CF:บทที่ 674 แผนพัฒนาเขตแดนดวงดาว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 674 แผนพัฒนาเขตแดนดวงดาว

 

โรงแรมสีสันสดใสภายในฐานบัญชาการใหญ่ของสัมพันธมิตรดวงดาวนั้นดูยุ่งเป็นพิเศษในวันนี้ มีเหล่าทัพมากมายที่ระดมพลมาเพราะการปรากฏขึ้นของโบราณสถานในเขตแดนนี้

 

สำหรับตระกูลหลวงที่เป็นอารยธรรมชั้นสูงแห่งเขตแดนโอลเซ่น องค์หญิงน้อยหลูวหยู่เองก็มีอิทธิพลอย่างมากในที่แห่งนี้เช่นกัน

 

คงจะพูดได้ว่า การที่เธอมายังฐานบัญชาการใหญ่แห่งสัมพันธมิตรดวงดาวนี้ มันทำให้หลายเหล่าทัพอยากจะส่งเด็กหนุ่มเข้ามาเพื่อลองเสี่ยงดวงดู

 

ซึ่งมันจะเป็นผลดีกับตัวพวกเขาหากเด็กหนุ่มคนนั้นๆถูกองค์หญิงพาตัวกลับไปด้วย

 

อู๋ฮ่าวเหรินเองก็ได้รับการติดต่อจากหลูวหยู่แล้ว เขาตอบกลับไปว่าเธอควรมาที่ของเขาด้วยตนเองและไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก

 

ระหว่างนั้นเขาก็พูดคุยกับคนในระบบซองแดงไปเรื่อยเกี่ยวกับเรื่องที่จะหาที่ตั้งฐานใหม่

 

ในตอนนี้มีเขตแดนดวงดาวมากมายที่ซึ่งยังไม่ถูกพัฒนาขึ้น มันทำให้เขามีทางเลือกเยอะแยะอยู่

 

สำหรับเรื่องนี้ยังคงมีการถกเถียงกันอยู่เรื่อยๆภายในกลุ่ม เพราะถ้าหากพวกเขาเห็นพ้องต้องกันตั้งแต่แรกล่ะก็ ป่านนี้คงได้เริ่มก่อตั้งบริษัทกันแล้ว

 

“เจ้าหนุ่ม ฉันได้ยินมาว่านายรู้จักกับองค์หญิงน้อยหลูวหยู่เป็นอย่างดีเลยนี่ ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้เข้าร่วมกับสัมพันธมิตรดวงดาวในตอนนั้น แต่ก็พอรู้มาว่าเธอเป็นคนที่ดีมากๆเลย ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นชนเผ่าโบราณกับนิสัยแปลกๆผนวกกับสิ่งแปลกๆที่เธอได้ทำลงไปล่ะก็ บางทีเธออาจจะกลายเป็นตำนานแห่งสัมพันธมิตรไปแล้ว“ นักขุดแร่พูด

 

“ดูนี่ นี่คือภาพที่ฉันเจอ องค์หญิงนั้นสวยมากๆหากมองในฐานะรูปร่างของมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนเล่าต่อๆกันมาอีกว่า ใครก็ตามที่แต่งงานกับชนเผ่านี้ ลูกออกมาจะสวยมากๆอีกด้วย” เจ้าแห่งรถบินได้พูดออกมาด้วยความอิจฉา

 

นักธุรกิจพลังงานเองก็เข้าร่วมกับการสนทนาครั้งนี้ด้วย “ใช่ๆ องค์หญิงน่ะเป็น 1 ในผู้อยู่ในตระกูลหลวง เธอมีอิทธิพลมากๆภายในสัมพันธมิตรจักรวาล ถ้านายได้เข้าไปเป็นลูกเขยในตระกูลนี้ล่ะก็ นายคงได้ตั้งตัวในสัมพันธมิตรจักรวาลแน่ๆ แถมยังสามารถประกาศออกไปว่า โลกเป็นเขตแดนของนาย รวมไปถึงเป็นที่พักผ่อนของนายด้วย”

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ได้สนใจมุกตลกที่พวกเขาเล่นก่อนจะถามออกไป “บริษัทของนายเป็นยังไงบ้าง?”

 

“กำลังก่อสร้าง อีกไม่นานก็เสร็จ”

 

“ดี หลังจากเสร็จฉันจะได้เอาอุปกรณ์จากบริษัทออกมา”

 

นักวิจัยพูดขึ้นในเวลานั้น “เขตแดนของนาย ฉันไปตรวจสอบนี่มาให้ แล้วก็คิดว่าที่นี่เหมาะที่จะเอามาเป็นเขตแดนดวงดาวของนายเอง ในอนาคต ที่นี่จะเป็นเส้นทางหลักของสัมพันธมิตรอวกาศ เมื่อเขตแดนถูกพัฒนา พวกอารยธรรมที่ทรงพลังซึ่งอยู่เบื้องหลังจะเริ่มสนใจในสัมพันธมิตรอวกาศมากขึ้น”

