CF:บทที่ 433 แผนเข้าวงการบันเทิง
อู๋ ฮ่าวเหรินบรรลุเป้าหมายแล้ว หุ่นยนต์ทำให้โลกได้รู้จักกับกองกำลังติดอาวุธของฟิวเจอร์กรุ๊ป และเขาก็จะได้ดำเนินการตามแผน
อย่างแรกเลยก็คือเขาจะเปลี่ยนแนวคิดและความเข้าใจของมนุษย์ซึ่งน่าจะทำได้โดยผ่านทางการศึกษา
ที่จริงอู๋ ฮ่าวเหรินคิดเกี่ยวกับการศึกษาด้วยการฟังเสียง แต่จากสภาพในปัจจุบันการศึกษาด้วยการฟังเสียงแบบนั้นไม่มีอยู่จริง
สุดท้ายแล้วเขาก็คิดถึงวงการบันเทิง ซึ่งมีผลกระทบต่อมนุษย์อย่างลึกซึ้ง บางทีความรู้ที่อยู่ในหนังสืออาจจะไม่ดูดีเท่าที่อยู่ในหนังหรือเพลง
ถ้าเขาสามารถสร้างหนังหรือความรู้รูปแบบอื่นๆ ที่เขาอยากให้คนรู้ได้ทุกคนก็จะได้ดู เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งที่พวกเขาได้เห็นสิ่งเหล่านั้น พวกเขาก็จะไม่รู้สึกแปลกอะไร
เวลาที่เห็นอะไรในหนัง เราก็จะสามารถใช้มันเป็นหากเราคุ้นเคยกับมันมาแล้ว
ในตอนเช้า พนักงานทุกคนได้รับรายงานว่าจะมีการประชุมในเช้านี้ ดังนั้นจึงไม่มีใครไปโรงเรียนทุกคนต่างไปรวมตัวกันที่ห้องประชุมและพูดคุยกัน
“พี่เหมยหรู ช่วงนี้พี่ได้เรียนอะไรมาจากโรงเรียนบ้าง? ฉันกำลังจะปลูกดอกไม้สักอย่างเมื่อฉันมีเวลาว่าง แล้วทั้งสองคนล่ะ?”
หลิว หมิงเยว่ชี้ไปที่เสี่ยว หลานและตอบว่า “เราทั้งคู่กำลังเรียนเทคโนโลยีประมวลผลข้อมูล มันจะช่วยเราทำงานใหม่ที่จะมาในอนาคตได้อย่างมาก”
“แล้วก็เสี่ยวหลานได้เรียนการขับยานอวกาศด้วย ซึ่งเป็นยานอวกาศขนาดเล็กที่ขับได้ด้วยตัวคนเดียว เธอบอกว่าในอนาคตถ้ามียานอวกาศเธอจะขับมันไปท่องเที่ยวในหมู่ดาวล่ะ”
“เธอไม่ต้องเรียนก็พูดแทนฉันได้แล้ว เธอนี่จริงจังกว่าฉันเสียอีกนะ”
หลิว เหมยหรูส่ายหัว ในโรงเรียนนี้มีความรู้มากมาย อยากเรียนอะไรก็สามารถสมัครเข้าโดยตรงได้เลย
หลายคนได้เรียนอะไรมากกว่าหนึ่งอย่าง ได้ยินมาว่าบางคนเข้าเรียนสิบอย่างเลยด้วยซ้ำ
เมื่อหวัง หลานเข้ามาห้องประชุมก็เงียบไปครู่หนึ่งและอู๋ ฮ่าวเหรินก็เข้ามาจากด้านนอก
“ช่วงนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น การประชุมวันนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาบริษัทไปสู้ขั้นต่อไป”
อู๋ ฮ่าวเหรินมองคนในแผนกดนตรีแล้วถามว่า “พวกนักร้องเป็นยังไงบ้างช่วงนี้? พวกเขาสามารถแสดงในช่วงปีใหม่ได้รึเปล่า?”
