CF:บทที่ 553 การเชิญเข้าร่วมงานแต่ง
เมื่อข่าวการแต่งงานของอู๋ฮ่าวเหรินได้เผยแพร่ออกไป, ไม่นานนักมันก็ได้สร้างความฮือฮาขึ้นมา, มีบางคนที่เริ่มเป็นกังวลเรื่องการเชิญเข้าร่วมงานแต่งขึ้นมา
"พวกคุณได้ยินกันบ้างไหมว่า ใครที่ได้เข้าทำงานในฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะได้เข้าร่วมงานแต่งนี้ด้วยล่ะ?"
"คุณไปเอาข่าวนั้นมาตอนไหน? ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปเองเพิ่งจะประกาศเรื่องการเชิญเข้าร่วมงานแต่งเองนะ, เห็นมีบางคนที่ยอมจ่ายเงินไปเป็นจำนวนมากเพื่อให้ได้รับเชิญ, แต่ก็ต้องผิดหวัง เป็นการยากที่จะได้สิทธิเข้าร่วมงานล่ะนะ"
"ใช่, มีคนได้ยินมาว่าพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะสามารถชวนเพื่อนไปเข้าร่วมงานแต่งได้, จึงมีคนพยายามที่จะซื้อสิทธินั้นจากพนักงานฟิวเจอร์กรุ๊ปล่ะ"
"......"
คนจำนวนมากที่ได้พยายามที่จะให้ได้จดหมายเชิญและต้องการที่เข้าร่วมงานแต่งนี้, และไม่ใช่แค่คนธรรมดาเท่านั้นที่พยายามจะให้ได้สิทธินี้, ผู้นำระดับชาติ, ยักษ์ใหญ่ของบริษัทนานาชาติ และตระกูลต่างๆก็หาทางเพื่อให้ได้จดหมายเชิญนี้
ในปักกิ่ง, มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ได้มารวมตัวกัน, เพราะการพัฒนาของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, ทำให้งานของพวกเขานั้นง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน
อาจจะพูดได้ว่าคนจำนวนมากนั้นไม่มีอะไรทำ, และกลายมาเป็นคนว่างงาน, แต่ทว่าปัญหานี้ทางเบื้องบนเองก็ยังไม่ได้ลงมาจัดการอะไรเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม, นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก, ถ้าคุณต้องการที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น, คุณก็จำเป็นที่จะต้องหาทางเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปให้ได้
หากไม่ต้องการที่จะเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ป และอยากที่จะใช้ชีวิตแบบไม่ทำอะไรเลยก็ไม่มีปัญหา, เพราะทางรัฐยังให้การสนับสนุนด้านอาหารและเครื่องดื่ม, แต่แน่นอนว่าการดูแลในลักษณะนี้ซักวันก็ต้องหยุดลง
"หัวหน้ากรม, ลูกของคุณได้เข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปไปรึยัง?" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งอายุราวๆ 50 ถามอดีตหัวหน้ากรมกอง
"ตาเฒ่าหนิว, แกคิดว่าการเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปมันง่ายนักรึไง, ขนาดทหารในกองทัพที่ถูกฝึกมาอย่างดียังผ่านแค่ในระดับมาตรฐานที่ต้องการในการคัดเลือกเอง, แกไม่รู้จักเจ้าลูกบ้าของข้าดี, ถ้าข้ารู้ว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ล่ะก็, ข้าคงจะเข้มงวดมันให้มากกว่านี้"
"แล้วคุณได้รับจดหมายเชิญบ้างไหม?"
