CF:บทที่ 447 นักวิทยาศาสตร์ประหลาดใจ

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 447 นักวิทยาศาสตร์ประหลาดใจ

ฟิวเจอร์กรุ๊ปออกแบบงานพิธีมอบรางวัลทั้งหมด และนักออกแบบคือคนที่พัฒนาเกมนั่นเอง

จากภาพที่เห็นในตอนนี้ แสงสีนั้นดีและเทคโนโลยีฉายภาพเสมือนจริงนั้นยอดเยี่ยมมากมาก

เห็นได้ชัดว่านักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นสนใจเทคโนโลยีนี้เป็นอย่างมาก หลายคนถามเกี่ยวกับมัน

ดูปองท์ที่ดูจากเบื้องหลังรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยในขณะนี้ เขาคิดถูกที่เลือกฟิวเจอร์กรุ๊ปและมาที่นี่เพื่อจัดพิธีมอบรางวัลนั้น

และเมื่อพิธีมอบรางวัลในวันนี้ถ่ายทอดสดออกไป จะมีผู้คนจำนวนมากมาดูการถ่ายทอดสดของพิธีมอบรางวัลที่ไม่เคยดึงดูดความสนใจมาก่อน

"มันอลังการมาก ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะมีเทคโนโลยีที่ทรงพลังเช่นนี้ ในพื้นที่งานประกาศผลรางวัลตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาแล้วว่าจะเปรียบเทียบกับเรายังไง"

"ฉันไม่คิดว่าพิธีมอบรางวัลโนเบลไหนจะสามารถทำแสงสีแบบนี้ได้ เทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นน่าทึ่งจริง ๆ" ผู้ช่วยกล่าว

ตอนนี้อิทธิพลของรางวัลวูลฟ์ของพวกเขาจะสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อนอย่างแน่นอน

ในขณะเดียวกันเนื่องจากพิธีมอบรางวัลมีการถ่ายทอดสดบนเว็บไซต์ทางการของฟิวเจอร์กรุ๊ปด้วย ยอดจำนวนคนดูก็จะสูงกว่าบางรายการวาไรตี้ที่โด่งดังเสียอีก

และตราบใดที่ปรากฏในเว็บไซต์ทางการของฟิวเจอร์กรุ๊ปมันก็จะเป็นการโฆษณาที่ดีที่สุด

ด้วยจำนวนของผู้ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าชีวะภาพบำบัดที่เพิ่มขึ้น จำนวนคนที่ลงทะเบียนในฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ได้เกินหนึ่งพันล้านคนไปแล้ว

กล่าวได้ว่าจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ทางการของฟิวเจอร์กรุ๊ปในแต่ล่ะวันจะต้องทำให้ทุกเว็บไซต์นั้นอิจฉา

อย่างในตอนนี้บนเว็บไซต์ทางการ ทุกคนกำลังพูดคุยกันเรื่องพิธีมอบรางวัล

"องค์กรที่อยู่เบื้องหลังรางวัลวูลฟ์ในครั้งนี้นั้นโชคดีมาก ไม่เพียงแต่เงินสนับสนุนที่ได้จากฟิวเจอร์กรุ๊ป ชื่อเสียงนั้นก็ยังจะโด่งดังยิ่งกว่ารางวัลโนเบลอีกด้วย"

“นั่นสินะ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีรางวัลนี้ด้วย รู้จักแต่รางวัลโนเบลเท่านั้น พอได้เห็นพิธีมอบรางวัลวันนี้แล้ว ต่อไปนี้ฉันจะจำชื่อรางวัลนี้อย่างแน่นอน”

“แต่พูดตามตรง ประธานของฟิวเจอร์กรุ๊ปก็เก่งมากจนพาบริษัทชนะสามรางวัลที่ดังที่สุดได้”

“ฉันได้ยินมาว่ามนุษย์ต่างดาวสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจริงรึเปล่า”

"ทั้งหมดมันก็แต่ข่าวลือ ถ้ามีมนุษย์ต่างดาวอยู่จริง ๆ พวกเขาคงจะไม่มาหาเขาหรอก แต่น่าจะตรงไปหาประเทศเลย รู้ไหมว่าเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวที่สามารถมายังโลกนี้ได้ต้องก้าวหน้ากว่าของโลกอย่างแน่นอน"

