CF:บทที่ 681 รับสมัครแบบพิเศษ
แผนการที่จะก่อตั้งฐานผลิตยานอวกาศนั้นกระจายถึงหูของมิสต์และเซาโตรในที่สุด และนั่นทำให้ทั้งสองถึงกับประหลาดใจ
สำหรับการศึกษาค้นความเกี่ยวกับยานอวกาศนั้น ทั้งสองรู้อยู่แล้ว เพราะภายในฐานสร้างเกราะนั้นประกอบไปด้วยข้อมูลการวิจัยบางอย่างเกี่ยวกับยานอวกาศที่ถูกสร้างในศูนย์วิจัยยานอวกาศที่อู๋ฮาวเหรินเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง
ถ้าหากทั้งสองเข้าร่วมกับอู๋ฮ่าวเหริน แน่นอนว่าผู้เกี่ยวข้องกับกองทัพบางคนต้องสงสัยเกี่ยวกับเจ้าสิ่งนี้ขึ้นมาแน่ๆ
ขณะที่กำลังสอบสวน พวกเขาเองก็พบถึงงานวิจัยที่คิดไว้แล้วว่าอู๋ฮ่าวเหรินต้องกำลังจะทำอะไรแบบนี้ขึ้นมาแน่ๆ โดยเฉพาะภาพวาดยานอวกาศรูปทรงประหลาด
แต่ตอนนี้มันกลายเป็นว่า อู๋ฮ่าวเหรินเริ่มดำเนินแผนการแล้วจริงๆ นั่นทำเอาพวกเขางุนงงไม่น้อย พวกเขาคิดว่าการที่อู๋ฮ่าวเหรินเร่งรีบเช่นนี้ มันอาจจะทำให้เขาต้องสิ้นเนื้อประดาตัวในครั้งนี้แน่ๆ
“มิสต์ นายคุ้นเคยกับเด็กหนุ่มคนนี้ดี นายรู้หรือเปล่าว่าเขาวิจัยยานนี่ไปถึงไหนแล้ว?”
เซาโตรถามมิสต์
“ฉันไม่รู้เกี่ยวกับการวิจัยยานอวกาศนี่ซักเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ตาม ถ้าตอนนั้นเขาชวนฉันไปพัฒนายานอวกาศล่ะก็ ฉันคงไม่ปฏิเสธแน่ๆ”
“เอาจริงๆตัวตนของเจ้าหนุ่มนี่เองก็ยังไม่มีใครหาเจอเลยนี่เนอะ ช่างเป็นคนที่ลึกลับจริงๆนั่นแหละ”
“ฮ่าๆๆ ข้อมูลของเขาน่ะ ไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะงั้นเราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แม้แต่คนที่ถูกส่งมาจากอารยธรรมชั้นสูงยังไม่มีอิทธิพลกับเรามากมายขนาดนี้ งั้นแล้ว ถ้าเกิดเขามาจากอารยธรรมอื่นจริงๆล่ะก็ พวกเราคงแพ้ไปแล้ว”
มิสต์ยิ้ม แน่นอนว่าเขารู้ว่าเซาโตรจะสื่ออะไร อู๋ฮ่าวเหรินนั้นเชิญชวนให้พวกเขาร่วมงานด้วยกันแล้วเมื่อครั้งก่อน และแน่นอนว่าทั้งคู่ปฏิเสธไป
ตอนนี้ ในการประชุมกับนายารัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม มีหลายคนที่เอ่ยถึงอู๋ฮ่าวเหริน และเหตุผลหลักก็มาจากอิทธิพลของเขาเองที่เกิดขึ้นภายในงานเลี้ยงของหลูวหยู่นั่นแหละ
ส่วนเรื่องของโบราณสถานล่าสุดที่มีคนแสดงความคิดเห็นไว้มากมาย ทางการทหารเองก็ยังสงสัยอยู่ว่า บางทีอู๋ฮ๋าวเหรินอาจจะเป็นคนเบิกทางให้อารยธรรมชั้นสูงเพื่อเข้ามาในสัมพันธมิตรอวกาศจริงๆ
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ภายในสัมพันธมิตรอวกาศ นั่นก็เพราะว่าความโลภของใครบางคนมันชักจูงให้เหล่าอารยธรรมชั้นสูงเข้ามายังที่แห่งนี้และทำลายกองกำลังภายในทั้งหมด
สภาอวกาศต้องการให้เหล่าอารยธรรมชั้นสูงเข้ามาร่วมกับพวกเขาก็จริง หากแต่เหล่าอารยธรรมชั้นสูงพวกนั้นก็ไม่ได้อยากจะเข้าร่วมกันซะส่วนใหญ่
ลูโอก้าตกใจมากเมื่อรู้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินเลือกฟากฟ้าระยินระยับนี้เป็นฐานที่ตั้งฐานการผลิตยานอวกาศขนาดใหญ่ภายใต้เขตแดนใหม่ที่เพิ่งพัฒนาของเขา
เขาคิดว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะแค่พูดเล่นเฉยๆ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะเริ่มแผนเร็วขนาดนี้ เขาบอกตัวเองก่อนจะแสดงท่าทีออกไป
“ไอ้หนู นี่นายมีเทคโนโลยียานอวกาศระดับยอดจริงๆเหรอ?”
