CF:บทที่ 698 หวาดกลัว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 698 หวาดกลัว

 

การเผชิญหน้ากับวิธีแบบนี้แล้วไหนจะต้องมาเจอกับการขู่เตือนจากหลายๆอารยธรรมนั้นดูเหมือนว่าสงครามคาร์ลนี้จะเริ่มเห็นจุดจบลางๆแล้ว

 

ภายในห้องประชุมกลาโหมของคาร์ล กลุ่มของผู้มีอำนาจที่อยู่ล้อมรอบโต๊ะกลมกำลังดูข้อมูลที่ได้รับมาจากแผนกวิเคราะห์

 

“ไอ้หนุ่มคนนี้มันบ้าไปแล้วหรือไง? แค่เผ่าพันธุ์อ่อนแออย่างบลูแมน ถึงกับต้องเอาเขตแดนที่ยังไม่ได้พัฒนาขึ้นมาใช้เลยงั้นเหรอ?”

 

“เอาน่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดแล้วว่าปัญหาคืออะไร สิ่งที่ต้องทำคือ หาทางช่วยกันคิดว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีกว่า”

 

“แล้วจะแก้ปัญหากันยังไง? ตอนนี้เราไม่สามารถปล่อยชาวบลูแมนไปได้แล้วนะ”

 

กลุ่มของผู้คนมองไปยังรายชื่อของอารยธรรมและกองกำลังต่างๆทราปรากฏบนจอแสงด้วยความเศร้า พวกนั้นพยายามเรียกร้องให้คาร์ลนั้นปล่อยตัวบลูแมนไปให้พวกเขา

 

ส่วนมากสามารถมองข้ามได้ แต่ก็ต้องโต้ตอบให้ชัดเจน ตามแต่ที่จะเหมาะสมแต่ละอารยธรรมและกองกำลัง

 

ไม่เช่นนั้นแล้ว พวกเขาเองอาจจะเป็นคนที่ลากเอาอารยธรรมเหล่านี้ เข้ามาพัวพันกับสงครามครั้งนี้ได้ หากเป็นเช่นนั้น คาร์ลเองก็คงจะไม่สามารถปกป้องบลูแมนได้ รวมไปถึง บางทีก็อาจจะหมายถึงชีวิตพวกเขาเองด้วย

 

“ติดต่ออู๋ฮ่าวเหรินได้หรือยัง?”

 

“ยังไม่ได้ ตอนนี้เรากำลังติดต่อไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ป แต่คนที่รับหน้าที่รับโทรศัพท์ก็บอกเรามาว่ายังติดต่ออู่ฮ่าวเหรินไม่ได้เหมือนกัน”

 

“พวกเราต้องแก้ปัญหานี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากทิ้งไว้นานกว่านี้ ฝ่ายที่เสียหายจะเป็นเราแน่ๆ”

 

“ให้ตายสิ!”

 

ในตอนนี้บลูแมนนั้นกลายเป็นเหมือนมันฝรั่งร้อนไปแล้ว ถ้าพวกเขาไม่ปล่อยให้บลูแมนไป ชัดเจนเลยว่ามันจะกลายเป็นอะไรซักอย่างที่พวกเขาไม่อยากจะเจอแน่ๆ

 

ในขณะที่คาร์ลกำลังพยายามที่จะจัดการปัญหาเรื่องบลูแมน ก็ปรากฏกองกำลังจำนวนมากติดต่อเข้าไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ปของอู่ฮ่าวเหริน และสอบถามถึงเขตแดนที่ยังไม่ได้พัฒนา

 

เหล่าอารยธรรมเหล่านี้อยากจะจ่ายสิ่งที่มีค่าเท่ากันกับแผนที่ดวงดาวนั้นเพื่อแลกเปลี่ยนกับอู๋ฮ่าวเหริน

 

บางอารยธรรมนั้นถึงกับจะยอมแลกประชากรบนดาวดวงเล็กที่ปกครองอยู่กับแผนที่ดวงดาวเลยก็มี

 

หากฟิวเจอร์กรุ๊ปเก่านั้นเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆที่มีชื่อเสียง อู๋ฮ่าวเหรินก็เป็นเพียงคนที่มือชื่อเสียงท่ามกลางกลุ่มเล็กๆเท่านั้น

 

แต่หลังจากเรื่องนี้เกิดขึ้น ชื่อเสียงของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นแพร่สะพรัดไปทั่วทั้งสัมพันธมิตรจักรวาล และความนับถือของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกมาก บางคนก็ได้เผยแพร่เรื่องราวของอู๋ฮ่าวเหรินภายในโครงข่ายการสื่อสารของสัมพันธมิตรจักวาลว่า เขานั้นคือฮีโร่ประจำสัมพันธมิตรจักวาล

 

ถึงแม้ว่าแต่ก่อนจะมีคนเอารถ เอาบ้าน เอาดาวเคราะห์หรือยานอวกาศมาเดิมพันแล้วจะได้กลายเป็นฮีโร่ประจำภูมิภาค แต่นั่นไม่สามารถเทียบกับอู๋ฮ่าวเหรินได้เลย ต่างกันราวกับโลกและสวรรค์!

