CF:บทที่ 415 เรื่องที่นักเรียนต่างตกใจ
รถลอยฟ้า มีบางคนส่งข้อความเรื่องรถดังกล่าวขึ้นบนเว็บไซท์ทางการผ่านโทรศัพท์มือถืออย่างรวดเร็วรวมถึงปล่อยภาพออกไปด้วย
เรื่องตอนนี้ยุ่งเหยิงมากขึ้นแล้ว รถลอยฟ้าแบบนี้ที่มีให้เห็นแค่ในหนังแนววิทยาศาสตร์และจินตนาการของคนเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับปรากฏขึ้นมาบนโลกนี้จริงๆ
“ฉันเวียนหัวไปหมดแล้ว จะต้องรู้สึกยังไงกันนะ ฉันอยู่ในโลกที่สองกับฟิวเจอร์กรุ๊ปแน่ๆ โอ้ แล้วฉันจะต้องไปซื้อรถแบบอื่นมาอีกไหม เพราะฉันกำลังจะบินได้แล้ว”
“พี่ครับ ไม่ได้มีแค่พี่ที่คิดแบบนี้หรอก ผมก็เหมือนกัน ตอนที่เห็นรถคันนี้ ผมก็รู้สึกว่าระดับเทคโนโลยีของโลกใบนี้ทั้งใบและฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นมันคนละชั้นกันเลย”
“นายขายรถแบบนี้หรือเปล่า คืออยากจะซื้อสัก 50 ล้านน่ะ”
“ไม่ว่านายจะมีเงินมากแค่ไหน นายก็ซื้อรถคันนั้นไม่ได้หรอก เห็นได้ชัดว่า การที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปจะเอารถของตัวเองออกมานั้นย่อมเป็นไปไม่ได้”
“ฉันรอคอยว่าจะมีการร่วมมือในอนาคตระหว่างกลุ่มกับรัฐในเรื่องรถไร้คนขับ เมื่อไหร่รถพวกนั้นจะได้เอามาใช้แบบสาธารณะสักทีนะ เพราะทางฟิวเจอร์กรุ๊ปเองก็สามารถผลิตได้แม้กระทั่งรถลอยฟ้า ฉันเชื่อว่ารถที่พวกเขาผลิตจะต้องออกมาดีมากๆแน่”
มีบางคนใส่วิดีโอซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการทดสอบพื้นที่ที่บริษัทยานยนต์จัดตั้งขึ้นมา การทดลองของรถไร้คนขับในพื้นที่ทดลองดำเนินไปตลอดเวลา
“รถไร้คนขับอยู่ในช่วงทดลอง และกำลังจะวางขายในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ ฉันอยากจะเตือนนายถึงเรื่องในอนาคต รถทุกคันในจีนจะต้องติดตั้งด้วยระบบคอมพิวเตอร์รถยนต์ที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นคนผลิต ใช้เวลาไม่นานก่อนที่กฏระเบียบจะถูกปล่อยออกมา”
“ทำไมล่ะ”
“เพราะคอมพิวเตอร์ที่ติดรถมา นายสามารถบันทึกเหตุการณ์ในการขับรถจากรถของนายได้ ข้อมูลจะเชื่อมเข้ากับระบบควบคุมที่รัฐสร้างขึ้นมา แต่ถ้ารถของนายไม่ทำตามกฏขึ้นมาครั้งหนึ่งล่ะก็ ระบบก็จะบันทึกลงไปโดยอัตโนมัติเช่นกัน หรือถ้าจะให้พูดก็คือ ในอนาคตนั้น ยานพาหนะที่ขับแบบผิดกฏหมายก็ไม่ต้องมีตำรวจเข้ามาดูแลการจราจรอีก”
“เดี๋ยวฉันจะเพิ่มตัวนั้นเข้าไปหลังจากคอมพิวเตอร์รถยนต์ติดตั้งแล้วนะ นั่นจะทำให้นายจำสภาพถนนและหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุทางการจราจรได้บ้าง”
เห็นได้ชัดว่า บางคนก็เริ่มที่จะออกมาว่าเรื่องนี้ เรื่องการบันทึกรถที่ขับผิดกฏซึ่งทำให้ผู้ขับบางรายอึดอัดใจ
เมื่อฝ่ายของรัฐเห็นข้อมูลเกี่ยวกับรถลอยฟ้าแล้วนั้น ก็พูดอะไรไม่ออก ในขณะเดียวกันก็รู้สึกสงสัยว่ารถยนต์ของอู๋ ฮ่าวเหรินนั้นพัฒนาไปได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“อืม นายเห็นหลักการของรถยนต์แล้วหรือยัง”
“ยังเลย ผมยังไม่เห็นท่อไอพ่นหรืออุปกรณ์ที่ใช้บินในรถยนต์เลย ผมคิดว่ามันคงต้องใช้เทคโนโลยีบางตัวที่เราไม่รู้จักแน่ๆ”
“ฉันหวังว่าจะได้ข้อมูลพิเศษนั้นมา แต่รูปภาพพวกนี้กลับไม่บอกอะไรเลย”
