CF:บทที่ 644 การเผยแพร่โบราณสถาน

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 644 การเผยแพร่โบราณสถาน

 

สิ่งที่เรียกว่าประตูนั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่ประตูของโบราณสถานหรอก ที่แห่งนี้ไม่มีประตูทางเข้าใดๆทั้งสิ้น โบราณสถานแห่งนี้เมื่อแรกเริ่มปรากฏขึ้นจะถูกพลังงานจักรวาลห่อหุ้มไว้เปรียบเสมือนเป็นประตูที่คอยปิดกั้น แต่หลังจากนั้นพลังงานดังกล่าวจะหายไปเองและให้ทุกคนเข้ามาได้

 

อู๋ฮ่าวเหรินที่อยู่บริเวณทางเข้า ตรงจุดนั้นเป็นจุดที่พลังงานจักรวาลเบาบางที่สุดก่อนที่มันจะหายไป

 

มันอันตรายมากๆในการเข้าไปในเวลานี้ หากแต่ด้วยเทคโนโลยีในการสำรวจโบราณสถานที่กลั่นกรองออกมาเต็มที่จากโลกอนาคตนั้นอยู่ในมือเขาแล้ว

 

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสถานการณ์ที่เวลามันเร่งรัด อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่สามารถรอจนกว่าพลังงานอวกาศจะหายไปจนหมดแล้วค่อยเข้าไปได้

 

หลังจากจอดยานของเขาแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็ออกมาและเข้าไปยังส่วนที่พลังงานอวกาศแหวกออกทันที

 

หลังจากเข้ามาด้วยทางลัดเรียบร้อยแล้ว เขาก็เหมือนจะถูกส่งมายังห้วงมิติเวลาอื่น ภายใต้ท้องฟ้าที่ระยิบระยับด้วยแสงดาว ที่นี่มีสิ่งก่อสร้างทุกรูปแบบ แถมยังมีสิ่งที่เหมือนปราสาทเทพนิยายลอยอยู่บนท้องฟ้าเสียด้วย

 

อย่างไรก็ตาม มันยังมีพวกอาคารต่างๆลอยอยู่รอบๆ แล้วไหนจะมีอาวุธที่ระเนระนาดอยู่ไกลๆจนเห็นเป็นเงาลางๆด้วย อู๋ฮ่าวเหรินเริ่มเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาแล้ว...คงจะไม่สวยเท่าไหร่สินะ

 

“อาวุธพวกนี้ขนกลับไปได้มั้ย?”

 

เขามองไปยังอาวุธและเครื่องป้องกันต่างๆภายใน ตามันก็เปล่งประกายอยากได้ขึ้นมา นี่คืออาวุธจากอารยธรรมโบราณ ถ้าสามารถเรียนรู้มันได้ เราก็จะแข็งแกร่งขึ้นไปอีก

 

“อย่าไปใส่ใจดีกว่า ถ้าเราทำมันได้เราทำไปก่อนหน้านายแล้ว ในปัจจุบันใครก็ตามที่กล้าจะต่อกรกับอาวุธพวกนี้ส่วนใหญ่ก็กลายเป็นฝุ่นอวกาศไปหมดแล้ว”

 

“ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่ยุคของพวกเราเอง หลังจากที่ผ่านการสำรวจซากโบราณสถานมาหลายที่ มันไม่มีทางที่เราจะสำรวจได้หมด เพราะจะมีคนเข้ามายังที่แห่งนั้นตลอดเพื่อทดสอบโชคของพวกเขาเอง”

 

“โอเคๆ ไม่สนใจอาวุธพวกนั้นแล้ว แล้วทีนี้จะไปที่นั่นยังไงล่ะ”

 

ในเมื่ออาวุธพวกนี้เอาไปใช้ไม่ได้ เขาจึงเปลี่ยนใจจะไปหาสิ่งที่ดีกว่าแทน

 