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองไปยังเขตแดนที่นักวิจัยไปหามาให้ จากนั้นก็มองดูเหล่าอารยธรรมที่อยู่โดยรอบซึ่งจะปรากฏขึ้นในอนาคตผ่านแผนที่ดวงดาว

 

มันเป็นที่ๆดีจริงๆนั่นแหละ

 

แต่อย่างไรก็ตามมันก็ยังไม่ใช่เขตแดนที่อู๋ฮ่าวเหรินชอบอยู่ดี

 

บนแผนที่นั้น เขาวาดวงกลมล้อมรอบจุดที่เขาต้องการเอาไว้และส่งมันไปให้กลุ่มซองแดง

 

“ฉันคิดว่านี่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีนะ”

 

“อืม มันเป็นเขตแดนที่ดีจริงๆนั่นแหละ ถึงแม้ว่าจะไม่เหมือนกับเขตแดนที่อยู่ในยุคนี้ก็ตาม มันอยู่บนทางสัญจรหลัก แต่อย่างไรก็ตาม นายไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเขตแดนหรอก ยิ่งไปกว่านั้น ตรงนี้น่ะเป็นจุดที่สำคัญ นั่นคือมันเหมาะกับการตั้งปราการยุทธศาสตตร์มากๆ ในอนาคต จะทำให้นายสามารถยึดเอาเขตแดนที่มีคนเป็นเจ้าของอยู่แล้วมาได้ ด้วยการจัดระบบป้องกันเท่านั้น”

 

หลังจากที่ยืนยันเรื่องเขตแดนแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็ออกมาจากกลุ่ม ตอนนี้ยังคงมีปัญหาเล็กน้อยที่ต้องแก้ในการสั่งพัฒนาเขตแดนดวงดาว

 

นั่นก็เพราะว่าเขตแดนนั้นอยู่ในพื้นที่ของกลุ่มโจรดวงดาวขนาดใหญ่ที่สุดอย่างเคราแดง ถ้าอู๋ฮ่าวเหรินจะพัฒนาเขตแดนในนั้นและไม่ถูกเจ้าพวกนั้นมาแย่งชิงไป เขาต้องแก้ปัญหานี้ก่อน

 

พวกเคราแดงไม่ใช่พวกที่จะสู้ด้วยง่ายๆ ถึงแม้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะมีข้อมูลของพวกเขาอยู่แล้ว แต่สำหรับกลุ่มโจรดวงดาวที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังแล้ว พลังของพวกนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะรับมือได้ง่ายๆ

 

หากพวกนั้นถูกฆ่าตายขึ้นมา อู๋ฮ่าวเหรินจะต้องเจอปัญหาใหญ่แน่ๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากเจอสุดๆแล้ว

 

“ดูเหมือนว่าเราคงต้องติดต่อกับนายหญิงของกลุ่มวอร์บเลอร์ก่อนสินะ ให้คนจากวอร์บเลอร์เข้าไปติดต่อกับพวกนั้นแทนน่าจะแก้ปัญหานี้ได้”

 

มันยังมีกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังวอร์บเลอร์อีก และมันถือเป็นอารยธรรมที่นับว่าสูงใช้ได้เลยทีเดียว

 

ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าอารยธรรมชั้นสูงนี้จะสนับสนุนการจัดการเกี่ยวกับนักฆ่าของวอร์บเลอร์ แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้เข้าร่วมกับสัมพันธมิตรจักรวาล

 

เพราะงั้นทางสัมพันธมิตรเองก็จะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับอารยธรรมชั้นสูงนี้อยู่อย่างแน่นอน

 

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมครั้งที่อู๋ฮ่าวเหรินพูดถึงที่ตั้งของโอไรเอิลส์ มันจึงทำให้ทั้งคิลและสติงก์เกิดความกลัวขึ้นมา

 

นั่นเพราะว่าเขตแดนดังกล่าวยังถูกมองเป็นเขตแดนที่ยังไม่พัฒนาบนแผนที่ดวงดาวของสัมพันธมิตรจักรวาลนั่นแหละ

 

ออกมาจากห้อง อู่ฮ่าวเหรินก็เดินตรงไปยังพื้นที่สำหรับฝึกการต่อสู้ของบริษัท

 

เมื่อเขาเข้าไปยังฐานฝึกซ้อม เขาก็ได้ยินเสียงคำรามกู่ก้องและเสียงกรีดร้องแห่งความกลัวดังขึ้นมา

 

เหล่าคนที่โม่เก๋อพามานั้นกำลังฝึกซ้อมกันอยู่ ณ ที่แห่งนั้น คนพวกนี้ค่อนข้างจะแข็งแกร่งจริงๆ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้รับการเพิ่มสมรรถนะครั้งแรกไป

 

แต่เดิมแล้วโม่เก๋อเองก็ทรงพลังมากๆอยู่แล้ว แต่หลังจากการเพิ่มพลัง พวกคนเหล่านั้น หลายๆคนก็แข็งแกร่งกว่าโม่เก๋ออีก

 

ในเวลานั้นโม่เก๋อเองก็อยู่ในนั้นด้วย เขากำลังฝึกซ้อมกับคนเหล่านั้น

 

“โอ้ว นั่นบอสนี่”

 

กลุ่มคนรีบเข้าไปรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว รู้ได้เลยว่าทุกๆคนนั้นดุร้ายอยู่ไม่น้อย

 

“เป็นยังไงบ้างทุกคน? พวกนายปรับตัวเข้ากับการฝึกที่นี่ได้หรือยัง?”

