TB:บทที่ 74 วิธีเพิ่มพลัง
เทียซินพาเฉินหลงมายังห้องบนชั้นสอง เมื่อมาถึงหน้าห้อง เขาได้เปิดประตูให้เฉินหลงได้เข้าไปข้างใน
"บอส!"
"บอส!"
......
ห้องห้องนี้ถูกออกแบบให้มีลักษณะเหมือนกับกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ หลังจากที่เฉินหลงเดินเข้ามาข้างในแล้ว เจิ้งอี้และคนอื่นๆได้ลุกขึ้นยืน แล้วกล่าวคำเคารพเฉินหลง
"นั่งลงเถอะครับ" เฉินหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม "พวกคุณทำงานได้ดีมากเลยครับ"
"ทุกอย่างล้วนเป็นความคิดของพี่น้องทุกคนครับ" เจิ้งอี้กล่าว
เฉินหลงไม่พูดเรื่องไร้สาระกับพวกเขาอีกต่อไป เขานำของที่เคยแลกเปลี่ยนจากระบบออกมา แล้วมอบให้กับพวกเขาทั้งห้าคน
เจิ้งอี้ได้รับยาฉลาดหนึ่งเม็ด เทียซินกับลู่หงได้รับยาต้าหลี่สองเม็ด กู่เฟยได้น้ำยาเพิ่มประสิทธิภาพของพันธุกรรมระดับสูง ส่วนลั่วเสวี่ยได้ดวงใจแห่งพืชนับหมื่น
เพื่อให้ได้ของพวกนี้ทั้งหมดมา คะแนนแลกเปลี่ยนของเฉียนหลงถูกใช้ไปเกือบทั้งหมด คะแนนทั้งหมดนั้นเขาได้มากจากการแลกเปลี่ยนอาหารกับเทียนซิงจื่อ ในตอนนี้เฉินหลงเหลือคะแนนแลกเปลี่ยนอยู่แค่ 200 คะแนนเท่านั้น
ยาฉลาดและยาต้าหลี่ใช้คะแนนแลกเปลี่ยนเพียงแค่ 50 คะแนน โอเค อันนี้เขาจะมองข้ามมันไปก็แล้วกัน เพราะของที่แพงจริงๆคือ น้ำยาเพิ่มประสิทธิภาพของพันธุกรรมระดับสูง และดวงใจแห่งพืชนับหมื่น ของชิ้นแรกมีราคา 5,000 คะแนนแลกเปลี่ยน ส่วนของอีกชิ้นมีราคาสูงถึง 10,000 คะแนนแลกเปลี่ยน โคตรของโคตรแพงงง
แต่ประสิทธิภาพของทั้งสองไอเท็มนี้ เขาไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เลยจริงๆ
น้ำยาเพิ่มพลังของยีนส์ เขาแลกมาจากเคที่ เขาเป็นผู้ขายจากดาวเคนท์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นน้ำยาเพิ่มประสิทธิภาพของพันธุกรรม ผลของมันคือการเพิ่มความสามารถของผู้ใช้ให้ไปถึงระดับท็อปส์มาสเตอร์ได้
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เฉินหลงได้เรียนรู้มาจากเทียนซิงจื่อว่า ในระบบจะแบ่งออกเป็นสามระดับคือ ระดับดารา ระดับศิรา (แม่น้ำ) และระดับจักรวาล
ระดับดาราเป็นการจัดระดับของความสามารถในโลก ห้าเดนแห่งสงครามเป็นคนธรรมดา คนที่เหนือชั้นกว่าคือหัวกะทิ ผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์ ปรมาจารย์ ปรมจารย์ชั้นสูง ปรมจารย์ตั้งแต่กำเนิด ผู้ที่เปลี่ยนลมปราณให้เป็นพลัง ผู้ปลดปล่อยพลังลมปราณ ครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ จอมเวทย์ ผู้ทำลายวิญญาณและสร้างร่างกาย และปรมจารย์แห่งดวงดาว
เมื่ออยู่ในระดับปรมจารย์แล้ว ความสามารถทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นมากขึ้นถึงสิบเท่าจากพลังก่อนหน้านี้ และถ้าได้อยู่ในระดับปรมจารย์แห่งดาวเคราะห์แล้ว ความสามารถทั้งหมดจะอยู่ยงคงกระพันในดาวเคราะห์
ส่วนระดับศิราและระดับจักรวาล เทียนซิงจื่อไม่ได้บอกอะไรกับเฉินหลง เพราะระดับความสามารถนั้นแตกต่างกันมากเกินไป เทียนซิงจื่อไม่อยากทำให้เฉินหลงรู้สึกกดดันมากเกินความจำเป็น
แน่นอนว่าคนอย่างเทียนซิงจื่อ ความสามารถของเขา คือระดับจักรวาล เขาบอกว่า ในนั้นมีคนที่ชอบพูดโอ้อวดอยู่มากมาย
