RC:บทที่ 151 แก่นวิญญาณ
หลังจากนั้นเพียงครู่เดียว หลิน เฟิงจึงออกมาได้ด้วยความช่วยเหลือจากจื้อเฉิง
พอออกมาแล้ว เขาเห็นว่าบนพื้นมีร่างของคนสามคนนอนอยู่ เลือดเป็นสายปรากฏขึ้นบนคอของทั้งสามคนนั้นกำลังไหลออกมา
เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ก็ทำเอาหลิน เฟิงแทบจะอาเจียน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคนตายต่อหน้าต่อตา
ญาติผู้น้องของเขาอย่างจื้อเฉิงเองในตอนแรกก็ไม่ได้ใส่ใจนัก แต่ทว่าเมื่อเขาเห็นภาพตรงหน้าชัดขึ้นนั้น
อ้วก!!
หลังจากอ้วกแทบหมดไส้หมดพุงไปทั่วทุกที่ ตัวของเขานั้นลีบเล็กยิ่งกว่าหลิน เฟิงเสียอีก เพราะเขานั้นไม่ได้ต่อสู้บ่อยๆและก็ไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่าเองด้วย
“นี่คือตายหมดเลยงั้นหรือครับ” สักพักหนึ่ง หลิน เฟิงจึงได้สติ เขารู้สึกตะลึงงันก่อนจะเอ่ยถามขึ้น
“ใช่ ตายแล้ว มีอะไรงั้นหรือ” ราชาหมาป่าขาวสงสัย
“เฮ้อ ฉันน่าจะบอกนายก่อนว่าน่าจะเก็บไว้สักคนหรือสองคน คือฉันต้องการจะรู้ข่าวบางอย่างจากพวกนี้ แต่เฮ้อ เมื่อถึงที่ตายพวกเขาก็ต้องตายล่ะนะ” หลิน เฟิงว่าขึ้น
“เอ่อ เจ้าไม่พูดเร็วกว่านี้เล่า ไม่อย่างนั้นข้าจะเหลือไว้ให้เจ้าสักคน” ราชาหมาป่าขาวเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย
“ก็ได้ครับก็ได้ เอาเป็นว่าถึงเวลาที่พวกเขาต้องตายแล้วกัน งั้นไปปลูกต้นไม้วิญญาณกันเลยเถอะนะ ปะ” ว่าแล้วหลิน เฟิงก็กำลังจะเดินออกไป
“ไปงั้นหรือ ไป ณ ที่ใดกัน นี่ยังไม่ได้จัดการกับของดีๆกันเลยนะ” ราชาหมาป่าขาวถามขึ้น
“ของดีๆ ของดีอะไรกัน” หลิน เฟิงไม่เข้าใจ
ในความรู้สึกของหลิน เฟิงในตอนนี้ ของดีเพียงอย่างเดียวไม่ใช่การปลูกจิตวิญญาณแห่งพฤกษาหรอกงั้นหรือ
“งั้นดูนี่”
ทันทีที่หมาป่าขาวพูดจบ พลันกรงเล็บข้างหนึ่งก็ปรากฏออกมา พร้อมกับใบเลื่อยสีเขียวสามอัน ใบเลื่อยพวกนี้นั้นมีขนาดเล็กและบางมาก แถมพลังโจมตีก็น้อยนิด หลิน เฟิงไม่เข้าใจเลยว่าราชาหมาป่าขาวต้องการจะทำอะไร
ใบเลื่อยเล็กๆสามใบนั้นเข้าปะทะกับคิ้วของพวกฟางหนิงทั้งสามคน แล้วทันใดนั้นเอง ก็มีแสงๆหนึ่งออกมาจากคิ้วของพวกเขา จากนั้น ร่างของสัตว์วิญญาณทั้งสามก็ปรากฏขึ้นใกล้ๆกันกับพวกนั้น
ศพทั้งสามนั้นคือสัตว์ต่อสู้ของพวกฟางหนิงทั้งสามตัว
เหยี่ยวดำของฟาง หนิง แรดเหล็กของจู มู่และสิงโตเพลิงของหยาน จุน
ในตอนนี้ สัตว์ทั้งสามก็ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ได้แต่นอนกองกันอยู่แบบนั้น
“หืม? มีสัตว์วิญญาณด้วย แล้วมันมีอะไรหรือครับ” หลิน เฟิงยังคงไม่เข้าใจ ทั้งยังจำได้ว่าสัตว์ทั้งสามของพวกฟาง หนิงก่อนหน้านี้ยังไม่ตายนี่นา
“แปลกใจสินะที่สัตว์วิญญาณของพวกเขา ไม่มีตัวไหนมีชีวิตอยู่เลย” ราชาหมาป่าขาวมองท่าทีของหลิน เฟิงพลางยิ้มๆ
