CF:บทที่ 430 เข้าร่วมสมรภูมิ
ระบบการแจกจ่ายทรัพยากรสงครามของระบบซองแดงยุ่งมากในตอนนี้ รวมถึงข้อมูลอีกมากมายเกี่ยวทรัพยากรที่ซื้อไปที่ปรากฏขึ้นมาบนนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อมูลที่ทางการทหารส่วนกลางปล่อยออกมาได้ถูกนำมาใช้เพื่องานทางการทหารของสงครามในประเทศ ส่วนในโลกอนาคต ทักษะทางการทหารเป็นสิ่งที่ดี เพราะการจะได้ทักษะทางการทหารมาอย่างสันติเป็นเรื่องที่ยาก
แม้งานทางการทหารในลักษณะนี้จะไม่สามารถใช้ได้โดยตรงกับการเลื่อนขั้นเหมือนทหาร แต่ก็สามารถใช้แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ได้มากมายในยามสงบ
ตัวอย่างเช่น นักธุรกิจที่แลกเปลี่ยนนโยบายมากมายผ่านการบริการทางทหารหรือแลกเพื่อเอากองทัพของกองทัพส่วนกลางให้เป็นทีมที่คอยดูแลเรื่องการขนส่งให้ตัวเองก็ยังได้
เรายังสามารถแลกเปลี่ยนดาวเคราะห์อันเป็นทรัพยากรหลังสงครามได้อีกด้วยรวมถึงของเหลือใช้จากสงคราม
แน่นอนว่า จะยังมีสิ่งที่หลงเหลือสำหรับของทั้งหมดนี้ถ้ามนุษย์เป็นฝั่งชนะ แต่ถ้าไม่ ทุกอย่างก็ไม่มีความหมาย
แต่อย่างไรก็ตาม ในระบบนี้ อู๋ ฮ่าวเหรินกลับเห็นความหวังว่าตนจะได้เทคโนโลยีล้ำสมัยมาอีกมากมายจากอนาคต
ถ้าเขาได้ทักษะทางการทหารมาเยอะ ก็จะสามารถใช้ทักษะพวกนั้นแลกเปลี่ยนเป็นเทคโนโลยีล้ำยุคได้รวมถึงของพิเศษบางตัวด้วย
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย เพราะจากสถานการณ์ในตอนนี้ จากการอ้างอิงของยานอวกาศส่วนตัว คงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ทรัพยากรมามากมายขนาดนั้น
ถ้าไม่มียานขนส่ง มันก็คงยากเกินไปที่จะไปเอาทรัพยากรเหล่านั้นมาจากดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ
เรื่องนี้ทำให้เขาสงสัยว่าควรจะลองคว้าโอกาสที่จะไปยังดาวทรัพยากรพวกนั้นและเก็บสะสมทรัพยากรมาดีหรือไม่
“ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นที่กาแล็คซี ผมได้ยินมาว่าการต่อสู้ดุเดือดเลยไม่ใช่หรือ” ชายคนหนึ่งถามขึ้นในระบบซองแดง
“ไม่ดีเอามากๆเลย” หนึ่งในดินแดนของดาวในกาแล็คซี่กล่าวขึ้น “กองทัพเรือแรกสูญเสียยานรบไป 70% กัปตันล็อคถูกฆ่า เรายังต้องการอาวุธป้องกันที่นี่อีกเยอะ”
“เท่าที่เรารู้ สถานการณ์ของกองทัพเรือที่ห้าไม่ดีเอามากๆ ความแข็งแกร่งพวกชนชั้นล่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมไม่รู้ว่านี่คือภาพลวงตาหรือเปล่า” สุดหล่อโคตรเจ๋งว่าขึ้น
เจ้าแห่งศิลปะยังกล่าวขึ้นอีกว่า “เป็นไปอย่างดุเดือดมาก อะแฮ่ม ฉันเพิ่งจะฝ่าดงพวกชนชั้นล่างออกมาแล้วก็เกือบจะตายในนั้นแล้ว อาวุธทางด้านเทคนิคของพวกเขาบางตัวเกิดข้อผิดพลาดเพราะดันไปใช้อาวุธต้องห้ามเข้า”
เมื่อเจ้าแห่งศิลปะพูดขึ้น เขาก็ได้ยินเสียงโห่ร้องกึกก้องดังมาจากข้างหลัง บนยานรบ
