CF:บทที่ 675 งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้น
โหยวเชียนฉีมองไปยังท่าทีของอู๋ฮ่าวเหรินพร้อมทั้งฟังจากน้ำเสียงของเขา ทั่วทั้งร่างก็กลายเป็นเหมือนมะเขือม่วงที่กำลังโดนไอเย็นกัดกิน
“แน่นอน ฉันเตรียมยาไว้ให้นายแล้ว ไปเอามาได้เลย อยู่ในฐานต่อสู้น่ะ”
“ห้ะ!? เตรียมไว้แล้ว!!”
โหยวเชียนฉีนั้นชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะแสดงออกมาถึงความปลื้มปิติสุดๆ ตัวเขานั้นรู้จักพวกคนในฐานนั้นดีกว่าใครๆ
นานมาแล้วเขาเคยเอาผลที่ได้จากการฝึกกับหุ่นยนต์ไปแกล้งคนพวกนั้น และตอนนี้เขาต้องรีบไปรับรางวัลแล้ว
ถ้าเขาไม่รีบคว้าโอกาสนี้ไปและปล่อยมันให้หลุดมือ คนพวกนั้นคงได้จับเขาไปเป็นกระสอบทรายมนุษย์แน่
หลังจากพบว่าคนเหล่านั้นใช้ยาเร่งสมรรถนะที่อู๋ฮ่าวเหรินนำมาจากโบราณสถาน และนั่นทำให้ร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมา
ในวันนี้ เขาเองก็อยากจะใช้โอกาสที่ได้เปรียบกว่านี้ในการส่งข่าวให้อู๋ฮ่าวเหริน
จริงๆแล้วนี่เป็นการติดสินบนนั่นแหละ
โหยวเชียนฉีที่กำลังออกไปนั้นถูกอู่ฮ่าวเหรินรั้งตัวไว้ก่อน “หลังจากใช้ยานั่นแล้ว นายต้องเอาจดหมายนี่ไปส่งให้ฉันด้วยล่ะ”
เขารับซองจดหมายเก่าๆมาจากอู่ฮ่าวเหรินโดยเต็มไปด้วยความสงสัย นี่สมัยไหนกันแล้ว ทำไมถึงยังใช้จดหมายกันอีก
แต่อย่างไรก็ตาม เขาเองก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป เมื่อใช้ยาเร่งมรรถนะนั่นแล้ว เขาก็รีบกลับบ้านเพื่อจะเตรียมเอาจดหมายไปส่งตามที่ได้รับมอบหมายไว้
เขาไม่รู้เลยว่า ถ้ามันมีวิธีอื่นที่จะติดต่อคนขององค์กรนักฆ่าได้ อู๋ฮ่าวเหรินคงไม่เลือกวิธีนี้
…
ณ โรงแรม7สี กลุ่มของพวกทหารนั้นห้อมล้อมที่แห่งนั้นไว้ด้วยกฏอัยการศักเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆ
ข่าวที่ว่าตระกูลหลวงแห่งโอลเซ็นจะมายังที่แห่งนี้กระจัดกระจายไปทั่ว โดยเฉพาะข่าวคราวขององค์หญิงน้อยผู้เลอโฉมและเฉลียวฉลาด
เหล่าทัพส่วนใหญ่ภายใต้การดูแลของสัมพันธมิตรจักรวาลนั้นส่งคนเข้าไปเป็นตัวแทนในงานนี้ แน่นอนว่าจุดประสงค์ส่วนใหญ่นั้นไม่ใช่เพื่อไปเจอเจ้าหญิงหรอก หากแต่เป็นการพูดคุยกันเรื่องที่โบราณสถานผ่านงานเลี้ยงครั้งนี้ต่างหาก
โบราณสถานมากมายนั้นปรากฏขึ้นมา มันทำให้พวกกองทัพเหล่านี้เกิดอาการหนักใจขึ้นมาบ้าง เพราะถ้าหากเกิดเหตุอะไรขึ้น มันคงยากที่จะทำให้สงบลง
เราอยู่ในสถานการณ์ที่ความชั่วร้ายและความโกลาหลสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและทุกที่
ใช่แล้ว
นั่นเป็นเพราะการปรากฏตัวของเจ้าหญิงด้วยส่วนหนึ่ง รวมไปถึงเป็นการรวมเอาพวกที่มีความสามารถมารวมกันเพื่อคอยปกป้องเจ้าหญิงด้วย ดังนั้นแล้วการป้องกันเหตุการณ์พวกนี้ในบริเวณอื่นจึีงไม่แข็งแกร่งเหมือนทุกที
ในเวลานี้ กลุ่มของชายหนุ่มและหญิงสาวกำลังดื่มกันอยู่ในโถงที่จัดงานเลี้ยง
ริบ นั่งพาดตัวไปบนโซฟาและคุยกับชายแปลกหน้าที่มีผิวขาวซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเขา
“คนที่มาที่นี่เป็นยังไงกันบ้างล่ะ?”
