CF:บทที่ 682 สมบัติครั้งนี้คือบลูแมน!

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 682 สมบัติครั้งนี้คือบลูแมน!

 

ผ่านมาสิบกว่าวัน ฐานผลิตยานอวกาศของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นก็เริ่มยุ่งเหยิงขึ้นมา

 

เหล่าผู้สมัครทั้งหลาย เมื่อพวกเขาเริ่มคุ้นชินกับที่แห่งนี้และเห็นสถานการณ์แล้ว พวกเขาก็เซ็นสัญญากับอู๋ฮ่าวเหริน

 

ในการที่จะดึงดูดเหล่าผู้ที่มีความสามารถ อู๋ฮ่าวเหรินใช้เวลาเป็นอย่างมากในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดูแล้วรู้สึกดี

 

ยิ่งไปกว่านั้น ในเขตแดนที่เขาเลือกมานั้นก็ค่อนข้างจะพิเศษมากๆเสียด้วย เพราะมันห้อมล้อมไปด้วยดวงดาวแห่งชีวิตถึง 9 ดวงที่ที่ซึ่งมีสภาพแวดล้อมในระดับดีมาก

 

นอกจากนั้นเขาก็ยังลงทุนมากมายเพื่อซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมาไว้ ณ ที่แห่งนี้เพื่อจะทำให้ที่แห่งนี้ดีขึ้นไปอีก

 

อู๋ฮ่าวเหรินสัญญากับคนเหล่านี้ไว้ว่า ให้พวกเขาสามารถหาที่ดินและสร้างบ้านของเขาเองได้

 

แน่นอนว่าถ้าหากใครไม่อยากจะไปสร้างบ้านอยู่ใหม่ ก็สามารถเข้าไปอยู่ในเมืองที่เขาสร้างไว้ก็ได้

 

จากนั้นทุกๆอาทิตย์ก็จะมียานอวกาศคอยไปส่งที่สถานีขนส่งที่ใกล้ที่สุดเพื่อมุ่งหน้าไปยังสัมพันธมิตรอวกาศได้ หากพวกเขาต้องการจะออกไปจากที่นี่ ซึ่งมันเป็นอะไรที่สะดวกสบายมากๆ

 

เลนตี้นั้นเป็นชายตัวสีฟ้า ร่างกายของเขานั้นเหมือนกับไพลินซึ่งนั่นทำให้เขาดูแตกต่างจากคนอื่นมากๆ สายพันธุ์ของเขานั้นเหลือน้อยมากๆแล้วในจักรวาลนี้

 

เมื่อครั้งที่เขาออกมาจากบ้านเกิด เลนตี้ต้องการที่จะได้งานทำในสัมพันธมิตรจักรวาลและเมื่อเขาเห็นใบประกาศรับสมัครของอู๋ฮ่าวเหรินเขาก็รีบตรงมาที่นี่เลย

 

นั่นเพราะว่าเขาต้องการหินพลังงานเป็นจำนวนมากเพื่อทำให้เผ่าพันธุ์ของเขายังสามารถอยู่ต่อไปด้วย บ้านเกิดของเขานั้นกำลังถูกกลืนกินโดยกองกำลังที่ทรงพลังมากๆ ซึ่งมันทำให้เขาไม่สามารถต่อต้านได้เลย

 

มองเขตแดนดวงดาวในอนาคตของอู๋ฮ๋าวเหริน เขาก็เกิดตกหลุมรักในสิ่งนี้ขึ้นมาในขณะเดียวกันเขาก็มองเห็นโอกาสที่จะช่วยเผ่าพันธุ์ของตนเองด้วยพร้อมๆกัน

 

ตราบใดที่เขาสามารถเกลี้ยกล่อมพวกผู้ใหญ่ได้ เขาก็สามารถย้ายทุกคนจากบนบ้านเกิดของเขาได้

 

ถึงแม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าความสามารถของเขาในปัจจุบันนั้นคงยากที่จะพูดเรื่องแบบนี้

 

หากแต่การที่ยังคงรับรู้เรื่องราวของบ้านเกิด เขาก็รู้สึกว่าปัญหานี้ไม่สามารถยืดเยื้อให้นานกว่านี้ได้อีกแล้ว

 

“มีคนอยากจะพบฉันงั้นหรอ?”

 

“ใช่ครับ เขาเป็นพนักงานใหม่ เหมือนจะมีบางอย่างอยากจะบอกบอส”

 

“โอ้ งั้นให้เขาเข้ามา”

 

มองชายร่างสีฟ้าเดินเข้ามา อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้ข้อมูลของเขาในทันที ข้อมูลของเผ่าพันธุ์จากกลุ่มซองแดง

 

น้อยมากๆ...สงสัยเป็นเพราะเผ่าพันธุ์นี้ค่อนข้างจะอ่อนแอ ข้อความสุดท้ายก็บอกไว้แค่ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่พิเศษมากๆเท่านั้น

 

“อืม พวกนายมั่นใจนะว่าข้อมูลพวกนี้ถูกต้อง?”