“เจ้าแห่งศิลปะ คุณคือแนวหน้าในสนามรบเลยนะ แม้ว่าคุณจะแข็งแกร่งมาก แต่คุณก็ควรระวังตัวไว้บ้าง สงครามนี้มันทะแม่งๆอยู่ ตอนนี้ ทางรัฐบาลส่วนกลางได้ข่าวมาว่าเบื้องหลังเรื่องนี้อาจจะมีแรงหนุนจากพวกปีศาจที่ต่อสู้กับอารยธรรมที่ก้าวหน้าอยู่ก็ได้”
“ผมเองก็รู้สึกเรื่องนี้มันแปลกๆมาตั้งแต่แรกแล้ว แล้วตอนนี้ ดูเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังผลักดันให้เกิดสงครามนี้อยู่เบื้องหลังผม”
“ผมก็ได้แต่หวังว่ามันจะจบในเร็ววันนี้ ธุรกิจครอบครัวไปต่อไม่ได้เลย”
“แล้วก็ พวกคุณรู้ไหมว่าเทพสงครามไปไหน” ชายชุดเกราะถามขึ้นทันควัน
“น่าแปลก ทั้งๆที่สงครามเริ่มขึ้นแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเทพสงครามจะไม่เคยปรากฏตัวออกมาเลย”
“ก็ไม่รู้สึกแปลกใจนักหรอก เทพสงครามท่านชราแล้ว คงไปสงครามไม่ไหวหรอก”
“นั่นคือสิ่งที่เราควรทำเพื่อจรรยาบรรณของกองทัพ”
เมื่ออู๋ ฮ่าวเหรินได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเทพสงครามก็รู้สึกสงสัยว่าเขาไปที่ที่อารยธรรมพาลอสตั้งอยู่หรือไม่ และเขากำลังหาอะไรอยู่
และนับตั้งแต่เกิดเหตุครั้งล่าสุด ก็ไม่ได้คำตอบอะไรมาเลยสักอย่าง
หลิงหยิ่งได้หายไปรวมถึงอารยธรรมพาลอสก็ไม่มีข่าวมาตั้งแต่นั้น และยี่สิบปีที่เทพสงครามกำลังพูดถึงก็ทำให้เขางุนงง
ในตอนนี้ ก็มีคนกล่าวขึ้นในกลุ่มซองแดง “เพิ่งได้ข่าวมาว่าภูมิภาคดวงดาวจะระเบิดซากวัสดุรวมถึงดาวทั้งดวงด้วย”
“จะไปมีของทำลายล้างในที่แบบนั้นได้อย่างไร แล้วนี่มันทำลายหมดทุกอย่างเลยงั้นหรอ”
วิดีโอถูกอัพโหลดขึ้น อู๋ ฮ่าวเหรินมองสถานการณ์ในวิดีโอด้วยความหวาดหวั่น อย่างแรกเลย มีแสงแปลกๆปรากฏขึ้น แล้วตามมาด้วยดวงดาวที่สภาพไม่ต่างแตงโมที่แตกกระจายสลายหายไปบนท้องฟ้า
การทำลายระบบสุริยะในชั่วพริบตาเดียวนั้นช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“เรื่องบ้าใช่ไหมเนี่ย”
“นี่คืออารยธรรมที่ว่า มันบ้าไปแล้วยังไงล่ะ แล้วเราจะใช้อาวุธนี้ได้ยังไง”
“เห็นเขาพูดกันว่าดาวที่ว่านั่นอยู่ไกลโพ้น และเพราะทนแรงโจมตีของคนพวกนั้นไม่ไหว ก็เลยระเบิดวัสดุทำลายล้างแล้วก็ตายไปด้วยกันเลย”
ในตอนนั้นเอง วิดีโออีกอันหนึ่งก็ปรากฏขึ้น เป็นวิดีโอเกี่ยวกับยานรบ
“นี่คือสถานการณ์ในสนามรบของพวกอารยธรรมชั้นสูงขึ้นไป ลองดูยานรบที่เหมือนกับปีศาจนั่นสิ ที่สงครามนี้มันเกิดขึ้นก็เพราะพวกเขานั่นล่ะ”
พวกเขาต่างกำลังมองไปที่สถานการณ์ของสงคราม เว้นแต่อู๋ ฮ่าวเหรินที่รู้สึกอยากได้ยานรบลำใหญ่ในคลิปนั้นด้วยความโลภ ถ้าพวกเราเอายานนั้นออกมาได้สักลำหนึ่งล่ะก็ ปัญหาทุกอย่างก็จะคลี่คลายได้อย่างแน่นอน
เมื่อได้ดูวิดีโอ ยานแม่ยาวประมาณหนึ่งแสนเมตรก็เหมือนกับดาวดวงเล็กๆยามได้เคลื่อนไหวไปมาอยู่บนท้องฟ้า
ถ้ายานแม่พวกนั้นมาที่โลก ไม่ว่าปัญหาอะไรก็สามารถแก้ไขได้