“ถ้าจะร่วมด้วยตอนนี้มันสายไปแล้วนะ แต่ถ้าช่วยหาคนที่มีความสามารถมาให้จะยอมยกผลประโยชน์ให้ 5% ก็ได้”
ลูโอก้าส่ายหน้า ในหัวเขาก็ยังมีบางส่วนที่ไม่เชื่อในตั๋วอู๋ฮ่าวเหริน ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่ง่ายเลยถ้าจะหาคนมีความสามารถใจพื้นที่นี้
จริงๆแล้วหากได้ร่วมงานกับอู๋ฮ่าวเหรินล่ะก็ หากเขาหาคนมาให้ไม่ได้จริงๆก็คงจะสนับสนุนเป็นเงินทุนแทน
สิ่งเพ้อฝันที่เหมือนเอาน้ำมาปั้นเป็นรูปอย่างยานอวกาศเนี่ย มันเหนือจินตนาการเกินไป เพราะงั้นเราเขาคงจะเอาตัวเองไปเสี่ยงกับสิ่งนี้ไม่ได้
“งั้นเหรอ ฉันขอพัฒนาเขตแดนต่อไปละกัน”
อู๋ฮ่าวเหรินคิด ณ ตอนนั้นว่า ในเมื่อเขาให้โอกาสไปแล้ว แต่เดิมก็อยากจะขอกำลังมาช่วยแต่ถ้าไม่ยอมช่วยตอนนี้ มาอยากช่วยหลังจากนี้ก็อย่าโทษเขาละกัน
ตัวเขาเองก็รู้อยู่แล้ว ถึงเหตุผลที่หลายๆคนเลือกที่จะไม่ร่วมงานกับเขา นั่นเพราะคนเหล่านี้ไม่เชื่อว่าเขาสามารถสร้างยานอวกาศได้นั่นแหละ
โชคร้ายหน่อยนะ ที่พวกเขาคงจะไม่คาดคิดเลยว่ามันมีเทคโนโลยียานอวกาศขั้นสูงมากมายในอนาคตที่เขาสามารถใช้ได้ เทคโนโลยีที่ถ้ามันได้ปรากฏออกมา ทั้งสัมพันธมิตรอวกาศได้สั่นสะเทือนแน่
แน่นอนว่าอู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้ตั้งใจจะเอาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากๆมาใช้ในตอนนี้ เขาไม่อยากจะได้รับความสนใจจากพวกบริษัทที่ทำยานอวกาศยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดยานอวกาศของเขานั้นใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเกินไป มันจะดึงดูดความสนใจของพวกอารยธรรมชั้นสูง ซึ่งนั่นจะทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายเกินไป ยิ่งโดยเฉพาะในตอนที่ยังไม่แข็งแกร่งเช่นนี้ด้วย
เทคโนโลยียานอวกาศที่ทรงพลังนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบของอวกาศ ณ ตอนนี้ได้เลย และแน่นอนว่ารวมไปถึงเทคโนโลยีเกราะด้วย แต่ทว่าตอนนี้ ไม่ว่าจะใครในอวกาศก็จะให้เห็นเรื่องนี้ไม่ได้
ไม่งั้นแล้วเขาคงจะพัฒนาชุดเกราะแบบสะเพร่าไม่ได้อีกต่อไป เพราะหลายๆคนคงจ้องจะเป็นศัตรูกับเขาไปด้วย
เขาจำเป็นต้องเร่งสร้างฐานการผลิตยานอวกาศภายในสัมพันธมิตรจักรวาลแห่งนี้ให้ได้ เพราะมันจะดีกว่าต้องไปสร้างในระบบสุริยจักรวาล ถึงแม้ว่าหลายๆเทคโนโลยีของที่นี่จะค่อนข้างล้าหลัง แต่อย่างน้อยๆมันก็ดีกว่าเทคโนโลยีที่อยู่บนโลกแน่ๆ
อย่างเช่น ในเรื่องของวัตถุดิบ เข้าไม่จำเป็นต้องห่วงมัน นั่นก็เพราะว่าแค่มีเงิน เขาก็ซื้อมันได้ง่ายๆ
ดังนั้นแล้วเพียงแค่ครึ่งเดือน เขาก็จะสามารถสร้างฐานผลิตยานอวกาศได้
นี่มันก็ผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือนที่เขาออกมาจากโลก
ถึงแม้ว่าเขาจะมีฐานการผลิตชุดเกราะและร่วมมือกับกลาโหม แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่มีกองกำลังที่เป็นของจริง
ในตอนนี้คนที่โม่เก๋อยังไม่พร้อมที่จะเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งได้ แน่นอนว่าถ้าอู๋ฮ่าวเหรินใจร้อนกว่านี้และอาวุธชั้นยอดมาจากอนาคตแล้วล่ะก็ เขาสามารถเปลี่ยนคนเหล่านี้ให้กลายเป็นทหารที่ศักยภาพแข็งแกร่งสุดๆได้เลย
ด้วยอิทธิพลของอู๋ฮ่าวเหริน มันทำให้การสร้างฐานผลิตยานอวกาศของเขาสามารถสร้างเสร็จได้โดยไม่มีข่าวหลุดรอดไป ไม่มีใครมาแสดงความยินดี ลูโอก้าเองก็กลับไปยังเขตแดนของตนและเริ่มพัฒนาเขตแดนต่อ
ยืนอยู่ในฐานผลิตยานอวกาศขนาดยักษ์ อู๋ฮ่าวเหรินก็เหม่อมองออกไปยังดวงดาวด้านนอก ดูเหมือนว่าจะได้เวลารับสมัครคนแล้ว
ข้อความเชิญชวนคนให้มาสมัครที่มีสวัสดีการและเงินเดือนระบุไว้ถูกส่งเข้าไปในเครือข่ายส่วนรวม ในตอนนี้อู๋ฮ่าวเหรินต้องทำงานอย่างหนักหากเขาต้องการพนักงานเพิ่ม
แน่นอนว่าในสายตาของอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว สวัสดีการและเงินเดือนนี่เป็นเรื่องเล็กน้อยมากสำหรับเขา
“ไอ้ใบสมัครนี่มันหลอกลวงกับหรือเปล่าเนี่ย? สวัสดิการกับเงินเดือนมันสุดยอดไปเลยนะ!”