หัวหน้ากรมกองส่ายหัวและพูดขึ้น "ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเชิญข้า, จากสถานะของฟิวเจอร์กรุ๊ปในปัจจุบัน พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องมาคิดถึงพวกเราจริงจังแล้ว, ข้าได้ยินมาว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นมีทั้งยานอวกาศและยานรบแล้ว"
รัฐมนตรีหนิวพูดอย่างเศร้าๆ "ถ้าข้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้, ข้าควรที่จะหน้าด้านแล้วส่งลูกสาวของข้าเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปไปแล้ว, ข้าได้ยินมาว่าใครที่ส่งลูกเข้าไปได้ในตอนนั้น, ตอนนี้คงได้อยู่อย่างสุขสบายไปแล้ว"
"นั่นสิ, แต่ตอนนี้ข้ากำลังหาทางพยายามติดต่อกับจื่อหยงอยู่, ข้าได้ยินมาว่าเจ้าหนูนั่นกำลังทำการวิจัยอยู่ในโรงเรียนของฟิวเจอร์กรุ๊ป, เขาเคยรับผิดชอบทำหน้าที่ติดต่อกับอู๋ฮ่าวเหรินอยู่"
"ถ้าเจ้าไม่พูดขึ้นมาข้าก็ลืมไปแล้วนะเนี่ย, ข้าขอตัวก่อนละกัน"
เมื่อตาเฒ่าหนิวได้ยินชื่อของจื่อหยง, เขาก็พลันนึกถึงกลุ่มคนที่ได้เข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปในตอนแรก, ซึ่งในกลุ่มนั้นมีคนที่เกี่ยวดองกับตระกูลของเขาอยู่, ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องติดคนพวกนั้นอย่างหน้าด้านแล้ว
ในออฟฟิศของท่านผู้นำ, ในตอนนี้ท่านผู้นำกำลังว่างงานเพราะไม่จำเป็นต้องออกเยี่ยมประเทศหรือจัดการกับปัญหาต่างๆในประเทศ
หน้าที่ของเขาทุกวันคือใส่ใจกับเสถียรภาพของประเทศและทำความเข้าใจกับการพัฒนาของฟิวเจอร์กรุ๊ป
ท่านผู้นำครับ, มีคนผู้อาวุโสติดต่อมาเพื่อขอเข้าร่วมงานแต่งงานของคุณอู๋ครับ"
"งั้นเหรอ, ก็ปล่อยให้พวกเขาเข้าร่วมงานไปสิ, ไม่มีใครห้ามไม่ให้พวกเขาเข้าร่วมเสียหน่อย"
ท่านผู้นำครับ, ผมได้ยินมาว่าสถานที่จัดการแต่งงานนั้นค่อนข้างพิเศษครับ, จะไม่สามารถไปเข้าร่วมงานได้ถ้าไม่มีจดหมายเชิญครับ"
เมื่อได้ยินที่เลขาธิการพูด, ท่านผู้นำก็ตอบสนองทันทีแล้วพูดกลับมา "พวกเขาต้องการให้ข้าช่วยพวกเขาให้ได้รับจดหมายเชิญหรอกเรอะ"
"เป็นเช่นนั้นครับ"
"บอกพวกเขาไปว่า ข้าก็ช่วยอะไรไม่ได้, เจ้าดูนี่สิ คนที่จะมาขอให้ข้าช่วยเรื่องจดหมายเชิญไม่ได้มีแค่ผู้อาวุโสหรอกนะ"
เลขาธิการมองดูเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ, แล้วยังมีอีเมล์ส่วนตัวที่ถูกส่งมาจากผู้นำของประเทศต่างๆ, ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องขอจดหมายเชิญเข้าร่วมการแต่งงาน
ในอดีต คงไม่มีใครคาดคิดว่ากลุ่มผู้นำของประเทศต่างๆจะต้องมาหาทางเพื่อที่จะให้รับจดหมายเชิญเข้าร่วมงานแต่งของคนๆหนึ่งแบบนี้
แต่ตอนนี้, ใครที่ได้เข้ารับเชิญเข้าร่วมงานแต่งนี้ถือได้ว่าเป็นแขกผู้มีเกียรติอย่างมาก
"คุณลองติดต่อไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วถามดูซิว่าจะขอให้พวกเขาส่งจดหมายเชิญมาให้คนพวกนี้บ้างได้ไหม?"
แน่นอนว่า, สำหรับงานแต่งงานของอู๋ฮ่าวเหรินนี้ มีบางคนที่กังวลถึงเรื่องที่ว่าจะได้รับจดหมายเชิญหรือไม่, ในขณะที่คนอื่นๆกำลังตื่นเต้น
คนเหล่านี้เป็นคนแรกๆที่ได้เข้ามามีความสัมพันธ์กับฟิวเจอร์กรุ๊ป, ทั้งบริษัทจัดจำหน่ายวัสดุ, และบางคนที่เคยร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ปมาก่อน ล้วนถูกเชิญมาเข้าร่วมงานโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป
ในเวลานี้, เหล่าพนักงานเก่าที่ได้ร่วมกันสร้างฟิวเจอร์กรุ๊ปร่วมกับอู๋ฮ่าวเหรินจะได้แสดงคุณค่าของตัวเองออกมา
ในขณะที่คนอื่นเป็นกังวลว่าจะได้จดหมายเชิญไป, แต่พวกเขานั้นสามารถเชิญคนอื่นให้มาร่วมงานแต่งได้ตามต้องการ, โดยไม่จำเป็นต้องให้อู๋ฮ่าวเหรินทำการยืนยันแต่อย่างใด
แน่นอนว่า, ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสของบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ป พวกเขาไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงินกันอยู่แล้ว พวกเขาจึงไม่ได้ให้จดหมายเชิญนี้กับใครเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน
ลู่เผิงเฟยนั้นวุ่นวายมาก, เพราะเขานั้นรู้จักกับคนเยอะมากที่สุด, ในเวลานี้ใครต่อใครที่เคยรู้จักกับเขาต่างก็มาขอเขาเรื่องจดหมายเชิญนี้
"พี่หลิว, หัวหน้าว่ายังไงบ้าง?"
