CF:บทที่ 690 ซีซ่าร์
ยานอวกาศนั้นเคลื่อนผ่านท้องฟ้าระยิบระยับด้วยความเร็วสูง อู๋ฮ่าวเหรินนั่งอยู่ภายในนั้นพร้อมกับพยายามติดต่อกับทางอารยธรรมซีซ่าร์ไปด้วย
“นายมั่นใจว่าวิธีนี้มันได้ผลจริงๆเหรอ?”
“แน่นอน วิธีนี้น่ะเป็นวิธีที่ใช้ติดต่อกับทางอารยธรรมซีซ่าร์ ในยุคของนายพวกนั้นต้องยังไม่เปลี่ยนวิธีการติดต่อ”
“แล้วทำไมยังไม่มีใครตอบ?”
อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกหนักใจเล็กน้อย เขาได้วิธีการติดต่อกับซีซ่าร์มาจากกลุ่มซองแดง แต่นี่ก็ผ่านมานานแล้ว เขาไม่ได้รับการตอบกลับมาจากทางฝั่งโน้นเลย
ตอนนี้เขากำลังบินไปยังศูนย์บัญชาการของอารยธรรมซีซ่าร์ แต่ระหว่างทางนั้นบางสิ่งบางอย่างก็ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ มันไม่มีประตูใดๆที่เอาไว้ใช้สะกัดกั้นผู้บุกรุกเลย
และบางสิ่งที่เขาเองก็ยังไม่รู้ นั่นก็คือ ทางศูนย์บัญชาการของอารยธรรมซีซ่าร์ ผู้ปกครองแห่งซีซ่าร์กำลังมองข้อมูลที่ถูกส่งขึ้นมาบนจอด้วยความมึนงง
บนหัวของชาวซีซ่าร์นั้นมีเขาทรงแปลกๆเหมือนวัวอยู่ พวกเขานั้นแข็งแกร่งมากๆ แถมยังสูงกว่า 2.5 เมตรอีก
แขนที่แข็งแกร่งเหล่านั้นหนากว่าเอวขอมนุษย์แถมยังมีสิ่งที่เหมือนกระดูกแหลมยื่นออกมาจากแขนด้วย
“ผู้อาวุโสคาริม นี่คือข้อมูลที่ส่งมาจากยานอวกาศลำนั้นครับ ยานลำนั้นกำลังตรงเข้ามายังพวกเรา อยากจะให้สะกัดกั้นไว้ไหมครับ?”
“พอจะระบุได้ไหมว่่าใครอยู่บนยานนั้น?”
“ไม่ได้เลยครับ ยานนี่มันล้ำหน้าเกินไปเทคโนโลยีตรวจจับของเรานั้นแทบไม่มีประโยชน์เลยเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดยานล้ำนี้ไม่ได้ส่งสัญญาณมาล่ะก็ เราเองก็ไม่รู้ด้วยว่ามียานกำลังเข้ามา”
“อืม... งั้นแสดงว่า การที่เราตรวจจับได้นี่เป็นความต้องการของทางนั้นสินะ?”
“ใช่ครับ”
ผู้อาวุโสคาริมคิดซักครู่ก่อนจะพูดขึ้น “ไม่ต้องสะกัดกั้น ปล่อยให้บินเข้ามา”
“ดี ในเมื่อเรารู้สถานการณ์แล้ว คิดว่ายังไงบ้าง?”
“การสื่อสารแบบนั้เป็นวิธีการเข้ารหัสลับของอารยธรรมซีซ่าร์มาแต่เดิมอยู่แล้ว ซึ่งเราไม่เคยกระจายเรื่องนี้ออกไป เป็นไปได้ไหมว่าในยานนั้นคือชาวซีซ่าร์ที่เคยพลัดพรากไปเมื่อนานมาแล้ว?”
อารยธรรมซีซ่าร์นั้นเคยผ่านสงครามระดับจักรวาลมาก่อน แน่นอนว่าการบุกรุกเหล่านั้นทำให้มีชาวซีซ่าร์บางส่วนสูญหายไปด้วย
“ไม่น่าจะเป็นไปได้ มีชาวซีซ่าร์จำนวนน้อยมากที่รู้ถึงวิธีนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านั่นเป็นคนที่สูญหายไปจริงๆล่ะก็ ไม่มีทางที่พวกนั้นจะมาหาเราได้ตอนนี้หรอก”
“เลิกถกเถียงกันเรื่องนี้ดีกว่า เพราะเมื่อไหร่ที่ยานนั่นมาถึง เราก็คงจะรู้เองว่าใครอยู่ด้านใน”
“ข้อความที่ถูกส่งมานั้นมันดูแปลกนิดหน่อย แล้วก็ไม่สามารถถอดข้อความได้เลย...”
