TB:บทที่ 55 การแลกเปลี่ยนอาหาร

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

 TB:บทที่ 55 การแลกเปลี่ยนอาหาร


"ชื่อร้านค้าของฉันในระบบคือ… ‘ร้านขายของชำเทียนซิงจื่อ’” เทียนซิงจื่อจงใจลดระดับเสียงลง


เฉินหลงมองเทียนซิงจื่อที่เงียบไป ในระบบ ทั้งสองฝ่ายกำลังเชื่อมต่อกันด้วยความนึกคิด แล้วทำไมเขาต้องพูดกระซิบด้วย?


ช่างมัน เฉินหลงโยนความคิดนี้ออกไปบนท้องฟ้า เพราะในตอนนี้เขาจำชื่อร้านค้าของอีกฝ่ายได้แล้ว "ร้านขายของชำเทียนซิงจื่อ" ในระบบนี้ มีร้านค้าเพียงร้านเดียวเท่านั้นที่ใช้ชื่อ "ร้านขายของชำเทียนซิงจื่อ" ที่สามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์ในอวกาศได้ และร้านค้าของเทียนซิงจื่อก็เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่สุดยอดมากมาย


"คุณ…คือ…เทียนซิง…จื่อ …ผู้อาวุโสเทียนซิงจื่อ…ใช่ไหมครับ?" เฉินหลงเบิกตากว้า คำพูดของเขาติดขัดเล็กน้อย


ไม่ติดอ่างก็บ้าแล้ว! คนๆนี้มีคะแนนแลกเปลี่ยนตั้งหลายร้อยล้าน!


นอกจากนี้ บางครั้งร้านค้าของเขาจะซื้อของที่ใช้แล้วทิ้งที่มีประสิทธิภาพมา โดยในแต่ละครั้งต้องใช้คะแนนแลกเปลี่ยนถึงสิบล้านคะแนนเลยทีเดียว


เทียนซิงจื่อเป็นคนที่เก่งในด้านการทำธุรกิจ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายสามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์ได้ตลอด แต่เขาจะขายเฉพาะของที่ใช้แล้วทิ้งเท่านั้น วิธีนี้ทำให้ธุรกิจของเขาเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ


"ฮ่าๆ หัวเราะออกมาสิ" เทียนซิงจื่อลูบหนวดเครายาวของตัวเอง แถมมันยังดูเหมือนผู้วิเศษอีกด้วย


"ท่านเทียนซิงจื่อ ผมจะเก็บมันเป็นความลับครับ" เฉินหลงกล่าวอย่างระมัดระวัง แต่ในใจของเขากลับพูดว่า "ท่านเป็นถึงดาวแห่งสวรรค์ ใครจะไปกล้าหัวเราะเยาะท่านกัน!?"


"อืม ในตอนที่ฉันติดต่อกับนาย ฉันก็สามารถทำการแลกเปลี่ยนกับนายได้แล้ว อ้อ แต่จำไว้ว่าต้องเป็นของอร่อยๆเท่านั้นล่ะ!" พอเทียนซิงจื่อพูดจบ เขาก็ส่งวิ้งค์ให้เฉินหลง


"ท่านเทียนซิงจื่อ ถ้าผมหากุ้งก้ามแดงที่อร่อยกว่าเดิม ผมจะได้คะแนนแลกเปลี่ยนมากขึ้นไหมครับ?" เฉินหลงถาม


ถึงกุ้งก้ามแดงจากร้าน "ที่เดิม" จะอร่อย แต่มันก็ไม่ได้อร่อยที่สุดสักหน่อย ด้วยเหตุนี้ เฉินหลงจึงลองถามอีกฝ่ายดู


"ได้อยู่แล้ว! ถ้ามันรสชาติดีกว่าเดิม และมันถึงมาตรฐานของฉัน ฉันจะเพิ่มคะแนนแลกเปลี่ยนให้ถึง 500 คะแนนเลย แต่ถ้านายยังหาอันที่มันอร่อยมากกว่านี้อีก ฉันขอบอกเลยว่า 1,000 คะแนนแลกเปลี่ยนรอนายอยู่ อืม เราพูดเรื่องนี้กันมามากพอแล้ว อย่าลืมว่าต้องเอาอาหารอร่อยๆมาให้ฉันด้วยนะ!" เทียนซิงจื่อพูดจบก็ตัดการเชื่อมต่อในทันที