หลิวเหม่ยหรูที่กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้และกำลังดื่มเครื่องดื่มที่อู๋ฮ่าวเหรินได้เอากลับมาฝากจากนอกโลกด้วยยานอวกาศก็พูดขึ้นมา "หัวหน้าบอกว่าคุณจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองได้เลย"
ลู่เผิงเฟยพูดขึ้นอย่างเศร้าๆ "ถ้าให้ฉันตัดสินใจเองมันจะทำให้ฉันปวดหัวน่ะสิ, แล้วคุณจัดการอย่างไรบ้างล่ะ, พี่เว่ย?"
เว่ยหมิงหัวเราะและพูดขึ้นมา "ของผมมันสบายกว่าคุณเยอะ, ผมมีคนติดต่อมาด้วยน้อย, ดังนั้นไม่ว่าใครที่เคยเป็นคู่ค้ากับบริษัทของเรา ผมก็ส่งจดหมายเชิญไปให้พวกเขาหมดแหละ, ส่วนคนที่ไม่เคยให้ความร่วมมือมาก่อนผมก็ได้ตอบปฏิเสธไปหมดแล้ว"
มองดูลู่เผิงเฟยที่กำลังหดหู่, เว่ยหมิงจะพูดบอกเขา "คุณน่ะคิดมากเกินไป, จากสถานะของฟิวเจอร์กรุ๊ปของเราในตอนนี้ สำหรับบางคนน่ะคุณไม่จำเป็นต้องไว้หน้าพวกเขาแล้ว, ในอนาคตน่ะมีแต่คนอื่นเท่านั้นแหละที่จะต้องมาขอพวกเรา, คุณไม่ต้องคิดเรื่องที่คุณจะต้องไปขอร้องอะไรพวกเขาอีกแล้ว"
"ก็นี่มันเป็นนิสัยการทำงานของผมที่ยังเหลืออยู่, มันไม่ง่ายที่จะเปลี่ยนได้ในเวลาสั้นๆ, เอาเถอะ ตอนนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องไว้หน้าคนอื่นแล้วสินะ, คงไม่จำเป็นที่จะต้องไปขอร้องคนอื่นอีกแล้ว"
ลู่เผิงเฟยก็รีบเปิดใช้งานสมองกลที่อยู่ตรงหน้าเขาและทำการคัดเลือกคนรู้จักทันที
"เป็นงานแต่งของหัวหน้าแท้ๆ, แต่เขากลับไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเองเลย, กลับเป็นพวกเราที่ลำบาก เหนื่อยใจจริงๆเลยน้า!"
มีคนมากมายที่คิดว่าหลายวันที่ผ่านมานี้น่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับหัวหน้า, และเมื่อคิดถึงสถานการณ์ของตัวเองแล้ว, ก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานจริงๆ, หลังจากที่เขาได้เลือกแผนการเสร็จแล้ว, เขาก็ได้ให้จี้เป็นคนดำเนินงานทั้งหมด
ส่วนเรื่องจดหมายเชิญ, ก็ให้คนอื่นๆในครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเป็นคนรับผิดชอบ, เขาเชิญแค่คนที่เขารู้จักบางคนเท่านั้น, ส่วนคนอื่นๆที่จำเป็นต้องเชิญมา เขาก็ได้ให้จี้ช่วยเหลือเขา
ส่วนเรื่องของพนักงานในบริษัท, ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาถามเขา, ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่ควรจะต้องยุ่งมากแท้ๆ, ตอนนี้กลับกลายเป็นคนที่สบายที่สุดไปเลย
ส่วนเรื่องของการเชิญ, อู๋ฮ่าวเหรินเองก็ได้ยินมาบ้างเช่นกัน, แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
สำหรับเขา, ตราบเท่าที่เป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของเขา, เขาก็ไม่ได้สนใจมาว่าพวกเขาจะมาได้หรือไม่
ซึ่งมันก็เป็นปัญหาที่พวกเขาจำเป็นจะต้องจัดการเอง, เขาจึงได้บอกให้คนในระบบซองแดงว่าเขาจะแต่งงาน, เหล่าคนในนั้นก็ได้เตรียมของขวัญแต่งงานให้กับเขา
โดยเฉพาะช่วงนี้, เขาได้กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกอนาคตไปแล้ว, เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเขากำลังจะแต่งงาน, พวกคนในกลุ่มซองแดงต่างก็เตรียมของขวัญให้กับเขา
0 ความคิดเห็น