“ดูนี่ นี่เป็นสถานการณ์ภายในของโบราณสถาน ถึงแม้ว่าสถานที่บางแห่งจะเปลี่ยนไประหว่างระยะเวลาที่ล่วงเลยมา แต่พื้นที่อันตรายก็ยังคงเป็นพื้นที่อันตราย เพราะงั้นนายจำเป็นต้องระวังตัวเองเอาไว้ให้มากๆ”

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองไปยังแผนที่ที่ถูกส่งมาในซองแดง จากนั้นก็เดินตามทางที่ปรากฏในแผนที่นั้นๆ

 

ไม่นานนักหลังจากที่อู๋ฮ่าวเหรินเข้าไปในซากโบราณสถาน ซุยหมิงที่อยู่ใกล้ที่สุดก็เดินทางมาถึง

 

พวกเขามองไปยังโบราณสถานขนาดใหญ่

 

ทั้งหมดต่างพากันตกใจและรู้ว่าโอกาสของพวกเขามาถึงแล้ว

 

ภายในนั้นต้องมีสิ่งดีๆมีมูลค่าอยู่เต็มไปหมดแน่ๆ อะไรก็ตามที่พวกเขาเจอ เขาจะเอากลับไปด้วย

 

“มาเร็ว มันต้องมีอะไรดีๆอยู่ในนี้แน่ๆ พวกเราต้องรีบเข้าไปก่อนที่อารยธรรมอื่นจะมา”

 

“รับทราบ!”

 

“นายท่าน ได้ยินมาจากทางฝั่งชายแดนว่าอารยธรรมเมกาลิธิคกับอารยธรรมคนแคระกำลังมาทางนี้ และน่าจะถึงช้ากว่าเรานิดหน่อยครับ!”

 

“เร็วจริงนะ แล้วทางโถงกลางซุยหมิงว่าอย่างไรกันบ้าง”

 

“ในกรณีนี้ การปรากฏตัวของโบราณสถานนั้นเกิดขึ้นเร็วมากๆ ทำให้ส่วนกลางปกปิดข่าวไม่ทันครับ เพราะงั้นเราจำเป็นต้องเข้าสำรวจเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

 

“งั้นบอกส่วนกลางว่าฉันจะทำให้ดีที่สุด”

 

การที่โบราณสถานแห่งนี้มีขนาดกว้างใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องดีซักเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ที่ให้ตระกูลเงาเข้าไปสำรวจกลายเป็นเล็กไปเลย ที่นั่นถูกค้นพบนานแล้วหลังจากที่มันปรากฏตัวขึ้น

 

ในตอนนั้นคนจากตระกูลเงาได้สำรวจซากโบราณจนเสร็จแล้วจึงค่อยออกมา

 

ภายในพื้นที่ปกครองของซุยหมิง ยานสำรวจของเขาเผอิญเจอเข้ากลับจักรวาลที่บิดเบี้ยว นั่นทำให้เขามุ่งตรงไปดูและพบกับที่นี่

 

มันเป็นซากโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่ คนในยานนั้นไม่มีใครรู้ลึกเกี่ยวกับสิ่งนี้หากแต่ก็ส่งวีดีโอลงไปในเครือข่ายแสงของพันธมิตร

 

คนหล่านี้ก็เหมือนพวกช่างภาพบนโลก ตราบใดก็ตามถ้าเจอสิ่งใหม่ๆปรากฏขึ้น สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำก็คือถ่ายรูปและเผยแพร่มันลงไปในที่สาธารณะ

 

หลังจากที่วีดีโอนี้ปรากฏในโลกออนไลน์ มีเพียงแค่พวกนักผจญภัยไม่กี่คนเท่านั้นที่ให้ความสนใจสิ่งนี้ และดูท่าว่าเร็วๆนี้คงพวกนักขุดหาของโบราณก็น่าจะเริ่มออกสำรวจกัน

 

ชายคนหนึ่งหลังจากได้เห็นโบราณสถานแล้วก็รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่น่าเหลือเชื่อ เขาส่งต่อวีดีโอไปยังกลุ่มนักสำรวจโบราณวัตถุ

 

และเมื่อวีดีโอนี้เข้าถึงสมาคมนักสำรวจโบราณวัตถุ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนลุกเป็นไฟ

 

“มาเร็ว! นี่มันเป็นโบราณวัตถุที่มีขนาดใหญ่มากๆเลยในเขตซุยหมิง พวกนายจัดทีมกันหรือยัง?”