หัวหน้าแผนกดนตรีตอบว่า “หัวหน้าครับ เราสามารถดึงศักยภาพสูงสุดของพวกเขาออกมาได้ก่อนปีใหม่เสียอีก”
“ถ้าเช่นนั้น ปีใหม่นี้พวกเขาจะได้ขึ้นคอนเสิร์ตในเวทีคอนเสิร์ตที่จะสร้างใหม่ บอกพวกเขาเรื่องนี้ด้วย”
“รับทราบ ผมจะแจ้งให้พวกเขาทราบหลังจากจบงานประชุมนี้แล้ว”
อู๋ ฮ่าวเหรินสั่งให้หวัง หลานส่งข้อมูลไปและพูดว่า “ฉันเคยบอกว่าบริษัทจะทำโปรเจคภาพยนตร์ในอนาคต ตอนนี้โปรเจคนั้นก็ใกล้จะได้เริ่มอย่างเป็นทางการแล้ว ลองดูข้อมูลที่ส่งไปให้แล้วเสนอความเห็นได้เลย”
ทุกคนต่างประหลาดใจเมื่อได้ยินเรื่องโปรเจคภาพยนตร์
“หัวหน้าจะทำหนังงั้นหรือ?”
“มันจะเป็นหนังสั้นและฉันมีบทพร้อมแล้ว นอกจากนี้ภาพยนตร์ก็จะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาด้วย”
“เป้าหมายหลักของการประชุมในวันนี้ก็เพื่อนจะคุยเรื่องนี้แหละ งานต่อไปของบริษัทเราก็คือเตรียมตัวถ่ายทำภาพยนตร์”
“หัวหน้าจะให้เราทำอะไร?”
“หน้าที่หลักของนายคือไปเลือกตัวละครสำหรับหนังมา ข้อมูลต่างๆอยู่ในเอกสารที่ให้ไปแล้วเอามันกลับไปอ่านดู ถ้ามีตัวเลือกที่เหมาะสมก็แนะนำมาได้เลย”
หลังจากการประชุมแผนกบุคลากรก็เริ่มยุ่ง พวกเขาต้องหามืออาชีพมาเล่นหนัง อย่างไรก็ตามพวกเขาก็สงสัยเกี่ยวกับหนังของบริษัท
“ลุงเว่ย ทำไมไม่ไปเล่นเป็นแขกรับเชิญล่ะ ฉันลองดูแล้วบทนี้เหมาะกับลุงมากเลยนะ”
เว่ย หมิงดูCF:บทที่เพื่อนร่วมงานข้างๆเขาพูดถึง และตอบกลับอย่างโกรธเคืองว่า “นายไม่โหดร้ายไปหน่อยรึไงที่ขอให้ฉันไปเล่นเป็นศพน่ะ?”
“ฮ่าๆ ลุงไม่รู้รึว่าถ้ามีศพมาเล่นมันอาจจะเป็นจุดดึงความสนใจก็ได้”
“ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าหัวหน้าจะทำอะไร แต่ฉันรู้สึกว่าถ้าอยากจะเล่นบทพวกนี้ให้ดี นักแสดงคงจะต้องไปที่โรงเรียนของบริษัทเราเพื่อศึกษาเพิ่มเติมด้วย”
มันเป็นหนังไซไฟซึ่งเกี่ยวข้องกับของพิเศษหลายอย่าง และของเหล่านั้นก็มีการอธิบายอย่างละเอียดในสมุดโรงเรียน
พอฟิวเจอร์กรุ๊ปอยากทำหนัง มันก็ถูกเปิดเผยบนอินเตอร์เน็ตในตอนเที่ยง
มันสร้างความแตกตื่นในทันที หนังสั้นสองเรื่องที่อู๋ ฮ่าวเหรินเคยทำนั้นทุกคนจดจำมันได้
แล้วตอนนี้ฟิวเจอร์กรุ๊ปก็บอกว่าจะทำหนัง ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกว่าวิดิโอสองอันนั้นจะเป็นฉบับเต็มและพวกเขาจะได้ดูมันในอนาคต
“เกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมจู่ๆบริษัทถึงอยากจะทำหนังล่ะ?”
