CF:บทที่ 500 โรงงานในเมืองทะเลทราย

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 500 โรงงานในเมืองทะเลทราย


ข่าวเรื่องอู๋ ฮ่าวเหรินพาพนักงานของเขาไปสถานีอวกาศได้แพร่กระจายไปทั่วโลก หลายคนอยากเห็นหน้าตาของสถานีอวกาศ


น่าเสียดายที่ในตอนนี้ทุกประเทศต่างก็เข้าใจว่าดาวเทียมที่พวกเขามีอยู่นั้น ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลยเมื่อเจอกับเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป


สิ่งที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่ต้องการให้พวกเขาเห็น ดาวเทียมของพวกเขาจะไม่สามารถมองเห็นได้เลย


ตัวอย่างเช่นไม่ว่าดาวเทียมจะถ่ายภาพเมืองทะเลทรายอย่างไรก็ไม่สามารถเห็นภาพของเมืองทะเลทรายได้


ในเวลานี้ เมืองทะเลทรายก็มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาถึง 100,000 คนแล้ว แม้ว่าคนเหล่านี้จะมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมในการประเมิน แต่หลายคนก็เริ่มที่จะไปเดินรอบ ๆ ที่นี่หลังจากพักแล้ว


ไม่ว่าจะเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปได้หรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องดูเมืองนี้ก่อน


ผู้เข้าร่วมบางคนเดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ตามแผนที่และอารมณ์ของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทุก ๆ วินาที


จากตอนแรกที่เห็นอะไรก็ประหลาดใจ จนตอนนี้เริ่มจะชินกันแล้ว


"การใช้ชีวิตในเมืองแบบนี้สิถึงจะคุ้มค่าที่เกิดมา! มันหรูหรากว่าพวกชนชั้นสูงเสียอีก ที่นี่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ไฮเทคทุกชนิดเลย"


"แล้วนายรู้รึเปล่าว่าในเมืองนี้มีกฎพิเศษอยู่"


"กฎอะไร?"


"กฎนั่นก็คือเมื่อใดที่เด็กเกิดในเมืองนี้ พวกเขาสามารถได้รับสิทธิพิเศษในเมืองนี้ ยิ่งกว่านั้นถ้ามีลูกหลายคนสิทธิพิเศษก็จะยิ่งสูงขึ้นด้วย"


“ไม่ใช่ว่ามันเป็นแค่การกระตุ้นการมีบุตรหรือ? มีอะไรแปลกรึไง?”


“มันก็ไม่แปลกหรอกที่จะส่งเสริมการมีบุตร แต่สิ่งที่แปลกก็คือเด็กที่เกิดที่นี่จะได้รับการเลี้ยงดูจากฟิวเจอร์กรุ๊ปและพวกเขาไม่ต้องให้ครอบครัวจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูลูกแม้แต่แดงเดียว”


"ฉันคิดว่านโยบายนี้ดีมากเลยนะ ถ้าฉันอยู่ที่นี่และมีลูกเยอะ ๆ ในอนาคตฉันก็จะมีทุกอย่าง"


เมื่อพวกเขาเห็นว่ายิ่งพวกเขามีลูกเยอะเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งได้รับผลตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น ทำให้พวกเขาโปรดปราณฟิวเจอร์กรุ๊ปมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม


"หยุดพูดถึงเรื่องการมีลูกเถอะ ดูนั่นสิ หุ่นยนต์ตัวใหญ่นั่นมันสูงสักสิบเมตรเลยไม่ใช่รึ?"