 

“ใครมียานขนส่งบ้าง? ช่วยพาไปส่งได้ไหม? ฉันเป็นนักวิจัยโบราณวัตถุรุ่นใหญ่ แค่พาฉันเข้าไป ฉันแค่อยากจะไปเรียนรู้และศึกษาโบราณสถานนั้นอย่างเดียว”

 

“ฮ่าๆๆ ฉันคลุกคลีกับอารยธรรมซุยหมิงบ่อยๆ เพราะงั้นฉันน่าจะไปถึงที่นั้นเร็วๆนี้ โบราณสถานนี่ดูท่าจะเป็น 1 ในไม่กี่ที่ที่ใหญ่ที่สุดในยุคปัจจุบันเลย”

 

“สำหรับตั๋วในการผ่านเข้าเขตแดนซุยหมิง ตราบใดที่ยอมจ่าย 1888 คริสตัล ก็ไม่รับมันได้ที่ XX เวลา XX ได้เลย”

 

“...”

 

จากการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของโบราณสถาน ข้อมูลมากมายต่างก็กระจายไปทั่วโครงข่ายแสง นักสำรวจหลายคนต่างก็เริ่มที่จะเดินทางกันเลย ในหัวของพวกเขาต่างก็คิดว่าถ้าเข้าไปที่นั่นได้ โอกาสที่จะเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืนก็อยู่ไม่ไกล โอกาส กำลังรอเขาอยู่

 

ในระหว่างช่วงเวลานั้น แม้แต่ข่าวชุดเกราะที่ซึ่งร้อนแรงและครองตลาดอยู่แทบจะตลอดเวลานั้นยังถูกแทนที่ด้วยข่าวการปรากฏตัวของโบราณสถานขนาดใหญ่นั้นเลย

 

พักใหญ่ๆทุกๆคนก็หันไปให้ความสนใจกับที่แห่งนี้ก่อนจะเริ่มหาทางไปยังโบราณสถานนั้นกันราวกับไปเป็นกองทัพ

 

ในโลกมืด นักฆ่าทั้งหมดที่รับงานฆ่าอู๋ฮ่าวเหรินมากำลังหาข่าวของเขาด้วยความเศร้าใจ

 

นั่นก็เพราะว่าหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ อู๋ฮ่าวเหรินนั้นหายไปก่อนตลอด ไม่เหลือข้อมูลอะไรเลย

 

และการที่ใจจดใจจ่ออยู่กับการหาข่าวอู๋ฮ่าวเหริน ทำให้พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องการปรากฏตัวของโบราณสถานที่กำลังครึกโครมอยู่

 

นั่นเพราะพวกเขาเป็นนักฆ่า หาใช่นักสำรวจไม่…

 

ถ้าจบงานนี้เมื่อไหร่ เขาก็จะรับเงินก้อนใหญ่ และใช่ชีวิตสบายๆไปตลอดชีวิตเลย

 

“บลัดดี้ ได้ยินข่าวเกี่ยวกับชายคนนั้นบ้างหรือยัง?” คนแคระหน้าตาน่าเกลียดเอ่ยถามชายที่มีเลือดสีแดงเต็มตัวไปหมด

 

“ไม่ได้เลย นี่ฉันให้ระบบจัดการอัจฉริยะช่วยหาอยู่ ดูท่าเงินก้อนใหญ่จะไม่ได้มาง่ายๆซะแล้ว”