 

แต่เดิมแล้วในเขตแดนที่อู๋ฮ่าวเหรินพัฒนาอยู่นั้น แม้จะเคยกระจายข้อมูลเรื่องการอพยพไว้แล้วและเผยแพร่ลงไปในโครงข่ายสื่อสาร แต่มันก็มีคนจำนวนไม่มากที่สนใจจะอพยพเข้ามาอยู่

 

แต่ในตอนนี้ เมื่อข่าวปรากฏ กลุ่มคนจำนวนมากต่างถามอู๋ฮ่าวเหรินเกี่ยวกับเขตแดนนั้น 80% นั้นล้วนเป็นคนที่อยากจะอพยพเข้ามาอยู่ในเขตแดนนั้นทั้งหมด

 

ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนของผู้สมัครเข้ามายังฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ยังมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นด้วย หรือแม้แต่ทีมสำรวจดวงดาวเองที่เพิ่งตั้งขึ้นมาก็มีผู้สมัครจำนวนมากอยากจะทำงานในนี้

 

ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้นั้นมีนักผจญภัยชื่อดังหลายคนรวมอยู่ด้วย พวกเขาคิดว่า หากได้ทำงานภายใต้การดูแลของเศรษฐีใหม่อย่างอู๋ฮ่าวเหรินมันคงจะดีกว่า

 

อู๋ฮ่าวเหรินที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในดาวเคราะห์มองไปยังข้อมูลเหล่านี้ผ่านโลกออนไลน์และฟังที่จี้รายงานให้เขาฟังพร้อมกับหรี่ตามอง

 

“ล้ำค่าจริงๆ รู้งี้น่าจะทำแบบนี้นานแล้ว! มันเป็นเรื่องจริงที่กล่าวว่า อัจฉริยะจะต้องมาพร้อมชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ ผู้คนถึงจะเต็มใจติดตาม”

 

“ท่านคะ คนที่ต้องการที่จะร่วมงานกับท่านพวกนี้เคยมองท่านเป็นหัวหน้าของเหล่าศัตรูค่ะ”

 

จี้เตือนมันทำให้อู๋ฮ่าวเหรินหน้าเปลี่ยนสีนิดหน่อยก่อนจะกลับมายิ้มเหมือนเดิม

 

“พวกนั้นช่วยให้ฉันได้กลายเป็นเศรษฐีเองนี่และตอนนี้ฉันก็ได้เป็นเศรษฐีสมใจอยากพวกนั้นแล้ว ภายในสัมพันธมิตรจักรวาลแห่งนี้ มีใครจะกล้าพูดไหมว่ามีเงินมากมายกว่าฉันน่ะ!” อู๋ฮ่าวเหรินพูดด้วยความที่อยู่เหนือทุกสิ่งอย่าง

 

เช่นเดียวกับแผนที่ดวงดาว เขาสามารถเอามันออกมาเป็นโหลเลยก็ได้ รวมถึงของไฮเทคต่างๆและข้อมูลของโบราณสถานด้วย พวกมันมีเยอะจนนับไม่ถ้วนเลย!

 

“แล้วว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกับคาร์ลล่ะ?”

 

“คาร์ลน่าจะกำลังเจอเรื่องยากค่ะ มีอารยธรรมที่ทรงพลังมากมายส่งวิธีข่มขู่ของพวกเขาไปประกอบด้วยอารยธรรมระดับสูงด้วย ตอนนี้ชาวบลูแมนเปรียบเสมือระเบิดเวลาที่อยู่ในมือแล้ว

 

“แล้วก็ พวกนั้นพยายามที่จะติดต่อท่านด้วย อยากจะสื่อสารกับพวกเขาไหมคะ?”

 

อู๋ฮ่าวเหรินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดได้ “ฉันยังไม่อยากติดต่อกับพวกนั้น ฮึ่ม พวกนั้นหัวเราะเยาะฉัน ต่องสั่งสอนให้รู้หน่อยแล้วว่าอะไรคือความพอเพียง”

 

ตอนนี้ชิ้นส่วนของแผนที่ดวงดาวของเขตแดนที่ยังไม่ได้สำรวจถูกเปิดเผยออกมาบางส่วนแล้ว และอู๋ฮ่าวเหรินไม่ต้องการที่จะเก็บมัน เขาอยากจะให้ทุกคนรู้ว่า เขานั้นไม่ได้พูดเล่นๆหรือทำเล่นๆ

 

ในกรณีนี้ หากใครก็ตามที่คิดจะขัดใจเขา พวกนั้นก็ควรคิดให้ดีว่าชีวิตของพวกเขานั้นมีค่าน้อยกว่าแผนที่ดวงดาวเสียอีก

 

แน่นอนว่าในตอนนี้เหล่ากองทัพเล็กๆที่เคยร่วมมือกับอู่ฮ่าวเหรินนั้นก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากขนาดนั้น

 