ในพิธีมอบรางวัล โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปก็เริ่มเป็นที่นิยมเช่นกัน เทคโนโลยีฉายภาพเสมือนจริงที่ใช้ในพิธีมอบรางวัลนั้นยอดเยี่ยมมาก

"พิธีมอบรางวัลนี้ดูเหมือนกับหนังไซไฟเลย ต่อไปนี้ฉันจะดูพวกหนังไซไฟเป็นยังไงเนี่ย"

"ฮ่า ๆ ฉันจะให้ดู นี่คือคอมพิวเตอร์ที่ผลิตโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป ดูหนังด้วยเจ้านี่นั้นจะเหมือนกับแสงสีของพิธีมอบรางวัลนี้เลย"

"ฉันก็ใช้คอมพิวเตอร์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อให้ได้ภาพแบบนี้เหมือนกัน!"

"โทรศัพท์มือถือก็ดีอยู่หรอก แต่ภาพมันยังไม่ดีเท่ากับคอมพิวเตอร์ ชัดเจนว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นเหนือชั้นกว่าในด้านเทคโนโลยีฉายภาพเสมือนจริง"

"ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเราจะได้เห็นภาพยนตร์ที่สร้างโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป แล้วภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ จะไปต่อได้หรือ?"

ในพิธีมอบรางวัลเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใช้โดยอนาคตทำให้หลายคนประหลาดใจ

อเมริกา รัสเซีย และประเทศอื่น ๆ เริ่มกระชับความสัมพันธ์กับมนุษย์ต่างดาวโดยหวังว่าจะได้รับเทคโนโลยีเช่นเดียวกับฟิวเจอร์กรุ๊ป

คนเหล่านี้ไม่รู้อะไรเลยว่าเทคโนโลยีที่พวกเขาได้รับมานั้นก็มาจากอู๋ ฮ่าวเหรินเอง

ผู้จัดงานประกาศผลรางวัล สหภาพคณิตศาสตร์นานาชาติก็อารมณ์เสียเมื่อได้เห็นพิธีมอบรางวัลวูลฟ์

ความนิยมของรางวัลสามารถดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากให้มาเข้าร่วมได้ ตอนนี้ดูรางวัลวูลฟ์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีแล้วพวกเขานิ่งเฉยไม่ได้

ดังนั้นคนเหล่านี้จึงจัดการประชุมเพื่อหารือว่าคุณสมบัติของฟิวเจอร์กรุ๊ปเหมาะสมกับสาขารางวัลที่จะได้รับหรือไม่

แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นฟิวเจอร์กรุ๊ปนี้เองที่แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ได้

เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ไม่ได้คิดถึงคำแถลงการจากฟิวเจอร์กรุ๊ป แต่คิดว่าตราบใดที่พวกเขาเห็นด้วยกับคุณสมบัติของฟิวเจอร์กรุ๊ป พวกเขาก็จะเชื่อฟังเพื่อให้ได้รับรางวัล

ขณะนี้อู๋ ฮ่าวเหรินไปที่แท่นพิธีมอบรางวัล ไม่มีการแนะนำอะไรเลยซึ่งทำให้ผู้คนสับสน

"ณ ตรงนี่ฉันแค่อยากจะพูดอะไรสักอย่าง จงตามรอยเท้าของฟิวเจอร์กรุ๊ปซะ ไม่เช่นนั้นพวกคุณจะถูกกำจัดโดยโลก"

"เฮ้ย นั่นมันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?"

"ก็ไม่มีปัญหากับประโยคนั้นนี่ อย่าลืมว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปได้เป็นผู้นำของโลกไปแล้ว"

"บางทีถ้านายได้ดูเมืองที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปสร้างขึ้นในตะวันออกกลางนายจะไม่คิดว่าคำพูดนี้ข่มขู่เกินไปเลย ฉันรู้สึกว่าโลกอาจเปลี่ยนไปเพราะฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ได้"

“ผิดแล้ว ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว ดูจำนวนคนที่เสียชีวิตจากโรคตั้งแต่การอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวะภาพบำบัดถูกสร้างขึ้นสิแล้วนายจะเข้าใจในพลังของฟิวเจอร์กรุ๊ป”

"..."

