CF:บทที่ 420 รถยนต์ออกวางจำหน่าย

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 420 รถยนต์ออกวางจำหน่าย

จื่อ หยงมองอู๋ ฮ่าวเหรินอย่างนึกประหลาดใจ แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงกล่าวแบบนั้นออกมา แต่ที่เขามั่นใจแน่ๆคำพูดพวกนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเขา

“ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะ แต่ผมจะทำเป็นไม่สนใจก็แล้วกัน และเพื่อเป็นรางวัล คุณจะต้องพาผมไปที่โรงเรียนแล้วก็เซ็นสัญญา เพราะผมไม่ได้อยากจะทำงานในประเทศนี้”

“ตอนนี้คุณก็รู้เรื่องแล้ว คุณจะต้องสานต่องานนี้ แต่ถ้าคุณอยากไปโรงเรียน ผมก็อนุญาต และหุ่นยนต์ก็จะไม่โยนคุณออกมาด้วย”

หลังจากได้ยินเขาพูดแบบนี้ จื่อ หยงก็รู้สึกอับอาย เขาไม่ได้บอกกับอู๋ ฮ่าวเหรินว่าเมื่อครั้งก่อนเขาเองก็ต้องการไปโรงเรียนแล้วจากนั้นก็ถูกหุ่นยนต์พวกนั้นโยนออกมา

 “แล้วนี่ก็เป็นประวัติส่วนตัว ดูเหมือนว่าทางเราจะต้องวางขายรถยนต์กันแล้ว เอาล่ะ ถ้าคนๆนี้ยังไม่ออกจากงานแถมขายรถได้เป็นเวลาหนึ่งปีแบบนี้ คุณก็ไปหาตัวเขาแล้วให้มาควบคุมเรื่องธุรกิจขายรถยนต์ซะ”

แม้จะรู้สึกสับสนอย่างมาก จื่อ หยงก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรก่อนจะจากไปจากตรงนั้นพร้อมกับข้อมูล

ฉาง หยางคือชายร่างอ้วนที่อู๋ ฮ่าวเหรินได้เจอเมื่อเขาซื้อรถยนต์มา ดูแล้วเป็นคนนิสัยดี

ในตอนนี้ ณ อำเภอเล็กๆกับผู้คน เหมือนกับทุกๆวัน มองหาข้อมูล มองหาลูกค้าที่จะมาซื้อรถยนต์

เพราะธุรกิจของอู๋ ฮ่าวเหริน เขาจึงไม่ได้ลาออกจากงาน แล้วเขาก็กลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์

ในตอนนี้ เขาฉลาดมากกว่าเดิมแล้ว ไม่ใช่เด็กหนุ่มใจร้อนอย่างแต่ก่อนอีกต่อไป สังคมในตอนนี้ คุณต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับมัน เพราะถ้าคุณไม่ทำ สังคมก็เป็นผู้กำจัดคุณทิ้งเสียเอง

และคนที่ครั้งหนึ่งเคยยึดมั่นในคำพูดสวยหรูและความทะเยอทะยาน หลังจากได้เข้ามาในสังคม พวกเขาส่วนใหญ่ก็จะพลิกผัน “อย่างสมบูรณ์แบบ” แล้วเลือกที่ไหลไปตามกระแส

ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนโลกโดยไม่ต้องพยายามขอความร่วมมือจากคนเป็นสิบล้านคน คุณก็แค่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับสังคมที่แต้มไปด้วยสีและเปลี่ยนตัวเองซะ

“ฉาง หยาง เป็นยังไงบ้าง หาคนซื้อได้บ้างหรือยัง”

ฉาง หยางเป่าลมหายใจอุ่นๆใส่มือที่หนาวเหน็บนั้น ก่อนจะวางหนังสือโทรศัพท์ลง แล้วพูดขึ้น “ช่วงนี้ไม่ใช่หน้าของการขายด้วย แต่ก็ยังมีคนซื้อรถอยู่ทุกวันนะ เหว่ยเก๋อ นายก็ขายดีทั้งสองวันเลยนี่ ขายหมดทุกวันด้วย ฉันได้ยินมาว่าเดือนก่อนนายได้ค่าคอมมิชชันมาตั้ง 30000 หยวนแน่ะ”

 “อย่าพูดแบบนั้นกับฉันนะ นายคิดจริงๆหรือว่าเงินมันหามาได้ง่ายๆ ฉันดื่มกับหัวหน้าเมื่อสองสามวันก่อนและเกือบจะถลำลึกเข้าไปแล้ว ตอนนี้ในสังคมเราน่ะ ทำงานลำบากแล้วนะ ถ้าไม่ใช่เพราะต้องกู้บ้านอยู่ล่ะก็ ฉันคงออกจากงานไปนานแล้ว”

