CF:บทที่ 435 ข่าวดีของโรคเส้นประสาท

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 435 ข่าวดีของโรคเส้นประสาท

ออกมาจากโรงเรียนได้ไม่นาน อู๋ ฮ่าวเหรินก็ได้รับสายจากโจว หลาน

“หัวหน้า การรักษาโรคเส้นประสาทของบริษัทได้ถูกเผยแพร่ลงบนอินเตอร์เน็ต ตอนนี้มีหลายคนถามเข้ามาว่าบริษัทเราได้บรรลุเทคโนโลยีการแพทย์นี้จริงหรือไม่”

“งั้นรึ? ฉันก็ไม่ได้อยากจะปกปิดมันด้วย ไม่แปลกที่มันจะถูกเผยแพร่ไป เธอลงประบนอินเตอร์เน็ตด้วยบอกว่าเทคโนโลยีปัจจุบันไม่สามารถส่งเสริมได้เพราะปัญหาเรื่องยา”

“เข้าใจแล้ว ฉันจะลงประกาศให้เดี๋ยวนี้”

โจว หลานวางสายไปและไปจัดการกับเรื่องนี้ เมื่อปล่อยคำประกาศออกไปมันก็ดึงความสนใจของคนจำนวนมากทันที

เดิมทีข่าวที่เป็นกระแสบนอินเตอร์เน็ตนี้ก็เป็นแค่การคาดเดาของคนไม่กี่คน ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่

แต่ตอนนี้บริษัทได้ออกมาประกาศแล้วซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่ามันคือเรื่องจริง

“ฉันไม่คิดเลยว่าหลังจากที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเอาชนะมะเร็งได้ ยังจะเอาชนะโรคเส้นประสาทได้อีกแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้การรักษาโรคเส้นประสาทนั้นไม่ได้รับการสนับสนุนเพราะปัญหาเรื่องยา”

“นั่นสิ แบบนี้คนที่รักษาได้ก็จะไม่ได้รับการรักษาเหมือนผู้ป่วยโรคมะเร็ง”

“บ้าเอ๊ย ทำไมครั้งนี้ไม่มีการรับสมัครผู้เข้ารับการทดลองล่ะ?”

“น่าจะมีบางคนได้เกี่ยวข้องกับการทดลองแล้ว ก็เลยไม่มีการรับสมัครในเขตนี้ โชคร้ายสำหรับพวกคนป่วยที่พวกเขามีโอกาสน้อย”

“ฉันอยากรู้เงื่อนไขที่จะได้รับการรักษา ในครอบครัวฉันมีคนที่ป่วยแบบนี้อยู่คือมีปัญหาที่เส้นประสาทของแขน ซึ่งทำให้ทั้งแขนเป็นอัมพาต”

“ปัจจุบันฟิวเจอร์กรุ๊ปยังไม่ได้ประกาศเงื่อนไขในการเข้ารับการรักษาก็จริง แต่ฉันรู้ว่ามันต้องมีเงื่อนไขแน่นอน ถ้าเราตรงกับเงื่อนไขนั้นเราก็จะได้รับการรักษาของฟิวเจอร์กรุ๊ป”

คำตอบของคนนี้ได้รับความสนใจจำนวนมากในทันทีเพราะมีผู้ป่วยโรคเส้นประสาทจำนวนมากในโลกนี้

มีคนถามไปแบบส่วนตัวว่า “พี่ชายเงื่อนไขคืออะไรบอกฉันได้ไหม?”

“รอสักครู่ เดี๋ยวฉันจะเผยแพร่เงื่อนไขเอง ให้ตายเถอะ ถ้าฉันรู้ว่าจะเป็นแบบนี้คงไม่พูดดีกว่า จู่ๆก็มีคนส่งข้อความมาหาฉันเป็นพันจนคอมพิวเตอร์ของฉันเกือบจะพังแล้ว”

เห็นว่ามีข่าวมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงรีบไปตั้งกระทู้ในเว็ปไซต์ทางการของฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่ออธิบายเงื่อนไข

“ชายคนนี้สุดยอดไปเลยที่คิดออกมาได้”

“บอกฉันทีว่าจะเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปต้องทำยังไง?”