พิธีมอบรางวัลดำเนินจนจบลงไปเรียบร้อยโดยที่ไม่น่าเบื่อเลย หลังจากนั้นอู๋ ฮ่าวเหรินก็เรียกเหล่านักวิทยาศาสตร์ไว้

"ถ้าคุณไม่รีบกลับ คุณสามารถอยู่คุยกับผมที่ฟิวเจอร์กรุ๊ป ผมมีบางอย่างที่อยากจะคุยกับคุณ"

หลังจากได้ยินคำพูดของอู๋ ฮ่าวเหรินแล้วนักวิทยาศาสตร์ทุกคนก็เห็นด้วย พวกเขาก็อยากเห็นว่าบริษัทระดับตำนานอย่างฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นเป็นอย่างไร

เมื่อนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ตามอู๋ ฮ่าวเหรินมาที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปพวกเขาก็ตกใจกับอาคารของฟิวเจอร์กรุ๊ป

"ทั้งหมดนี่สร้างขึ้นโดยตัวฟิวเจอร์กรุ๊ปเองงั้นหรือ?"

"ไม่หรอก พวกเราคิดแบบแปลน ส่วนบริษัทก่อสร้างนั้นเป็นคนสร้างมัน"

"คุณเอาแบบแปลนให้ผมดูได้หรือไม่"

เมื่อนักวิทยาศาสตร์หลุดประโยคนี้ไป เขาก็คิดว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่เหมาะสมเอาเสียเลย เทคโนโลยีแบบนี้จะเอามาให้เขาดูได้อย่างไร

"ได้สิ มันก็แค่ความรู้ด้านสถาปัตยกรรม ในอนาคตบริษัทจะไม่ใช้วิธีการก่อสร้างแบบนี้อีกต่อไปแล้วด้วย"

เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ยินคำพูดของอู๋ ฮ่าวเหรินแล้วเขาก็ตกใจและรู้สึกว่าอู๋ ฮ่าวเหรินพูดเกินจริง

เมื่อเข้าไปในอาคารสำนักงานใหญ่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปอู๋ ฮ่าวเหรินก็ขอให้พวกเขารอในห้องประชุมซักพัก แล้วไปเอาเอกสารที่เพิ่งพิมพ์ออกมาและเดินตามเข้าไป

"ทุกคนดูเอกสารเหล่านี้ก่อน จากนั้นเราก็จะได้เริ่มคุยกัน"

พวกเขามีความสงสัยอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็หยิบเอกสารที่อู๋ ฮ่าวเหรินให้มาและอ่านมัน

นี่คือครึ่งชั่วโมงที่ไม่มีใครขยับตัวเลย พวกเขาทั้งหมดต่างจ้องที่เอกสารของอู๋ ฮ่าวเหริน

เมื่อคนเหล่านี้ตอบสนอง สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทีละคน

"ข้อมูลนี้เป็นจริงหรือไม่?"

ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่เชื่อมัน เนื่องจากมันน่าทึ่งเกินไป หากสิ่งเหล่านี้เป็นจริงล่ะก็ โลกจะเปลี่ยนไปเพราะฟิวเจอร์กรุ๊ป

"ข้อมูลทั้งหมดก็อยู่ในนั้นอยู่แล้ว ผมไม่มีเหตุผลที่จะหลอกคุณเลย"

"แล้วคุณมีจุดประสงค์อะไรในการที่ให้พวกเราดูข้อมูลพวกนี้"

ข้อมูลในเอกสารนี้สำคัญเกินกว่าที่อู๋ ฮ่าวเหรินจะเปิดเผยมันโดยไม่มีเหตุผล

"มันง่ายมาก ผมต้องการนำความรู้นี้จากแค่ในเอกสารมาสู่ทั่วโลก ผมเชื่อว่าคุณน่ารู้อะไรมาบ้างเกี่ยวกับโรงเรียนของฟิวเจอร์กรุ๊ป ผมต้องการก่อตั้งโรงเรียนแบบนี้ทั่วโลก"

"ทำไมกันล่ะ? ตราบเท่าที่ความรู้นี้ไม่เปิดเผยออก มันก็เป็นความมั่งคั่งที่ไม่รู้จบสำหรับคุณเลยแท้ ๆ"

อู๋ ฮ่าวเหรินส่ายหัวและพูดว่า "คุณเห็นข้อมูลนี้แล้ว คุณยังคิดเกี่ยวกับโลกอีกหรือ? ความมั่งคั่งในโลกสำหรับผมแล้วมันไม่มีความหมายอะไรเลย"