TB:บทที่ 50 ยุงติดตาม
หลังจากยืนขึ้นได้แล้ว ใบหน้าของเฉินหลงไม่ได้มีรอยขีดข่วนใดๆเลย มีเพียงคราบฝุ่นที่เลอะอยู่บางตำแหน่งเท่านั้น
เมื่อเห็นเฉินหลงยืนขึ้นเหมือนคนปกติ บอกได้เลยว่าเฉียนซานเจียอึ้ง เขาสามารถยืนขึ้นได้เหมือนคนปกติได้อย่างรวดเร็วทั้งๆที่เขาถูกคนหลายคนรุมกระทืมเนี่ยนะ ไอ้บ้า ไม่เจ็บรึไง จะแข็งแกร่งเกินไปแล้วนะโว้ย!
หลังจาก เฉินหลงขึ้นไปบนรถแล้ว เฉียนซานเจียและคนอื่นๆต่างก็จ้องมองเฉินหลงด้วยสายตาแปลกๆ
"คือ พวกคุณจำเป็นต้องมองผมแบบนี้ด้วยเหรอครับ?" เฉินหลงหมดคำจะพูด
จริงๆแล้ว ใบหน้าของเฉินหลงไม่ได้รับปาดเจ็บอะไรมาก นั่นเป็นเพราะหัวของเฉินหลงได้ปกป้องมันเอาไว้ แต่ถ้าเฉินหลงได้ถอดเสื้อผ้าออกแล้วล่ะก็ เขาก็คงจะไม่เลวร้ายไปกว่าสุนัขพันธ์ทางแล้วล่ะ
ร่างกายของเฉินหลงแข็งแรงมากก็จริง แต่ก็ไม่ถึงกับกลายเป็นซูเปอร์แมนได้ ถ้าเขาถูกคนที่ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักหลายคนมารุมกระทืบแบบนี้ ร่างกายของเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บได้เหมือนกัน
"อ๊ะ วันนี้พระจันทร์สวยจัง!" เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินหลง เฉียนซานเจียหันหน้าไปทางอื่นและตั้งใจพูดประโยคนี้ออกมา
"พี่เฉียน! ฉันว่าพี่พูดผิดนะคะ พระจันทร์มันจะไปขึ้นตอนกลางวันได้ยังไงคะ? มันต้องเป็นพระอาทิตย์ดวงใหญ่ๆสิคะ ถึงจะถูก!" ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆเฉียนซานเจียพูดขึ้น
"ผมคิดว่าพวกคุณตอบผิดทั้งหมดเลยครับ วันนี้เป็นวันที่มีเมฆมากต่างหาก ไหนเลยจะมีพระอาทิตย์กับพระจันทร์!" หยูเฟย บอดี้การ์ดอีกคนของเฉียนซานเจีย ดูเหมือนว่าเขากำลังพูดหยอกล้อคนทั้งสองอยู่
"ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวเถอะ" เฉินหลงส่งเสียงคำราม
เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้ามืดครึ้ม มีฝนตกเล็กน้อย พระอาทิตย์ ก้อนเมฆและพระจันทร์ เป็นแค่ข้ออ้างของคนทั้งสามโดยเฉพาะ
แต่เมื่อเห็นว่าเฉินหลงกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม ในที่สุดเฉียนซานเจียก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก
"พี่เฉียน พี่คิดว่าพวกคนเมื่อกี้คือใคร?" เฉินหลงหันมองเฉียนซานเจียด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ความจริงแล้ว เฉินหลงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว นั่นก็คือซ่งหยู่ ต้องเป็นซ่งหยู่แน่ๆ อีกฝ่ายต้องการแย่งยาไขผึ้งมากจากคนที่เกลียดเขา และต้องเป็นตัวการที่สั่งให้คนพวกนั้นมาทำร้ายเขาแน่นอน
"ฉันคิดเหมือนนาย" เฉียนซานเจียเก็บรอยยิ้มบนใบหน้ากลับไป
"นายท่าน คุณกำลังหมายถึงใครครับ?" น้ำเสียงของหยูเฟยเต็มไปด้วยจิตสังหาร
เพราะหยูเฟยไม่ได้ไปที่วิลล่ากวงฮุ่ยกับเฉียนซานเจีย เขาจึงไม่รู้จักซ่งหยู่ แต่ในฐานะบอดี้การ์ดของเฉียนซานเจียแล้ว นี่ถือเป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะต้องปกป้องเฉียนซานเจียให้ปลอดภัย แต่สิ่งที่คนพวกนั้นได้ทำไปเมื่อกี้คือการทำให้หยูเฟยเสียหน้า ตราบใดที่เขามีโอกาสที่จะนำมันกลับและส่งคืนให้กับเจ้านาย เขาต้องการฆ่าคนพวกนั้นทุกคน แม้ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะเดิมพันด้วยชีวิตของเขาเองก็ตาม
"ซ่งหยู่!"