“ฉันก็คิดว่ามันแปลกมาก พวกเขาเพิ่งจะทำเรื่องใหญ่มา แล้วจู่ๆก็จะทำหนังเนี่ยนะ?”
“นายคิดมากไปแล้ว ฟิวเจอร์กรุ๊ปจะทำหนังมันก็ไม่ค่อยจะเกี่ยวอะไรกับเรื่องในตะวันออกกลางหรอก ตอนนี้ฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอดูหนังสั้นสองเรื่องนั่นแบบฉบับเต็มเลย”
“พวกเขากำลังจะคัดตัวนักแสดง ฉันอยากจะไปลองดูบ้าง”
“เห็นว่าครั้งนี้เป็นหนังไซไฟและจะมีอะไรหลายๆอย่างในนั้นซึ่งทั้งหมดก็มีอธิบายไว้แล้วในโรงเรียนของฟิวเจอร์กรุ๊ป”
“พูดถึงโรงเรียนของฟิวเจอร์กรุ๊ป ทำไมช่วงนี้ถึงไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยล่ะ?”
“ใครว่าไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร? พวกคนที่ได้เข้าโรงเรียนก็พูดคุยกันในฟอรั่มโรงเรียน มันเหมือนกับได้ดูหนังไซไฟเลย”
สำหรับโรงเรียนของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่ตอนนี้ทุกคนสงสัย ปัจจุบันหน่วยหุ่นยนต์ก็ได้พิสูจน์พลังด้านเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทำให้พวกเขาเชื่อในสิ่งที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้เผยแพร่ บางอย่างก็เหลือเชื่อ บางอย่างก็ล้ำหน้าเกินไป
“ฟังนะสหาย ฉันไม่ได้เรียนแค่เทคโนโลยีการขับยานอวกาศแต่ยังได้เรียนภูมิปัญญาที่ก้าวหน้าสุดๆอีกด้วย”
“มันล้ำสมัยมาก แม้ว่าหุ่นยนต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะทรงพลังมาก แต่ฉันก็ยังไม่เชื่อบริษัทจะมีเทคโนโลยียานอวกาศด้วย”
“...”
ขณะนี้ในวงการบันเทิงรู้ว่าบริษัทกำลังจะคัดตัวนักแสดง กลุ่มคนดังก็มารวมกันเพื่อสอบถามรายละเอียด
มันเป็นเรื่องของชื่อเสียงและความมั่งคั่งที่จะได้ร่วมงานกับฟิวเจอร์กรุ๊ป โดยเฉพาะอำนาจของฟิวเจอร์กรุ๊ป หากสานสัมพันธ์กับบริษัทได้ผ่านการร่วมงานนี้ ก็ไม่ต้องห่วงเรื่อปัญหาต่างๆในอนาคตอีกเลย
เหล่าดาราและบริษัทภาพยนตร์ต่างเคลื่อนไหว พวกเขาต่างหวังว่าจะสานสัมพันธ์ความเป็นหุ้นส่วนกับฟิวเจอร์กรุ๊ปด้วยเรื่องนี้ได้
เอฟเฟ็คพิเศษของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นทรงพลังมาก แม้แต่ทีมเอฟเคพิเศษของต่างประเทศก็ไม่อาจเทียบได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นที่รู้กันดีในวงการ
พวกเขาเคยอยากให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปทำเอฟเฟ็คพิเศษให้ แต่ปัญหาก็คือพวกเขาไม่มีทางต่อรองกับฟิวเจอร์กรุ๊ปที่ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินได้
ในเวลาอันสั้น วงการบันเทิงก็เริ่มคึกคักขึ้นเรื่อยๆ หลายคนเริ่มคุยกันเรื่องการคัดตัวนักแสดงของฟิวเจอร์กรุ๊ป
0 ความคิดเห็น