อู่ฮ่าวเหรินคงไม่ได้คิดหรอกว่าข้อความนั้นถูกส่งมาถูกแล้ว แถมมันยังตรงเข้าไปยังศูนย์บัญชาการของอารยธรรมซีซ่าร์เลยด้วย
ปัญหานั้นมันอยู่ที่การใช้รหัสลับส่งข้อมูลนั้นมันผิดพลาด เพราะในช่วงเวลานั้น อารยธรรมซีซ่าร์ยังไม่ได้ใช่วิธีการเข้ารหัสลับแบบนี้
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงไม่ได้ตอบกลับไป
เพราะต้องการที่จะเข้าพบผู้ปกครองแห่งอารยธรรมซีซ่าร์ อู่ฮ่าวเหรินจึงบินตรงเข้าไปยังส่วนปกครองของซีซ่าร์อย่างดาวเซลติกเลย
ที่นั่นคือดาวเคราะสีแดงที่ดูร้อนแรงตลอดเวลา มองจากข้างนอกนั้นเหมือนกับลูกไฟที่มีไฟลุกอยู่เรื่อยๆ
อู๋ฮ่าวเหรินรู้ดีว่านี่เป็นก๊าซเพลิงพิเศษที่อยู่บนดาวเซลติกนั้น และเมื่อเกิดการปะทุก็จะกลายเป็นทะเลเพลิงขึ้นมาทันที
อุณหภูมิของทะเลเพลิงนี้มันสูงมากๆ แม้จะเป็นจุดที่เบาบางที่สุดก็ยังสูงกว่า 50 องศาอยู่ดี มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้หากไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่ามนุษย์
อารยธรรมซีซ่าร์นั้นใช้ความพิเศษของสภาพแวดล้อมนี้เพื่อฝึกให้ร่างกายแข็งแรง ในอดีต ทะเลเพลิงแบบนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเท่านั้น แต่หลังจากที่พวกเขาได้ครอบครองเทคโนโลยีในการสร้างทะเลเพลิง พวกเขาก็ใช้เจ้าสิ่งนี้ในการปกครองทั่วเขตแดนซีซ่าร์เลย
ดาวเคราะห์หลายดวงที่อยู่ภายใต้เขตแดนซีซ่าร์นั้นจะมีทะเลเพลิงปกคลุมอยู่ แน่นอนว่าดวงดาวพวกนั้นไม่มีเหมือนเซลติกเพราะว่าทั้งพวกมันทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยทะเลเพลิงไปทั้งดวง
ในขณะที่ยานอวกาศของอู่ฮ่าวเหรินไปถึงยังดาวเซลติก เขาก็เห็นยานรบแบบพิเศษหลายลำบินออกมาจากท่าเทียบยานภายนอก
ยานพวกนั้นรูปทรงเหมือนเพชรที่ห้อมล้อมด้วยพลังงานจากทะเลเพลิงจนเหมือนเป็นคริสตัลที่กำลังเปล่งแสงอยู่
ทะเลเพลิงที่คอยปกคลุมยานพวกนั้นไม่ใช่แค่ตกแต่ง หากแต่เป็นเกราะป้องกันชั้นแรกของยานรบแห่งอารยธรรมซีซ่าร์อีกด้วย เมื่อยานรบเหล่านี้เข้าสู้ระยะประชิด อารยธรรมอื่นที่ไม่รู้ถึงการมีอยู่ของทะเลเพลิงก็จะต้องทุกข์ระทมกับเกราะป้องกันนี้ไปถ้วนหน้า
นั่นเพราะว่าเกราะดังกล่าว จะทำให้อุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้นไปด้วย
“นายเป็นใคร? ทำไมถึงเข้ามายังศูนย์บัญชาการของอารยธรรมซีซ่าร์?”
อู๋ฮ่าวเหรินส่งข้อความลงไปขณะที่ลอยอยู่บนฟากฟ้า เขาเลี่ยงการเกิดความชุลมุนไว้ก่อน
“เป็นเขาได้ยังไงกันน่ะ!”
“แปลกมากๆ ทั้งๆที่เราไม่เคยติดต่ออะไรกับคนๆนี้เลย ทำไมเขาถึงรู้วิธีติดต่อแบบพิเศษนี้ได้?”