"เยส! สุดยอด!" หลังจากตัดขาดการเชื่อมต่อกับอีกฝ่าย เฉินหลงตื่นเต้นมาก


ราคาของกุ้งก้ามแดงที่กำหนดโดยเทียนซิงจื่อ ปกติแล้วเขาคิดว่ากุ้งก้ามแดงไม่ได้ใกล้เคียงกับพวกอาหารชั้นสูงเลยสักนิด แต่สุดท้ายกุ้งก้ามแดงก็เป็นอาหารที่ได้รับความนิยม แล้วมันก็ยังแลกคะแนนแลกเปลี่ยนได้มากถึง 100-500 คะแนน นับว่าดีสุดๆ


แต่อาหารของราชวงศ์จีนนั้นมีมากกว่ากุ้งก้ามแดงชนิดนี้ ดังนั้นเฉินหลงจึงคิดเสียว่ามันเป็นรากฐานของคะแนนแลกเปลี่ยนที่มั่นคง


นอกจากนี้ เฉินหลงรู้สึกตื่นเต้นมากที่เขาได้รู้จักกับเทียนซิงจื่อ ในอนาคตถ้าเขาอยากจะขอความช่วยเหลือจากเทียนซิงจื่อ มันคงสะดวกไม่น้อย ถึงคนอื่นไม่ต้องการก็ไม่ได้ขาดทุนอะไร เทียนซิงจื่อที่แข็งแกร่งมาก เขาเหมือนกับคนธรรมดาที่จู่ๆก็ได้คบเพื่อนดีๆอย่างประธานาธิบดีโอบามาเลยอ่ะ


หลังจากตื่นเต้นอยู่สักพัก เฉินหลงก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เฉียนซานเจียกำลังไปหาซ่งหยู่ เขารีบค้นหาเฉียนซานเจียด้วยเครื่องดักจับในทันที ในเวลาเดียวกัน เขาก็เห็นซ่งหยู่กำลังเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย


"คุณซ่ง คุณเป็นถึงบุตรชายตระกูลซ่งหนึ่งในสี่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งเมืองหลวง การที่ส่งคนมาขโมยของคุณมันช่างน่าสมเพชสิ้นดี คุณไม่กลัวว่าจะทำให้ชื่อเสียของตระกูลซ่งเสื่อมเสียเลยรึไง?" เฉียนซานเจียจ้องซ่งหยู่ด้วยสายตาเย็นชา


"เหอะ ขโมย? ฉันส่งคนไปขโมยของของคุณตอนไหนกัน?" ใบหน้าของซ่งหยู่ดูจองหอง กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาของอีกฝ่ายด้วยเสียงเรียบ


“บุตรของตระกูลชนชั้นสูงคงจะเป็นคนขี้ขลาด กล้าทำไม่กล้ารับนี่เอง คนอย่างเฉียนซานเจียรู้สึกผิดหวังจริงๆ ถ้าอย่างนั้นชายที่อยู่ตรงนั้นก็คงจะเป็นเหล่าหลิวสินะ” เห็นท่าทีของอีกฝ่าย เฉียนซานเจียโยนรูปของแก๊งสายฟ้ากับเหล่าหลิวที่กำลังส่งของให้กับซ่งหยู่ผ่านโต๊ะน้ำชาไป เหอะ เห็นได้ชัดว่าของที่อยู่ในรูปก็คือกล่องหยกของเฉียนซานเจีย!


"ในเมื่อคุณมีภาพโจ่งแจ้งขนาดนี้ ฉันคงปฏิเสธไม่ได้แล้ว หึ ฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันส่งคนไปขโมยกล่องหยก แล้วคุณจะทำยังไงกับฉันดีล่ะ ของที่อยู่ในกล่องเดิมทีมันควรจะเป็นของฉันด้วยซ้ำ แต่ช่างเถอะ ถือว่าคืนมันให้กับเจ้าของแล้วกัน"หลังจากซ่งหยู่ใช้ยาเพิ่มพลัง นอกจากพลังที่เพิ่มขึ้นแล้ว ความมั่นใจในตัวเองก็สูงขึ้นตามไปด้วย สูงจนเขาไม่เห็นเฉียนซานเจียอยู่ในสายตาแล้ว


"ถ้าอย่างงั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงมันอีก" เฉียนซานเจียจ้องซ่งหยู่ด้วยสายตาเย็นชาอีกครั้ง


"ฉันก็ไม่คิดว่าเราจะต้องเจรจาอะไรกันอีก ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันคงไม่ลำบากมาที่นี่หรอก" ซ่งหยู่กล่าว


"ซ่งหยู่ คอยดูก็แล้วกัน ฉันจะคอยดูว่าตระกูลซ่งยังจะเอามือปิดฟ้า*ได้อีกไหม" พอพูดจบ เฉียนซานเจียก็จากไปพร้อมกับหยูเฟยทันที