“อย่าไปคิดถึงเรื่องข้อมูลเลยครับ เพราะเทคโนโลยีตัวนี้ เรายังอาจเข้าไม่ถึงมันในตอนนี้ก็ได้”
การปรากฏตัวของรถลอยฟ้าสร้างความตื่นตะลึงให้กับหลายประเทศ เพราะมีเทคโนโลยีอยู่หลายตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง และเทคโนโลยีบางตัวเองก็เกี่ยวข้องกับยานอวกาศ ดังนั้น พวกเขาจึงต้องทำการตรวจสอบระบบสติปัญญาเป็นลำดับแรก
ทำไมอู๋ ฮ่าวเหรินจึงนำรถยนต์ออกมาได้เลย เพราะเขาคิดว่าหลังจากนั้น เมื่อธุรกิจโรงเรียนรุ่งเรือง นี่ก็คงเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ผมเชื่อว่าหลังจากวันนี้ คงมีคนหลายคนคิดว่าเขาต้องบ้าแน่ๆ และยิ่งกว่านั่น ผู้คนก็จะสงสัยเรื่องพลังเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป
หลังจากยานพาหนะเข้าไปในเขตโรงเรียนแล้วนั้น ทุกคนก็ออกมาจากรถ อุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่งพิเศษล้วนแล้วแต่อยู่ที่นี่
“ก้าวหน้าไปมากเลย ผมได้ยินมาว่าเทคโนโลยีฟิวชันนิวเคลียร์เอามาใช้เพื่อจ่ายพลังงานทั้งโรงเรียน”
“ดูนั่นสิ หุ่นยนต์ เหมือนจะเป็นหุ่นยนต์ที่เอาไว้คอยคุ้มกันนะ”
“บ้า หุ่นยนต์นะ ไม่ใช่อาวุธ”
“ต้องเป็นอาวุธสิ ฉันได้ยินมาว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปมีหุ่นยนต์ที่เอาไว้ใช้สู้รบจริงๆนะ เพียงแต่ไม่ได้เอาออกมาให้ใครเห็นเท่านั้นเอง”
“แล้วรัฐบาลอนุญาตให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปมีหุ่นยนต์สู้รบแบบนั้นได้ยังไงกัน ไม่ใช่เรื่องของวิทยาศาสตร์แล้วนะ”
“เป็นเรื่องที่เป็นวิทยาศาสตร์มากๆเลยต่างหาก นายจะต้องเข้าใจนะว่าเทคโนโลยีบางตัวของประเทศมาจากฟิวเจอร์กรุ๊ป ดังนั้น เรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา”
หลังจากเข้ามาในเขตโรงเรียนแล้วนั้น ทุกคนก็หยุดพูดคุยกันก่อนจะมองไปที่วิวทิวทัศน์แสนงดงามข้างใต้ แทบไม่อยากจะเชื่อ
เดิมที พวกเขาคิดว่านี่คงเป็นโรงเรียนที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีระดับสูง แต่เมื่อผมเข้ามาแล้วก็รู้เลยว่าคิดผิด เพราะนี่กลับเป็นสวนที่ใครๆต่างก็ต้องหลงใหล
ทั่วทั้งสวนมีพืชพรรณแปลกๆอยู่หลากหลายชนิด บางชนิดก็มองเห็นได้ ผมเลยอยากจะศึกษาพวกมัน
“สวยมากเลย สวยยิ่งกว่าในเทพนิยายซะอีก ทำไมฉันถึงไม่เคยได้เห็นพืชพวกนี้เลยนะ”
“ฉันก็ไม่เคยเห็นมาก่อน นี่คงเป็นสิ่งที่ทำให้มีความสุขสุดๆเมื่อได้เรียนที่นี่นี่แหละ”
เด็กผู้หญิงบางคนก็จ้องมองดอกไม้แสนสวยและคริสตัลที่มีลักษณะเหมือนพืช
เมื่อใกล้ถึงตึกเรียน พวกเขาต่างก็ลุกขึ้น หลายคนรู้สึกเหมือนฝัน
แต่ในขณะเดียวกัน ตึกเรียนกลับเหมือนหลุดมาจากนิยายวิทยาศาสตร์ที่มีหุ่นยนต์พิเศษ รูปร่างช่างขัดแย้งกับพืชแสนสวยจากในสวนข้างล่างเหลือเกิน
“ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนอนาคต ดิฉันชื่อเสี่ยวโม่ จะมาเป็นไกด์ในวันนี้ค่ะ พวกคุณจะได้ทำความคุ้นเคยกับโรงเรียนแห่งนี้ภายใต้การนำของดิฉัน”
เมื่อมองไปยังภาพเสมือนจริงที่ฉายบนจอนั้น ทุกคนก็นิ่งงันไปในทันที ช่างเหมือนจริงเหลือเกิน อีกทั้งยังให้ความรู้สึกเหมือนเอลฟ์ตัวจริงกำลังโลดแล่นไปมาต่อหน้าพวกเขา