ถ้าเปรียบเทียบกับพวกเขา เหล่ากองกำลังที่เคยรุกรานอู๋ฮ่าวเหริน พวกเขาเริ่มที่จะไม่สบายใจแล้วในตอนนี้

 

อู๋ฮ่าวเหรินสามารถยอมจ่ายเงินก้อนใหญ่ให้ชาวบลูแมนได้ และเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแล้ว มากกว่านี้ก็ยังได้

 

อารยธรรมเคสตัล ตระกูลมัวร์ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยรุกรานอู๋ฮ่าวเหริน และหยิงจี๋ ผู้ที่เคยอยู่ในจุดต่ำสุดของตระกูล เขานั้นแทบจะไม่เกรงกลัวความตายแล้วเมื่อเห็นข้อมูลบนโครงข่ายการสื่อสาร

 

เพียงไม่กี่นาทีก่อน พ่อของเขาติดต่อมาบอกให้เขาอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต อย่าคิดที่จะไปแก้แค้นอู๋ฮ่าวเหริน

 

เมื่อหยิงจี๋ได้ยินข่าวเขาก็โกรธมากๆ และยิ่งได้เห็นข้อมูลของอู๋ฮ่าวเหรินบนอินเตอร์เน็ตอีกก็ยิ่งโกรธ แต่ความโกรธนั้นก็เปลี่ยนเป็นความไร้อำนาจ ความหดหู่ ความกลัวและความอึดอัดใจแทน

 

ถ้าเกิดอู๋ฮ่าวเหรินเอาแผนที่ดวงดาวออกมาและยื่นข้อเสนอกับเขาลับๆ...ไม่ เขาไม่ได้ต้องการแผนที่ดวงดาว เขาต้องการแค่ชุดเกราะพลเรือน 1 แสนชุด ซึ่งนั่นเพราะเขากลัวว่านักฆ่าจำนวนนับไม่ถ้วนจะเข้ามาฆ่าเขาและเอาไปขึ้นรางวัล

 

เมื่อเปรียบเทียบกับตระกูลมัวร์แล้ว ตระกูลนี้ไม่ได้ดีเด่นักในสายตาของตระกูลอัลตา เพราะว่าครั้งหนึ่งพวกเขาเคยยื่นข้อเสนอกับอู๋ฮ่าวเหรินลับๆ

 

เทือกเขาอัลเลน ศูนย์กลางของตระกูลอัลตา พวกเขารีบจัดการประชุมอย่างเร่งด่วนกับเหล่าผู้นำเหล่าทัพเพื่อถกปัญหาที่เกิดขึ้นนี้

 

และก็เป็นเหมือนกันทั้งหมด กองทัพเหล่านี้ไม่มีค่าเพียงพอที่จะเทียบกับแผนที่ดวงดาวของอู๋ฮ่าวเหรินได้เลย ในการเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาเองก็ยังต้องเตรียมการโต้ตอบอู๋ฮ่าวเหรินไปด้วย และนั่นทำให้พวกเขายอมแพ้ไปโดยปริยาย

 

ตอนนี้พวกเขาเพียงร้องขอให้อู๋ฮ่าวเหรินยอมปล่อยผ่านปัญหาที่มีกับพวกเขา ไม่งั้นมันจะได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ

 

ศูนย์บัญชาการใหญ่ของสภากลางแห่งสัมพันธมิตรจักวาลในตอนนั้น รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมได้เปิดการประชุมเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดจากแผนที่ดวงดาวของอู๋ฮ่าวเหรินเป็นตัวต้นเหตุ

 

ถึงแม้ว่าสภากลางนั้นจะประกอบไปด้วยกองกำลังมากมาย แต่พวกเขาในยุคสมัยนี้ก็ยังไม่สูญสิ้นและละทิ้งความสำคัญของการมีชีวิตในโลกอนาคตลงไป

 

ในยุคนี้พวกเขาได้รับการสนับสนุนจาก 5 ทัพใหญ่ มันเลยทำให้ขุมกำลังของสัมพันธมิตรจักวาลนั้นใหญ่เอาเสียมากๆ

 

และแน่นอนเพราะการมีอยู่ของ 5 ทัพใหญ่ มันทำให้เขาต้องสูญเงินและทรัพยากรเป็นจำนวนมากทุกปี

 

เงินทุนส่วนนี้นั้นจะมาจากการสนับสนุนจากอารยธรรมหลักๆ ภาษีที่ได้จากกองกำลังต่างๆ และเงินสนับสนุนสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับช่องทางรูหนอน

 

อย่างไรก็ตาม ถ้ากลาโหมได้แผนที่นี้มา ทางสภากลางก็จะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับกลาโหมและค่าใช้จ่ายต่างๆได้อีกนานเลย

 

ถ้าคาร์ลรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในสภากลางแล้วล่ะก็ พวกเขาคงจะต้องหวาดกลัวแน่ๆเพราะสามารถเดาได้เลยว่าใครกันที่จะได้แผนที่ดวงดาวจากอู๋ฮ่าวเหรินไป และใครกันที่จะมาพาชาวบลูแมนออกไป



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น