลิน เฟิงกับมู่ ซินซินจึงมาถึงที่สถานีตำรวจที่กำลังวุ่นวายไปหมด


คนจำนวนมากในชุดดำเข้าต่อสู้กับตำรวจ พวกชุดดำแต่ละคนนั้นมีพลังกันทั้งนั้น แถมยังมากกว่าตำรวจเสียด้วยซ้ำ


แม้จำนวนตำรวจจะมีไม่มากนัก แต่ทว่าตำรวจแต่ละนายนั้นล้วนแข็งแรงมาก แม้จะไม่ใช่ถึงขั้นเป็นคู่ต่อสู้ก็เถอะ


“องค์กรพวกนี้มีพลังมากแค่ไหนกันนะ เป็นแค่สาขาแท้ๆ แต่คนเยอะมากเลย” เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าจากมุมมืด เขาก็ตกใจเป็นอย่างมาก


มีคนชุดดำเป็นร้อยกว่าคน และแต่ละคนก็มีพลังด้วย พลังแบบไหนกันนะที่ที่รวบรวมผู้มีพลังมารวมตัวกันได้ขนาดนี้


คุณควรจะรู้ว่าหลิน เฟิง นั้นถึงมีจะทรงพลังแต่เขาก็มีพวกเป็นลูกพี่ลูกน้อง จื้อเฉิงเพียงคนเดียว 


ผู้มีพลังมารวมตัวที่นี่กันเป็นหมื่นๆคน แต่ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก เพราะจะต้องมีนายใหญ่ที่แอบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดแน่ๆ


ในตอนนั้นเอง คนในสถานีตำรวจก็เริ่มสู้ไม่ไหวแล้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่อาวุโสของสถานีไปไหนเสียแล้ว แม้แต่มู่ เทียนเฉิงก็มาหายไปด้วย น่าแปลกจริงๆ


“ตรงนั้น” เมื่อเห็นภาพตรงหน้า มู่ ซินซินจึงรีบวิ่งออกไปโดยไม่พูดอะไรต่อ


เห็นแค่ว่าเธอปล่อยสัตว์คู่ใจออกมา ก่อนจะวิ่งไปที่กลุ่มคนชุดดำพลางโจมตีอย่างไม่รู้ทิศทาง


“อืม ฉันอยากจะแค่รอดูอยู่ตรงนี้แล้วกัน” หลิน เฟิงถอนหายใจ


เดิมที หลิน เฟิงเพียงแค่ต้องการที่จะดูรูปแบบที่อยู่ตรงหน้าเขาพร้อมทั้งดูว่ามีนายใหญ่คนไหนที่ซ่อนตัวตามมุมมืดบ้างหรือเปล่า แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ มู่ ซินซินดันลงมือโดยไม่เอ่ยอะไรซักคำ


แล้วหลิน เฟิงจะทำอะไรได้อีก ก็ต้องออกไปสู้สินะ


หลิน เฟิงจึงปลดปล่อยสัตว์คู่ใจออกมา มังกรแห่งแสงนั้น ก่อนจะเข้าร่วมสู้ด้วย


คนพวกนี้ไม่ได้แข็งแรงมากนัก ส่วนใหญ่ก็อยู่ในระดับCและระดับBอีกหลายคน พวกระดับBนั้นแข็งแกร่งกว่าระดับCอยู่มาก พวกตำรวจส่วนใหญ่จึงได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับพวกระดับB


ดังนั้น หลิน เฟิงจึงได้อันเชิญมังกรแห่งแสงออกมาโดยไม่ลังเลเพื่อที่จะโจมตีพวกระดับBนั้น


คนแรกที่หลิน เฟิงโจมตีคือคนระดับBซึ่งดูมีขนาดตัวใกล้เคียงกับเขาที่สุด ทั้งสูงและแข็งแรง สัตว์คู่ใจของเขาคือกระทิงคลั่ง เขาเห็นว่าคนๆนั้นขี่มันไปมาและใช้มันขวิดผู้คนมากมายในสถานีตำรวจ