 

“ถูกต้องที่สุด ข้อมูลพวกนี้พวกเราได้มาจากฐานข้อมูลของสัมพันธมิตรอวกาศเลย ความสามารถพิเศษของเผ่าพันธุ์นี้ถูกค้นพบภายในบ้านเกิดของพวกเขาที่ซึ่งพวกเขาครอบครองถิ่นนั้นๆอยู่ แต่โชคร้ายที่ตอนไปเจอ สายพันธุ์นี้ก็เหลือน้อยแล้ว”

 

“งั้นฉันคงเจอสมบัติแล้วสินะ”

 

“ถ้าเขาเป็นเผ่าพันธุ์บลูแมนจริงๆ จากการคำนวนเรื่องเวลาแล้ว นายไม่ได้แค่เจอสมบัติ แต่นายเจอมหาสมบัติที่มีเป็นขุมเลย” นักวิจัยกล่าว

 

จากนั้นเขาก็ส่งข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์นี้ไปให้ ที่ซึ่งบอกรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับพวกเขาเอาไว้

 

“นี่มันไม่ใช่การบังเอิญแล้วนะ ถ้าข้อมูลนี่ถูกต้อง นั่นหมายถึงช่วงเวลานี้ ดาวบ้านเกิดของเผ่าพันธุ์นี้ถูกยึดครองไปแล้ว”

 

“เพราะงั้นก็อย่างที่ฉันบอกแหละ นายเจอขุมทรัพย์เข้าให้แล้ว เมื่อนายได้พบกับเผ่าพันธุ์บลูแมนแล้ว นายต้องทำให้ชัวร์ก่อนว่าพวกเขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวจริงหรือไม่”

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นกำลังตื่นเต้นอยู่นิดๆ ถ้านี่ถูกต้อง นั่นหมายถึงโอกาสของเขามาแล้ว ตราบใดก็ตามที่เขาได้เหล่าบลูแมนมาไว้ในครอบครอง เขาก็ไม่ต้องห่วงเรื่องขาดช่างเทคนิคในอนาคตเลย

 

เลนตี้เดินเข้าไปยังออฟฟิศของอู๋ฮ่าวเหริน เพื่อเจอหน้าผู้เป็นนายของเขา เขาเองในเวลานี้ก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน นั่นเพราะว่าก่อนที่เขาจะสมัครเข้ามา ตัวเขาเองก็รู้จักฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่แล้ว

 

โดยเฉพาะผู้เป็นบอส ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อมากๆ

 

“นายคือ เลนตี้ จากเผ่าบลูแมนงั้นเหรอ?”

 

“ใช่ครับ บอส”

 

“มานี่ก่อน แล้ว นายอยากให้ช่วยอะไรล่ะ”

 

หลังจากชัดเจนเรื่องข้อมูลแล้ว ใบหน้าของอู๋ฮ่าวเหรินก็แสดงท่าทีใจเย็นออกมาหากแต่ในใจกำลังกระโดดโลดเต้นเป็นลิงอยู่

 

“เขตแดนดวงดาวที่บอสกำลังพัฒนาอยู่ ณ ปัจจุบันนั้นยังมีคนน้อยอยู่”

 

“ก็จริง ว่ามีคนน้อยมากๆที่อยู่ในเขตแดนดวงดาวที่กำลังพัฒนา แต่ฉันก็ประกาศเพิ่มประชากรลงไปในเว็บไซต์บริษัทที่อยู่ในสัมพันธมิตรอวกาศแล้วล่ะ”

 

เลนตี้ตกใจไปเลยเมื่อได้ยินว่าอู๋ฮ่าวเหรินประกาศรับหาคนเข้ามาอยู่ภายในเขตแดนนี้เพิ่มไปแล้ว

 

แต่กระนั้นเขาก็ยินดี เพราะจุดประสงค์ที่เขาเข้ามาในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะหาที่อยู่ให้กับเผ่าพันธุ์เขาอยู่แล้ว

 

ดังนั้นแล้วเขาจึงถามออกไปอย่างตื่นเต้น “ถ้าผมจะพาเผ่าพันธุ์ของผมมาที่นี่ บอสจะอนุญาตไหมครับ?”

 

เลนตี้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องการอพยพเผ่าพันธุ์เข้ามาภายในเขตแดนนี้ หลายๆเขตแดนนั้นไม่ต้องการคนแก่และเด็ก นั่นเพราะว่าประชากรทั้งสองประเภทนี้นับเป็นภาระสำหรับเขตแดนดวงดาวที่เพิ่งเริ่มต้นมากๆ

 

ได้ฟังคำของเลนตี้ อู๋ฮ่าวเหรินก็เกิดความตื่นเต้นสุดๆขึ้นมาในใจ ขุมสมบัติเข้ามาหาเขาเองแล้ว!