“ใช่ครับ แล้วมันยังไงหรือครับ เจ้านายก็ตายแล้ว สัตว์คู่ใจของพวกเขาก็ต้องตายไปด้วยไม่ใช่หรือครับ” หลิน เฟิงเดาเอา
“เจ้าพูดถูก มันก็ใช่ ถ้าเจ้าของตาย สัตว์วิญญาณของพวกเจ้าก็ต้องตายตามไปด้วย” หมาป่าขาวอธิบาย
“แต่ก็จะมีอยู่สถานการณ์หนึ่งที่ไม่ตาย ถ้าได้ทำพันธสัญญาเสมอภาค พวกนั้นจะไม่ตาย” ในตอนนั้นเอง มังกรดำจึงบินลงมาหาฝูงชนก่อนจะเอ่ยขึ้น
“พันธสัญญาเสมอภาคอย่างงั้นหรือ” หลิน เฟิงถามขึ้น
“ใช่แล้ว มังกรดำพูดถูก มีเพียงสถานการณ์เดียวเท่านั้นที่การตายของฝ่ายหนึ่งนั้นจะไม่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งตาย นั่นล่ะคือพันธสัญญาเสมอภาค เหมือนเจ้ากับมังกรดำอย่างไรล่ะ” จ่าฝูงหมาป่าขาวกล่าวขึ้น
“อ๋อ เข้าใจแล้วครับ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่านั่นจะเป็นพันธสัญญาเสมอภาคหรือไม่ใช่กันล่ะครับ” หลิน เฟิงเอ่ยถาม
“พันธสัญญาที่สัตว์วิญญาณเป็นผู้เริ่มก่อนนั้นจะเรียกว่าชุดวิญญาณหรือก็คือพันธสัญญาเสมอภาคนั่นเอง แต่ถ้าเป็นพันธสัญญาที่มนุษย์บังคับทำขึ้นมาล่ะก็ นั่นจะไม่ถือว่าเป็นพันธสัญญาเสมอภาค” มังกรดำอธิบาย
“อ๋อ อย่างงี้นี่เอง ถ้าอย่างงั้นสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งสามตัวของฉันก็ถือว่าเป็นสัตว์พันธสัญญาเสมอภาคงั้นสินะ” เมื่อคิดถึงตรงนี้ สัตว์วิญญาณทั้งหลายของเขานั้นล้วนแต่เป็นผู้เริ่มทำพันธสัญญาเพื่ออัญเชิญชุดวิญญาณนั่นทั้งสิ้น
“ใช่ ถูกต้องแล้ว รีบเอาแก่นวิญญาณไปไวๆเสียสิ ทั้งสามตัวนี้ล้วนแต่เป็นแก่นวิญญาณระดับBทั้งนั้น พลังที่พวกมันมีนั้นเยอะมากทีเดียว พวกมันคงจะช่วยเจ้าได้มาก” ราชาหมาป่าขาวกล่าวขึ้น
“ราชาหมาป่าขาว ตัวนายเองก็เกือบอยู่ระดับAแล้ว แก่นวิญญาณพวกนี้ก็ควรจะมอบให้นาย” หลิน เฟิงกล่าวขึ้น
“ไม่จำเป็นแล้ว แม้ว่าตัวข้าจะกลืนกินหรือดูดซับแก่นวิญญาณสามอันนี้ลงไป ข้าก็ไม่สามารถข้ามขั้นไปได้แล้ว” หมาป่าขาวส่ายหน้าพลางพูดขึ้น
“ทำไมล่ะครับ”
“เพราะหมาป่าเขาแก่แล้ว สภาพร่างกายคงรับไม่ไหว ฝืนออกแรงไปก็รังแต่จะทำให้ร่างเดิมนั้นเจ็บไปเปล่าๆ ซ้ำยังทำให้เวลาที่เขาเสียชีวิตนั้นต้องสูญเสียไป เขาต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไปและข้ามขั้นไปให้ได้โดยไม่ทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ และผลไม้พวกนั้นก็น่าจะเป็นความหวังสุดท้ายของเขาด้วย” มังกรดำร่อนไปมาในอากาศก่อนจะพูดขึ้น
"ข้าพูดถูกสินะ ราชาหมาป่าขาว” มังกรดำหันมาถาม
“ฮ่าๆ เจ้าพูดถูก แต่ข้ากลับคิดว่าความหวังสุดท้ายที่ว่านั่นได้หายไปแล้วล่ะ นอกจากนี้ พลังวิญญาณในยุคนี้เองก็บางเบาเกินไป ข้าคงรอผลไม้นั้นโตไม่ไหว” จ่าฝูงหมาป่าขาวถอนหายใจ