เจ้ากระทิงจอมดุนั่นเกรี้ยวกราดอย่างมากจนไม่มีใครเอามันอยู่ได้ คนเกือบทั้งหมดโดนเขามันขวิดจนร่วงไปตามๆกัน


“เอาเจ้านี่ก่อนแล้วกัน” หลังจากพูดจบ หลิน เฟิงก็เดินเข้าไปแบบเงียบๆเพื่อรีบไปที่ชายคนที่ขี่กระทิงตัวดังกล่าว


ในตอนนั้นเอง ไม่มีใครเห็นตัวหลิน เฟิง แต่ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ไหน ที่ๆเขาผ่าน พวกผู้มีพลังพวกนั้นก็จะถูกเขาเป่ากระเด็น


ในที่สุด หลิน เฟิงก็ไปถึงจุดของวัวคลั่งตัวนี้ เขาเห็นว่าหลิน เฟิงจับหางวัวตัวนี้ด้วยมือข้างเดียว ทำเอาตัวของวัวบ้าที่กำลังวิ่งอยู่นั้นหยุดชะงักไป


“เฮ้ย ใครมายุ่งอะไรกับวัวฉันเนี่ย”


ในตอนนี้ ผู้มีพลังระดับB เจ้าของของวัวคลั่งตัวนี้ กระโดดขึ้นสูง เขาถือขวานไว้ในมือ ก่อนจะจามใส่หลิน เฟิงกะจะตัดให้สะบั้น


“หมัดเพลิง” พลันเขาก็ปล่อยพลังออกมาจากในจิตก่อนจะสวนเข้าที่ขวานเล่มใหญ่นั้น


 “อ๋อ หรือแกอยากจะจัดการขวานฉันด้วยหมัดของแกงั้นสินะ ช่างอ่อนหัดเสียจริงโว้ย ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ” ชายคนนั้นว่าขึ้นก่อนจะออกแรงมากขึ้นแล้วพลังก็เพิ่มขึ้นมาทันที


แต่ในนาทีต่อมา


“ไป!”


สิ้นเสียงที่เอ่ยอย่างแผ่วเบานั้น หลิน เฟิงก็สวนเข้าที่ขวานนั้นด้วยหมัดของตน และเห็นได้ชัดว่ามีหลุมขนาดใหญ่ทิ้งไว้บนขวานของชายคนนั้นเป็นรอยลึก


“ยังไง เป็นไปได้ยังไงนี่” ชายคนนั้นตกใจอย่างหนักที่หมัดของชายตรงหน้านั้นแรงกว่าขวานของเขาอีก


เป็นแบบนั้นไปได้ยังไงกันน่ะ


 “อยากรู้ไหมว่าทำไม ไปถามยมบาลในนรกเอาก็แล้วกัน” พูดจบ ขาของหนึ่งของหลิน เฟิงก็ถีบกับพื้น ส่วนขาอีกข้างเตะชายคนนั้นลอยออกไป


จากนั้นหลิน เฟิงก็ตกลงมา แม้แต่ความเร็วในการตกลงมานั้นก็เร็วมาก เขาพลางเหยียบไปบนหัวกระทิงดุนั่นอย่างหนัก


มอ!!!


วัวบ้ากรีดร้อง ก่อนจะล้มลงกับพื้นในทันที ก่อนจะดิ้นไปดิ้นมา ลุกขึ้นมาไม่ได้


“เจ้าวัวบ้า” ชายคนดังกล่าวก็หล่นลงมาด้วยแต่ไม่ตาย และยิ่งเห็นว่าหลิน เฟิงนั้นกำลังเหยียบสัตว์เลี้ยงคู่ใจของเขาด้วยเท้าอยู่นั้น เขาก็ยิ่งโกรธจัดก่อนจะผุดลุกขึ้นอย่างรีบเร่ง


“โอ้ ได้เวลาพอดีเลย” หลิน เฟิงว่าอย่างเหยียดๆ ก่อนจะคว้าเอาเขาของวัวตัวนั้นด้วยมือข้างเดียว


“ลุกขึ้น”