“ถ้าฉันได้เข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปฉันยอมทำงานฟรีเลยก็ได้ ตราบเท่าที่ฉันได้รับการรักษาโรคเส้นประสาท”

“ความเห็นบน ไม่ต้องเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ได้ มีข้อหนึ่งในสวัสดิการของบริษัทที่บอกว่าสมาชิกครอบครัวก็สามารถได้รับเทคโนโลยีวิทยาการบางอย่างของบริษัทเป็นพิเศษได้ ถ้าความเห็นบนเป็นหนุ่มหล่อหรือสาวสวยก็มองหาคนในบริษัทที่โสดและยังไม่ได้แต่งงานแล้วรีบไปจีบพวกเขาเลย”

“นับคือความคิดนายสุดๆ เพราะมันจริงที่ว่าถ้ากลายเป็นสมาชิกครอบครัวของพนักงานในฟิวเจอร์กรุ๊ปก็จะสามารถได้รับสิทธิ์การรักษาจากสวัสดิการของบริษัท แปลกจริงๆที่ฉันรู้สึกว่าการได้เข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปมันมีค่ามากกว่าได้เงิน 10 ล้านหยวนเสียอีก”

ทันทีที่ข้อมูลนี้ปรากฎ หลายคนก็เริ่มหาคนโสดในฟิวเจอร์กรุ๊ป แล้วในฟิวเจอร์กรุ๊ปก็มีคนโสดเยอะเสียด้วย แม้หลิว เหมยหรูสาวโสดรุ่นใหญ่ก็ถูกจีบ

ไม่นานนักบางคนก็พบว่าในฟิวเจอร์กรุ๊ป แผนกคอมพิวเตอร์มีคนโสดเยอะสุดแต่คนในแผนกนี้ก็เข้าถึงยากที่สุดเพราะปกติพวกเขาจะไม่ออกมาจากบริษัท

บางคนก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วเพราะถ้าทุกคนถูกจองตัวไปหมดก็จะไม่เหลือใครให้จีบ

ในต่างประเทศเหตุการณ์นี้ก็สร้างความปั่นป่วนเช่นกัน บางคนก็คิดถึงวิธีการนี้แล้วอยากจะลองมันด้วย

แน่นอนว่ามีอีกคนที่จดจ่อกับเรื่องนี้ นั่นก็คือสตีเฟน วิลเลียม ฮอว์กิง นักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ถูกจองจำบนรถเข็น

พอรู้ว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปสามารถรักษาผู้ป่วยอัมพาตได้ ครอบครัวของเขาก็ตื่นเต้นและเริ่มหาทางติดต่อกับฟิวเจอร์กรุ๊ป หวังว่าจะได้รับการรักษาจากบริษัท

หวัง หลานสวมเดรสขาวและดูสวยมาก เธอเดินเข้ามาในห้องทำงานของอู๋ ฮ่าวเหรินและพูดว่า “หัวหน้า นี่คืออีเมลจากอังกฤษ พวกเขาหวังว่าบริษัทเราจะสามารถรักษาฮอว์กิงให้ได้”

“โอ้ เร็วจังนะ ทันทีที่ข่าวแพร่ออกไปก็ส่งเมลมาหาเลย แต่ทว่าปัจจุบันบริษัทเราไม่รับผู้ป่วยในกรณีนี้”

หวัง หลานกระซิบ “แต่หัวหน้า คนๆนั้นเขาเป็นคนที่วิเศษมากเลยนะ”

“ก็วิเศษอยู่หรอก แถมเป็นคนที่มีปัญญาล้ำเลิศ คงจะดีถ้าได้เขามาเข้าบริษัทเรา”