“ลำดับแรก ดิฉันใคร่ขอแนะนำรายวิชาที่พวกคุณจะต้องเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ โปรดรับชมวิดีโอตัวนี้ก่อน หลังจากอ่านแล้ว ถ้ามีอะไรที่ไม่เข้าใจก็สามารถถามดิฉันได้ค่ะ”
ในขณะที่วิดีโอฉายขึ้น ทุกคนต่างเงียบก่อนจะมองรูปภาพในวิดีโอ
ถ้าพวกเขาเข้าใจในตอนที่เห็นรถยนต์ลอยฟ้ากับหุ่นยนต์รวมถึงพืชพรรณแสนสวยเหล่านั้นได้ วิดีโอในตอนนี้ก็จะบอกพวกเขาได้ว่าพวกเขายังรู้ไม่ถึงจุดนั้น และสิ่งที่พวกเขาต้องเรียนที่นี่จริงๆแล้วก็คือความรู้ที่เกี่ยวข้องกับยานอวกาศ เรื่องตลกหรือเปล่านี่
วิดีโอนี้อู๋ ฮ่าวเหรินเป็นคนทำขึ้นมาเอง โดยเนื้อหาในนั้นจะมาจากประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติในอนาคตที่กำลังย้ายออกจากโลกใบนี้ นอกจากนี้เขายังเพิ่มเติมบางอย่างเพื่อให้คนพวกนี้เข้าใจได้มากขึ้น
เนื้อหาของวิดีโอทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับข้อมูลยานอวกาศ ถึงจะได้ตรวจสอบเรื่องนี้ล่วงหน้าแล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่จะปรับตัวเข้ากับการสอนแบบนี้ได้
ไม่มีวัน การสอนของเขาเทียบเท่ากับการตัดเอาส่วนหนึ่งของการพัฒนามนุษย์ออกไปและเข้าไปสู่ยุคของการท่องอวกาศโดยตรง
เรื่องนี้มันดูตลกเกินกว่าที่จะสอนผู้คนเกี่ยวกับวิธีการขับยานอวกาศเมื่อพวกเขารู้แค่แนวคิดเท่านั้น
เมื่อวิดีโอจบลง ผู้คนก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะไม่รู้จะพูดอะไร พวกเขาต่างมีคำถามมากมายเกินกว่าที่จะถามจนไม่รู้ว่าจะถามอะไร
หรือควรจะพูดว่าเนื้อหาในวิดีโอต่างส่งผลกระทบกับพวกเขาอย่างใหญ่หลวงจนทำให้พวกเขาสงสัยว่าโรงเรียนของฟิวเจอร์กรุ๊ปจริงๆแล้วจะสอนความรู้มากกว่าเป็นโรงเรียนขายฝันที่ดำเนินการตามความสามารถอะไรก็ได้
“ขอโทษนะครับ ที่เรามาที่นี่ก็เพื่อเรียนเรื่องยานอวกาศจริงๆน่ะหรือ”
“ใช่ค่ะ ความรู้ที่พวกคุณจะได้เรียนกันก็คือสิ่งที่อยู่ในวิดีโอ”
“งั้น ฟิวเจอร์กรุ๊ปก็คงเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยียานอวกาศใช่ไหมครับ” ชายที่ทางรัฐส่งมาถามขึ้น
“ใช่แล้วค่ะ ฟิวเจอร์กรุ๊ปเรามีเทคโนโลยียานอวกาศ เพียงแต่ว่าตอนนี้เรายังสร้างขึ้นมาไม่ได้”
ทุกคนในห้องโถงต่างทอดถอนใจ พวกเขาได้ยินเรื่องอะไรกันนี่ เป็นเรื่องล้อกันเล่นใช่ไหมที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปมีเทคโนโลยียานอวกาศ
แม้แต่พนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปเองก็รู้สึกเหมือนพวกตนกำลังฝันเพราะต่างคิดว่าพวกตนรู้จักบริษัทตัวเอง แต่มาตอนนี้ พวกเขากลับพบว่าพวกตนไม่เคยรู้จักบริษัทตัวเองเลยต่างหาก
มีหลายคนที่อยากไปหาอู๋ ฮ่าวเหรินเพื่อที่จะพิสูจน์ความจริงของเรื่องนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาก็คือสุภาพบุรุษคนดังกล่าวเป็นผู้บริหารในส่วนทั้งหมดของโรงเรียนแห่งนี้ และข่าวก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าชายคนนี้ต้องการจะบอกอะไรกับพวกตน
ไม่นานนัก ทั้งห้องโถงก็เริ่มพูดคุยเรื่องนี้เกี่ยวกับปัญหาที่ยังคงค้างคาใจ
0 ความคิดเห็น