CF:บทที่ 589 ความไม่สงบ
หลังจากที่ใช้เวลาไปเป็นอาทิตย์อยู่ในใจกลางของทางช้างเผือก, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้มุ่งหน้าไปยังดาวแปลกๆมากมายที่นี่, ยกเว้นสัตว์คริสตัลที่สุดทรงพลังที่เขาพบแล้ว, ก็ไม่พบสัตว์ดาราอื่นๆอีกเลย
มองดูหินพลังงานที่บรรจุอยู่ในระบบซองแดงเขาก็อารมณ์ดีขึ้นมา, จากที่เขาทราบหินพลังงานเหล่านี้สามารถทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีในสหพันธรัฐขึ้นมาเลยก็ได้, ในเวลานี้เขาไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องของการใช้หินพลังงานนี้ในการพัฒนากองกำลัง
"ไอ้กันเถอะจี้, ครั้งหน้าที่พวกเราจะกลับมาที่นี่, ก็คงจะเป็นตอนที่พวกเรากลับมาจากสหพันธรัฐแล้ว"
ยานขนส่งได้บินออกจากที่นี่อย่างรวดเร็วและไม่นานนักก็หายออกไปจากอวกาศนี้, น้ำวนขนาดมหึมาที่กำลังกลืนกินพลังงานจากทางช้างเผือกอย่างช้าๆ
บนโลก, เมื่อเหล่าผู้นำจากประเทศต่างๆพบว่าผู้ที่จัดการเรื่องต่างๆนั้นเป็นหลิงเมิ่งเสวี่ย, ในตอนแรกก็ยังไม่มีอะไร
แต่พอนานวันไป, พวกเขารู้สึกถึงสิ่งผิดปกติและมีบางคนที่มีความคิดบางอย่างขึ้นมา
"ครูโน่, ทุกคนมากันพร้อมรึยัง?"
"ครับท่าน, มากันพร้อมแล้วครับ, ทุกท่านที่พวกเราเชิญมาอยู่ที่นี่หมดแล้วครับ" คนที่พูดนั้นเป็นชายแก่ผอมสูงอยู่ในชุดทักซิโด้พ่อบ้าน
ส่วนตรงหน้าเขาเป็นชายที่ดูหนุ่มมาก, แต่ทว่าจากสภาพร่างกายของเขา แสดงให้เห็นว่าชายคนนี้น่าจะได้รับยาปรับปรุงยีนส์มา
จิบไวน์ที่อยู่ตรงหน้า และพูดขึ้นพร้อมกับแสงที่อยู่ในแววตาของเขา "หึ, คนพวกนี้ยอมกันง่ายๆแลกกับผลประโยชน์แค่นั้นได้ยังไงกันนะ?"
หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกไป
ด้านนอก, มีเหล่าคนไม่ธรรมดามากมายรวมตัวกันอยู่ในห้องจัดงานเลี้ยงขนาดมหึมาและกำลังพูดคุยกันอยู่
จากคำพูดและการกระทำของพวกเขาแล้ว, จะเห็นได้ว่าคนพวกนี้น่าจะเป็นคนที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน
"มูสได้บอกให้พวกเรามาที่นี่เพื่อทำอะไรบางอย่าง"
"ทำอะไรงั้นเหรอ? มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่รึไง, ในตอนนี้สถานการณ์มันไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อพวกเราเลย, ถ้าพวกเราไม่ต่อต้าน มันก็เหลื่อเวลาอีกไม่นานก่อนที่ความมั่งคั่งที่พวกเรามีจะหมดไปจากมือของเรา"
ชายคนที่พูดอยู่นี่เคยเป็นขุนนางอายุราวๆ 50 ปี, เขานั้นรู้สึกตัวว่าความมั่งคั่งที่เขาเคยมีนั้นเริ่มที่ร่อยหรอแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นความเร็วของการหมดไปของพวกมันนั้นก็ทำให้เขาต้องตกใจ, และด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุทำให้เขาต้องเชิญคนพวกนี้มา
"เขาได้ยินมาว่าทางจีนนั้นได้พยายามที่จะแย่งชิงตำแหน่งสมาชิกสภาหสภาพ, ผมไม่รู้ว่าถ้าพวกเราร่วมมือกันบางทีอาจจะมีสิทธิได้ตำแหน่งสมาชิกสภาสหภาพก็ได้นะ"
"ยาก, เพราะอย่างที่รู้กันฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นอยู่ในกำมือของรัฐบาลจีนอยู่แล้ว, แล้วสหภาพมนุษย์นั้นก็เป็นของฟิวเจอร์กรุ๊ป, ดังนั้นสมาชิกจะเป็นใครบ้างนั้นก็แทบไม่ต้องพูดถึงเลย"
"แต่ผมได้ยินมาว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวอะไรกับการเลือกตั้งสมาชิกสภานะ, พวกเขาจะทำเพียงแค่เฝ้าดูการเลือกตั้งผ่านศูนย์กลางสมองกลเพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริตเท่านั้น"
"คุณยังเชื่ออีกเหรอ หรือว่าคุณไม่รู้ว่าเคยเกิดอะไรขึ้นบ้างกับประเทศนั้นมาก่อน"
