CF:บทที่ 484 จุดเริ่มต้นของการวิวัฒนาการ
ในกลางเดือนพฤษภาคมที่หลีฉุยก็เต็มไปด้วยผู้คน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเช่าบ้านที่นี่
สำหรับมณฑลหยุนหลงซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปมันได้รวบรวมเศรษฐีมากมายจากทั่วทุกมุมโลก ที่ดินที่นี่มีราคาแพงกว่าเมืองใหญ่ ๆ เสียอีก
แม้ว่าการทดสอบรอบแรกของฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่จำเป็นต้องให้คนมาที่สำนักงานใหญ่ของฟิวเจอร์กรุ๊ป อย่างไรก็ตามในช่วงสองเดือนนี้ เพราะเมืองที่ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทและการเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ทำให้ทุกคนอิจฉา
เมืองแบบนั้นสำหรับพวกเศรษฐีย่อมต้องการครอบครองที่ดินในทันทีอย่างแน่นอน
เนื่องจากพวกเขาเข้าใจชัดเจนว่าหากพวกเขาไม่สามารถตามรอยฟิวเจอร์กรุ๊ปให้เร็วที่สุดพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะตกจากตำแหน่งปัจจุบันและตระกูลที่มั่นคงก็จะตายลงอย่างช้า ๆ
ในโรงแรมหรูกลุ่มของผู้ประกอบการรวมตัวกันในห้องพักที่หรูหราของโรงแรม แต่ละคนมีทรัพสินมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1หมื่นล้านหยวน
อาจกล่าวได้ว่าทรัพสินในมือของพวกเขาคิดเป็นร้อยละหนึ่งของโลกก็ว่าได้
"แกรนด์ คุณรู้วิธีการติดต่อกับฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วรึยัง?"
ชาวต่างชาติที่มีดวงตาสีทองและเขียวดูเหมือนเป็นคนขี้เหนียว แต่เขามีมณีล้ำค่าและผลิตภัณฑ์ทองคำทุกชนิดประดับอยู่ราวกับว่าเขากลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าเขามีเงิน
"ยังเลยโบเรน ฉันไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย ดูเหมือนว่าเราจะพึ่งพาได้แต่เพียงความพยายามของลูกหลานที่จะเข้าไปในเมืองเท่านั้น"
ใกล้ ๆ กันมีสาวผมทองที่ดูเซ็กซี่สวมชุดสีแดงเผยให้เห็นผิวขาวหิมะ ถือแก้วไวน์แดง รูปร่างโดยรวมให้บรรยากาศที่มีเสน่ห์
"ฉันได้ข่าวบางอย่างมา"
แม้ว่าหญิงสาวจะมีพฤติกรรมที่ดุร้าย คนรวยรอบตัวเธอก็เหมือนมองงูหรือแมงป่อง ตาของพวกเขาจับจ้องไปมาอย่างจงใจ
"คุณแม่ม่ายดำคุณมีข่าวอะไรรึ?"
ชายแก่ที่มีไม้ค้ำหน้าย่นและสวมเสื้อคลุมสีแดงพูดเสียงเบาอย่างไม่กลัวเธอเลย
เห็นได้ชัดว่าแม่ม่ายดำกลัวชายชราผู้นี้และตอบว่า "ข่าวที่ฉันได้รับคือในเมืองนั้น เงินและอัญมณีในมือเรานั้นไร้ประโยชน์ นั่นคือความมั่งคั่งของเราไม่มีค่าในเมืองเหล่านั้น "
ถัดจากเขาเป็นชายผิวขาว เป็นชายหนุ่มที่ดูคลั่งศาสนา กุมลูกปัดพระพุทธรูปและพูดว่า "ฉันรู้ว่าเงินในเมืองนั้นเรียกว่าแต้มเครดิตซึ่งต้องทำงานเพื่อให้ได้มันมาเท่านั้น ว่ากันว่าถ้าแต้มเครดิตเพียงพอก็สามารถเอาไปเปลี่ยนเป็นยานอวกาศและผลิตภัณฑ์ไฮเทคต่าง ๆ จากฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ ที่สำคัญที่สุดแต้มเครดิตสามารถนำไปเปลี่ยนเป็นยาเพิ่มประสิทธิภาพของยีนได้"
ชายชราในชุดแดงถามด้วยความตื่นเต้นว่า "แต้มเครดิตสามารถเปลี่ยนเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของยีนได้จริง ๆ รึ? คุณได้ยินมาจากที่ไหนกัน?"
"พนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปน่ะ ผมได้ยินจากคนในบริษัทของเขาว่านอกเหนือจากแต้มเครดิตแล้วอีกวิธีก็คือการเข้าร่วมกองทัพยานรบอวกาศที่จัดตั้งขึ้นโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป ซึ่งจะถูกฉีดยาเพิ่มประสิทธิภาพของยีนทันทีที่เข้าร่วม และฟังดูแล้วเหมือนว่า บริษัทจะมีวิธีที่ดีกว่านี้อีกในการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง"
ชายชราหายใจถี่ขึ้นเล็กน้อย ทุกคนในห้องนี้อยากที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของยีน หากฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่แข็งแกร่งพวกเขาคงจะได้สิ่งนี้มาแล้วอย่างแน่นอน
มันเป็นยาวิเศษที่สามารถยืดอายุขัย และเพราะการเปิดเผยยานี้ ผู้ที่ต้องการเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปจึงกำลังศึกษากันอย่างบ้าคลั่ง
สำหรับเหตุผลที่พวกเขารู้ว่าการเพิ่มประสิทธิภาพยีนสามารถยืดอายุขัยของพวกเขาก็เพราะผู้สูงอายุของจีนถูกฉีดด้วยยาเพิ่มประสิทธิภาพยีนของฟิวเจอร์กรุ๊ปและตอนนี้คนเหล่านั้นก็อ่อนเยาว์ลง
มันเป็นเพราะเหตุนี้ ปัจจุบันทั้งประเทศจีนได้เริ่มยอมรับสิ่งต่าง ๆ ของฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อดำเนินการปฏิรูป
"ฉันได้ยินมาว่าตราบใดที่ฉันทำงานในฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นเวลาหนึ่งปี ฉันจะได้รับแต้มเครดิตพอที่จะซื้อยาเพิ่มประสิทธิภาพยีน นอกจากนี้แต้มเครดิตสามารถเปลี่ยนเป็นเงินที่เราใช้กันได้ แต่เงินไม่สามารถเปลี่ยนเป็นแต้มเครดิตได้"
คนเหล่านี้รู้ดีว่ามีแค่คนโง่เท่านั้นที่จะแลกเปลี่ยนคะแนนเครดิตเป็นเงิน ตามสถานการณ์ที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปสร้างขึ้นแล้ว เงินในโลกในอนาคตนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นเครดิตประเภทนี้ ประเทศเหล่านั้นไม่สามารถต้านทานผลกระทบจากฟิวเจอร์กรุ๊ปได้เลย
พวกเขาไม่สามารถเอาชนะฟิวเจอร์กรุ๊ปด้วยกำลังของพวกเขาได้ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะควบคุมอำนาจของฟิวเจอร์กรุ๊ป
เพราะมีข่าวว่าทรัพยากรของฟิวเจอร์กรุ๊ปล้วนได้มาจากดาวอื่น เขามียานอวกาศ ถ้าอยากจะควบคุมพวกเขานั่นก็เป็นความคิดที่โง่
ชายวัยกลางคนหนึ่งที่ท่าทางเข้มงวดพูดว่า "ฉันยังได้รับข้อความมาว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปอาจเริ่มโครงการอพยพคนข้ามดาวในอีกหนึ่งหรือสองปี ทุกคนที่ได้เกี่ยวข้องในโครงการนี้สามารถรับยาเพิ่มประสิทธิภาพยีนของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้"
"อพยพผู้คนข้ามดาว? ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ค้นพบดาวเคราะห์สำหรับการอพยพแล้วรึ?"