“มี 5 เหล่าทัพที่เป็นอารยธรรมชั้นสูงส่งที่ซึ่งส่งตัวแทนเป็นเด็กหนุ่มมาที่นี่ แล้วก็ยังมีบางกองกำลังติดตามที่ส่งคนมาด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามพวกคนใหญ่คนโตก็ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้นักหรอก”
“ริบ เรื่องจริงเหรอว่าเจ้าหญิงคนนั้นจะมาหาคู่หมั้นในงานนี้น่ะ?”
“ไม่รู้ แต่ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ ทุกคนที่มาก็อยากจะให้เป็นเช่นนั้นนี่ แต่ท้ายสุดแล้วยังไงพวกเขาก็ไม่ได้ตำแหน่งนั้นมาครอบครองอยู่ดีนั่นแหละ” ริบพูดพร้อมรอยยิ้ม
เขารู้ดีว่างานเลี้ยงนี้ไม่ได้จัดขึ้นมาให้เจ้าหญิงแห่งโอลเซ็นได้เลือกคู่หมั้นหรอก หากจะพูดตรงๆก็จัดขึ้นมาเพื่อให้เจ้าหญิงได้ออกมาเที่ยวเล่นนั่นแหละ
เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนจงใจปล่อยข่าวเรื่องลือจนทำให้คนที่มางานนี้เข้าใจว่าเจ้าหยิงจะมาหาคู่หมั้นที่นี่
แต่อย่างไรก็ตามก็อยากจะขอบคุณเจ้านั่น หรือไม่งั้นพวกเขาอาจจะไม่ได้โอกาสอะไรเลย
คุณรู้อะไรไหม ท่ามกลางเหล่าอารยธรรมชั้นสูงนั้น อารยธรรมอัทลันมีกำลังที่แข็งแกร่งและน่ากลัวที่สุด
และตระกูลหลวงเองก็เป็นแกนนำที่สำคัญของอารยธรรมอัทลันด้วย ด้วยความที่ถูกยกย่องว่าเป็นอนาคตแห่งอัทลัน ดังนั้นแล้วใครก็ตามที่คิดจะไต่เต้าขึ้นมายังจุดสูงสุดเช่นนี้ พวกนั้นก็จะโดนลมและฝนจากมังกรโหยซัดกลับลงไปตามเดิม
ภายในห้องที่หรูหราห้องหนึ่งในโรงแรม7สี หลูวหยูที่กำลังนำเครื่องที่ใช้ปลอมตัวออกอยู่ก็ถามเกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอกขึ้น
“หาตัวคนที่ทำให้ปาร์ตี้ของฉันกลายเป็นปาร์ตี้สละโสดได้ไหม?”
“ไม่เลยค่ะ ข้อความนั้นมาจากเขตแดนที่ค่อนข้างจะยุ่งเหยิง ก็เลยจับต้นทางไม่ได้”
“ดี น่าสนใจ”
หลูวหยู่แสยะยิ้ม และฟันที่เปล่งประกายของเธอนั้น ดูเหมือนปีศาจน้อยที่กำลังวางแผนอะไรซักอย่างเอาไว้
หากใครก็ตามที่คุ้นเคยกับการอยู่กับเธอ ก็คงจะรู้แล้วว่าเธอกำลังจะออกไปทำอะไรซักอย่างอีกแล้ว และในตอนนี้ ทางที่ดีอยู่ห่างๆองค์หญิงน้อยไว้จะดีกว่า
3 วันหลังจากนั้น อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้เข้ามายังโรงแรม7สีด้วยตัวคนเดียว นี่เป็นครั้งที่สองที่เขามาที่นี่ หลังจากที่เข้ามายังโถงที่จัดงานเลี้ยงแล้ว มันยังคงมีคนน้อยอยู่ในเวลานั้น และทุกๆคนเองก็กำลังนั่งคุยกันอยู่เป็นกลุ่มๆ
เมื่อเห็นอู๋ฮ่าวเหรินเดินเข้ามา พวกคนที่จำได้ก็มองเขาด้วยสายตาดูถูก
ชายหนุ่มที่ติดลำดับ 5 คนที่ดีที่สุดมองไปยังอู๋ฮ่าวเหรินที่กำลังเข้ามา และเริ่มคุยกับพวกของเขาเอง
“นั่นอู๋ฮ่าวเหรินที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้นี่ เห็นว่าเขาทำงานร่วมกับกองทัพในการผลิตอุปกรณ์ลาดตระเวณด้วยนะ แล้วไหนจะยังผลิตชุดเกราะอีก ข่าวว่าการที่โบราณสถานพวกนั้นปรากฏขึ้น มันเกี่ยวข้องกับเขาด้วยนะ ”