เมื่อเห็นเฉียนซานเจียออกไปแล้ว ใบหน้าของซ่งหยู่เผยรอยยิ้มที่เย่อหยิ่งออกมา


หลังจากออกไปเป็นที่เรียบร้อย เขาสั่งหยูเฟยให้ส่งใครสักคนไปจับตาดูซ่งหยู่ไว้ เขาหาอีกฝ่ายเจอแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับหักหน้าเขา และงานนี้หยูเฟยออกปากขออาสาเป็นคนไปจับตาดูซ่งหยู่เอง


เห็นว่าหยูเฟยเต็มใจที่จะอยู่และจับตาดูซ่งหยู่เองแล้ว เฉียนซานเจียรู้สึกโล่งอกขึ้นมากเพราะหยูเฟยเป็นสายสืบ เขาเป็นคนที่มากประสบการณ์ในการจับตาคน


หลังจากหยูเฟยจากไป เฉียนซานเจียกลับไปที่ซูตูพร้อมกับซ่งเย่


หลังจากกลับมาที่วิลล่า หน้าตาของเฉียนซานเจียไม่น่ามองเอาเสียเลย ในตอนแรกเขาบอกว่าจะไปทวงความยุติธรรมจากซ่งหยู่ แต่เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะหักหน้ากันแบบนี้ ถึงจะนิดหน่อยก็เถอะ แต่เขาดันออกปากบอกกับเฉินหลงเองว่าจะไปสะสางหนี้ให้เขาแน่นอน… ฮ่วย! เรื่องเป็นแบบนี้แล้วคนอย่างเขาจะมีหน้าไปเจอเฉินหลงได้ยังไงเล่า!?


โดยที่ไม่รู้เลยว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเฉินหลงทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว  เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะต้องอับอายขายขี้หน้า ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะซ่อนตัวอยู่แต่ในห้องแล้วจัดฉากว่าตัวเองหลับไปแล้ว


เมื่อเห็นว่าเฉินหลงไม่ได้ออกจากห้อง เฉียนซานเจียก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา


วันต่อมา เฉินหลง เฉียนซานเจีย และซ่งเย่ออกจากวิลล่าไป โดยที่สาวของเฉียนซานเจียยังคงพักอยู่ที่ซูตู


ในรถ เฉินหลงไม่ได้เป็นคนพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แต่กลับเป็นเฉียนซานเจียที่พูดขึ้นมาเสียเอง


"น้องเฉิน เมื่อวาน ฉันเสียเงินไปหมดเลย"


"ไม่เป็นไร ผมคิดเอาไว้แล้วว่าไอ้บ้านั่นไม่ใช่คนที่จะเจรจากันด้วยง่ายๆ มันไม่สายเกินไปที่ผู้ดีอย่างเราจะแก้แค้นมัน ไม่ช้าก็เร็ว ผมจะเอาคืนทุกอย่างจากเขาคืนมาให้ได้" เฉินหลงพูดออกมาโดยที่ไม่แคร์ใครเลยสักนิด


"อืม ฉันจะแก้แค้นมัน" เฉียนชานเจียพยักหน้าเห็นด้วย


คราวนี้เฉียนซานเจียมาที่ซิงเฉิง เพื่อมาตามหาชายแปลกหน้าเพราะเขาต้องการความช่วยเหลือจากคนๆนั้น ตอนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นแล้ว เขาจะรอดูว่าเขาคนนั้นจะมีความสามารถจริงๆไหม


“พี่เฉียน ตอนนี้เรามาถึงซิงเฉิงแล้ว ให้ผมช่วยพี่อีกนะ” เฉินหลงเอ่ยขึ้น


จากนั้นเฉินหลงบอกความตั้งใจของตัวเองให้เฉียนซานเจียรู้ เขาอยากให้เผิงตงมาช่วยเป็นนักแสดงรับเชิญ


แน่นอนว่าเฉียนซานเจียเห็นด้วยกับคำขอเสนอนี้ในทันที และเขาก็ได้ให้คำแนะนำกับเฉินหลงอีกด้วย ความคิดนี้น่าสนใจมากๆ


ซวีหมิงเหมยไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเงินเลย


“น้องเฉิน ประสิทธิภาพภาพของ ‘ครีมเสริมความงาม​’ ที่นายบอกมันจะดีจริงๆเหรอ?" ในเมื่อเฉินหลงไม่ต้องการคำแนะนำของเขา ดังนั้นฉียนซานเจียจึงเริ่มให้ความสนใจกับ "ครีมเสริมความงาม" ที่อีกฝ่ายว่ามาแทน


* 一手遮天 (Yì shǒu zhē tiān) เอามือปิดฟ้า ประมาณว่าอาศัยอิทธิพลใช้เล่ห์เหลี่ยมปิดบังอำพรางมวลชน


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น