“นี่ อย่าเสียเวลาเลย ขุดแก่นวิญญาณนั่นออกมาแล้วก็ดูดซับมันเข้าไป เพราะหลังจากที่สัตว์วิญญาณตาย พลังวิญญาณของแก่นวิญญาณก็จะค่อยๆลดลง”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องมาเตือนข้าเรื่องนี้หรอก เพราะแก่นวิญญาณที่ข้าต้องการก็คือเหยี่ยวดำ โฮก!” มังกรดำว่าขึ้น ก่อนจะกู่ร้องยาว กรงเล็บเจาะเข้าที่หัวของเหยี่ยวดำก่อนจะดึงอัญมณีสะท้อนสีน้ำเงินนั่นขึ้นมา
“นี่คือแก่นวิญญาณงั้นหรือ” หลิน เฟิงถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นว่าแก่นวิญญาณนั้นมีลักษณะเช่นไร
ในตอนนี้เอง มังกรทองก็เข้ามาร่วมด้วย ก่อนจะรีบไปที่แรดคลั่งเกราะเหล็กนั่น การทำลายส่วนหัวของแรดตัวดังกล่าวนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จนในที่สุดก็ดึงเอาแก่นวิญญาณสีเหลืองออกมาได้
แก่นสีเหลืองนั้นมีขนาดเล็กกว่าแก่นสีน้ำเงินที่อยู่ในหัวของเหยี่ยวดำ แต่ถึงกระนั้น มังกรทองกลับกลืนมันลงไปอย่างไม่ลังเล
“แล้วอีกชิ้นหนึ่งให้ญาติผู้น้อง ราชาแมงป่องน้ำแข็ง”
เวลาได้ดี หลิน เฟิงก็ไม่เคยลืมผู้คนที่อยู่ข้างกายเขา เขาอยากจะมอบส่วนที่เหลือตรงนี้ให้กับญาติผู้น้องตน
“เสี่ยวเฟิง ไม่ได้” เมื่อนั้นหมาป่าขาวก็ออกปากห้าม
“ทำไมล่ะ”
“ระยะเวลาที่แมงป่องน้ำแข็งกลายมาเป็นสัตว์วิญญาณนั้นยังไม่นานพอยังไงล่ะ แม้แต่ระดับต่ำก็ยังไม่ถึง รับเอาไปก็เสียของเปล่าๆ ลองเปลี่ยนมาเป็นองุ่นของเจ้าสิยังได้ประโยชน์กว่า และถ้ากินแก่นวิญญาณเข้าไปนั่นก็อาจจะเป็นอันตรายถึงขั้นระเบิดได้เลยนะ” ราชาหมาป่าขาวกล่าวขึ้น
“ก็ได้ครับ งั้นเอาเป็นว่า เอาเจ้านี่กลับไปให้เสี่ยวเฮยก็แล้วกัน” พลันหลิน เฟิงก็นึกถึงเจ้าสุนัขนรกสีดำขึ้นมา ในขณะที่มังกรดำและมังกรทองเจียแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆนั้น หลิน เฟิงกลับแทบไม่ได้ใช้เสี่ยวเฮยเลยตอนนี้
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าหลิน เฟิงจะลืมมัน แต่นั่นก็เพราะเขายังคิดวิธีที่จะทำให้มันเก่งขึ้นได้อย่างไรดีไม่ออกต่างหาก
เสี่ยวเฮยนั้นเป็นแค่มันฝรั่งก้อนเล็กๆสำหรับหลิน เฟิง ไม่มีระดับเลือด ไม่เหมือนกับมังกรดำและมังกรทอง แต่เสี่ยวเฮยนั้นเกิดมาก็มีสายเลือดที่แข็งแกร่งและสามารถวิวัฒนาการได้ตลอดเวลา
ในเวลาสั้นๆนี้ ทั้งมังกรดำและมังกรทองนั้น ทั้งคู่ต่างกลืนแก่นวิญญาณลงไป ก่อนจะฟุบหลับลึก
หลิน เฟิงจึงเก็บแก่นวิญญาณของสิงโตเพลิงไป ก่อนจะนำมันใส่เข้าไปในช่องแหวนมิติเพื่อป้องกันไม่ให้มันสูญเสียพลังไป
หลังจากจัดการตรงนี้เสร็จแล้วนั้น หลิน เฟิงก็กำลังจะกลับไป พร้อมที่จะขุดต้นไม่วิญญาณ แต่เมื่อเขาหันหลังกลับไปนั้น มือถือของเขาก็สั่นขึ้นมาทันที ก่อนที่จะเกิดเสียงดังแทรกเข้ามาในจิตของเขา
“ติ๊ง พบชิ้นส่วนของสัตว์วิญญาณระดับเลือดS คุณต้องการสกัดมัน...”
0 ความคิดเห็น