“แต่ก็นะ ฉันได้ยินมาว่านายมีความสัมพันธ์เล็กๆน้อยๆกับหัวหน้าของฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่นี่นา ทำไมนายถึงไม่เข้ากลุ่มเขาเสียล่ะ

เขาเลี้ยงดีจนน่าอิจฉาจะตาย”

“เฮ้ๆ อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระนั่นเลย เรื่องไม่ได้เหมือนกับที่นายพูดนะ...”

ในตอนนั้นเอง เสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้นมา ฉาง หยางจึงแสดงท่าทีให้เหว่ยเก๋อเห็นว่าจะไปคุยโทรศัพท์

“สวัสดีครับ ผม ฉาง หยาง รถ...”

“อืม ผมเองครับ อืม คุณพูด

ไม่กี่นาทีต่อมา ฉาง หยางก็วางหูก่อนจะมองไปที่มือถืออย่างไม่นึกเชื่อ แล้วจากนั้นก็หยิกเข้าที่เนื้อแขนของตน

“เจ็บ ไม่ได้ฝันแน่ เรื่องจริง นี่คือเรื่องจริง”

ชายหนุ่มที่เพิ่งพูดกับฉาง หยางก็หันไปมองท่าทีที่ผิดปกติไป รวมถึงมือของเขาที่สั่นระรัวและไม่ตอบอะไรกลับมา

เขาเข้ามาตบไหล่ก่อนจะถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้นน่ะ ฉาง หยาง เกิดอะไรขึ้น”

“ฮ่าๆๆ เหว่ยเก๋อ บริษัทยานยนต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปเพิ่งจะติดต่อฉันมาและก็แจ้งมาว่าให้ฉันเข้าไปทำงานในบริษัทของพวกเขา”

 “นายเป็นที่พึ่งฉันแล้ว ตอนนี้ ฉันขอพูดเลยว่านายไม่มีอะไรต้องทำกับคนอื่นๆแล้ว พวกนั้นเชิญนายให้เข้าร่วมงานในบริษัทยานยนต์ ทั้งๆที่นายนายบอกว่านายไม่ได้ทำอะไรเลย และนายก็ซ่อนตัวอยู่ลึกมากแท้ๆ พี่ชาย ถ้ารวยแล้วอย่าลืมฉันล่ะ”

ฉาง หยางกล่าวอย่างตื่นเต้น “ไม่ต้องห่วง เหว่ยเก๋อ ถ้าฉันมีโอกาสจริงๆล่ะก็ ฉันจะไม่ลืมนายเลย ตอนนี้ฉันกำลังจะได้ออกจากงานแล้ว พวกเขาบอกว่ารถของพวกเขาจะออกวางขายอย่างเป็นทางการในอีกสองวัน แล้วพอพรุ่งนี้ก็ให้ฉันไปติดตามดูด้วย”

เมื่อได้เห็นผู้คนเดินไปเดินมาบนทางที่จะไปยังที่ทำงาน เหว่ยเก๋อก็มองเขาอย่างนึกอิจฉาและรู้ว่าคนๆนี้ต้องการจะมาพัฒนาจริงๆ

รถยนต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะยังไม่ปล่อยออกมา แต่ก็มีกลุ่มคนบนอินเทอร์เน็ตที่โทรขอซื้อรถยนต์พวกนั้นแล้ว

หลังจากคิดเรื่องนี้ เหว่ยเก๋อก็โพสท์เรื่องนี้ไปบนบัญชีทางการของฟิวเจอร์กรุ๊ปโดยทันที

“ข่าวล่ามาเร็ว รถยนต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะวางขายในอีกสองวันนี้”

 “เป็นไปไม่ได้ ถ้ารถยนต์จะเริ่มวางขายจริงๆล่ะก็ ทำไมที่ผ่านมาถึงไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยล่ะ”

“ใช่ แต่ฉันก็รู้บางอย่างมาจากคนงานในโรงงานรถยนต์นะแต่ไม่เคยได้ยินเรื่องที่เขาจะขายรถเลย”

เหว่ยเก๋อตอบกลับไป “ผมขอยืนยันเลยว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง สองวันต่อจากนี้ คุณก็จะได้เห็นเอง”

“ขอโทษนะ แต่ถ้ารถยนต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปเริ่มจำหน่ายในอีกสองวันล่ะก็ ผมคงต้องเตรียมเงินให้พร้อมแล้วสิ”

