CF:บทที่ 429 กองทัพหุ่นยนต์
ในวันนี้ ทางสหประชาชาติได้รับอีเมลแปลกๆที่ดูเหมือนจะเป็นเนื้อหาง่ายๆที่ประกาศว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะเป็นผู้แก้ไขความขัดแย้งในตะวันออกกลางเอง
ประชาชนที่ได้รับอีเมลนี้ต่างก็คิดว่านี่เป็นเรื่องตลกจึงไม่ได้คิดใส่ใจอย่างจริงจังนัก
ในเวลานี้ ที่ฐานบนเกาะ หุ่นยนต์ต่อสู้นับพันตัวเหนือเรือขนส่งใต้สมุทรกำลังถูกส่งตัวไปยังตะวันออกกลางเพื่อจะเข้าไปแก้ไขเรื่องสงครามที่นั่น
ข้อความเดียวกันนี้ปรากฏขึ้นบนเว็บไซท์ทางการของฟิวเจอร์กรุ๊ปพร้อมทั้งยังชี้แจงว่าทางกลุ่มจะเริ่มเข้าโจมตีกองกำลังผู้ก่อการร้ายทั่วโลก
ข่าวนี้ทำให้ผู้คนมากมายที่ได้อ่านรู้สึกงุนงง บางคนก็คิดว่าต้องมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเว็บไซท์ทางการของฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นแน่
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ เห็นประกาศบอกว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะสู้ต้านกับกองกำลังผู้ก่อการร้ายทั่วโลก ล้อกันเล่นหรือเปล่า”
“น่าจะเป็นคำพูดจากสุภาพบุรุษของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเมื่อไม่นานมานี้”
“แล้วฟิวเจอร์กรุ๊ปจะใช้อะไรแก้ปัญหาเรื่องความขัดแย้งในตะวันออกกลางล่ะ”
“ผมคิดว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปน่าจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ แล้วก็ ด้วยความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปมีอยู่ในปัจจุบัน ก็อาจจะทำได้ก็ได้”
“ล้อเล่นหรือเปล่า แม้ว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะเก่งเรื่องวิทยาศาสร์และเทคโนโลยี แต่ในแง่ของความแข็งแกร่งทางการทหาร ก็ยังดูไม่แกร่งพอ”
“....”
เมื่อได้รับทราบการประกาศ หัวหน้าจึงถามผู้คนอย่างเร่งด่วนว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟิวเจอร์กรุ๊ป
จื่อหยงนั่งอยู่ตรงข้ามอู๋ ฮ่าวเหรินอยู่ในตอนนี้พลางดูเนื้อหาวิดีโอจากดาวเทียม แล้วใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นอึ้งไป
“เบื้องบนก็โทรมาถามเรื่องนี้”
“ก็บอกพวกเขาไปสิว่าคุณไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ คุณสามารถส่งใบแจ้งเตือนไปได้ว่าพวกเขาไม่ต้องทำอะไร แล้วอีกอย่าง ถ้าพวกเขาต้องการต่อสู้กับอาชญากรรมภายในประเทศ พวกเขาอาจจะใช้วิธีการนี้ด้วยก็ได้ และบางครั้ง การให้หุ่นยนต์เข้าไปจัดการจะสะดวกกว่าคนเข้าไปเอง”
“ผมเข้าใจแล้วล่ะที่ว่าอัจฉริยะทุกคนล้วนเป็นคนบ้า น่าจะเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็จะเข้าข้างคุณในเรื่องนี้เสมอ”
อู๋ ฮ่าวส่งแม้กระทั่งวิดิโอไปยังผู้ก่อการร้ายในตะวันออกกลางพร้อมทั้งขอให้พวกเขายอมแพ้แต่โดยดีไม่เช่นนั้นอาจถึงตายได้
แต่ว่า
กลุ่มคนที่สมองมีปัญหาพวกนี้ต่างไม่ได้สนใจวิดีโอของอู๋ ฮ่าวเหรินเลยสักนิด แถมยังส่งวิดีโอล้อเลียนกลับไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ปอีกด้วย
เมื่อเรือขนส่งใต้น้ำเข้าไปในอ่าวเปอร์เซียแล้วนั้น ก็ได้ส่งหุ่นยนต์สู้รบเป็นพันตัวเข้าไปยังประเทศอิรัก การปฏิบัติการแก้ปัญหาสงครามของมนุษย์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
“บ้าเอ้ย นี่มันอะไรวะ หุ่นยนต์งั้นหรือ”