 

ในตอนนั้นใครซักคนที่มาจากด้านนอกก็เอ่ยขึ้นมาด้วยความกระหาย “เร็วเข้า ได้ยินมาว่าไอ้คนๆนั้นก็กำลังเข้าไปที่โบราณสถานที่เพิ่งปรากฏขึ้นมาด้วย”

 

“อืม ฉันจะไปที่นั่นด้วย ดูเหมือนงานเราจะยากขึ้นมาซะแล้ว”

 

สูฉ่าไม่ได้คาดคิดเลยว่าเป้าหมายจะเข้าไปในโบราณสถาน ณ ตอนนี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะหาเขาเจอในซากนั้น

 

ยิ่งไปกว่านั้นใครๆก็รู้ว่าพวกโบราณสถานล้วนเต็มไปด้วยอันตราย ถ้าไม่ระวังตัวเอง คนที่ตายก็อาจจะเป็นพวกเขาแทน

 

“แล้วฉันทำอะไรได้บ้างตอนนี้?” เขาหันไปถามคนแคระ “จะยกเลิกงานหรือไง?”

 

“ไม่ ฉันจะไปที่นั่นด้วยตัวฉันเองเพื่อจบงาน เพราะงั้นนายไม่ต้องตามมา”

 

สูฉ่ายืนขึ้นและเดินออกไป

 

ข่าวของอู๋ฮ่าวเหรินที่เข้าไปในโบราณสถานนั้นแพร่กระจายในโลกมืดอย่างรวดเร็ว มันทำให้พวกนักฆ่ากระตือรือร้นที่จะเข้าไปในที่แห่งนั้นเพื่อตามหาอู๋ฮ่าวเหริน ไม่คิดเลยว่าเป้าหมายจะเข้าไปอยู่ในที่แบบนั้น

 

ในความเป็นจริง ค่าหัวที่สูงลิ่วนั้นก็ทำให้นักฆ่าหลายๆคนเลือกที่จะไม่ลังเลที่จะตรงเข้าไปยังโบราณสถานนั้นอยู่แล้ว

 

จะมีเพียงนักฆ่าบางคนที่รอบคอบมากๆ พวกเขาไม่แสดงท่าทีใดๆออกมาเพราะรู้ว่าที่นั่นมีอันตรายมากมายรออยู่แน่ๆ เพื่อผลประโยชน์ของตนแล้วมันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะทำยังไงดีนั่นอีกเรื่อง

 

กองกำลังของตระกูลอัลตาได้ยินข่าวเรื่องของอู๋ฮ่าวเหรินที่กำลังเข้าไปในโบราณสถานแล้ว และแน่นอนว่าพวกเขาเองก็ส่งคนไปที่นั่นด้วยเช่นกัน

 

อู๋ฮ่าวเหรินได้เตรียมการโต้กลับคนพวกนี้ไว้แล้ว แต่เขายังไม่ได้ทำอะไร เพราะยกหน้าที่นี้ให้เป็นของพวกตระกูลที่ร่วมมือด้วยแล้ว พวกเขาน่าจะเริ่มทำตามแผนได้ก็ต่อเมื่อเข้าใจความสามารถที่อู๋ฮ่าวเหรินมอบให้พวกเขา

 

ดังนั้นในปัจจุบัน กองกำลังเหล่านี้ไม่มีอะไรให้เสียแล้วตั้งแต่ครั้นที่ดาวโจรถูกทำลายและพี่น้องครอบครัวบางส่วนของพวกเขาต้องตายไป

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อแผนการของอู๋ฮ่าวเหรินเริ่มจริงๆ กองกำลังเหล่านี้คงได้เลิกสนใจโบราณสถานและวุ่นกับการตาลีตาเหลือกหาปัญหาที่อู๋ฮ่าวเหรินก่อไว้เป็นแน่  



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น