"ฉันไม่รู้ ฉันได้ข่าวมาจากรัฐบาลจีน ฉันก็ไม่รู้ว่ากลุ่มผู้อพยพกลุ่มแรกจะมีที่สำหรับเราหรือไม่"
ทุกคนในห้องมองไปที่ชายชราในชุดคลุมสีแดงซึ่งเป็นตัวแทนของตระกูลใหญ่ในจีน เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีนเขาต้องรู้ข่าวบางอย่างมาบ้าง
“มันเป็นเรื่องจริง แต่เราไม่รู้เรื่องการอพยพ เพราะเรื่องนี้เป็นเป็นที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปจัดการ เราก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้”
ขณะนี้พวกเขาทั้งหมดต่างอิจฉาคนจีน ประโยชน์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะมาสู่ประเทศจีนก่อนและถึงจะมาสู่พวกเขา
ตอนนี้ผู้คนทั่วโลกกำลังเรียนภาษาจีน เพราะพวกเขามีความเข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับความสำคัญของการเรียนภาษาจีนในอนาคต
หากไม่รู้ภาษาจีน หลังจากเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วก็อาจสูญเสียโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง
คนเหล่านี้จะประชุมเสร็จในไม่ช้า พวกเขารายงานข้อมูลและหารือเกี่ยวกับการเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ป
ในกรณีนี้ไม่มีวิธีที่ง่ายแน่ หากต้องการเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปต้องใช้วิธีการประกาศโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปเท่านั้น
ในตอนนี้หลายคนเต็มไปด้วยความอิจฉาต่อผู้ที่เข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปตั้งแต่แรก พวกเขาไม่จำเป็นต้องมาผ่านวิธีการพวกนี้
นอกจากการประเมินทางเทคนิคแล้วยังมีการประเมินที่โรงเรียนของฟิวเจอร์กรุ๊ปด้วย ซึ่งเป็นสนามรบหลักสำหรับผู้มีความสามารถเหล่านั้น
เพราะหลายคนรู้อยู่แล้วว่าตราบใดที่ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนได้ พวกเขาจะเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่สำคัญของฟิวเจอร์กรุ๊ป คนเหล่านี้อาจจะได้เป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรกที่ออกจากโลกและไปสู่จักรวาล
ทุกคนรู้ถึงประโยชน์ของก้าวแรกนี้ หากได้โอกาส อาจได้กลายเป็นถึงคนชั้นแนวหน้าของฟิวเจอร์กรุ๊ป
ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์หลายคนพยายามเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ป ผู้ที่มีพรสวรรค์ก็กำลังหาวิธีที่จะเข้าโรงเรียนของฟิวเจอร์กรุ๊ป
เหล่านักวิทยาศาสตร์ที่ได้เข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปก่อนหน้านี้ก็เพิ่งตระหนักว่าพวกเขาโชคดีแค่ไหน หากพลาดโอกาสในตอนนั้นไปและต้องการเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปเอาตอนนี้มันก็ไม่ง่ายแล้ว
ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นพวกเขาจะต้องผ่านการประเมิน หากพวกเขาไม่ผ่านมาตรฐานของฟิวเจอร์กรุ๊ปพวกเขาจะไม่สามารถเข้าได้
ในอนาคตประเทศเหล่านั้นจะไม่สามารถหยุดหรือไม่กล้าหยุดยั้งการชิงตัวผู้มีพรสวรรค์ของบริษัทได้
เพราะตอนนี้ถ้าพวกเขาไม่สามารถตามเดินเส้นทางของฟิวเจอร์กรุ๊ปพวกเขาก็จะตายในไม่ช้า แม้กระทั่งในอนาคตก็จะไม่มีใครจำได้ว่ามีประเทศเช่นนี้บนโลก
เห็นได้ชัดว่าแผนวิวัฒนาการอย่างสันติของอู๋ ฮ่าวเหรินได้เริ่มขึ้นแล้ว และไม่มีประเทศไหนสามารถหยุดเขาได้
0 ความคิดเห็น