"มันสูงกว่า 10 เมตร น่าจะ 15 เมตรได้ มันเป็นเขตโรงงาน แต่น่าเสียดายที่ในแผนที่บอกว่าที่นี่ห้ามเข้า ไม่งั้นก็อยากเข้าไปดูอยู่หรอก”


"ดูนั่นสิ ให้ตายเถอะ ถ้าข้อมูลที่นี่ถูกเปิดเผยออกไป ตลาดเทคโนโลยีชั้นสูงภายนอกก็จะตายแน่ หลายบริษัทคงจะล้มละลาย"


พวกเขากำลังดูยานขนส่งที่เพิ่งออกมาจากโรงงาน พวกเขามองผลิตภัณฑ์ในยานขนส่งนั่นใกล้ ๆ ก็เข้าใจว่าข้อความก่อนหน้านี้ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นหมายถึงอะไรในทันที


หลายคนมองหน้ากัน พวกเขาคิดว่าถ้าพวกเขาให้มันเป็นข่าวใหญ่มันจะนำความโชคร้ายมาสู่หลาย ๆ ประเทศอย่างแน่นอน


"ฉันจำได้ว่าตอนที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเผยแพร่เทคโนโลยีเหล่านั้น ก็เตือนทุกคนไม่ให้ใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นเพื่อผลิตสินค้า"


"ฉันก็เตือนบริษัทเก่าของฉันที่อยากใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นเพื่อผลิตสินค้าไฮเทคทุกชนิดแล้ว"


"หากบริษัทเก่าของคุณทำแบบนั้นล่ะ อีกไม่นานบริษัทนั่นก็จะล้มละลาย”


พวกเขากำลังดูยานขนส่ง ขนผลิตภัณฑ์ทุกชนิดออกจากโรงงานแล้วก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย


"ควรเผยแพร่ข่าวนี้ออกไปรึเปล่า?"


"อย่าดีกว่า เนื่องจากฟิวเจอร์กรุ๊ปยังไม่ได้เปิดตัวมัน แสดงให้เห็นว่ามีเหตุผลบางอย่างอยู่ และเราก็ไม่ควรทำลายมัน แต่เราจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ได้รึเปล่า?"


"ไม่ได้หรอก ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ประเทศเหล่านั้นจะเข้ามายุ่งอย่างแน่นอน หากเราไปมีส่วนร่วมด้วย มันอาจจบสิ้นในพริบตา"


กลุ่มคนมองยานขนส่งที่ตามออกมา และได้เห็นผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่ขนส่งออกมาในนั้น พวกเขาอยากจะเข้าเขตอุตสาหกรรมเพื่อดูกระบวนการผลิตของผลิตภัณฑ์เหล่านี้


และมันไม่ได้มีแค่ตรงหน้ากลุ่มของพวกเขา แต่ทั้งพื้นที่ที่พวกเขายืนอยู่นี้ล้อมรอบด้วยเขตอุตสาหกรรมทั้งแปดซึ่งผลิตสิ่งต่าง ๆ สำหรับเมือง


ตั้งแต่ของใช้จำเป็นชีวิตประจำวันไปจนถึงรถเหาะและเครื่องจักรขนาดใหญ่ทุกประเภท มีแม้กระทั่งสายการผลิตหุ่นยนต์


แม้ว่าผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะเก็บมันเป็นความลับ แต่ก็ยังมีบางคนที่ลงข้อมูลเหล่านี้บนอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ ข้อมูลนี้ก็สร้างกระแสอย่างรวดเร็ว


เพราะเทคโนโลยีที่เผยแพร่โดยฟิวเจอร์กรุ๊ปถูกใช้ในหลายบริษัทและในบางประเทศ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ลอกเลี่ยนแบบเทคโนโลยีเหล่านั้นมาตรง ๆ แต่งานวิจัยจำนวนมากก็ทำใกล้เคียงกับเทคโนโลยีเหล่านั้นแล้วจึงผลิตผลิตภัณฑ์ออกมา


ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยเทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่ต้องการแล้ว และพวกเขาก็ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหานี้


ในห้องทดลองขนาดใหญ่ กลุ่มคนได้เห็นข่าวบนอินเตอร์เน็ต บางคนยืนอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์มองที่สินค้าบนยานขนส่ง


"ผู้อำนวยการ งานวิจัยของเรานั้นเสียเวลาเปล่าใช่ไหม?"