“ผมคงต้องไปเตรียมแล้วจริงๆสินะ คราวก่อนก็พลาดเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดที่อุตส่าห์รอมานานหลายเดือนไปทีนึงแล้ว มาคราวนี้จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว”

ข่าวนี้ทำให้ใครต่อใครเริ่มมีปฏิกิริยา บางคนก็รอที่จะซื้อรถที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นผู้ผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถที่อู๋ ฮ่าวเหรินขับ ไม่ว่าใครต่างก็เฝ้ารอรถดังกล่าวจากฟิวเจอร์กรุ๊ป

นอกจากนี้ ในช่วงเวลาแบบนี้ แม้จะมีข่าวใหญ่อย่างยานอวกาศที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นคนสร้างรวมถึงเทคโนโลยีอันน่าเวียนหัวทั้งหลาย แต่พวกเขาต่างก็มั่นใจเต็มเปี่ยมในเรื่องพลังของเทคโนโลยีจากฟิวเจอร์กรุ๊ป

หลังจากได้เห็นโพสท์ดังกล่าว หนึ่งในพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ได้พูดต่อท้ายซึ่งถือว่าเป็นการยืนยันข่าวอย่างสมบูรณ์ไปว่า

“รถยนต์ที่บริษัทเราเป็นผู้ผลิตนั้นจะต้องเป็นพนักงานในบริษัทเท่านั้นที่ได้ใช้

และที่คาดไม่ถึงก็คือ ตอนนี้พวกเขาเริ่มขายแล้ว และดูเหมือนว่าการทดสอบรถแบบไร้คนขับจะออกมาสมบูรณ์แบบดีด้วย” 

 “ถ้าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง แล้วอย่างงั้น คุณช่วยบอกผมเกี่ยวกับเรื่องความสามารถของพี่ใหญ่กับรถของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะได้ไหม”

“ผมพูดได้แค่ว่าถ้าคุณได้ใช้รถไร้คนขับจากบริษัทของเรา ถ้าไม่มีใครตั้งใจมาชนรถคุณเสียก่อนล่ะก็  คุณไม่มีวันชนกับใครแน่นอน”

“หา สุดยอดขนาดนั้นเชียว”

 “รถได้รับการเชื่อมต่อกับระบบดาวเทียมเป่ยตู๋จากประเทศจีนโดยตรงซึ่งจะติดตั้งไปกับคอมพิวเตอร์ในตัวรถที่บริษัทของเราเป็นผู้ผลิต นอกจากนี้ ผมขอบอกคุณว่าคอมพิวเตอร์ที่ติดอยู่นี้จะใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์”

ปัญญาประดิษฐ์ แค่สี่คำนี้ก็รู้สึกสุดยอดแล้ว หลายคนต่างตื่นเต้นขึ้นมาในทันที

ไม่ว่าใครต่างก็นึกอิจฉาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ป แม้แต่เหตุการณ์เรื่องยานอวกาศ  มีหลายคนที่สงสัยว่าหรือจะเป็นเพราะปัญญาประดิษฐ์ทำเอง

เพราะสี่คำนี้ คนที่รู้สึกลังเลที่จะเปลี่ยนรถก็ตัดสินใจได้ในทันทีว่าจะเปลี่ยนเลย

จากนั้นแพลตฟอร์มการซื้อขายรถใช้แล้วก็ยุ่งวุ่นวายขึ้นมาในทันทีเพราะมีคนมากมายต้องการจะวางมือจากรถคันเดิมของพวกตน

ในส่วนของบริษัทรถยนต์เอง เขาเห็นว่าเมื่อข่าวนี้ถูกปล่อยออกไป เพราะเขาก็ไม่ได้ปิดบัง อีกทั้งยังได้เผยแพร่ข้อมูลบนเว็บไซท์ทางการอีกด้วย

เว็บไซท์ทางการของพวกเขาก็แนบมากับเว็บไซต์ทางการของฟิวเจอร์กรุ๊ป หลังจากได้ประกาศข่าวนี้ออกไปก็กระตุ้นความสนใจของทุกคนขึ้นมาในทันที

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูปแบบที่ปล่อยออกมาสามารถตอบสนองความต้องการของทุกคนได้ จากรถมากกว่าพันคันเป็นรถมากกว่าล้านคัน

อีกทั้งยังมีรถยนต์ระดับหรูสุดยอดซึ่งทำให้ผู้คนตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เห็นอีกด้วย