 

ดูเหมือนว่าข้อมูลที่นักวิจัยส่งมาให้นั้นจะเป็นเรื่องจริง

 

“นี่เป็นข้อมูลการอพยพเข้ามาในเขตแดนของฉัน นายอ่านเองเถอะ”

 

เมื่อเลนตี้ได้อ่านข้อมูลการอพยพ เขาก็ต้องตกใจมากๆ นั่นไม่ใช่เพราะมันยากที่จะเข้ามา หรือโหดร้ายทารุณ หากแต่มันค่อนข้างจะง่ายเลยด้วยซ้ำ

 

ถ้ายึดตามข้อมูลนี้ นั่นหมายถึงไม่ว่าใครก็ตามที่จะทำงาน สามารถย้ายเข้ามาอยู่ภายในนี้ได้ แถมในช่วงแรกนั้น พวกเขายังได้รับความช่วยเหลือจากฟิวเจอร์กรุ๊ปอีกด้วย

 

แน่นอนว่าการช่วยเหลือนั้นไม่ได้ทำให้ฟรีๆหรอก หากแต่จะไปเก็บเอาทีหลัง

 

“บอสครับ! พวกเราชาวบลูแมนจะย้ายเข้ามาที่นี่ ถ้ายังไงผมอยากได้วันหยุด เพื่อจะได้กลับไปยังบ้านเกิดน่ะครับ”

 

“ไม่มีปัญหา ในฐานะพนักงานบริษัทของเราแล้ว หากนายต้องการให้ช่วย ก็ติดต่อเข้ามาในบริษัทได้เลย”

 

เลนตี้ออกไปจากออฟฟิศของอู๋ฮ่าวเหรินด้วยความรู้คุณ จากนั้นก็วิ่งเหยาะๆไปยังศูนย์การติดต่อทันที

 

เขาต้องติดต่อไปยังบ้านเกิดของเขาก่อน เพื่อให้คนที่นั่นเตรียมตัว

 

เขาไม่ได้รู้เลยว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นจะตื่นเต้นมากกว่าตัวเขาเองเสียอีก ตราบใดก็ตามที่เหล่าบลูแมนเข้าไปอยู่ ณ ที่ของเขา เขาก็จะสามารถจัดการปัญหาใหญ่ๆได้ง่ายๆ

 

ก่อนที่พลังพิเศษของชาวบลูแมนจะถูกค้นพบ เผ่าพันธุ์นี้เป็นเผ่าพันธุ์ที่พบเจอได้ง่ายในสัมพันธมิตรอวกาศ แต่หลังจากที่พบว่าเผ่าพันธุ์นี้เป็นนักวิศวกรที่ดีที่สุด

 

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของพวกเขาก็คือชอบเลียนแบบและไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์ แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ที่นี่ นั่นเพราะใครบางคนจะช่วยเขาคิดในอนาคต

 

เลนตี้ออกไปในขณะที่การฝึกฝนเพื่อเป็นช่างเทคนิคได้เริ่มขึ้น พนักงานเหล่านี้จำเป็นต้องผ่านช่วงการฝึกนี้ก่อนจะเริ่มงาน

 

การสร้างยานอวกาศนั้นไม่ใช่เรื่องตลก เพราะงั้นจุดผิดพลาดแม้แต่จุดเดียวก็นำมาซึ่งอันตรายระดับร้ายแรงได้

 

 

อู๋ฮ่าวเหรินที่เสี่ยงกับธุรกิจการผลิตยานอวกาศได้รับการติดต่อจากครอบครัวเล็กๆเหล่านั้น

 

“คุณอู๋ เราทำรอบแรกตามแผนเสร็จแล้ว ในตอนนี้เราได้ยึดครองส่วนแบ่งการตลาดทั้ง 3 ของกองกำลังที่เป็นตัวแทนของตระกูลอัลตาแล้ว จะให้เริ่มแผนส่วนที่สองเมื่อไหร่ดี?”

 

“โอ้ ดีเลย รอบแรกเสร็จเร็วดีแบบนี้ เริ่มรอบที่ 2 ต่อเลยก็ได้”

 

“คุณอู๋ นี่เป็นส่วนแบ่ง 30% จากครั้งนี้ครับ”

 

“ไม่เป็นไร เก็บไว้เถอะ ทำตามข้อตกลงเมื่อตอนนั้นก็พอ ฉันส่งข้อมูลเกี่ยวกับแผนรอบ 2 ให้แล้ว จัดการเตรียมตัวเริ่มแผนได้เลย หวังว่าในอนาคตอันใกล้นี้อำนาจของตระกูลอัลตาจะได้หมดๆไปจากสัมพันธมิตรอวกาศเสียทีนะ”

 

หลังจากที่จบการสนทนา อู๋ฮ่าวเหรินก็เข้าไปขอให้จี้ตรวจสอบสถานการณ์ทางฝั่งตระกูลอัลตาหลังจากโดนโจมตีระลอกแรกไป

 

และเป็นอย่างที่พวกเขาพูด คนเหล่านี้นั้นทำงานได้ดีจริงๆนั่นแหละ เพราะแผนการณ์ขั้นแรกสำเร็จไปด้วยดีแถมยังรวดเร็วอีกด้วย

 

เขาหวังว่ากองกำลังของตระกูลอัลตาจะสามารถอยู่รอดจนหมดแผนขั้นที่ 2 ได้นะ

 



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น