“ประกาศที่ว่านั่นไม่น่าใช่เรื่องล้อเล่นแน่ๆ แล้วนี่ว่าแต่หุ่นยนต์ที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปผลิตขึ้นถูกส่งมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“นี่ฉันยังไม่ตื่นงั้นหรือ”
“ฮ่าๆๆ เรื่องจริงต่างหากเล่า ตอนนี้ ฉันได้เห็นวิดีโอขององค์กรกำจัดผู้ก่อการร้ายของฟิวเจอร์กรุ๊ป ถ้าพวกเขาเห็นภาพนี้ ไม่รู้ว่าจะกลัวจนฉี่ราดไปเลยหรือเปล่า”
หุ่นยนต์รบเป็นพันๆตัว ยืนรวมตัวกัน ผู้คนเองก็ต่างรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
ในเวลานี้ มีหลายประเทศที่รู้สึกเหมือนตนกลายเป็นคนโง่โดยเฉพาะกับประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อพวกเขาได้เห็นรูปหุ่นยนต์พลางคิดว่านี่คงเป็นคำเตือนถึงพวกตนว่าอย่าเลือกอะไรที่ทำให้ตนต้องเสียใจ
“ท่านประธานาธิบดีครับ ทางตะวันออกอยากให้เราเข้าไปช่วยแก้ปัญหานี้”
“บอกพวกเขาไปว่าเราไม่ทำ ยอมแพ้ซะดีกว่า”
เพียงแค่ถูกอู๋ ฮ่าวเหรินขู่ไป ถ้าพวกเขากล้าเข้ามาแทรกกลางในเรื่องนี้ล่ะก็ ประธานาธิบดีคิดว่าชายคนนี้จะต้องทำในสิ่งที่ทำให้สหรัฐอเมริกาเสียใจแน่นอน
ส่วนในอิรัก นับตั้งแต่การต่อสู้ของหุ่นยนต์ได้เริ่มขึ้น หลายประเทศก็เลือกที่จะปิดประเทศเมื่อเห็นประสิทธิภาพในการสู้รบของหุ่นยนต์ดังกล่าว
เมื่องค์กรผู้ก่อการร้ายได้เห็นกองทัพหุ่นยนต์จริงๆ พวกเขาก็รู้เลยว่าความกลัวที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร
“หัวหน้าครับ หุ่นยนต์ของพวกเราคงไม่เหมาะที่จะสู้กับหุ่นยนต์พวกนั้น และเพื่อให้แน่ใจ เทคโนโลยีฟิวชันนิวเคลียร์ที่หุ่นยนต์ทุกตัวใช้กันน่าจะเป็นอาวุธพลังงานอย่างเลเซอร์”
“ยิ่งไปกว่านั้น เราตัดสินจากข้อเท็จจริงได้ว่าหุ่นยนต์พวกนี้จะต้องถูกจรวดโจมตี ส่วนอาวุธทั่วไปกลับไม่มีผลอะไรกับมันเลย ไหนจะความเร็วอีก ถึงจะใช้จรวดมิสไซล์ไปก็สร้างความเสียหายให้พวกมันไม่ได้อยู่ดี”
“หรือถ้าจะให้พูดก็คือ ถ้าเราเผชิญหน้ากับหุ่นยนต์พวกนี้ ก็มีแต่พังใช่ไหม”
นายช่างลังเลไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นในที่สุด “ผมไม่รู้ว่าการโจมตีด้วยนิวเคลียร์จะมีผลอะไรกับมันไหม ถ้าไม่มีผลก็ไม่มีวิธีไหนแล้วครับ”
เพื่อจะจัดการกับหุ่นยนต์พวกนี้ ระเบิดนิวเคลียร์คือสิ่งที่มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่จะทำ
ในหลายประเทศกำลังวิเคราะห์เรื่องหุ่นยนต์พวกนี้ และพวกเขาก็พบว่าพวกมันคือกองทัพที่ไม่มีใครบนโลกใบนี้สามารถพิชิตได้
“น่าแปลกที่ไม่มีประเทศไหนออกมาต่อว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปและเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นๆเลย”
“ไม่บ้าไปหน่อยหรือ นั่นก็เพราะพวกเขารู้ว่าหมัดของตัวเองไม่ใหญ่เท่ากับฟิวเจอร์กรุ๊ปยังไงล่ะ ไม่เห็นหรือไง แม้แต่ประเทศสหรัฐอเมริกาก็ยังปิดปากเงียบ นี่ล่ะคือการกระทำที่เคลือบแฝงของฟิวเจอร์กรุ๊ป”
“ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นแข็งแกร่งมากแล้วยังเป็นบริษัทของจีนอีก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าประเทศจีนจะมีอำนาจมากที่สุดในโลกตอนนี้นะ”
“ก็ถ้าจะให้พูด ฉันเองก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะเอายังไงกับเรื่องนี้”
“อยากไปทำงานกับฟิวเจอร์กรุ๊ปจัง ทำไงดีอ่ะ”
“ฉันก็อยากทำงานกับพวกเขา”
“...”