ดวงใจแห่งพืชนับหมื่นยังเป็นรากของผู้ขายต้นไม้ จากดาวเคราะห์ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ฟังก์ชั่นของมันคือช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมพืชทั้งหมดและปลูกพืชชนิดใดก็ได้ได้ตลอดเวลา
ในตอนแรก มันอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่เมื่อคิดเกี่ยวกับพืชที่มีความสามารถพิเศษในโลกแห่งพืชแล้ว เมื่อพวกมันถูกมนุษย์ควบคุมและเป็นเจ้านายแล้ว เขาคนนั้นจะดูน่าเกรงขามขึ้นมาในทันที
หลังจากที่เจิ้งอี้และคนอื่นๆได้รับของมาแล้ว พวกเขาก็จัดการใช้มันในทันที
เจิ้งอี้ เทียซินและลู่หงกินยาเข้าไป
ทันทีที่เจิ้งอี้กลืนยาลงไป เขานั่งลงในท่าขัดสมาธิ
ส่วนอีกสองคนส่งยาต้าหลี่สองเม็ดเข้าไปในปาก แต่พวกเขากลับถ่มมันออกมาหนึ่งเม็ด
เห็นภาพตรงหน้าแล้ว หัวใจของเฉินหลงก็กระตุก หรือบางทีพวกเขาควรกินยาต้าหลี่แค่เม็ดเดียว? น่าจะใช่ ถ้ายาต้าหลี่นี้สามารถกินได้ตลอดเวลา มันก็จะทำให้ผู้คนรู้สึกดี
ในไม่ช้า เฉินหลงก็รู้ว่าเขาคิดผิด เพราะไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเทียซินและลู่หงหยิบยาต้าหลี่ที่พวกเขาเพิ่งคายมันออกมา ส่งกลับเข้าไปในปากและกลืนลงท้องไป
น้ำยาเพิ่มประสิทธิภาพของพันธุกรรมระดับสูงของกู่เฟย มีลักษณะเป็นเข็มฉีดยาที่มีความยาวประมาณห้าเซนติเมตร และมีของเหลวสีน้ำเงินอยู่ข้างใน
หลังจากฉีดน้ำยาเพิ่มประสิทธิภาพของพันธุกรรมเข้าไปในร่างกายแล้ว กู่เฟยเริ่มรับรู้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพของพันธุกรรม
ไม่มีทาง ถ้าเขาต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของพันธุกรรมแล้ว เขาจะต้องรักความเจ็บปวดที่มาจากพันธุกรรม
สำหรับดวงใจแห่งพืชนับหมื่นที่ใช้คะแนนแลกเปลี่ยนถึง 10,000 คะแนน ตอนที่ใช้งานมันวิเศษมากๆ
ดวงใจแห่งพืชนับหมื่นเป็นเหมือนลูกบอลขนาดเล็กที่มีประกายแสงระยิบระยับออกมา หลังจากที่ลั่วเสวี่ยได้ครอบครองลูกกลมๆไว้ในมือด้วยความอ่อนโยน ราวกับว่าลูกกลมๆนั่นกำลังถูกหลอมละลายจากอุณหภูมิของฝ่ามือของลั่วเสวี่ย ประกายแสงจึงค่อยๆลอยขึ้นและเข้าไปในร่างกายของลั่วเสวี่ย มันค่อยๆหายเข้าไปในร่างกายของเธอ
ในตอนที่ประกายแสงได้เข้าไปในร่างของเธอแล้ว ใบหน้าของเธอได้เผยรอยยิ้มแห่งความสุขออกมา
เห็นพวกเขาใช้งานไอเท็มต่างๆที่พวกเขาได้เป็นเจ้าของแล้ว เฉินหลงนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆพวกเขา และรอดูว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เทียซินและลู่หงต่างก็รู้สึกถึงประสิทธิภาพของยาต้าหลี่ทั้งสองเม็ดเป็นครั้งแรก
"ว้าว ฉันรู้สึกได้ถึงพลังที่สุดยอดมาก มันทำให้ฉันสามารถฆ่าวัวได้ในหมัดเดียว" ลู่หงที่รู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่ง กำลังไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง พูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
เช่นเดียวกับเทียซินที่กำลังตื่นเต้นเพราะพลังที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
หลังจากนั้นเทียซินที่ได้สติ เขาไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณอีกฝ่ายในทันที
"ขอบคุณครับ! บอส!"