ผู้อำนวยการพูดปลอบใจว่า "จะบอกว่าเสียเวลาเปล่าก็ไม่เชิงหรอก อย่างน้อยในการวิจัยนี้ก็ทำให้เราได้ความรู้มามากมาย"


"นั่นสินะ ผมได้ความรู้ขั้นสูงมากมายจากเทคโนโลยีเหล่านี้ มันมีประโยชน์มากสำหรับผมที่ได้ศึกษาความรู้ที่เผยแพร่โดยฟิวเจอร์กรุ๊ป"


ผู้อำนวยการอยากบอกว่าความสำเร็จของพวกเขาในตอนนี้จะสูงยิ่งกว่านี้ หากพวกเขาได้ศึกษาความรู้ที่เผยแพร่โดยฟิวเจอร์กรุ๊ปโดยตรง แต่แน่นอนคำพูดเหล่านี้ไม่สามารถพูดออกไปได้


แต่ก็ยังมีบางคนที่เข้าใจ พวกเขาก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่ดีนักตอนที่พวกเขาได้เห็นภาพของเมืองทะเลทราย


"ผู้อำนวยการ ผมขอลาหยุดได้ไหม ผมคิดว่าในช่วงนี้ผมจะไปสรุปงานวิจัยของผมเสียหน่อย"


"ผู้อำนวยการ ผมก็ขอลาหยุดไปศึกษาเพิ่มเติมสักพัก"


"ผมจะลาออกจากตำแหน่ง ผมจะไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อลองสมัครเข้าที่นั่นดู ผมคิดว่ามีแต่ต้องไปที่นั่นเท่านั้นผมถึงจะได้ศึกษาความรู้ขั้นสูงสุด"


ทุกคนต่างตกตะลึงไปสักพัก แต่จากนั้นผู้คนก็ทอยกันขอลาออก พวกเขาต่างรู้สึกว่าสถาบันวิจัยนั้นสูญเสียความจำเป็นในการมีอยู่ไปแล้ว


หากพวกเขายังอยู่ที่นี่ต่อไป มันก็เป็นการเสียเวลาดี ๆ นี่เอง พวกเขามีแต่ต้องไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเท่านั้นพวกเขาถึงจะก้าวหน้าได้


"เนื่องจากทุกคนกำลังจะไปฟิวเจอร์กรุ๊ปกัน งั้นฉันจะบอกข่าวล่าสุดให้ โรงเรียนของฟิวเจอร์กรุ๊ปมีแนวโน้มที่จะรับสมัครนักเรียนอีกครั้งแล้ว หากพวกคุณคิดว่าคุณมีความสามารถพอก็ไปลองกันได้นะ"


"จริงรึ? ผู้อำนวยการ ผม..."


แต่เดิมขวัญกำลังใจของคนในสถาบันวิจัยนี้ก็อ่อนแอเต็มทีอยู่แล้ว และข่าวนี้ก็ทำให้ขวัญกำลังใจเหล่านั้นหมดสิ้น คนส่วนใหญ่ต่างยื่นใบลาออก


แต่เดิมนี่เป็นสถาบันวิจัยแห่งชาติ แต่ในไม่กี่นาทีคนทั้งหมดยกเว้นผู้อำนวยการก็ขอลาออก


กรณีเช่นนี้ เกิดขึ้นกับสถาบันวิจัยหลายแห่งที่ศึกษาเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป


ปรากฏว่าสิ่งที่พวกเขากำลังศึกษาเป็นเพียงของเล่นเด็กสำหรับฟิวเจอร์กรุ๊ป ซึ่งไม่ควรค่าแก่การพูดถึงเสียด้วยซ้ำ


ประเทศเหล่านั้นได้รู้แล้วว่า "พายุ" กำลังจะมาหลังจากที่พวกเขาได้เห็นข้อมูล ทว่าพวกเขาไม่สามารถหยุดมันได้ พวกเขาทำได้เพียงดูความเป็นไปเท่านั้น


สิ่งต่อไปก็คือโลกจะได้รู้ว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นทรงพลังเพียงใด


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น