“ให้เขาเข้ามาก่อน เพราะถ้าตามข่าวที่ได้ยิน ตัวตนของชายผู้นี้ก็ยังเป็นความลับอยู่”
อู๋ฮ่าวเหรินได้รับการนำทางจากยานรบของอารยธรรมซีซ่าร์และไปจอดยังท่าเทียบยานก่อนจะเดินออกไป
ในตอนนั้นผู้ปกครองแห่งซีซ่าร์นั้นได้ยินรอเขาอยู่ด้านนอกแล้ว
“ทางนี้ คุณอู๋”
อู๋ฮ่าวเหรินเดินตามชายคนดังกล่าวไปด้วยความตื่นเต้น
หลังจากที่เข้าไปยังดาวเซลติกแล้ว เขาก็รู้สึกได้ว่าอุณหภูมิภายในนี้ไม่ได้สูงมากนัก แต่การที่จะอยู่ในนี้ได้ เขาก็ยังจำเป็นต้องมีร่างกายที่แข็งแรงอยู่ดี
ไม่นานนัก อู่ฮ่าวเหรินก็ได้พบกับนักบวชและผู้ปกครองแห่งอารยธรรมซีซ่าร์
“สวัสดี ท่านผู้มาเยือนจากแดนไกล คุณรู้ได้อย่างไรถึงวิธีการสื่อสารลับของชาวซีซ่าร์อย่างเรา”
“ฉันจะบอกพวกนายทีหลังก็แล้วกัน เพราะฉันอยากรู้ว่าทำไมนายไม่ตอบข้อความที่ฉันส่งมาให้”
“เราได้รับข้อความนั้นแล้ว แต่เราไม่สามารถถอดรหัสได้ ไม่สามารถถอดรหัสได้เลย เพราะงั้นแล้วท่านส่งอะไรมาหรือ?”
อู๋ฮ่าวเหรินชะงักไปเลย ถอดรหัสข้อความไม่ได้งั้นเหรอ… ไม่ นี่มันเป็นวิธีที่ใช้ติดต่อกับชาวซีซ่าร์เลยไม่ใช่หรือไง? ทำไมพวกเขาไม่สามารถถอดรหัสได้ล่ะ
เมื่อเขาเอาเรื่องนี้ส่งเข้าไปยังกลุ่มซองแดง นักวิจัยก็พูดขึ้นด้วยความรุกรี้รุกรน “นี่เป็นความผิดของฉันเอง… ฉันลืมไปเลย ถึงเรื่องความต่างของช่วงเวลา เพราะงั้นรหัสที่ใช้มันเลยต่างกัน...บางทียุคนั้นอาจจะยังไม่ได้ใช้รหัสนี้...”
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นหมดคำพูดไปนานเพราะเหตุผลนี้ แต่ก็ยังดี เพราะอย่างน้อยๆชาวซีซ่าร์ก็ยังไม่ได้ฆ่าเขา
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงมาที่นี่แล้วก็เอาของฝากมาให้ด้วย”
การเผชิญหน้ากับชาวซีซ่าร์ มันจะดีกว่าถ้าพูดตรงไปตรงมากับเขา ไม่งั้นแล้วมันคงจะเป็นปัญหาแน่ๆ
ผู้อาวุโสแห่งซีซ่าร์มองยังของสิ่งนี้ แล้วเขาก็มองไปยังข้อมูลและของที่อู๋ฮ่าวเหรินให้มา เมื่อเขาพบว่าอู่ฮ่าวเหรินเข้าพบเพื่อจะขอให้ซีซ่าร์เข้าช่วยในการขับไล่พวกอารยธรรมคาร์ล สีหน้าที่แสดงออกมานั้นก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
นั่นเพราะว่าสัมพันธมิตรอวกาศ ณ เวลานี้ยังสงบสุขอยู่ รวมถึงซีซ่าร์เองก็ไม่เคยเป็นฝ่ายที่เปิดสงครามกับอารยธรรมรอบข้างด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสแห่งซีซ่าร์ก็มองไปยังของฝากที่อู๋ฮ่าวเหรินเตรียมมาและรู้สึกอยู่สงบๆไม่ได้
“ท่านแน่ใจนะว่าจะให้ข้อมูลนี่แก่เรา?” ผู้อาวุโสคาริมถามด้วยความตื่นเต้น
“แน่นอน ฉันรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน แต่พวกนายต้องหากันเองเพราะมันอันตราย”
“งั้นท่าขอได้รอซักครู่หนึ่ง พวกเราจะหารือกันและจะให้คำตอบอีกที”
หลังจากที่อู๋ฮ่าวเหรินออกไปรอด้านนอกแล้ว ผู้อาวุโสก็พูดขึ้น “ถ้าข้อมูลที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง พวกเราควรจะทำสัญญา ยังไงก็ตาม เราไม่ได้ต้องการจะโจมตีคาร์ลจริงๆ ไปทำให้พวกเขากลัวก็พอ”
“ฉันเห็นด้วย เรานั้นเฝ้าหาข้อมูลนี้มาอย่างยาวนาน ถ้าเราสามารถหาเจ้าสิ่งนี้ได้ ความแข็งแกร่งของอารยธรรมซีซ่าร์ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก”
ชัดเจนเลยว่าผู้อาวุโสแห่งซีซ่าร์นั้นรู้สึกว่าการช่วยอู๋ฮ่าวเหรินครั้งนี้มีค่ากับเขามาก เพราะงั้นเขาจะส่งทหารไปช่วยทำให้อารยธรรมคาร์ลหวาดกลัวเพื่อที่จะแลกกับข้อมูลของสิ่งที่ตามหาอยู่นี้
0 ความคิดเห็น