 

“ดีมากๆเลยครับ! ผมรู้สึกได้เลยว่าหลังจากการเพิ่มพลังด้วยยาพวกนั้น พละกำลังรวมถึงอย่างอื่นในตัวก็เหมือนเพิ่มขึ้นมา 3 เท่าเลย!”

 

“ผมด้วย! มันมากกว่า 3 เท่าอีก!”

 

“...”

 

โม่เก๋อมองไปยังกลุ่มคนพวกนั้นแล้วก็พูดไม่ออก โชคดีที่เขาเองก็รับยามาบ้างเมื่อวาน

 

“โม่เก๋อ นายได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องที่ฉันฝากมาบอกหรือยังน่ะ?”

 

“บอกไปแล้วครับ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่อยากจะเข้าร่วมภารกิจนี้ นอกจากนั้นไม่มีปัญหา”

 

“ดี ฟังนะทุกคน ตราบใดก็ตามที่พวกนายยังทำงานอยู่ในภารกิจสำรวจดวงดาว ฉันจะทำให้พวกนายมั่นใจ ว่าจะปลอดภัย แล้วก็นะ ฉันจะให้ดาวบางดวงเป็นของรางวัลให้กับการสำรวจครั้งนี้ด้วย”

 

“อื้อหือ!? มีดวงดาวเป็นรางวัล! ผมเข้าร่วมด้วย!”

 

“ผมเองก็ด้วย!!”

 

คนเหล่านี้ตื่นเต้นเป็นอย่างมากหลังจากที่ได้ยินว่าพวกเขาจะได้ดาวเคราะห์เป็นรางวัล มันชัดเจนเลยว่าดาวเคราะห์ที่ผู้เป็นนายจะมอบให้เป็นของรางวัลนั้นต้องไม่ใช่ดาวที่ไร้ชีวิตชีวาและของไร้ค่าแน่ๆ มันต้องเป็นดาวที่มีชีวิตและสามารถสร้างผลผลิตทางชีวภาพได้!

 

โม่เก๋อเองก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะเป็นคนที่จิตใจกว้างขวางขนาดนี้ เขาดีใจมากๆที่มีเจ้านายนิสัยดีเช่นนี้

 

“นี่เป็นวัตถุดิบบางอย่างที่ฉันเตรียมมา ขั้นแรกเลยพวกนายสามารถเข้ามาดูและทำความคุ้นเคยกับมันซะ ฉันเชื่อว่ามันหาได้ไม่ยากหรอกหลังจากที่พวกเราเริ่มกันแล้ว แล้วก็ ฉันจะจัดเตรียมของขวัญไว้ให้พวกนายก่อนที่จะออกไปด้วย”

 

อู๋ฮ่าวเหรินกำลังคิดถึงเกราะสำหรับการต่อสู้ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา เขาจะเอามาให้บางคนได้ใช้มันจะได้ถือเป็นการทดสอบไปในตัวด้วย

 

จากฐานต่อสู้กลับไปยังสวนของเขา อู๋ฮ่าวเหรินมองไปยังโหยวเชียนฉีที่ซึ่งยืนอยู่บริเวณประตูเพื่อรอเขา

 

ชายคนนี้ถูกฝึกโดยหุ่นยนต์เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ ตอนนี้คนๆนี้ดูอันตรายมากขึ้นแล้ว

 

“บอส มีจดหมายเชิญมาจากตระกูลหลวง ที่เชิญให้บอสไปร่วมรับประทานข้าวเย็นกับองค์หญิงน่ะครับ” เขาพูด

 

เพราะเขารู้ถึงตัวตนของหลูวหยู่อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ตกใจอะไรหลังจากที่ได้รับจดหมายเชื้อเชิญนี้

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองไปยังโหยวเชียนฉีที่อยู่ข้างๆก่อนจะถามด้วยความสงสัย “นายยังต้องการอะไรอีกเนี่ย?”

 

“บอส ผมได้ยินมาว่าบอสได้ยาเสริมสมรรถภาพมาจากโบราณสถานแห่งนั้น และจะเป็นอะไรไหมถ้าผมเองก็อยาจะใช่ยานั่นด้วย?”

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองไปยังเขาและพูดขึ้น “นี่เหรอ...”



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น