“ฉันไม่คิดว่ามันน่าเชื่อถือนะ แถมฉันยังวุ่นๆอยู่กับการพัฒนาเขตแดนใหม่ด้วย”
“มันไม่น่าจะหลอกลวงหรอก ฟิวเจอร์กรุ๊ปนี่มันบริษัทที่ทำชุดเกราะไม่ใช่เหรอ? เห็นว่าร่วมงานกับพวกกลาโหมอยู่ ถ้าเกิดเขาหลอกลวงพวกเรา พวกทหารต้องมีปัญหาด้วยแน่ๆ”
“ถ้ามันไม่ใช่เรื่องโกหกฉันจะสมัครเลย เพราะยังไงซะตอนนี้บริษัทที่ทำงานอยู่ก็ไม่ดีนัก สวัสดิการที่ระบุนี่ดีมากๆเลย ฉันจะได้พาครอบครัวมาอยู่ด้วยซักที”
“ฮ่าๆๆ ฉันเองก็สมัครไปแล้ว มันดูไม่ได้เป็นปัญหาอะไรนัก แล้วก็นะ ถ้าที่นี่ตอบสนองความต้องการนายได้ไม่พอล่ะก็ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างทางบริษัทจะออกให้ด้วยนะ”
เมื่อคนมาสมัครเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่หลายคนก็เป็นพวกที่มีเทคโนโลยีบางอย่างไว้ในครอบครอง และพวกเขาค่อนข้างจะตื่นเต้นกับบริษัทที่เพิ่งจะเปิดใหม่นี่ไม่น้อยเลย
ในตอนนี้ พวกบริษัทที่ผลิตยานอวกาศเองก็เห็นใบสมัครของอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่สนใจมัน
ในความคิดพวกเขา ยังไงซะบอสของบริษัทที่กำลังรับสมัครคนนี่ก็ไม่มีกำลังทรัพย์พอหรอก ยิ่งกับสวัสดิการที่ดีและเงินเดือนระดับนี้ หากยานอวกาศที่เขาสร้างขึ้นมาไม่เป็นที่ต้องการของใครล่ะก็ เขาจะล้มละลายในทันที
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ได้รู้เรื่องนี้เลยว่าการรับสมัครแบบพิเศษนี้ จะไม่ได้ทำให้พวกบริษัทยักษ์ใหญ่ยังคงเฉยเมยได้ แถมยังไม่ออกมาสำรวจสถานการณ์ของทางฝั่งอู๋ฮ่าวเหรินด้วย
และด้วยเหตุนี้ ในซักวันหนึ่งในอนาคต บริษัทผลิตยานอวกาศเหล่านี้จะต้องเสียใจจนถึงขั้นฆ่าตัวตายเลย
ถ้าหากเขาสามารถหาบริษัทของอู๋ฮ่าวเหรินให้เจอได้ในเร็วๆนี้ พวกเขาก็จะไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องนี้อีก แต่ยังไงเดี๋ยวเรื่องนี้ก็ไปเกิดขึ้นในอนาคตแทน
นอกจากการรับสมัครพนักงานที่มีความสามารถแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็ส่งข้อมูลการเข้าอาศัยในพื้นที่ออกไปด้วย นั่นเพราะว่าการที่จะพัฒนาเขตแดนดวงดาว จำเป็นต้องเพิ่มประชากร
แน่นอนว่าสวัสดิการของการย้ายเข้ามาเป็นประชากรนั้นก็ไม่ต่างกับทั่วๆไป และมันดึงดูดให้ผู้คนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเพียงพอภายในสัมพันธมิตรอวกาศให้เข้ามาด้วย
0 ความคิดเห็น