CF:บทที่ 473 ข้อมูลที่ให้การโดยจื่อหยง

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 473 ข้อมูลที่ให้การโดยจื่อหยง

หลายคนกำลังรอคำอธิบายของฟิวเจอร์กรุ๊ปและอู๋ ฮ่าวเหริน อย่างไรก็ตามมีการประกาศเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นเวลาหนึ่งวัน แต่ฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่ได้อธิบายใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

แม้แต่นักข่าวที่ไปพบพนักงานของกลุ่มบางคนเพื่อทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น คำตอบที่ได้ก็คือพวกเขาไม่รู้ บริษัทไม่ได้บอกอะไรพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้

หลิวหมิงเยว่ และโจ้วหลาน เซ็งมาก ถ้าพวกเขาออกจากบริษัทก็จะถูกกลุ่มนักข่าวไล่ตาม

แน่นอนว่า ทั้งสองคนรู้ว่านี่เป็นเพราะการถ่ายทอดสดเรื่องการปรับโครงสร้างดาวอังคารและความรู้ทางเทคโนโลยีขั้นสูงที่เจ้านายปล่อยออกไป แต่พวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ช่วงนี้คนส่วนใหญ่ใน บริษัทกำลังศึกษาความรู้ในโรงเรียนตามที่เจ้านายได้วางแผนไว้ให้พวกเขา

แม้แต่คนในแผนกคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นคนลึกลับมาโดยตลอด ก็ต้องมาศึกษาความรู้ในโรงเรียนและยุติงานวิจัย

อาจกล่าวได้ว่าพนักงานส่วนใหญ่ในบริษัทไปที่โรงเรียนเพื่อเรียนรู้ความรู้ทุกวัน

อย่างไรก็ตาม ตอนที่พวกเขาเห็นการถ่ายทอดสดการแปรสภาพดาวอังคารที่หัวหน้าทำขึ้นและการประกาศความรู้ด้านเทคโนโลยีขั้นสูงออกมา พวกเขาถึงได้เข้าใจสิ่งที่เจ้านายพูดไว้ก่อนหน้านี้

ในอนาคต พวกเขาอาจต้องการทำธุรกิจอวกาศและค้าขายกับกับมนุษย์ต่างดาวเหล่านั้น

ดังนั้น หลังจากรู้อย่างนี้แล้ว ทุกคนเริ่มเรียนหนักและพยายามปรับปรุงระดับความรู้ของตน

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา พนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปจำนวนมากจึงไม่ออกจากประตูของกลุ่มเลย อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถซื้อหาทุกอย่างได้ภายในกลุ่ม

แม้ว่าจะไม่หาซื้อไม่ได้ ก็โทรศัพท์ออกไป และใครบางคนจะนำของมาส่ง

เหมือนกับว่าพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปหลายคนรู้สึกบาดหมางแปลกๆ กับคนภายนอก

อู๋ ฮ่าวเหริน ไม่ได้ไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปในวันนี้ เขานั่งอยู่ในสำนักงานและรอเลขาธิการ

หวังหลานแต่งกายท่อนบนด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวและท่อนล่างด้วยกระโปรงสีดำ

เธอเดินเข้ามาจากข้างนอก และเห็นว่า อู๋ ฮ่าวเหริน นั่งอยู่ในออฟฟิศ ก็ทำท่าประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด

"ประธาน วันนี้คุณกำลังทำอะไร?”

อู่ ฮ่าวเหริน กำลังคิดเรื่องต่างๆ เขาเห็นหวังหลาน ก็รู้สึกทึ่ง ไม่นึกว่าเธอจะแต่งตัวแบบนี้

เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มว่า: "วันนี้เบื้องบนส่งคนมาคุยกับผม”

"ฉันต้องทำอะไรไหมคะ?"

"ไม่ต้องห่วง

ทำธุระของคุณไป ศึกษาความรู้เหล่านั้นให้ดีๆ อีกสักพัก บริษัทจะเปลี่ยนแปลงไปมาก"

จากการแสดงออกของอู๋ ฮ่าวเหริน วังหลานก็ถอนตัวออกจากสำนักงานอย่างรวดเร็ว เธอก้มมองไปที่ชุดที่สวม มีรอยยิ้มบนใบหน้า แล้วก็เดินไปจากสำนักงานอย่างรวดเร็ว

เลขาธิการมาถึงเร็วมาก ประมาณเก้าโมงเช้าเขาก็มาถึงมณฑลหยุนหลง

เจ้าหน้าที่ที่มากับรัฐมนตรี ที่เห็นก็มีเพียงจื่อหยง ที่ไปรับพวกเขา และสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

จื่อหยงก็เห็น แต่ไม่ได้อธิบายอะไร จากสถานการณ์ปัจจุบันเขารู้สึกว่าแม้ว่าท่านผู้นำจะมา อู๋ ฮ่าวเหรินก็คงจะออกมาต้อนรับที่ประตูบริษัท มากที่สุดแล้ว

จื่อหยง คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?

"ไม่ค่อยชัดเจน ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนตอนนั้น ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากนัก"

พอเห็นสีหน้าผิดหวังของเลขาธิการ จื่อหยงก็กล่าวว่า "แม้ว่าผมจะไม่รู้เรื่องเหตุการณ์ไม่กี่วันมานี้ แต่ก็พอจะเดาเหตุผลบางอย่างได้"

ชั่วพริบตา เลขาธิการก็ได้สติ เขาพูดว่า "มาคุยเรื่องนี้กันหน่อย"

การมาในครั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่าเขาไม่มีข้อมูลใดๆ เลย ซึ่งทำให้เขาไม่มั่นใจเล็กน้อย

"เอาละ ก่อนหน้านี้ คุณไม่เข้าใจความรู้ขั้นสูงและข้อเสนอของเขา คุณน่าจะได้ศึกษาความรู้นั่น ว่าไหม?"

"ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิทยาศาสตร์กำลังทำงานอยู่"

"ช่วยเรียนท่านผู้นำว่าเป็นการดีกว่าที่จะเผยแพร่ความรู้พวกนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนี้ที่ผมอยู่ในโรงเรียน ผมก็ค้นพบว่าความรู้นั้นจริงๆ แล้วเป็นความรู้พื้นฐานทางทฤษฎีของเทคโนโลยีขั้นสูงที่เราเรียนรู้กันในโรงเรียน"

เลขาธิการถามอย่างสงสัย "ข้อมูลทั้งสองส่วนการเชื่อมโยงกันหรือไม่"

"เชื่อมโยงกันอย่างมาก ดังนั้น ผมขอเรียนว่าความรู้ทางเทคโนโลยีที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตนั้น เมื่อเปรียบกับความรู้ในโรงเรียนแล้วก็เป็นเพียงของเล่นเด็กเท่านั้น เมื่อใดก็ตามที่บรรดาคนที่โรงเรียนสำเร็จการศึกษา เทคโนโลยีของพวกเขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ "

จื่อหยง ใคร่ครวญเรื่องนี้แล้วจึงเอ่ยเตือน: "คุณน่าจะได้รู้เกี่ยวกับทั้งสองเมืองที่กลุ่มจะสร้างขึ้น อีกอย่างที่คุณควรทราบเกี่ยวกับเมืองที่อยู่ในตะวันออกกลาง แม้จะเป็นเมืองที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าน้อยกว่าประเทศจีนอยู่มาก แต่ก็เป็นเมืองที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้ากว่าเมืองใดๆในโลกแน่นอน"

เลขาธิการพยักหน้าและบันทึกคำพูด เมื่อเขาพร้อมที่จะกลับไป เขาสอบถามผู้คนเพื่อสืบข้อมูล 

คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับการแปลงสภาพดาวอังคาร?

"อู๋ ฮ่าวเหริน ทำด้วยตัวเอง เราไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่บริษัทมียานอวกาศของตัวเองอยู่แล้ว มีกลุ่มคนหนึ่งในโรงเรียน ส่วนการขับยานอวกาศในโรงเรียนพิเศษดูเหมือนเป็นการเตรียมการสำหรับการพัฒนาอวกาศต่อไป "

แม้ว่าจะเป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่า ฟิวเจอร์กรุ๊ปมีแผนดังกล่าว แต่จื่อหยงก็ได้ยินมาว่าเลขาธิการก็ยังตกตะลึง

"ที่จริง ผมคิดว่าคนของอู๋ ฮ่าวเหริน กำลังบอกกับโลกว่าเขามีเทคโนโลยีขั้นสูงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวันปีใหม่ การประกาศเรื่องสร้างเมือง หรือการถ่ายทอดสดการแปรสภาพดาวอังคารและเทคโนโลยีขั้นสูง"

“เรารู้แล้วเรื่องนั้น เพียงแค่แปลกใจนิดหน่อยว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น”

"ทำไมทำอย่างนั้น? ไม่ใช่คำถามที่ง่ายนัก เขาต้องการทำให้ความรู้ขั้นสูงเหล่านี้แพร่หลาย"

เลขาธิการที่ตอนแรกสับสนปนเปไปหมด แต่ตอนนี้จื่อหยงเปิดปากอย่างให้คำตอบอย่างไม่น่าเชื่อ

"ทำไมถึงพูดแบบนั้น?"

"คุณเห็นไหม ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนของฟิวเจอร์กรุ๊ป ความรู้ที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต หรือความรู้ที่อู๋ ฮ่าวเหริน มอบให้กับประเทศนั้น ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าหรอกหรือว่าเขาต้องการเผยแพร่ความรู้เหล่านี้และอย่างแพร่หลาย"

เลขาธิการไม่ได้พูดอะไร เขาเริ่มคิดว่าจริงๆ แล้วพวกเขาคิดมากกว่านั้น เด็กหนุ่มคนนั้นต้องการเปิดความรู้เหล่านี้ให้ผู้คนทั่วโลกเรียนรู้

แต่บางอย่างก็ยังไม่สมเหตุสมผล ทำไมเขาทำเช่นนี้? เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นคนเสียสละจริงๆหรือ

เขาไม่เข้าใจ เขาจะส่งข้อมูลกลับไปให้คณะทำงานหัวกะทิทำการวิเคราะห์

สำหรับอู๋ ฮ่าวเหริน ประเทศนี้มีบุคคลพิเศษเพื่อศึกษา แต่สิ่งที่เขาทำ คนเหล่านั้นไม่สามารถศึกษาอะไรเลย

อู๋ ฮ่าวเหรินที่รออยู่ในออฟฟิศไม่รู้ว่าพฤติกรรมแปลก ๆ ของเขานำมาซึ่งปัญหากับคนบางคน

นี่คือปัญหาที่เกิดจากความรู้และข้อมูลที่ไม่เท่ากัน หากพวกเขารู้ถึงความรู้และพลังที่มีในมือของอู๋ ฮ่าวเหริน

พวกเขาจะเข้าใจทันทีว่าทำไมอู๋ ฮ่าวเหริน จึงทำเช่นนั้น

เมื่อเลขาธิการเห็นอู๋ ฮ่าวเหริน เขามองไปที่ชายหนุ่มธรรมดาคนนี้ซึ่งไม่แตกต่างจากคนทั่วไป เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

-------------------