มีหลายคนที่เงียบไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น, มันเป็นประเทศที่แปลกประเทศหนึ่ง, ซึ่งส่วนใหญ่นั้นพวกเขาจะคำนึงถึงความสัมพันธ์ก่อนไม่ใช่กฏหมาย
"มูสมาแล้ว"
มูสมองดูคนเหล่านี้และเขาก็เริ่มรู้สึกมีความสุขขึ้นมา, จากสถานะในปัจจุบันของเขานั้นน่าจะเป็นสิ่งที่ได้รับมาจากฟิวเจอร์กรุ๊ป
ถ้าไม่ใช่เพราะเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป, หลายคนในที่นี้คงจะไม่แม้แต่จะสนใจเขาด้วยซ้ำ
แต่ในเวลานี้, เพราะการปรากฏตัวของฟิวเจอร์กรุ๊ป ทำให้โลกต้องเปลี่ยนไป
โดยเฉพาะหลังจากที่ทุกประเทศเข้าร่วมกับฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว, การเปลี่ยนแปลงนั้นก็มากยิ่งกว่าเดิม
มีเพียงเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆที่อยู่ในมือของพวกเขานั้นที่พอจะเรียกได้ว่าผลประโยชน์ที่เขาเก็บเกี่ยวมาจากการเปลี่ยนแปลงในนี้
และเขานั้นคือคนที่โชคดีคนหนึ่ง, เขาคือคนกลุ่มแรกที่ได้เข้ามาเรียนรู้เทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป และยังเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้เข้าเล่นเกมของฟิวเจอร์กรุ๊ป และยังเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้รับอำนาจให้จัดการกับคนที่มาเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป
ดังนั้น, ในเวลานี้เขาจึงมีคนที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอยู่ในมือของเขาเป็นพันคน, และหลังจากที่เข้าร่วมสหภาพมนุษย์แล้ว, คนมีความสามารถเหล่านี้ก็ได้นำพาความมั่งคั่งอย่างมากมาให้แก่เขา
แต่ในตอนนี้เขาไม่ได้เพียงพอแต่เพียงแค่นั้นอีกแล้ว, เขายังต้องการมากกว่านี้, เขาต้องการที่จะควบคุมฟิวเจอร์กรุ๊ป
ในสายตาของเขานั้น, มันเป็นการเปล่าประโยชน์ที่จะปล่อยให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปที่ทรงพลังนั้นพัฒนาไปอย่างช้าๆเช่นนี้
การปล่อยให้บริษัทนั้นอยู่ในมือคนเหล่านี้, มันเป็นอาชญากรรมชัดๆ
"มูส, คุณเชิญให้พวกเรามาที่นี่, ต้องการอะไรงั้นรึ?"
ถึงแม้จะมีคำอธิบายบางส่วนอยู่ในจดหมายเชิญแล้วก็จริง, แต่ก็ไม่ละเอียดอะไร, แต่แน่นอนว่าพวกเขาพอที่จะเดาอะไรบางอย่างได้
"เงียบหน่อยทุกคน, ที่ผมเชิญพวกคุณมาที่นี่ครั้งนี้, ก็เพื่อที่จะทำให้พวกคุณได้ผลประโยชน์เพิ่มขึ้น และมีชีวิตแบบแต่ก่อนได้ และไม่ต้องสูญเสียชีวิตแบบนั้นไป, ผมเชื่อว่าตั้งแต่ที่เข้ามาในสหภาพมนุษย์นั้น พวกคุณก็น่าจะรู้ถึงสถานการณ์ของพวกคุณในปัจจุบันดี
"แล้วคุณจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร? คุณก็น่าจะรู้นี่นาว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นแข็งแกร่งมาก"
"ฮ่าๆ, ผมไม่ได้เชิญพวกคุณมาที่นี่เพื่อมาปรึกษาหารือเรื่องนี้กันหรอกนะ, เอ้าทุกคนเข้ามารวมกันและนั่งลงคุยกันก่อน"
ทุกคนก็ได้เข้ามายังห้องจัดเลี้ยง, ซึ่งได้ถูกจัดเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่
หลังจากที่ทุกคนนั่งลงไปแล้ว, มูสก็กล่าวขึ้นมา "พวกคุณน่าจะรู้กันแล้วว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่เป็นเวลานานแล้ว, และในเวลานี้ภรรยาของเขานั้นเป็นคนจัดการเรื่องต่างๆอยู่, ผมคิดว่าเขาน่าจะไม่ได้อยู่บนโลกแล้ว"
"คุณไม่ต้องพูดถึงเรื่องนั้นก็ได้, ทุกคนก็รู้กันอยู่แล้ว, ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่บนโลกก็จริง, แต่คุณยังกล้าที่จะต่อต้านกับฟิวเจอร์กรุ๊ปอีกรึ?"