แน่นอนว่า อาวุธของดาวเคราะห์ย่อมทรงประสิทธิภาพกว่ายานแม่พวกนี้ บางอารยธรรมเองก็ขุดเอาภายในดาวเคราะห์พวกนั้นออกมาก่อนจะสร้างระบบอาวุธเข้าไปในนั้น
เราเรียกดาวเคราะห์ลักษณะแบบนี้ว่าป้อมปืนเคลื่อนที่ได้ระหว่างดวงดาว เมื่ออาวุธโจมตีออกไปครั้งหนึ่งแล้ว สนามรบก็จะราบเรียบเป็นหน้ากลองในทันที แต่อย่างไรก็ตาม อาวุธประเภทนี้มักจะถูกนำมาใช้ในการป้องกันเสมอ เนื่องด้วยการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าของอาวุธตัวนี้ จึงมักจะไม่ได้เห็นในสนามรบบ่อยนัก
ถ้าในอนาคต เทคโนโลยีได้รับการพัฒนาอย่างเพียงพอ อาวุธอย่างดวงจันทร์ก็สามารถสร้างเป็นสิ่งป้องกันโลกได้
อู๋ ฮ่าวเหรินเห็นว่ามีอารยธรรมอื่นๆที่ยังปล่อยงานตามหาทรัพยากรบนระบบการค้าในซองแดง
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาใช้แลกเปลี่ยนไม่ใช่การต่อสู้ แต่เป็นสมบัติหรือทรัพยากรพิเศษต่างหาก
อู๋ ฮ่าวเหรินบันทึกข้อมูลข้างต้นและกำลังจะไปดูทรัพยากรพิเศษรอบโลก
นอกจากนี้ เขายังเห็นว่าพลังงานคือความต้องการอันสูงสุด และการซื้อพลังงานข้างต้นยังคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่ม
แต่ทว่า นั่นยังไม่น่าแปลกใจที่จะคิดเรื่องพลังงานที่ใช้ไปในการลอยไปมาในอวกาศของยานอวกาศ รวมถึงพลังงานที่ปืนหลักของยานอวกาศที่ทำงานอยู่ต้องใช้
สงครามระหว่างดวงดาวแบบนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับพลังงาน ถ้าไม่มีพลังงานแล้ว ก็ไม่สามารถใช้อาวุธทั้งหมดนี้ได้
หลังจากออกมาจากระบบซองแดง อู๋ ฮ่าวเหรินถึงกับส่ายหน้า สงครามที่เกิดขึ้นที่นั่นไม่สามารถยุติได้ภายในระยะเวลาอันสั้นและไม่รู้ว่าต้องกินเวลานานไปอีกเท่าไหร่
แต่การสู้รบของหุ่นยนต์ที่นี่จบลงแล้ว เมื่อมองข้อมูลที่จี้ให้มา สถานการณ์เป็นไปในทางที่ดี
นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่ามีเพียงไม่กี่ประเทศที่เดินหน้าประณามการแทรกแซงเรื่องภายในของประเทศอื่นๆ ในขณะที่ประเทศใหญ่ๆกลับไม่เอ่ยอะไรเลย
แม้แต่องค์การสหประชาชาติเองก็ยังไม่พูดอะไรถึงเรื่องนี้ เพราะนี่คือเรื่องที่เขากำลังต่อสู้กับองค์กรผู้ก่อการร้ายโดยการเข้ามาแบบมีนัยแอบแฝงและที่สร้างความประหลาดใจให้แก่อู๋ ฮ่าวเหรินก็คือประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มที่จะขนส่งยานอวกาศมาให้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็เกรงกลัวพลังการต่อสู้ของหุ่นยนต์พวกนี้
“จี้ เริ่มแผนต่อไปได้เลย ส่งคำแนะนำของหุ่นยนต์พวกนี้มา แล้วก็สร้างพื้นที่ตามแผนที่วางไว้”
“โอเคค่ะ”
แน่นอนว่า อู๋ ฮ่าวเหรินจะไม่ฆ่าพวกหัวรุนแรงที่อยู่ที่นี่หรอก แต่เขากำลังจะดำเนินการการทดลองขึ้นในพื้นที่ตรงนี้
เขาต้องการสร้างเมืองเหมือนกับอนาคตในพื้นที่ตรงนี้และใช้ระบบควบคุมแบบอนาคตเพื่อดูว่ามันจะได้ผลแค่ไหน
ใครก็ตามที่ต้องการเข้ามาร่วมในเมืองนี้ก็ต้องปฏิบัติตามกฎของเมืองด้วย
0 ความคิดเห็น