“ช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ”
“ก็แค่พวกที่โชคพุ่งพรวดเฉยๆนี่ หมอนั่นไม่มีวันตายหลังกองทัพหรอก” 1 ในพวกเขาพูดขึ้น
อู๋ฮ่าวเหรินพบที่นั่งสงบๆแล้ว นี่ถ้าไม่ใช่เพราะหลูวหยู่ เขาคงจะไม่เยื้องย่างเข้ามาในงานปาร์ตี้เป็นแน่
ภายในกลุ่มซองแดงตอนนี้ ผู้คนภายในนั้นรู้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินมางานเลี้ยงขั้นสูงเช่นนี้ จึงได้ให้คำแนะนำกับเขาไปมากมาย
“เร็วเข้า! รีบส่งภาพงานเลี้ยงมา เราจะได้ช่วยตรวจสอบให้”
อู๋ฮ๋าวเหรินนั้นว่างๆและก็กำลังเบื่อพอดี เพราะงั้นเขาเลยใช้โอกาสนี้ในการเข้าใจถึงกำลังของสัมพันธมิตรจักรวาลไปพลางๆ
เขาเริ่มที่จะส่งรูปของผู้คนในงานเลี้ยงเข้าไปในกลุ่มจากระยะใกลๆแล้วก็เริ่มใกล้ตัวขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ
“อืมม นั่นเป็นกองกำลังของอารยธรรมระดับกลาง โอ้ แต่ว่าตอนนี้สัมพันธมิตรจักรวาลก็พัฒนามาไกลแล้วเหมือนกันแฮะ ในสภากลาง มีกองกำลังนี้เป็นสมาชิกด้วยนะ”
“อ๊ะ คนนั้น ดูเหมือนจะเป็นคนจากอารยธรรมคาไลท์นะ น่าจะเพราะบางอย่างในภายหลัง พวกคนจากอารยธรรมนี้ถึงได้ถูกพวกอารยธรรมที่สูงกว่าฆ่าทิ้งจนหมดเลย”
“มาธา แปลกจังแฮะ ไอ้สิ่งที่ดูคล้ายม้าที่เดินแบบมนุษย์เนี่ย มันแปลกตรงที่อารยธรรมเซลด้อมติดต่อกับคนภายนอก ทำไมไอ้ม้านี่ถึงมาร่วมงานปาร์ตี้แบบนี้ได้เนี่ย?”
“เจ้าโง่ มาธาน่ะยังทำตัวปกติอยู่ในเวลานั้นต่างหาก หลังจากนั้น เพราะผ่านสงครามมากมาย แถมยังเกือบจะสูญพันธุ์ด้วย ช่วงนั้นถึงจะเริ่มไม่ติดต่อกับโลกภายนอก”
“เห้ย! นั่นอารยธรรมมิลัว ไอ้หนู เจ้านี่จะกำจัดยากในอนาคตนะ!” นักธุรกิจพลังงานร้องออกมาอย่างตกใจ
“ฮ่าๆๆ ถ้าฉันจำไม่ผิด บริษัทค้าพลังงานของเจ้านี่โดนอารยธรรมนั้นลูบคมน่ะ”
ชายชุดเกราะอธิบายเหตุผลที่พ่อค้าพลังงานดูจะโกรธแค้นขนาดนั้น ชัดเจนเลยว่ามันต้องเป็นการลูบคมที่หนักหนาเอาการแน่ๆ
“ถ้ามีโอกาสไปบ้านเกิดเจ้าพวกนั้นก็ช่วยเอาอนุสาวรีย์ที่อยู่ที่นั่นกลับมาด้วยนะ ฉันจะเอามาทำบันได้ทางขึ้น”
“มีคนกำลังเข้ามา”
อู๋ฮ่าวเหรินหันไปมองด้านนอกผู้ที่กำลังเข้ามาหาเขา ชายหนุ่ม 2 คนที่หน้าไม่คุ้นกำลังตรงเข้ามาทางนี้
“เซย์มัวร์นี่หว่า ระวังตัวด้วยนะ เซย์มัวร์เป็นอารยธรรมที่ฉลาดแกมโกง แล้วก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่ชั่วร้ายไม่น้อยเลยด้วย”
“สวัสดี คุณอู๋ ผมชื่อไรน์ มาจากอารยธรรมเซย์มัวร์”
“สวัสดี ผมชื่อทาลิช่า”
“... ให้ฉันช่วยอะไรหรือเปล่า?”
“อ่า ดีเลย พวกเราอยากจะคุยกับคุณอู๋เกี่ยวกับโบราณสถาน เผอิญว่าพวกเรามีอนุสาวรีย์อยู่ที่เซย์มัวร์ ที่มันก็เหมือนๆกับที่อื่นนั่นแหละ เราไม่สามารถเข้าถึงมันได้”
อู๋ฮ่าวเหรินมองทั้งสองด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าพวกเขาจะเข้ามาเพื่อถามเกี่ยวกับโบราณสถานกับเขา
0 ความคิดเห็น