หลังจากที่พวกเขาได้เห็นกำลังทหารของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว คนเหล่านี้ไม่ใช่คนโง่, ในเวลานี้ถ้าเกิดเข้าไปตอแยอะไรกับฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วล่ะก็ ไม่ต่างอะไรไปจากการรนหาที่ตาย
ขนาดผู้นำประเทศมหาอำนาจยังถูกบีบบังคับให้เข้าร่วมกับสหภาพมนุษย์ได้, แล้วแค่คนรวยอย่างพวกเขาจะทำอะไรได้
"ต่อต้านฟิวเจอร์กรุ๊ปงั้นเหรอ, ไม่ๆ ผมเองก็ไม่อยากที่จะตายเหมือนกัน, แต่ถึงแม้ว่าพวกเราจะต่อต้านฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่ได้ก็จริง, แต่ถ้าพวกเราสามารถควบคุมฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ล่ะก็, ลองคิดดูสิว่าจะเป็นอย่างไรถ้าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นถูกควบคุมโดยพวกเรา"
มีบางคนที่ถอนหายใจออกมาแล้วพูดขึ้นมา "คุณกำลังฝันอยู่รึไง, ควบคุมฟิวเจอร์กรุ๊ปเนี่ยนะ ขนาดประเทศมหาอำนาจยังทำไม่ได้? แล้วคุณคิดว่าอย่างพวกเราจะทำได้อย่างงั้นเหรอ?"
ไม่ใช่ว่าคนเหล่านี้กำลังดูถูกตัวเองกันอยู่, แต่ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นแข็งแกร่งมากเกินไป แม้แต่คนที่แข็งแกร่งก็ยังไม่สามารถต่อต้านได้
มองดูหุ่นยนต์ที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ด้านนอก, และยานอวกาศขนาดใหญ่ที่เข้ามายังโลกทุกวัน, ถ้าฟิวเจอร์กรุ๊ปต้องการที่จะฆ่าพวกเขา, คงไม่ต่างจากการดีดนิ้ว
"มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ถ้าเป็นเมื่อก่อน, แต่ตอนนี้พวกเรามีโอกาสแล้ว, การไม่อยู่ของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นคือโอกาสของพวกเรา, หากพวกเราสามารถเข้าควบคุมฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ก่อนที่เขาจะเดินทางกลับมา, ผมเชื่อว่าต่อให้เขากลับมาก็เปล่าประโยชน์แล้ว"
เมื่อเห็นว่าผู้คนหยุดพูดไปแล้ว, มูสรู้ว่าพวกเขานั้นน่าจะมองเห็นความหวังลางๆกันแล้ว
"ดูนี่, นี่คือข้อมูลที่ผมได้รวบรวมมา"
ในห้องประชุมที่เงียบสงบนี้, ทุกคนต่างก็จ้องมองมาที่ข้อมูลที่มูสว่าเอาไว้
คนๆนี้ดูเหมือนจะมีความสามารถบางอย่างจริงๆ, ดูเหมือนว่าเขาสามารถที่จะรู้ด้วยว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นอยู่ที่ไหนในเวลานี้
"คนๆนั้นออกไปแล้วจริงๆสินะ, แล้วเขาจะกลับมาในเร็วๆนี้ไหม?"
"ผมไม่คิดเช่นนั้น, ถ้าเป็นผมต้องออกไปไหนเป็นเวลาสั้นๆ, ผมคงไม่ทิ้งงานทุกอย่างไว้ให้ภรรยาของผมหรอก"
"และจากข้อมูลเหล่านี้, ถ้าจะออกไปที่ไหนเป็นเวลาสั้นๆ, ก็คงจะไม่ต้องเตรียมการเช่นนี้ด้วย"
ถ้าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นอยู่ที่นี่และเห็นข้อมูลเหล่านี้, เขาคงจะต้องทึ่งกับคนๆนี้ที่สามารถรู้ถึงแผนการการพัฒนาโลกของเขาได้ด้วย
มูสเคาะโต๊ะและดึงความสนใจของทุกคนกลับมาแล้วพูดขึ้น, "ผมมีข้อมูลที่ยันยันได้แล้วว่าเขานั้นออกจากโลกไปแล้วจริงๆ, ถ้าคุณยังอยากที่จะเข้าร่วมกับแผนของผมล่ะก็ เชิญตัดสินใจได้ตอนนี้เลยนะ"
0 ความคิดเห็น