เฉียนซานเจียและเฉินหลงพูดออกมาพร้อมกัน
"ซ่งเย่ เราไม่น่ากลับซิงเฉิงด้วยทางด่วนซูตูตั้งแต่แรก ถึงอีกฝ่ายจะเป็นถึงคนของตระกูลซ่ง หนึ่งในสี่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในเมือง แต่ของของฉันก็คงไม่ถูกขโมยไปง่ายดายขนาดนี้" สายตาของเฉียนซานเจียเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
ถึงตระกูลซ่งจะเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในเมือง เฉียนซานเจียไม่ได้เป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่ตอนนี้ซ่งหยู่กล้ารังแกเขาก่อน แน่นอนว่าเฉียนซานเจียไม่มีทางยอมอีกฝ่ายง่ายๆเด็ดขาด
"ครับ นายท่าน" ซ่งเย่ตอบ
ในเวลาเดียวกัน เฉินหลงไม่ได้ตอบอะไรอีกฝ่าย เขาทำเพียงแค่หลับตา
เมื่อเห็นเฉินหลงหลับตาลงไปแล้ว เฉียนซานเจียคิดว่าเฉินหลงคงจะรู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลีย ท้ายที่สุดแล้ว คนที่ถูกกระทำชำเรา ก็ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย
เมื่อกี้นี้ ท่าทางของเฉินหลงเหมือนกับยอดมนุษย์ แต่ตอนนี้มันกลับมาเป็นปกติแล้ว ดังนั้น เฉียนซานเจียจึงส่งสัญญาณทางสายตาให้กับหญิงสาวและเย่เฟย ให้พวกเขานั่งเงียบๆไม่ต้องพูดอะไรออกมาแล้ว เขากลัวว่าคำพูดพวกนั้นจะไปรบกวนการพักผ่อนของเฉินหลง
อันที่จริง ตอนที่เฉินหลงหลับตาลง เขาไม่ได้พักผ่อน แต่เข้ากำลังติดตามกลุ่มคนเมื่อกี้อยู่ต่างหาก
ตอนที่คนพวกนั้นบุกเข้ามาทำร้ายเขา เฉินหลงก็ไม่ได้ถูกโจมตีอย่างแรง เขาเข้าไปในระบบเพื่อค้นหาเครื่องมือชนิดหนึ่ง เครื่องมือที่ใช้ติดตามคนพวกนั้น ถึงเครื่องดักจับภาพเสมือนจริงจะสามารถค้นหาคนได้ แต่มันต้องใช้หน้าตาของคนพวกนั้นในการค้นหา และคนพวกนี้ทุกคนล้วนสวมหน้ากากอยู่ เพราะฉะนั้นเครื่องดักจับจึงใช้งานไม่ได้
เฉินหลงใช้เวลาไม่นานนักในการค้นหาเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดในตอนนี้ และในที่สุดเขาก็ได้พบกับ "ยุงติดตามขนาดเล็กพิเศษ" ในระบบ
"ยุงติดตามขนาดเล็กพิเศษ" ผู้ขายคือบาชิ จากดาวเคราะห์เทคโนโลยีที่เรียกว่าโครู เครื่องติดตามตัวนี้ไม่ได้เป็นอุปกรณ์ไฮเทคของดาวโครู ดังนั้นมันจึงมีราคาเพียง 10 คะแนนแลกเปลี่ยนเท่านั้น
หลังจากที่แลกเปลี่ยน "ยุงติดตามขนาดเล็กพิเศษ" มาเรียบร้อยแล้ว มันคือยุงตัวเล็กๆ หลังจากเชื่อมต่อกับตัวยุงแล้ว เฉินหลงก็รู้วิธีใช้เครื่องติดตามนี้ในทันที
เฉินหลงควบคุมยุงตัวแม่ให้ปล่อยลูกยุงขนาดเล็กจิ๋วที่คนทั่วไปไม่เห็นด้วยตาเปล่าประมาณสิบกว่าตัวเกาะตามคนพวกนั้นไป
ในตอนที่เฉินหลงกำลังควบคุมยุงตัวแม่ให้เชื่อมต่อกับเหล่าลูกยุง เขาก็เห็นสถานการณ์ต่างๆในรถทั้งสามคัน พวกเขาถอดหน้ากากออกจากศีรษะ ชายทุกคนอายุราวๆยี่สิบเจ็ดหรือยี่สิบแปดปี และในรถแต่ละคันมีคนอยู่หกคน
ท่ามกลางพวกเขา มีคนสองคนที่นั่งอยู่ในรถโดยที่ไม่ได้พูดคุยกับคนอื่น หลังจากเฉินหลงจดจำใบหน้าของชายพวกนั้นครบทุกคนแล้ว เขาเจาะจงไปที่รถคันที่มีคนพูดคุยกันในทันที