อู๋ ฮ่าวเหรินต้องการผู้มีพรสวรรค์ที่มีทั้งปัญญาและศึกษาจักรวาลกับหลุมดำ

เพราะคนแบบนี้มีแนวโน้มว่าจะสามารถปรับตัวเข้ากับความรู้บางอย่างได้และเข้าใจมันได้รวดเร็ว เขาอยากให้มาฝึกทีมวิจัยของเขาและฝังรากฐานการวิจัยในอนาคต

“งั้นก็ตอบพวกเขาไปว่าถ้าคุณฮอว์กิงได้รับการรักษาจากบริษัทเรา ฉันก็หวังว่าเขาจะเข้ามาเรียนในโรงเรียนของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ด้วย”

อู๋ ฮ่าวเหรินมั่นใจว่าคนแบบนั้นจะไปยอมกลับไปถ้าเขาเผยความรู้ในโรงเรียนนั้นให้ได้ดูสักนิด ถึงแม้จะไล่กลับเขาก็จะไม่กลับไปแน่นอน

เมื่ออังกฤษได้รับเมลตอบกลับ พวกเขาก็ตกใจและขอให้ฮอว์กิงไปเรียนที่โรงเรียนนั้น พวกเขาไม่เข้าใจว่าอู๋ ฮ่าวเหรินคิดจะทำอะไร

แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร และไม่ช้าพวกเขาก็ตกลงไป

เมื่อข่าวว่าฮอว์กิงจะไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้กระจายออกไป ก็เป็นที่ฮือฮากันในทันที ตอนนี้ไม่ว่าใครก็จำนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่ถูกจองจำอยู่บนรถเข็นนานกว่าครึ่งศตวรรษเพราะโรคเส้นประสาทได้

ยิ่งกว่านั้นอาการของฮอว์กิงนั้นย่ำแย่มาก ถ้าเขาถูกรักษาจนหายได้ก็บอกได้เลยว่าเทคโดนโลยีการรักษาโรคเส้นประสาทของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นล้ำหน้าเป็นอย่างมาก

ผู้คนจำนวนมากที่ทรมานจากโรคเส้นประสาทเห็นความหวัง โดยเฉพาะเหล่าคนที่ป่วยเป็นอัมพาต

กรณีนี้ มันจึงมีค่ามากขึ้นที่จะได้รับสิทธิ์รับการรักษาจากฟิวเจอร์กรุ๊ป

บางคนอยากใช้ประโยชน์จากการคบกับพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ป และแม้กระทั่งอยากซื้อสิทธิ์จากพวกเขา

แต่พวกเขาก็พบว่าคนในบริษัทได้รู้เรื่องนี้และถูกปฏิเสธกลับมา

พนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นไม่ขัดสนเงินทองและพวกเขาก็ไม่ได้โง่ พวกเขารู้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่สามารถปกปิดจากระบบปัญญาประดิษฐ์ของบริษัทได้แน่นอน

หลังจากที่ได้ทำงานให้บริษัทมาเป็นเวลานาน พวกเขาก็รู้ถึงความจริงที่ว่า ต่อให้หัวหน้าไม่มองไม่ถามอะไรแต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบริษัทไม่สามารถปกปิดไปจากหัวหน้าได้

และมันจะน่าเศร้ามากที่ต้องมาเสียงานเพราะเรื่องแบบนี้

ดังนั้นเมื่อพนักงานถูกสอบถามเรื่องนี้ พวกเขาก็จะปฏิเสธไปทันที

ในเมื่อวิธีการซื้อสิทธิ์นั้นใช้ไม่ได้ผล ก็ต้องใช้อีกวิธีนั่นก็คือการมาเป็นพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปเองหรือเป็นสมาชิกครอบครัวของพนักงานในบริษัท

ดังนั้นพนักงานบริษัทที่โสดพวกเขากำลังจะเจอปัญหาแล้ว


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น