หลิน เฟิงโกรธจัด  พลางโยนเจ้าวัวตัวนี้กระเด็นไปในทันที ก่อนจะกลิ้งหลุนๆไป เมื่อชายคนนั้นมาถึง เขาก็ถูกวัวคลั่งนั้นชนกระเด็นไปอีกครั้ง


ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่โตของวัวบ้านั้น หลิน เฟิงก็ได้ยินเสียงกร๊อบดังขึ้นมา ไม่รู้ว่ากระดูกของชายคนนั้นหรือเปล่าที่หัก


ชายที่ปลิวกระเด็นไปนอนอยู่บนพื้น ร่างชุ่มโชกไปด้วยเลือด ขยับไม่ได้


ในตอนนี้ หลิน เฟิงไม่ปล่อยให้ไปไหนอีก เขาโยนวัวคลั่งตัวนั้นไปในฝูงชน


“คุณตำรวจ หลีกไป” หลิน เฟิงตะโกนลั่นก่อนจะวิ่งไปในฝูงชนนั้น


มู่ ซินซินเห็นการเคลื่อนไหวของหลิน เฟิงก็ในครั้งนี้นี่เอง ก่อนที่จะอึ้งไปในทันที ชายคนนี้ช่างแข็งแกร่งอย่างคาดไม่ถึง


ไม่ว่าเขาจะผ่านไปตรงไหน ผู้คนชุดดำก็จะถูกกระทิงคลั่งที่หลิน เฟิงโยนมาด้วยมือเปล่านั้นชนกระเด็น ร้องลั่นกันไปทั่ว


ในที่สุด หลิน เฟิงจึงรีบไปที่ร่างของชายคนนั้น ก่อนจะใช้วัวตัวนั้นบดขยี้ไปบนร่างของชายคนดังกล่าวอย่างหนักหน่วง ในเวลาต่อมา ก็เกิดเสียงร้องลั่นขึ้นมาถึงสองเสียง ทั้งชายคนนั้นและวัวตัวดังกล่าวนั้นสิ้นลมหายใจไปเป็นที่เรียบร้อย


ในเวลาเดียวกันนั้นเอง คนหลายคนถึงกับอ้าปากค้าง ผู้คนที่อยู่ในสถานีตำรวจ ผู้คนในชุดดำ มู่ ซินซินและคนชุดดำบางส่วนนั้นได้แต่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด


แต่อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมานั้น การกระทำของหลิน เฟิงนั้นทำให้ผู้คนบ้างหัวเราะ บ้างก็ร้องไห้ หลังจากที่ปลิดชีพวัวบ้าและชายคนนั้นเรียบร้อยแล้วนั้น หลิน เฟิงก็ไม่ได้เข้ามาช่วยเธอ แต่กลับวิ่งไปที่วัวตัวนั้นอย่างรวดเร็วก่อนจะขุดเอาแก่นวิญญาณของวัวบ้าตัวนั้นออกมาด้วย


“ของดีเลยนะนี่ จะปล่อยให้ทรัพยากรดีๆแบบนี้เสียไปไม่ได้” หลิน เฟิงเอ่ยขึ้นอย่างพึงพอใจ


หลิน เฟิงอยากจะสร้างกองกำลังของเขาขึ้นมาเอง แล้วจะทำได้อย่างไรถ้าไม่มีของพวกนี้เลย


“ขยะแขยง มากมาย เหลือเกิน” ในขณะเดียวกันนั้นเอง ชายชุดดำที่มีพลังระดับBนั้นก็ทนดูสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ไม่ไหว


แม้ว่าเราจะฆ่าใครสักคนไปแล้วนั้น แต่เราก็ยังสามารถที่จะขุดเอาแก่นวิญญาณของสัตว์วิญญาณของคนอื่นที่อยู่ตรงนั้นมาได้ พฤติกรรมนี้ทำให้พวกตำรวจถึงกับหัวเราะและร้องไห้ แต่พวกชุดดำกลับโกรธจัด


“ฆ่าเจ้านี่ก่อนเลย...”


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น