"หัวหน้าครับ คุณบอกว่างานนี้ง่ายมาก แล้วทำไมคุณถึงต้องการให้พวกเราทั้งสามทีมร่วมมือด้วยละครับ อันที่จริง เราต้องการแค่แก๊งสายฟ้าก็พอแล้ว ทำไมเราต้องเรียกแก๊งพายุเฮอริเคนกับแก๊งพายุหิมะมาช่วยด้วยละครับ?" ชายหน้าเด็กคนหนึ่งหันไปพูดกับชายที่มีสีหน้าจริงจัง
"เจิ้งไท่ นายลืมกฎข้อแรกของกฎในแก๊งของเราไปแล้วเหรอ? ทำตามคำสั่งและไม่ถามว่าทำไม" หัวหน้าหันไปมองเจิ้งไท่
"เปลี่ยนเรื่องดีกว่า ผมเบื่ออ่ะ เฮ้ คนหล่อ ทำอะไรอยู่เหรอ? นี่นายกำลังหาสาวๆอีกแล้วเหรอ?" เจิ้งไท่รู้ดีว่าเขาจะไม่ได้คำตอบดีๆจากการสนทนากับหัวหน้าทีม ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมาย
"คนอย่างฉันจำเป็นต้องหาสาวๆเหรอ? พวกเธอต่างหากที่ต้องไล่ตามฉัน" ชายหนุ่มรูปหล่อ พูดขึ้น ในมือถือโทรศัพท์ไว้กำลังเล่นกับชายอีกคน เขาหันไปจ้องตาเจิ้งไท่
"พ่อหนุ่มรูปหล่อ นายแนะนำให้ฉันรู้จักบ้างสิ โลลิ หยูเจีย กับผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่หน่อย ฉันไม่อยากเลือกพวกเธอเลย" อย่างที่เขาบอก
"ฉันต้องขอโทษจริงๆ เจิ้งไท่ ถึงนายไม่เลือก แฟนสาวของฉันควบคุมมันไม่ได้หรอกนะ" คนหล่อมองเจิ้งไตแล้วส่ายหัว
"หัวหน้า ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ผมจะเริ่มไว้หนวดแล้ว แล้วผมจะรอดูว่าใครบอกว่าผมจริงจังเกินไป" ฉันละเกลียดคำพูดพวกนั้นจริงๆ
แค่เพราะเขามีใบหน้าที่อ่อนเยาว์เหมือนกับเด็กทารก เขาไม่เคยได้ไปไกลเกินกว่าการไล่ตามพวกผู้หญิง ผู้หญิงที่เขาเคยพบเจอทุกคน ต่างคิดว่าที่ตรงนั้นของเขา ขนยังไม่ขึ้น มิหนำซ้ำยังไม่เก่งเรื่องอย่างอีกด้วย ด้วยเหตุนี้พวกเธอจึงไม่เต็มใจที่จะสานสัมพันธ์กับเขา เขาละเกลียดเรื่องแบบนี้จริงๆ
"ไว้หนวดเหรอ ฉันไม่คิดเลยว่าทั้งชีวิตนี้ของนายจะคิดเรื่องนี้ด้วย ฮอร์โมนเพศชายในร่างกายของนายมันต่ำเกินไป" หนุ่มรูปงามยังคงกล่าวโจมตีเจิ้งไท่อย่างต่อเนื่อง
เขารู้จักกับเจิ้งไท่มานานแล้ว แต่คนหล่อคนนี้กลับไม่เห็นไรหนวดของเจิ้งไท่โผล่ขึ้นมาบนหน้าของเขาเลยสักวัน
คำพูดของชายหนุ่มรูปงามทำให้อีกฝ่ายรู้สึกบึ้งดึงในขณะที่นั่งอยู่ในที่ประจำ
หัวหน้าเห็นท่าทางชายหลุ่มรูปงาม ทุกส่วนของใบหน้านับว่ายอดเยี่ยมไร้ที่ติ เสียอย่างเดียวคือพูดมากไปหน่อย สำหรับการทำงานแล้วมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก พูดเก่ง พูดตลอด พูดทั้งวี่ทั้งวัน เข้าใจแหละว่านิสัยของคนเรามันเปลี่ยนกันไม่ได้
ตลอดทาง เฉินหลงได้สังเกตการณ์พวกเขา หลังจากชายคนนั้นทำหน้าบูดแล้ว เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ทำตัวเหมือนกับพวกทหารที่มีวินัยขึ้นมาในทันที
หลังจากนั้น เฉินหลงเห็นคนกลุ่มหนึ่งขับรถออกจากทางหลวงของชางตู เขาส่งยาไขผึ้งให้กับชายวัยสามสิบคนหนึ่งแล้วจากไปในทันที
ในเวลาเดียวกัน ยุงตัวจิ๋วได้เปลี่ยนเป้าหมายจากชายที่กำลังเกาะอยู่ไปเกาะชายวัยสามสิบคนนั้น
หลังจากชายคนนั้นจากไปแล้ว พวกเขาก็ถูกจับตาดูอีกครั้ง เขาเดินเข้าไปในห้องพักแบบเพรสซิเด้นในโรงแรมโซฟิเทล ในเวลาเดียวกันซ่งหยู่กำลังโอบกอดหญิงสาวคนหนึ่งพร้อมกับสูบซิการ์อยู่บนโซฟา
เมื่อได้เห็นซ่งหยู่ ในที่สุดเฉินหลงก็รู้ว่าใครเป็นผู้บงการเรื่องทั้งหมด!
0 ความคิดเห็น