การกระทำของหุ่นยนต์เป็นไปอย่างรวดเร็วมาก แม้แต่ในปัจจุบันนี้ มนุษยชาติยังไม่สามารถต้านทานหุ่นยนต์เหล่านี้ได้เลย
มีหลายคนที่เลือกจะยอมแพ้ จนเมื่อหุ่นยนต์เข้ามาในประเทศซีเรีย การฆ่าที่แท้จริงจึงได้เริ่มขึ้น
หลังจากได้รับการแจ้งเตือนแล้วนั้น กองกำลังรัฐบาลซีเรียจึงได้ถอนทัพออกมาโดยเร็วเพราะไม่ต้องการได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่ผิดพลาดนี้
จากการตรวจสอบของดาวเทียมร่วมกับระบบสแกนของหุ่นยนต์ อำนาจขององค์กรผู้ก่อการร้ายไม่มีทางปิดบังไว้ได้เลย
ในตอนนี้ หุ่นยนต์ได้แบ่งเป็นห้าทีม เพื่อไปยังห้าประเทศและเริ่มเข้าโจมตีแหล่งของผู้ร้ายทางตะวันออกกลาง
ความคิดในหัวของคนบางคนก็คือเมื่อหุ่นยนต์พวกนี้กลับไปแล้ว พวกเขาก็จะได้กลับมาทำงานเดิมของตนเสียที
แต่โชคร้ายที่พวกเขาคิดผิดว่าอู๋ ฮ่าวเหรินจะไม่เตรียมการถอนกำลังหุ่นยนต์ออกจากประเทศเหล่านี้ตั้งแต่เริ่ม
อู๋ ฮ่าวเหรินต้องการทดลองหุ่นยนต์แบบนี้เพื่อคงไว้ซึ่งสันติภาพ
ในภายภาคหน้า โลกจะมีเส้นใยสมองที่เป็นศูนย์รวมรวมถึงอุปกรณ์ตรวจจับอีกมากมาย เงื่อนไขด้านความปลอดภัยในที่สาธารณะจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้มาก
การกระทำดังกล่าวคือการสาธิตของกองกำลังฟิวเจอร์กรุ๊ป เพื่อแสดงให้ใครบางคนยอมภักดี
ในเวลานี้ ที่ตะวันออกกลาง มีหลายคนที่ยอมทิ้งอาวุธและขอยอมแพ้
แต่สำหรับผู้นำของพวกเขา กลับไม่มีโอกาสที่จะขอยอมแพ้ เพราะต่างกลายเป็นเป้าหมายแรกของพวกหุ่นยนต์ไปเรียบร้อย
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังต่อสู้อันแสนดุเดือด ประเทศทั้งหมดก็ต่างตกใจปนหวาดกลัว
เมื่อพวกเขาให้หุ่นยนต์กลายเป็นศัตรูในจินตนาการ ก็พบว่ายังไงก็ไม่มีทางต้านทานการโจมตีของพวกมันได้
ในเวลานี้ อู๋ ฮ่าวเหรินไม่มีอารมณ์ที่จะมาต่อสู้กับหุ่นยนต์บนโลก เพราะเมื่อเขาเข้าไปในซองแดง ก็ได้รับข้อความว่าสงครามอารยธรรมมนุษย์ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ในตอนนี้ พันธมิตรจักรวาลทั้งหมดกับอารยธรรมล้ำหน้าไม่กี่อารยธรรมก็ไม่ได้เข้าร่วมสงครามดังกล่าว ส่วนอารยธรรมที่เหลือยกเว้นที่อยู่ห่างไกลต่างก็เข้าร่วมสงครามด้วย
เมื่อเปรียบเทียบกับสงครามบนโลก สงครามโลกอนาคตคือสงครามที่โหดเหี้ยมของจริง
และอารยธรรมบางอย่างก็มีแนวโน้มที่จะถูกกำจัดให้พ้นไปจากจักรวาลในสงครามครั้งนี้
0 ความคิดเห็น