"ขอบคุณครับ! บอส!" ทางลู่หงก็รีบกล่าวคำขอบคุณออกมาเช่นกัน
"มันเป็นรางวัลที่คุณสมควรได้รับครับ ถ้าคุณทำเรื่องดีๆให้ผมอีก ความสามารถของคุณจะได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ" เฉินหลงพยักหน้าให้เทียซิน
ความสามารถของเทียซินยังอยู่ในระดับอันธพาล ในตอนนี้สิ่งที่เฉินหลงให้ความสำคัญจริงๆก็คือเจิ้งอี้ กู่เฟยและลั่วเสวี่ยต่างหาก
สิบนาทีผ่านไป ในที่สุดกู่เฟยก็รอดชีวิตมาได้
กู่เฟยที่นอนหอบอยู่บนพื้นเมื่อกี้ ค่อยๆลุกขึ้นยืนช้าๆ ในตอนนี้กู่เฟยรู้สึกว่าตัวเองมีพลังเพิ่มขึ้นมากกว่ามื่อก่อนหลายเท่า
กู่เฟยกางมือของเขาออกไปข้างหน้า ทำให้สนามพลังของเขาแผ่ออกไปทันที ไม่นาน กู่เฟยก็ได้รับรู้ถึงตัวเลขว่ามันคือ 150 เมตร ในตอนนี้สนามพลังของเขาสามารถใช้พลังภายในระยะ 150 เมตรได้
นอกจากนี้ ในสนามพลังของเขา เขายังได้รับความสามารถในการโจมตีเพิ่มขึ้น ทำให้เขาสามารถใช้พลังจิตโจมตีคู่ต่อสู้ที่อยู่ภายในสนามพลังของเขาได้อีกด้วย
ตามหลักของการต่อสู้แล้ว การโจมตีด้วยพลังจิตนั้นได้เปรียบมากกว่าการโจมตีด้วยพลัง เพราะการโจมตีด้วยพลังจิตจะโจมตีสมองของฝ่ายตรงข้าม ด้วยการรบกวนคื่นสมองของคู่ต่อสู้ เขาสามารถทำให้คู่ต่อสู้รู้สึกสับสนและสูญเสียการควบคุมได้ ถ้ามีคนสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีบนสังเวียนที่ดุเดือด และหนึ่งในนั้นสามารถใช้พลังจิตได้ แน่นอนว่าคนๆนั้นจะต้องเป็นฝ่ายชนะ
"ขอบคุณครับ บอส" การทดสอบพลังของเขานั้นเรียบง่ายมาก กู่เฟยกล่าวขอบคุณเฉินหลงในทันที แต่เสียงที่กล่าวออกมานั้น เหมือนจะเบาไปนิดนึง
"ยิ่งคุณแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ คุณก็สามารถทำตามที่ผมบอกได้มากขึ้นเท่านั้น" เฉินหลงตอบในขณะที่ตบบ่าของกู่เฟยเบาๆสองสามครั้ง
"ลูกน้องคนนี้ยอมตาย" กู่เฟยก้มศีรษะลงพร้อมกับตอบเขา
เนื่องจากว่าระดับพลังของเขาถูกจำกัด และยากที่จะพัฒนา แต่น้ำยาเพิ่มประสิทธิภาพของพันธุกรรมระดับสูงสามารถพัฒนาความสามารถของกู่เฟยได้
สิบนาทีต่อมา เจิ้งอี้ลืมตาขึ้น
"ขอบคุณสำหรับความกรุณาครับ" เจิ้งอี้รู้ดีว่าทุกอย่างที่เขามีในตอนนี้ ล้วนมาจากเฉินหลง ทันทีที่เขาลืมตาตื่น เขาก็รีบแสดงความเคารพต่ออีกฝ่าย
"ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ คุณคู่ควรกับมัน" เฉินหลงยิ้มตอบ
ในตอนนี้ ทุกสายตาได้จับจ้องไปที่ลั่วเสวี่ย คนที่เป็นเหมือนกับเทพธิดา แต่ทันใดนั้นเอง ได้มีใครบางคนเดินมาเคาะประตูห้องของพวกเขา
เจิ้งอี้ขยิบตาให้กับลู่หง ทันใดนั้นลู่หงก็เดินไปเปิดประตูตามคำสั่ง
"มีอะไร?" ลู่หงเปิดประตูดังแกร๊ก มองดูที่ลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างนอกบานประตู น้ำเสียงที่เปล่งออกมา แสดงถึงความไม่พอใจ
"พี่สี่ครับ มีคนกำลังสู้กันอยู่ที่ลานจอดรถด้านนอกครับ" ลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านนอกรีบพูดออกมา
0 ความคิดเห็น